แสงแดดนับเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ก็ตาม เนื่องจากแสงแดดและรังสี UV สามารถทำลายผิวหนังของเราได้ และอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวัน แต่ถ้าคุณยังไม่รู้วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกวิธี อาจจะทำให้ครีมกันแดดที่มีราคาหลายร้อยสูญเปล่าเฉย ๆ Show บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก 7 วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ผิวทาครีมกันแดดที่ได้ผลที่จะช่วยปกป้องผิวหนังจากการโดนทำของแสงแดดและรังสี UV พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาฝ้า กระ หรือมะเร็งผิวหนังในอนาคตได้ หากคุณพร้อมที่จะปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดแล้ว เราไปดูวิธีทาครีมกันแดดที่ดีที่สุดพร้อมกันเลย เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวหน้า
ครีมกันแดดสำหรับคนผิวมัน สำหรับคนที่มีผิวมันควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อเบาบาง เพื่อป้องกันหน้ามันหรือหน้าเยิ้มระหว่างวัน โดยคุณอาจจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อเป็นน้ำ หรือ เจล ที่ช่วยให้ครีมกันแดดซึมเข้าผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งความมันและคราบไว้บนผิว นอกจากนี้ยังครีมกันแดดที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีจะช่วยลดปัญหาเรื่องการอุดตันอีกด้วย ครีมกันแดดสำหรับคนผิวแห้ง ในความจริงแล้วครีมกันแดดสำหรับคนผิวสามารถใช้ครีมกันแดดได้ทุกรูปแบบ แต่แนะนำเป็นครีมกันแดดที่มีเนื้อครีม เพราะครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีมนอกจากจะป้องกันผิวได้ดีแล้วยังช่วยให้หน้าไม่แห้งตึง และลอกเป็นขุยระหว่างวันได้ด้วย ครีมกันแดดสำหรับคนผิวแพ้ง่าย สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจจะกังวลว่าควรเลือกครีมกันแดดอย่างไรดี เพราะกลัวว่าถ้าใช้ครีมไปแล้วอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อเบาบางจะเป็นเนื้อเซรั่ม หรือ ครีมกันแดดที่เป็นสเปรย์ก็ได้ นอกจากนี้แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เนื่องจากผิวที่บอบบางมักจะมีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดมากกว่า ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมต้อง 2 ข้อนิ้วเมื่อก่อนวิธีทาครีมกันแดดเท่าเม็ดถั่วอาจจะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แต่ในปัจจุบันได้มีการถกเถียงวิธีใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง และได้มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาแนะนำวิธีทาครีมกันแดดหน้าที่ดี คือ หากเป็นครีมกันแดดเนื้อครีมควรใช้ครีมกันแดดปริมาณ 2 ข้อนิ้ว สำหรับคนที่รู้สึกว่าทาครีมกันแดดในปริมาณที่แนะนำแล้วหนักหน้า และซึมเข้าสู่ผิวได้ช้า สามารถแบ่งทาเป็น 2 รอบได้ โดยการทาครีมกันแดดรอบแรกพร้อมทั้งปล่อยให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว ค่อยทาครีมกันแดดที่เหลือซ้ำอีกรอบ นอกจากการถกเถียงปริมาณและขั้นตอนการทาครีมกันแดดหน้าแล้ว ในส่วนของครีมกันแดดตัวแนะนำให้ทาในปริมาณแก้วชอต 1 แก้ว และสำหรับคนที่ต้องทำงานออกแดดหรือไปเที่ยวทะเลที่จำเป็นต้องโดนแดดมาก ๆ สามารถทาครีมกันแดดระหว่างวันเพิ่มได้ โดยแนะนำให้เติมทุกๆ 2 - 3 ชั่วโมง ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 - 30 นาทีอาจจะเป็นวิธีทาครีมกันแดดที่หลาย ๆ คนมองข้าม แต่นับว่าเป็นวิธีทาครีมกันแดดที่สำคัญอีกหนึ่งวิธีเลยทีเดียว คือ การทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 - 30 นาที โดยวิธีนี้เป็นให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อย และพร้อมที่จะทำหน้าที่ปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ยิ่งคนที่ต้องทำกิจกรรมทางน้ำหรือกิจกรรมที่อาจจะมีเหงื่อออกในปริมาณมาก ๆ ควรให้ครีมกันแดดซึมเข้าผิวให้ดีก่อน เพราะหากไม่รอให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวครีมกันแดดอาจจะละลายไปกับน้ำหรือเหงื่อได้ การที่ครีมกันแดดละลายไปกับน้ำหรือเหงื่อจะทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดในปกป้องผิวจากแสงแดดลดลง ดังนั้นวิธีทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 - 30 นาที นับว่าสำคัญและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการปกป้องผิวของเราให้ปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ทาครีมกันแดดซ้ำ รู้จักวิธีทาครีมกันแดดระหว่างวันอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าถ้าหากจำเป็นต้องตากแดดหรือโดดแดดมากๆ คุณสามารถทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันได้ ในทุก 2 - 3 ชั่วโมง แต่ระหว่างวันที่แต่งหน้าไปแล้วจะทาครีมกันแดดซ้ำได้ยังไง ? การทาครีมกันแดดหน้าระหว่างวันจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อน เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวที่มีสาเหตุมาจากการอุดตันของครีมกันแดดและเครื่องสำอาง โดยวิธีทาครีมกันแดดระหว่างวัน มีดังนี้
ทั้งนี้สำหรับคนที่แต่งหน้าด้วยการลงแป้งหรือรองพื้นอาจจะใช้แป้งที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด เพื่อเป็นการทาครีมกันแดดระหว่างวัน เป็นวิธีทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันไม่ให้เมคอัพหลุดออกได้ ตรวจสอบวันหมดอายุของครีมกันแดดนอกจากวิธีทากันแดดที่ถูกต้องที่จะช่วยปกป้องผิวแล้ว อย่าลืมที่จะตรวจเช็คดูวันหมดอายุของครีมกันแดดที่ใช้ด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วครีมกันแดดมักจะมีอายุการใช้งานหลังเปิดใช้อยู่ที่ 1 ปี แต่ครีมกันแดดที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานสามารถเก็บได้นานถึง 3 ปี หรือ อาจจะดูวันหมดอายุของครีมกันแดดที่บริเวณข้างกล่องก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุแล้ว เนื่องจากประสิทธิภาพในการกันแดดที่ลดลงพร้อมทั้งอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ครีมกันแดดอีกด้วย เลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
เลือกประเภทของครีมกันแดด ในปัจจุบันสามารถแบ่งประเภทครีมกันแดดออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย โดยมีข้อดีก็คือมีความคงทนต่อแสงแดดดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และบางเบา เหมาะผู้ที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะระหว่างวัน เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้เมื่อทาบนผิวหนังแล้วจะให้สีที่มีความขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อยเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นสารกันแดดที่มีการนำจุดเด่นของสารกันแดดชนิด Physical และ Chemical เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้สารกันแดดประเภทนี้มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดได้ทั้งแบบดูดซับและสะท้อนรังสีไปในตัว มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อทาลงผิวไม่ขาววอก มีความปลอดภัยและความเสถียรสูง สามารถปกป้องแสง UV ได้ยาวนาน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ เลือกครีมกันแดดที่ป้องกัน UVA และ UVB ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแสงแดดที่รุนแรง ควรเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และควรเลือกครีมกันแดดที่มีสัญลักษณ์ PA+++ โดยที่
เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ (กรณีต้องการครีมกันแดดกันน้ำ) ในกรณีที่ต้องทำกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ หรือกิจกรรมที่มีเหงื่อออกเยอะ ๆ แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ โดยครีมกันแดดที่กันน้ำได้ ควรมีการระบุดังนี้
เตรียมผิวให้พร้อมก่อนออกแดดสำหรับสาว ๆ มาลองดูวิธีทาครีมกันแดดไม่ให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน พร้อมทั้งช่วยให้เมคอัพติดทนตลอดทั้งวัน ซึ่งมี 5 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ เตรียมผิวหน้าให้พร้อม ขั้นตอนแรกของวิธีทาครีมกันแดดที่ช่วยให้เมคอัพติดทนระหว่างวัน คือ การเตรียมผิวหน้าให้พร้อม ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า โดยแนะนำให้ทุกคนทำความสะอาดผิวให้ดีก่อน เพื่อลดโอกาสการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน และตามด้วยการเตรียมผิวให้พร้อมด้วยน้ำตบ Smooth Miky Veil Essence ที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิว ช่วยคุมมัน ล็อคสารบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมทั้งช่วยให้เมคอัพติดทนตลอดทั้งวัน ทาครีมบำรุงต่าง ๆ วิธีทาครีมกันและครีมบำรุง หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทาครีมบำรุงผิว สำหรับคนที่มีผิวมันไม่แนะนำให้ทาครีมที่มีเนื้อหนัก ๆ ในตอนกลางวัน เพราะอาจจะทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวันได้ แต่คนที่มีผิวแห้งสามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ นอกจากวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกวิธีแล้ววิธีทาครีมก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้ค่อย ๆ ลงครีมบำรุงผิวทีละชั้น โดยเริ่มจากครีมบำรุงที่มีเนื้อเบาบางที่สุดก่อน และรอให้ครีมแต่ละตัวซึมสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยลงครีมตัวถัดไป ทาครีมกันแดด
ลงรองพื้นและเริ่มแต่งหน้า หลังจากที่ทาครีมกันแดดแล้ว สาว ๆ สามารถแต่งหน้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจได้เลย โดยแนะนำให้เลือกรองพื้นหรือเบจที่ส่วนผสมของครีมกันแดด หรือ มีค่า SPF อยู่ด้วยเพื่อเป็นการปกป้องผิวอีกชั้น หรือ บางคนที่มีผิวมันอาจจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถใช้แทนรองพื้นได้ เช่น Matte finish sunscreen SPF50 PA+++ ครีมกัน แดดเนื้อแมท สีเบจ ที่สามารถช่วย Tone up ผิวให้ขาวขึ้นอีกระดับ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมทั้งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ด้วย ใช้สเปรย์น้ำแร่ ขั้นตอนสุดท้ายของวิธีทาครีมกันแดดเป็นการเติมความสดชื่นให้แก่ผิว ด้วยการใช้สเปรย์น้ำแร่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยลดความมันเหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ลดความแสบร้อนของผิวจากการโดนแสงแดด ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง และช่วยทำให้ผิวแลดูมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย |