นอกเหนือจากการทำประกันสะสมทรัพย์ให้ลูกแล้ว การเปิดบัญชีให้ลูกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งจะช่วยสร้างอนาคตทางการเงินที่ดีให้กับลูกน้อย เพราะนอกจากจะเป็นการออมเงินให้ลูกไว้ใช้ตามต้องการในอนาคตแล้ว ยังเป็นเงินสำรองไว้ให้อุ่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอีกด้วย แต่การจะเลือกว่าเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดีต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยเพื่อให้สามารถออมเงินให้ลูกได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด Show สำหรับใครที่สนใจอยากเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก วันนี้น้องแคร์ขอแนะนำปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูก ทั้งภาษี คุณสมบัติการสมัคร อัตราดอกเบี้ย และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงแนะนำเอกสารที่ต้องเตรียม เพื่อตอบคำถามว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี 2566 เปิดบัญชีให้ลูกต้องพิจารณาอะไรบ้าง?การเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกเป็นการเปิดบัญชีเพื่อออมเงินระยะยาว มีเป้าหมายคือสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากและผลประโยชน์อื่น ๆ ให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูกจึงมีดังนี้
อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลตอบแทนจากการออมเงินให้ลูกงอกเงย ยกตัวอย่างเช่น หากเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก 2 บัญชีพร้อมกัน โดยบัญชีหนึ่งให้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี และอีกบัญชีให้ดอกเบี้ย 2.0% ต่อปี หากฝากเงิน 1,000 บาทในทั้งสองบัญชีเท่ากันทุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี บัญชีที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่าถึง 2,173 บาท ดังนั้นจึงควรเปิดบัญชีให้ลูกโดยเลือกบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเป็นหลักเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้การฝากเงิน
ถึงแม้ว่าหลายธนาคารอาจมีผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงอยู่มากมาย แต่หลายครั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ต้องแลกมาด้วยข้อหนดในการฝากเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น อาจต้องฝากเงินเป็นประจำทุกเดือนในจำนวนเท่า ๆ กัน หรือห้ามถอนเงินออกก่อนเวลาที่กำหนด จึงจะได้ดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้น พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการเปิดบัญชีให้ลูกจึงต้องพิจารณาข้อกำหนดในการฝากเงินของแต่ละบัญชีเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถทำตามข้อหนดเหล่านี้ได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ ธนาคารหลายแห่งยังกำหนดคุณสมบัติในการเปิดบัญชีให้ลูกที่แตกต่างกัน เช่น บางบัญชีอาจกำหนดอายุขั้นต่ำของลูก หรืออาจกำหนดว่าเมื่อผู้ฝากอายุครบกำหนดแล้ว จะเปลี่ยนประเภทบัญชีเป็นบัญชีเงินฝากปกติ พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกจึงต้องตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติของผู้ฝากอย่างละเอียด แล้วจึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสถานการณ์ของตนเอง เช่น หากเป็นคุณแม่ลูกอ่อนอายุไม่ถึง 1 ปี ก็ควรเลือกบัญชีที่ให้เปิดได้ตั้งแต่แรกเกิด
รู้หรือไม่ว่าดอกเบี้ยที่ได้จากบัญชีเงินฝากจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ในกรณีที่ได้ดอกเบี้ยรวมกันเกิน 20,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม หากเราได้ดอกเบี้ยเงินฝากรวมกันไม่ถึง 20,000 และยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยที่ได้รับให้กับกรมสรรพากร ก็จะไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแต่อย่างใด ซึ่งถ้าเราไม่ได้ฝากเงินไว้เกิน 1 ล้านบาท ก็มีโอกาสน้อยมากที่ต้องเสียภาษี ดังนั้น ก่อนจะเปิดบัญชีให้ลูกโดยเลือกบัญชีเงินฝากปลอดภาษี ลองตรวจสอบก่อนว่าดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้อยู่ในเกณฑ์ที่เสียภาษีหรือไม่
นอกจากจะต้องดูอัตราดอกเบี้ย ข้อกำหนดในการฝาก คุณสมบัติผู้ฝาก และภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูกก็คือเงินฝากขั้นต่ำ โดยควรดูว่าบัญชีที่สนใจมีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่ เช่น ธนาคารอาจกำหนดให้ฝากเงินขั้นต่ำ 50 บาท 500 บาท หรือ 1,000 บาท เราสามารถฝากเงินตามที่กำหนดได้หรือไม่ หากถอนเงินหมดบัญชีแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากบัญชีเงินฝากได้มากที่สุด
ปัจจัยสุดท้ายที่ควรพิจารณาในการเปิดบัญชีให้ลูกคือผลประโยชน์เสริมอื่น ๆ เนื่องจากหลายธนาคารที่ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสำหรับออมเงินให้ลูกจะมาพร้อมกับผลประโยชน์พิเศษ เช่น โบนัสดอกเบี้ย เงินขวัญถุง สิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษา และบริการหักบัญชีอัตโนมัติ ผลประโยชน์เหล่านี้จะเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการฝากเงินหรือช่วยอำนวยความสะดวกในการออมเงินให้ลูก เปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกใช้เอกสารอะไรบ้าง?เอกสารที่ใช้ในการเปิดบัญชีให้ลูกจะแตกต่างกันตามอายุของลูกและข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร แต่โดยทั่วไปแล้วควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
อัปเดต เปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี 2566หลักจากเราได้ทราบกันไปแล้วว่าเปิดบัญชีให้ลูกต้องพิจารณาอะไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ต่อไปน้องแคร์จะตอบคำถามว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดีในปี 2566 โดยจะแนะนำทั้งบัญชีสำหรับเด็กที่มีผลประโยชน์พิเศษต่าง ๆ รวมถึงบัญชีอื่น ๆ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงเหมาะสำหรับการออมเงินให้ลูก ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงไทยมีผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสำหรับเปิดบัญชีให้ลูกโดยเฉพาะ นั่นก็คือ “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์ (Krungthai Kids Saving)” ซึ่งมีจุดเด่นคือ ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือนและได้ดอกเบี้ยพิเศษหากฝากมากกว่าถอน อัตราดอกเบี้ย: เท่ากับบัญชีออมทรัพย์ปกติ (ปัจจุบัน ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 0.25% ต่อปี) หากมีเงินฝากมากกว่าถอนในเดือนนั้นจะได้รับโบนัสเพิ่ม 100% จากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับทุกต้นเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายดอกเบี้ย เงินฝากขั้นต่ำ: 2,000 – 1,000,000 บาท อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี ธนาคารออมสินบัญชีเงินฝาก Youth Savings เป็นบัญชีเงินฝากสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7 – 23 ปี มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในกรณีบุคคลธรรมดา กำหนดเงินฝากขึ้นต่ำเพียง 100 บาทเท่านั้น และฝากเพิ่มได้ต่ำสุดครั้งละ 50 บาท เหมาะกับการเปิดบัญชีให้ลูกเพื่อสร้างวินัยในการออมเงิน อัตราดอกเบี้ย: ต่ำกว่า 1 แสนบาท = 0.50 % ต่อปี ตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป = 0.25 % ต่อปี เงินฝากขั้นต่ำ: 100 บาท อายุ: 7 – 23 ปี ธนาคารกสิกรไทยบัญชีเงินฝากทวีทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากประจำ เหมาะสำหรับการเปิดบัญชีให้ลูกเพื่อออมเงินอย่างสม่ำเสมอในจำนวนเท่ากันเป็นเวลา 24 เดือน มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เมื่อฝากครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดและสามารถหักบัญชีอัตโนมัติได้ ไม่ต้องฝากเงินเองทุกเดือน อัตราดอกเบี้ย : 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) เงินฝากขั้นต่ำ: 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท โดยต้องฝากเงินในจำนวนเดิมเท่ากันทุกเดือนจนกว่าจะครบ 24 เดือน อายุ: ตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ธนาคารกรุงเทพสินมัธยะทรัพย์ทวี-บัวหลวงคิดส์เป็นบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีระยะเวลา 24 เดือน มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เมื่อฝากครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับการเปิดบัญชีให้ลูก อัตราดอกเบี้ย: 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) เงินฝากขั้นต่ำ: 500 บาท ถึง 25,000 บาท โดยต้องฝากเงินในจำนวนเดิมเท่ากันทุกเดือนจนกว่าจะครบ 24 เดือน อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 14 ปี ธนาคารเพื่อการเกษตรบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรมีผลิตภัณฑ์ “โครงการเงินออมลูกรัก” สำหรับการเก็บเงินให้ลูกหรือเปิดบัญชีให้ลูก โดยผลิตภัณฑ์นี้มีจุดเด่นคือผู้ฝากจะได้รับเงินขวัญถุงเป็นรายปีต่อเนื่องกัน 5 ปีรวมทั้งหมด 3,600 บาท และมีสิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษาทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี รวมถึงสามารถเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกได้มากกว่า 1 บัญชี อัตราดอกเบี้ย: 1.50% ต่อปี เงินฝากขั้นต่ำ: 1,000 บาท และต้องฝากติดต่อกันเดือนละ 1,000 บาททุกเดือน หรือฝากล่วงหน้าได้ไม่เกิน 12 เดือน อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี ธนาคาร ประเภทบัญชี จุดเด่น ดอกเบี้ย เงินฝากขั้นต่ำ ธนาคารกรุงไทย บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ - ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน 0.25% ต่อปี* (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) *รับดอกเบี้ยโบนัสเพิ่ม 100% หากมีเงินฝากมากกว่าถอนในเดือนนั้น 2,000 บาท ธนาคารออมสิน บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก - ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน - 0.50 % ต่อปี สำหรับเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท 100 บาท ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเงินฝากประจำ - ไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) 500 บาท ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเงินฝากประจำ - ไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) 500 บาท ธนาคารเพื่อการเกษตร บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ - รับเงินขวัญถุงรวมทั้งหมด 3,600 บาท 1.50% ต่อปี 1,000 บาท ไม่ว่าคุณจะต้องการออมเงินให้ลูกไว้ใช้จ่ายในอนาคต หรือเก็บเงินให้ลูกไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน การเลือกเปิดบัญชีให้ลูกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณทำตามเป้าหมายทางการเงินได้ น้องแคร์หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี 2566 หรือถ้าหากใครแค่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด อย่าลืมติดตามบทความถัดไป บทความแคร์การเงินของเรา แคร์การเงินของเรา HS Code คืออะไร?ทำไมคนที่สั่งของจากต่างประเทศจึงควรรู้จัก! ปัจจุบันการค้าขายไร้พรมแดนมากขึ้น ขุมทรัพท์สินค้าที่แปลกใหม่ สร้างกำไรมากมาย มาจากต่างประเทศ ตลาดต่างชาติที่เราสามารถไปหามา แล้วนำมาขายในตลาดเมืองไทย Earn Money 11/05/2023 แคร์การเงินของเรา เจาะลึกเรื่องภาษีมรดก มรดกมีกี่ประเภท ต้องจ่ายเท่าไร? มรดก คือทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่ถูกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ทำให้มรดก เป็นเรื่องที่เรา ๆ ควรจะรู้ไว้ เพื่อจัดการทรัพย์สินที่อาจตกทอดมาสู่มือคุณ Earn Money 09/05/2023 แคร์การเงินของเรา ตั้งชื่อร้านอย่างไร ? ให้ธุรกิจปัง รวย เฮง ครบจบในที่เดียว ! ชื่อร้าน ชื่อธุรกิจ สามารถทำให้ธุรกิจของคุณเกิด หรือดับได้เลย โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจของคุณกำลังก่อร่างสร้างตัว ฉะนั้นการตั้งชื่อร้าน ตั้งชื่อแบรนด์ |