วันนี้เป็นอีกวันที่มะม๊าตื่นเต้น เพราะต้องไปรับสมุดพกเทอม 1 อนุบาล 1 ของน้องเจ ชนิดที่ว่าครูประจำชั้น 3 คน รุมมะม๊าคนเดียว ฟังผลประเมินพัฒนาการด้านต่าง ๆ รวมถึงผลการทดสอบหลากหลายความรู้ พร้อม ๆ กับดูรูปกิจกรรมต่าง ๆ ที่น้องเจและเพื่อน ๆ ได้ทำตลอดทั้งเทอม ทั้งทำอาหาร งานศิลปะ ระบายสี ตัดปะ ร้อยหลอด ทดลองวิทยาศาสตร์ เกมการศึกษา และทัศนศึกษาไปดูเต่าที่เกาะลอย และช็อปปิ้งผักที่ตลาดบ้านสวน (น้องเจเลือกซื้อมะเขือเทศให้มะม๊าด้วยล่ะ) ... คุณครูทั้งสามคน (ครูนุช Teacher Pearl และ ครูจ๋อม) ใจดีมากมาย (ลดอาการเกร็งของมะม๊าได้ในระดับนึง ... มะม๊าได้คุยกะ T.Pearl นอกรอบก่อนและได้รู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับน้องเจบ้างแล้ว) ครั้งนี้มะม๊าได้รู้เพิ่มจากครูว่าทางโรงเรียนร่มไม้ได้เข้าร่วมโครงการ "บ้านวิทยาศาสตร์" ด้วย ทำให้การเรียนของเด็ก ๆ มีการทดลองวิทยาศาสตร์และเน้นให้เด็ก ๆ ลงมือทำมากยิ่งขึ้น ;) พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ สังคม ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ "ดี" ได้แก่ ส่วนผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ "ปานกลาง" ได้แก่ 2) มั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าแสดง คู่กับ 5) เป็นผู้นำ/ผู้ตามได้ ในข้อนี้ครูบอกว่าเวลาให้น้องเจออกมาเล่าเรื่องหน้าห้อง หรือตอบคำถาม น้องเจจะไม่ค่อยยอมออก บางครั้งจะมีอาการเขินอาย (แต่ดีขึ้นเยอะแล้ว) และน้องเจจะติดที่ว่าจะไม่เล่าอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งครูบอกว่าน้องเจเป็นเด็กที่มีความเป็นตัวเองสูง และค่อนข้างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ไม่ค่อยทำอะไรเหมือนที่เด็ก ๆ รุ่นเดียวกันทำ ในระดับ อ.1 นี้ ครูได้ฝึกกล้าแสดงออกโดยการเล่าหรือตอบคำถาม พอน้องเจไม่ยอมเล่า จึงทำให้ครูต้องเประเมินข้อ 5 ในระดับปานกลางด้วย (แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ครูบอกว่าไม่ต้องเรียกเลย จะตอบเสียงดังมาก แต่เวลาประเมินก็ต้องประเมินแบบภาพรวมทั้งหมด) พัฒนาการด้านสติปัญญา สรุปความคิดเห็นของครูนุช ครูประจำชั้น (คนไทย) *ตรงความคิดเห็นของครู ครูนุชได้เพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องสมาธิในการทำงานปานกลางนั้น เฉพาะงานด้านศิลปะ ซึ่งน้องเจจะรอให้เพื่อนทำให้เสร็จก่อนแล้วถึงจะลงมือทำ แต่หากเป็นการเรียนหรือทำแบบฝึกหัดอย่างอื่น น้องเจจะเสร็จคนแรกแล้วจะคอยดูเพื่อนว่าม่ีใครเสร็จตามหลังเป็นคนที่สอง :) ส่วนเรื่องพูดเสียงดังไม่ได้เป็นปัญหาอะไร คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของน้องเจที่เวลาสนุก ดีใจ จะเสียงดังและตบมือซึ่งครูแจ้งบ่อยอยู่แล้วในสมุดสื่อสาร *มะม๊าได้แจ้งครูไปว่าสำหรับกิจกรรมที่ครูบอกว่าว่าน้องเจไม่ค่อยชอบกิจกรรมที่ออกแรง แต่เวลาอยู่ที่บ้านน้องเจจะชอบมากทั้งวิ่ง เล่นบาส แล้วก็เตะบอลด้วย (ซึ่งครูก็ประหลาดใจที่ตอนสอบประเมินน้องเจไม่ยอมทำ หรือต้องกระตุ้น ทำให้แสดงความคิดเห็นนี้มา) และยังมีหลายประเด็นที่ครูประเมินมาแตกต่างกับอุปนิสัยของน้องเจเวลาที่อยู่บ้าน ซึ่งมะม๊ายอมรับการประเมินของคุณครู แต่ก็ได้แจ้งสิ่งที่น้องเจทำได้และไม่ได้จริงให้ครูทราบด้วย เทอมสองนี้มะม๊าให้ครูเน้นเรื่องของการพูดหน้าห้อง กล้าแสดง แสดงความคิดเห็น รวมถึงพยายามเน้นให้น้องเจทานผลไม้เพิ่มขึ้น ส่วนอย่างอื่นมะม๊ามองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรเพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย *มะม๊าได้ถามความคิดเห็นครูถึงการพาน้องเจไปทดสอบ IQ (เหมือนกับที่น้องต้นข้าวเพื่อนของน้องเจจะไปทดสอบ และแม่น้องต้นข้าวก็ชวนอยู่ รวมถึงลูกค้าที่เคยเจอน้องเจก็แนะนำเยอะ แต่เรายังปฏิเสธที่จะทำตรงนี้) ครูมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจดี แต่ก่อนจะไปทดสอบขอให้คุณแม่บอกน้องเจก่อนว่าวันนี้เราจะพาลูกไปทำอะไรยังงัย ... มะม๊าได้ถามถึงพัฒนาการน้องเจในสายตาครูว่า แล้วครูมองว่าน้องเจน่าจะพัฒนาการสมวัยหรือมีอะไรพิเศษที่โดดเด่นมั๊ย .... ครูบอกมะม๊าว่าน้องเจเป็นเด็กที่ตัวสูงกว่าเพื่อน สูงที่สุดในห้อง แต่เรียนรู้อะไรได้เร็วกว่าเพื่อน จำจดได้ดี แยกแยะอะไรได้ชัดเจน และเก่งภาษาอังกฤษมาก แต่ครูมองว่าพัฒนาการน้องเจสมวัยไม่ได้พิเศษเกินกว่าวัย มะม๊าคิดเหมือนครูเลย (ปะป๊ากะอาม่าก็บอกอย่างที่ครูพูดนั่นแหละ) ... ดังนั้นมะม๊าสรุปได้แล้วว่าเราคงไม่พาลูกไปทดสอบอะไรทั้งนั้นเหมือนที่เราเคยคิดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว และเน้นสังเกตพัฒนาการ พฤติกรรม และส่งเสริมในสิ่งที่ลูกต้องการน่าจะดีที่สุด ;) มะม๊าเข้าใจเสมอว่าน้องเจเนี่ยเป็นเด็กพิเศษในสายตามะม๊าและทุกคนในครอบครัว แต่คงไม่ใช่เด็กพิเศษที่ต้องแยกไปเรียนกะเด็กที่เค้าอัจฉริยะขนาดนั้น มะม๊าเคยอ่านหนังสือเล่มนึง ไม่บอกชื่อแล้วกัน แต่มะม๊าเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้อยู่ ถ้าน้องเจอยากอ่านตอนโต ก็ได้เลยยย 5555+ มะม๊าว่าเด็กคนนั้นเค้าอัจฉริยะและเก่งมาก หาเงินได้ตั้งแต่เด็ก เก่งทั้งดนตรี ศิลปะ ภาษา กีฬา ทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยทีเดียว (เวลาสัมภาษณ์ทีวีทำไมดูเหมือนไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เห็นเป็นตัวของตัวเอง จะมีพ่อคอยแย่งพูดหรือตอบให้ในบางเรื่องด้วยน๊อ!!!! (แต่ภูมิหลังครอบครัวน้องเค้าดีมาก ๆ เพราะพ่อแม่มีลูกตอนอายุเยอะแล้ว หลักฐานมั่นคงแล้ว มีฐานะมาก มีความรู้และเคยทำงานตำแหน่งหน้าที่สูง ๆ รู้จักคนเยอะมาก ตอนมีลูก พ่อแม่ไม่ได้ทำงานแล้วเลี้ยงลูกอย่างเดียว ส่งเสริมนู่นนี่นั่นตั้งแต่เด็ก ทำเป็นทุกอย่างเลยยยย --- แอบอิจฉาที่เดียวก็ตรงเนี้ยยยย คือความพร้อมที่จะมีเวลาและความรู้ให้กับลูก 555+) ผิดกะเราอย่างแรง 555+ มะม๊ากะปะป๊ายังต้องทำงาน ทุกอย่างของมะม๊าที่ทำอยู่ในระดับกลาง ๆ ส่งเสริมน้องเจตามวัยที่ควรจะเป็น... (แต่ก็มีแหกกฎอยู่บ้าง บางพัฒนาการของน้องเจก็เกินกว่าวัยไปพอสมควร เกินกว่าที่ระดับ อ.1 เค้าเรียนกัน แต่มะม๊าว่าน้องเจสนุกร่าเริงอย่างงี้น่ะดีแล้ว ก็ไม่เห็นร้องเลยว่าไม่อยากไปโรงเรียน เห็นร้องแต่จะไปโรงเรียน ไปเรียน ไปเล่น ไปเจอเพื่อน 555+ เอาน่า ... เป็นอัจฉริยะตัวน้อยของมะม๊าก็พอ ไม่ต้องขนาดอัจฉริยะขั้นเทพหรอก ... เดี๋ยวเครียด 555+ อ้าว ๆ ๆ นอกเรื่องไปเยอะแล้ววว เข้าเรื่องต่อ ๆ ๆ ๆ .... 555+ นอกจากนี้ก็ยังมีการประเมินการเรียนภาษาอังกฤษกับ Teacher Pearl ครูต่างชาติด้วย ... ครูบอกมะม๊าน้องเจเป็นเด็กเรียนรู้เร็ว สนุกกับการฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษมาก มาดูกันว่า Teacher Pearl ประเมินผลการเรียนน้องเจยังงัยบ้าง ... มะม๊าว่าเป็นผลการเรียนที่มะม๊าชื่นใจมากนะครับ! |