ถ้าเราไม่ได้กินข้าวทั้งวันจะเป็นอะไรมั้ย

     การอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก นอกจากจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ แล้ว ยังทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะการอดอาหารไปกระตุ้นให้คุณรู้สึกหิว เมื่อเริ่มรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่งคุณจะไม่สามารถหยุดทานได้ บุคคลกลุ่มนี้สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดย

หลายๆคนอาจทราบแล้วว่าการอดอาหารเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการลดความอ้วน และ ทำให้สุขภาพย่ำแย่ด้วยแต่สาเหตุที่เขียนขึ้นเพราะน่าต้กกะใจมากๆที่ยังมีคนที่ลดความอ้วนด้วยการอดอาหารอีกมากมาย ทุกคนเคยประสบมาเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก วัยรุ่น คนแก่ สวย ไม่สวย โสด หรือ แต่งงานแล้วก็ตามที สิ่งที่เหมือนกันนั้นคือ….. คนที่เคยลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร ตอนแรกๆก็ลดได้แต่สุดท้ายทนไม่ไหว และทุกวันนี้มันไม่ลดแล้ว ตอนนี้มันอ้วนเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมอีก

บางคนอดอาหารเช้า บางคนอดอาหารเย็น หมายถึงอาจมีทานอะไรบ้างเล็กๆน้อยๆเช่น ผลไม้ แต่ไม่ได้ทานอาหารมื้อหลัก หลายๆคนงดทานอาหารบางมื้อทุกวันมาเป็นระยะเวลานานหลายปี บางคนเพิ่งเริ่มลองอดอาหารโดยเฉพาะคนที่อายุน้อยๆหรือพยายามลดน้ำหนักเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเวลาผ่านไปอายุมากขึ้นคนเหล่านั้นยังอ้วนอยู่ หรือ ยังมีสัดส่วนเกินที่ไม่น่ามองเหมือนเดิม ส่วนใหญ่แล้วคนที่เคยคุยด้วยจะเริ่มรู้สึกตัวว่าน้ำหนักตัวมันไม่ลดลงเลยแม้จะอดอาหารแค่ไหนเมื่ออายุถึง 30ปี แต่ก็มีบางคนที่เริ่มรู้สึกตัวเมื่ออายุน้อยกว่านั้น

เมื่อคุณอดอาหารไม่ว่าจะมื้อใดก็ตามจะทำให้

  • ขาดสารอาหาร 5 หมู่(โปรตีน,คาร์โบไฮเดรต,วิตามิน,แร่ธาตุ,ไขมัน) ร่างกายทุกส่วนจะอ่อนแอลง เพราะไม่มีวัตถุดิบในการซ่อมแซม เสริมสร้างตัวเอง ขอย้ำว่าทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่เส้นผม หัว ผิวหน้า หน้าอก ปอด หัวใจ ตับไตไส้พุง เล็บ จุดซ่อนเร้น อ่อนแอลงทั้งหมด
  • ขาดพลังงานจากอาหาร(มาจากคาร์โบไฮเดรต,ไขมันเป็นหลัก) คุณจะเป็นโรคขี้เกียจทันที จะรู้สึกไม่มีแรงเพราะร่างกายไม่มีพลังงานที่จะทำอะไร ร่างกายจะลดระดับการเผาผลาญลงโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นหลายๆครั้งเข้าร่างกายจะชินจนระดับการเผาผลาญที่ต่ำลงนั้นกลายเป็นเรื่องปกติของร่างกายคุณ เรียกว่าอาการขี้เกียจเป็นปกติ
  • ไม่มีอาหารตกถึงท้องทำให้น้ำย่อยในกระเพาะย่อยผิวกระเพาะ เป็นการประชดที่คุณไม่ยอมให้อาหารกับเค้าเป็นสาเหตุให้เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือ โรคกระเพาะนั่นเอง จากที่ตอนแรกคุณเป็นแค่คนอยากลดความอ้วนตอนนี้คุณกลายเป็น คนไม่สบายที่อยากลดความอ้วนซะแล้ว
  • ไม่มีอาหารและเส้นใยอาหารเคลื่อนตัวผ่านระบบทางเดินอาหาร(ลำไส้เล็ก,ลำไส้ใหญ่) ทำให้ไม่มีการบีบตัวของลำไส้ซึ่งทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านระบบทางเดินอาหารได้ดี นานๆเข้าก็จะทำให้สุขภาพระบบย่อยอาหารอ่อนแอและพลังในการขับถ่ายน้อยลง จะพาลทำให้ท้องผูก ทีนี้ล่ะระหว่างที่คุณอดอาหารไม่ทานอาหารใหม่เข้าปากแล้วยังไม่ยอมเอาของเก่าออกอีก
  • ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เพราะไม่มีคาร์โบไฮเดรต (แป้ง,น้ำตาล) นอกจากทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรงแล้วยังทำให้สมองกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกหิวอีกเพื่อเตือนให้คุณทานอาหารได้แล้วจะหมดแรงแล้วนะ นั่นคือคุณจะยิ่งรู้สึกหิวเป็นพิเศษหลังจากอดอาหาร และคุณจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ หากปกติคุณเป็นสาวหวานมารยาทเรียบร้อยคุณจะเปลี่ยนไปทันที สวาปามอย่างขาดจิตสำนึกไปหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแป้ง น้ำตาล ไขมัน ขนม คุกกี้ เค้กของหวาน ข้าวเหนียว น้ำหวาน เครื่องดื่มหวานๆต่างๆ จากที่อ้วนแต่สุภาพกลายเป็นอ้วนแบบหมดสภาพ

ต้องเข้าใจว่าร่างกายของมนุษย์ถูกวิวัฒนาการมานับหมื่นปีเพื่อให้อยู่รอดผ่านยุคสมัยต่างๆมาได้จนถึงทุกวันนี้มันถูกออกแบบมาอย่างดีให้ทานอาหารได้หลากหลายชนิด เมื่อทานอาหารก็จะย่อยอาหารเพื่อนำสารอาหารมาใช้ซ่อมแซม ฟื้นฟู ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และเปลี่ยนพลังงานจากอาหารมาเก็บสำรองไว้ในร่างกายในรูปของไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ และ ไขมัน ซึ่งจะสะสมไว้ที่ตับ กล้ามเนื้อ และชั้นไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานไว้ใช้เพียงพอ ดังนั้นอย่าอดนะคะ

เปลี่ยนการทานอาหาร เลือกทานมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน และงดทานของที่ทำให้อ้วนเมื่อรู้สึกหิวก็ทาน อย่าไปฝืนแต่ให้เลือกทานอาหาร หรือของว่างที่ไม่ทำให้อ้วน น้ำตาลและแป้งน้อย ไม่มีไขมัน เน้นโปรตีนทานอาหารให้เป็นเวลา เวลาทานอาหารอาจแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน แต่ต้องทานให้ครบ 3 มื้อค่ะ

รถก็ติดงานก็ยุ่ง เวลากินข้าวแทบไม่มี ทำให้กินไม่เป็นเวลา แบบนี้ไม่ดีนะคะ เพราะการกินไม่เป็นเวลาไม่ใช่แค่ทำให้หิวอย่างเดียว แต่ยังอาจพาโรคร้ายมาให้เราได้อีกด้วย! ไปดูกันค่ะว่ากินไม่เป็นเวลา ส่งผลอย่างไรกับร่างกายเราบ้าง

 

ปัจจัยที่ทำให้การกินเปลี่ยนไป

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า รูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไปด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้การใช้ชีวิตของคนยุคนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง มีตัวอย่างดังนี้

- การทำงานที่เร่งรีบตลอดเวลา
- ความเครียดและความกดดันจากงานที่รับผิดชอบ
- งานเยอะหรือประชุมนานจนเลยเวลามื้ออาหาร
- การเดินทางที่ต้องเผชิญรถติด อาจทำให้กลับบ้านไม่ทันเวลาอาหารเย็น
- มีขนมและของว่างอยู่ใกล้ตัว อาจทำให้กินขนมอิ่มจนไม่กินอาหาร
- การ WFH อาจทำให้ทำงานเพลินจนเลยเวลาอาหารแต่ละมื้อ

 

กินไม่เป็นเวลาส่งผลเสียอย่างไร

กินไม่ตรงเวลาไม่กี่ครั้งอาจยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก แต่หากกินไม่เป็นเวลาเป็นประจำย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างแน่นอน โดยตัวอย่างของปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการกินไม่เป็นเวลา ได้แก่

ระบบเผาผลาญแย่ลง

บางคนอาจยังไม่ทราบว่า การกินข้าวไม่เป็นเวลานั้นส่งผลให้กระเพาะอาหารทำงานช้าลง เผาผลาญแคลอรี่ได้น้อยลง จึงส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานผิดปกติตามไปด้วย เช่น เกิดความเหนื่อล้า ความดันโลหิตต่ำลง ท้องผูก หรือเกิดความเครียด เป็นต้น

น้ำตาลในเลือดลดลง

คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายและยังมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย เมื่อเรากินข้าวไม่ตรงเวลา พลังงานในร่างกายของเราก็จะลดลง ระดับน้ำตาลในเลือดก็ลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ การที่ร่างกายขาดพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตยังส่งผลให้สมองทำงานช้าลง อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานอีกด้วย

โรคอ้วน

ใครที่กินข้าวไม่ตรงเวลาบ่อย หรือถึงขั้นไม่ได้กินมื้อนั้นเลย จะส่งผลให้ความอยากอาหารมากขึ้น อาจทำให้กินอาหารมื้อถัดไปมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักตัวที่อาจเพิ่มขึ้นจนเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้

กรดไหลย้อน

กรดไหลย้อนคือหนึ่งในโรคยอดฮิตของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งการกินข้าวไม่ตรงเวลาถือเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุของโรคนี้ โดยกรดไหลย้อนจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือขึ้นมาถึงคอ เรอเหม็นเปรี้ยว ท้องอืด คลื่นไส้ ไอแห้ง เจ็บคอเรื้อรัง และอาจมีอาการอื่น ๆ ได้อีกหลายรูปแบบ

แผลในกระเพาะอาหาร

โดยปกติแล้วเมื่อเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าในกระเพาะอาหารไม่มีอาหารให้ย่อย ก็จะทำให้ตัวกระเพาะอาหารได้รับความเสียหายจากน้ำย่อย จนเกิดเป็นแผลในกระเพาะอาหารในที่สุด

มะเร็งกระเพาะอาหาร

การกินไม่เป็นเวลานั้นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งโดยตรง แต่การกินไม่ตรงเวลานั้นไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งหากกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบเรื้อรังบ่อยครั้งเข้า อาจนำไปสู่โรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้

 

กินอย่างไรให้สุขภาพดี

การกินอาหารให้เป็นเวลาเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้วเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย แต่แค่กินอาหารให้ตรงเวลาอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้มีสุขภาพดีได้ จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ร่วมด้วย

ไม่ได้กินข้าวทั้งวัน จะเป็นอะไรไหม

ส่งผลต่อสุขภาพจิต การที่อดอาหารนานจนเกินไป ไม่ใช่แค่เรื่องการขาดสารอาหารอย่างเดียว แต่จะเชื่อมโยงกับเรื่องจิตใจของเราด้วย เนื่องจากฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความซึมเศร้า ความหิว หรือความอยากรับประทานของคนเรานั้นก็จะลดลง

ไม่กินข้าว1อาทิตย์เป็นไรไหม

ช่วง 1 – 2 อาทิตย์ – ช่วงนี้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราจะอ่อนแอมากๆเลยค่ะ เนื่องจากร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นไป คนส่วนใหญ่ก็จะตายเพราะโรคที่เข้ามาในช่วงนี้นั่นเอง ในส่วนพลังงานนั้น ร่างกายเราจะพยายามใช้พลังงานจากทุกส่วนที่หาได้จนร่างกายเราไม่เหลือพลังงานอีกต่อไปค่ะ อีกสาเหตุหนึ่งที่มักจะทำให้เราตายกันไปใน ...

ไม่กินข้าวแล้วจะเป็นยังไง

บางคนอาจยังไม่ทราบว่า การกินข้าวไม่เป็นเวลานั้นส่งผลให้กระเพาะอาหารทำงานช้าลง เผาผลาญแคลอรี่ได้น้อยลง จึงส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานผิดปกติตามไปด้วย เช่น เกิดความเหนื่อล้า ความดันโลหิตต่ำลง ท้องผูก หรือเกิดความเครียด เป็นต้น

ไม่กินข้าว1วันน้ำหนักลดไหม

จริงๆแล้ว ไม่ว่าเราจะอดอาหารเป็นเวลา หรือกินให้ครบ 3 มื้อ (หรือ 5 มื้อ) ผลลัพท์ที่ได้มันก็ไม่ต่างกันหรอกครับ งานวิจัยที่น่าเชื่อถือก็สรุปออกมาแล้วว่า การลดน้ำหนักแบบ Intermitten Fasting นั้นไม่ได้ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้มากกว่าวิธีอื่นๆ เช่น Atkin Diet หรือ Keto Diet เลย