Iphone 6 เป ดไม ต ดแบตหมดนาน

เป็นเรื่องยากที่จะทำใจหาก iPhone สมาร์ทโฟนคู่ใจไม่ตอบสนองต่อการใช้งาน เห็นเพียงหน้าจอสีดำ นิ่งสงัด ดั่งเจ้าหญิงนิทรา ไม่ว่าด้วยสาเหตุอันเบสิคที่สุด อย่างการฝีนใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องแม้ iPhone จะเตือนแล้วว่าแบตเตอรี่ของฉันจะหมดลงในไม่ช้าแล้วนะ จนไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลไกการทำงานและแผงวงจรภายใน ซึ่งก่อนที่คุณจะสติแตกกรีดร้องเสียงแปลกไปทั่วไปนั้น ลองทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำดูก่อนเผื่อจะช่วยกู้ iPhone ตัวเก่งให้กลับมาจากการหลับลึกและตื่นขึ้นมาอัปเดทโซเชียลให้คุณได้รับชมต่อ ซึ่งวิธีการจะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันดีกว่า…

1. ชาร์จแบตแปบ
เป็นขั้นตอนที่เชื่อว่าคุณก็(น่าจะต้องลอง)ทำ .. เป็นอันดับแรกเนอะ เพราะน่าจะเป็นขั้นตอนแรกที่จะช่วยให้คุณแยกอาการ iPhone ของคุณออกว่าจะเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือแค่งี้หลับไปชั่วขณะ ซึ่งการเสียบชาร์จแบตเตอรี่เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สามารถปลุก iPhone คุณควรมีสติได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีที่รีชาร์จ (ในกรณีที่ปัญหาเกิดจากการที่ตัวคุณดึงดันใช้จนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแบบไม่รู้จะหมดยังไงอีกแล้ว) แต่ถ้าเครื่องยังนิ่งสนิทไร้การตอบสนอง ให้ลองเปลี่ยนสายชาร์จและอแดปเตอร์อันอื่นดู เพราะบางทีปัญหาทั้งหมดอาจเกิดจากสายชาร์จ/ตัวจ่ายไฟที่คุณใช้อยู่ทุกวี่วันก็เป็นได้นะ

ปล: แต่เอาจริง ๆ เลยนะครับ ผมไม่แนะนำให้ฝืนใช้ iPhone ตอนแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 10% เสียด้วยซ้ำ เนื่องจากการรีดพลังงานจากแบตเตอรี่จนหมดนั้นสร้างความเครียดให้กับแบตเตอรี่ จนเกิดการสูญเสียความสามารถในการเก็บประจุได้ง่ายซึ่งเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมไวมากกว่าอายุการใช้งานปกติ

2. รีเซ็ต (Reset)
บางที ซอฟต์แวร์ภายในอาจจะเอ๋อจนไม่รับรู้อะไรในช่วงขณะหนึ่งๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องเรียกสตินางกลับมาด้วยการยุติความสับสนที่เกิดขึ้นในระบบแล้วให้ระบบได้รีเซ็ตตัวมันขึ้นมาใหม่ ฟังดูอาจจะน่าตกใจ แต่ไม่ก่อนให้เกิดอันตรายใดๆกับเครื่องของคุณแน่นอนครับ อารมณ์ก็เหมือนตอนใช้คอมพิวเตอร์สมัยก่อนที่เมื่อไรที่ระบบปฎิบัตินิ่งไม่ตอบสนองเราก็ต้องเอื้อมมือไปจิ้มที่ปุ่มรีเซ็ตนั่นแหละ (ฟังดูแก่จัง…)

รีเซ็ตแบบแรก : กดปุ่ม Power ค้างแช่ไว้ จนกว่าจอภาพจะติด
รีเซ็ตแบบสอง : ถ้ายังดึงสติไม่ได้ คงต้อง Hard Reset (ล้างข้อมูลในแรม ข้อมูลในรอมไม่หายนะจ๊ะ ไม่ต้องกลัว)
ซึ่งกระบวนการนี้น่าจะได้ผลในอาการที่ iPhone มีความผิดปกติในฝั่งของซอฟต์แวร์ที่พบได้หลายกรณี
วิธีการคือ

1. กดปุ่ม Power และปุ่ม Home พร้อมกัน (สำหรับ iPhone7 ขึ้นไป กด Power และปุ่มลดเสียงแทนปุ่ม Home)
2. กดทั้งสองปุ่มค้างไว้เป็นเวลา 10 วินาที .. ถ้ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็กดค้างวนไปค่ะ!
3. กดค้างจนกว่าหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอโลโก้ Apple จึงค่อยปล่อย

3. กลับสู่จุดเริ่มต้น (Factory Settings)
บางทีโชคอาจไม่เข้าข้างคุณเท่าไหร่นักถ้าหากการกู้ชีพ 2 วิธีข้างบนนั้นยังเรียกสติ iPhone ของคุณกลับมาไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุมาจากความบกพร่องที่สร้างความผิดพลาดอันหยั่งลึกไปในระบบปฏิบัติการจนต้องกู้ชาติ เอ่อ แค่ระบบสิเนอะ.. กลับสู่จุดตั้งต้น ซึ่งวิธีการนี้จำเป็นต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มี iTunes ติดตั้งอยู่ในเครื่อง พร้อมการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เสียบ Lightning/Dock Connector port เข้ากับ iPhone (อย่าเพิ่งเสียบปลายสายอีกข้างเข้ากับคอมพิวเตอร์นะ)
2. กดปุ่ม Home ค้างเอาไว้ (สำหรับ iPhone7 ขึ้นไปให้กดปุ่มลดเสียงค้างไว้)
3. ขณะที่กดค้างในขั้นตอนก่อนหน้า นำปลายสายอีกข้างเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์
4. รอให้ iTunes เปิดตัวเอง โดยแอพจะเข้าโหมดกู้ตัวเองอัตโนมัติ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอต่อไป

4. กอบกู้หนักหน่วงในโหมด DFU (Device Firmware Update)
ในกรณีที่เครื่องเปิดไม่ติดหลังการอัปเดตระบบนั้น … อาจเป็นไปได้ว่าระบบไม่สามารถ Boot เข้าตัว iOS ได้ ตามที่ควรจะเป็นตามปกติ ซึ่งแลดูจะคล้ายข้อ 3 แต่วิธีอาจแตกต่างกันนิดหน่อย ดังนี้

1. เสียบสายเชื่อมต่อระหว่าง iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ทันที
2. กดปุ่ม Power ค้างไว้ราว 3 วินาที แล้วปล่อยมือ
3. จากนั้น กดปุ่ม Power พร้อมกันปุ่ม Home (สำหรับ iPhone 7 ให้กดปุ่ม Power พร้อมกับปุ่มลดเสียง) ค้างไว้ราว 10 วินาที จนหน้าจอ iPhone แสดงโลโก้ Apple ขึ้นมา
4. จากนั้นให้ปล่อยมือจากปุ่ม Power แต่ยังคงกดปุ่มอื่นค้างไว้ต่อ (อย่าปล่อยมือ) อีกราว 5 วินาที
5. หากเข้า DFU Mode สำเร็จจะมี pop up เด้งขึ้นมาแสดงที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่วนหน้าจอ iPhone ของคุณนั้นจะเป็นหน้าจอสีดำที่ไม่มีอะไรแสดงผลอยู่ หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอของ iTunes ต่อไป

หวังว่าอาการหลับลึกผิดปกติของคุณจะสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก หรืออย่างน้อยที่สุดก็สามารถแก้ไขได้ในขั้นตอนที่ 4 เพราะถ้าหาก iPhone คุณยังไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นที่เราพยายามทำมาในทุกวิธีแล้ว ทางเลือกที่ 5 ที่เราจะแนะนำคุณได้ก็คือส่งเครื่องของคุณไปให้ศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple เป็นผู้ตรวจหาสาเหตุและปลุก iPhone ของคุณให้กลับมาจากการหลับลึกกันแล้วหละครับ ไม่ว่ายังไงก็ขอให้ iPhone ของใครที่พบเจอกับปัญหานี้อยู่ได้ฟื้นคืนกลับมาเด้งแสดงผล notification อย่างระรัวเหมือนเช่นเคยครับ

เลือกซื้อและช้อปสินค้าของหมวดมือถือและแท็บเล็ต ได้ที่นี >มือถือและแท็บเล็ต<

1,136 total views, 1 views today