หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า

ลมเปลี่ยนทิศ ชีวิตเปลี่ยนทาง #หินมงคล #สติปัญญา #เฉลียวฉลาด #รอบคอบ #เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน Black Rutilated Quartz - แก้วขนเหล็ก "แก้วขนเหล็ก" มีพลังในการปกป้องคุ้มครองสูง รับมือกับปัญหาอุปสรรคต่างๆได้อย่างมีสติ และยังเสริมโชคลาภอีกด้วย ลักษณะ : เป็นหินในตระกูลควอตซ์แบบใส มีสายแร่สีดำกระจายอยู่ภายในเนื้อหิน เหมาะสำหรับ : ทุกอาชีพ หรือท่านที่ต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

หลายคนลืมที่จะคิดไปว่าความสำเร็จนั้นไม่ได้มาจากการทำงานอย่างหนักเพียงอย่างเดียว แต่แรงสนับสนุนด้านอื่นก็สำคัญเช่นเดียวกัน อย่างนักการเมืองเขาได้ตำแหน่งสูงๆมาจากการหาเสียงก็จริงแต่ก็เป็นบางส่วนเท่านั้นคนเบื้องหลังเขาต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือ

  1. สร้างเครือข่ายหรือคนเบื้องหลังนั่นเอง ในที่นี้ไม่ได้ความว่าให้คุณไปสร้างบริวารใดๆ แต่ให้สร้างเพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรและไว้ใจได้นั่นเอง เพื่อให้เขาสนับสนุนคุณเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นนั่นเอง
  2. พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ในเมื่อมีเด็กใหม่ๆที่มีทักษะใหม่ๆเข้ามาอยู่เสมอ สิ่งเดียวที่คุณทำได้ก็คือการพัฒนาตามไปด้วย ดังนั้นอย่าลืมพัฒนาทักษะที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น และฝึกฝนทักษะใหม่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย
  3. แบ่งให้ดีระหว่างชีวิตส่วนตัวและงาน เพื่อสร้างความสุขให้ชีวิตของคุณนั่นเอง

ในที่นี่การค้นหาตัวเองคือการมองหา passion และความรักในสิ่งที่ทำนั่นเอง พยายามค้นหาว่าสิ่งที่เราทำแล้วรู้สึกสนุกและมีความสุขคืออะไร เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราสามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างเต็มที่และมีความสุข แม้ว่าจะล้มเหลวแต่เราก็จะไม่ย่อท้อนั่นเอง ที่สำคัญคือเราต้องแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ใช่จริงๆนั่นเอง เพราะสิ่งที่เราชอบและใช่สำหรับเรา มักจะทำให้เราเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จได้โดยง่าย ไม่ติดขัด ต่างจากการทำงานที่ตัวเองไม่ชอบและไม่ถนัดเอาเสียเลย เพราะนั่นจะยิ่งดึงให้เราจม แถมการงานก้ไม่ก้าวหน้าเอาซะเลย ดังนั้นลองค้นหาตัวเองให้เจอกันก่อนนะ ว่าตัวเองชอบและถนัดอะไรกันแน่ เพื่อการงานที่ก้าวหน้ามากขึ้นนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม >> ค้นหาตัวเองให้เจอ แล้วก้าวไปสู่ความสำเร็จ ! <<

การเข้าใจนิสัยและความคิดของตนเองจะทำให้เราสามารถจัดการกับตัวเองได้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิต หากไม่มีเวลามานั่งคิดวิเคราะห์ตัวตนของตัวเอง ก็ควรจะลองหาเวลาว่างๆสัก 5 นาทีเข้าไปทำแบบฝึกหัดในอินเทอร์เน็ตดูบ้าง ซึ่งเขาก็จะมีแบบทดสอบทั้งจิตวิทยาอยู่อย่างหลากหลาย และมีการวิเคราะห์ให้เห็นตัวตนของเราได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว หลายคนอาจจะมองว่าแบบทดสอบเหล่านั้นก็แค่แบบทดสอบเล่นๆ ที่ไม่เป็นจริงหรอก แต่ความจริงแล้วแบบทดสอบเหล่านี้ก็ช่วยบอกความเป็นตัวตนของเราได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และบางแบบทดสอบก็ยังบอกได้อีกด้วย ว่าเราเหมาะกับงานแบบไหน งานอะไรกันแน่

หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
ทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า ?

แน่นอนว่าชีวิตของเราถ้าไม่มีเป้าหมายนี่แสดงให้เห็นเลยว่าเรานั้นขาดแรงจูงใจหรือพลังงานในการใช้ชีวิตไปแล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตในทุกๆด้านด้วย ดังนั้นลองตั้งเป้าหมายไว้สัก 2 ข้อ ข้อหนึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น และอีกข้อเป็นเป้าหมายระยะยาว ลองทำไปพร้อมๆกัน และจะให้ดีที่สุดควรกำหนดระยะเวลาด้วย เพื่อลดการผลัดวันประกันพรุ่งและเพื่อกระตุ้นตนเอง เมื่อไปถึงเป้าหมายแล้วก็ตั้งขึ้นมาใหม่ เป้นการสร้างความท้าทายและเป็นแรงจูงใจในชีวิตนั่นเอง อย่างเรื่องการงาน เป้าหมายระยะสั้นอาจจะเป็นการทำโปรเจ็คใดๆสำเร็จ ส่วนโปรเจ็คระยะยาวอาจจะเป็นการเลื่อนตำแหน่งก็ได้

คุรเคยได้ยินหรือไม่ว่าสิ่งที่ดีจะเข้าไปหาคนที่คิดแต่สิ่งดีๆ ดังนั้นการสร้างพลังในทางบวกจึงมาจากพื้นฐานความคิดนี้นั่นเอง หากเราอยากเจอหรือได้แต่สิ่งดีๆ เราก็ต้องเริ่มจากตัวเราก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดหรือการกระทำให้ทำแต่สิ่งดีๆเท่านั้น ดีแค่ไหนหรือเอาง่ายๆคือการมีทัศนคติในแง่บวกก็พอ อย่ามองอะไรในแง่ร้าย และปฏิบัติตามหลักศาสนาของตนก็พอ พลังด้านบวกยังสามารถป้องกันคุณจากความคิดแย่ๆทั้งจากคนอื่นและตัวคุณเองได้อีกด้วย

สิ่งที่ทำมาทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 5 จะหมดความหมายไปทันทีถ้าสุดท้ายเราไม่ยอมลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของเรา หรือการมีโฮกาสแต่ไม่คว้าก็ด้วยเช่นกัน หรือบางครั้งก็ทำแต่เลิกล้มไปก่อน แบบนี้นอกจากเราจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยแม้กระทั่งประสบการณ์ ยังเป้นการบั่นทอนกำลังใจของตัวเองลงไปทุกครั้งที่เกิดความท้อแท้อีกด้วย ส่วนเรื่องความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานนั้นก็ให้ลืมไปเลยจะดีกว่า

อยากให้การงานก้าวหน้า ต้องเริ่มจากการเลือกงานที่ตัวเองชอบและถนัดจริงๆ หากคุณยังคงฝืนทำงานที่ตัวเองไม่ถนัดอยู่ล่ะก็ รับรองว่าการงานของคุณจะมีแต่ล่มจมลงอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นมาเริ่มต้นค้นหาตัวเอง ค้นหางานอาชีพที่ถนัดเพื่อความก้าวหน้าทางการงานกันนะ

อยากทำงานให้ก้าวหน้า ต้องหมั่นศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม หาหนังสือดีดีอ่าน ได้จาก SE-ED Online >> ดูรายละเอียด คลิก

เวลาที่คนเราทำงาน ต่างก็ต้องการเห็นตัวเองเติบโต พัฒนา และก้าวหน้าอยู่เสมอ แม้คุณจะบอกว่าคุณพอใจกับการอยู่ที่เดิม แต่การเติบโตเป็นความต้องการหนึ่งของมนุษย์เรา และความก้าวหน้าในอาชีพต่างเป็นเป้าหมายของคนทำงานส่วนใหญ่ รวมทั้งการก้าวหน้าในหน้าที่การงานยังสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นอีก แต่การจะก้าวหน้าไปได้ คุณต้องมีการพัฒนาตนเอง ผ่านการทดสอบหลายด่านทีเดียว ทั้งการพิสูจน์ตัวเอง รวมถึงต้องแข่งขันกับคนอื่น ๆ อีกจำนวนมาก


วันนี้แวนมี 5 กลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณก้าวหน้าในงานได้เร็ว ในฐานะที่แวนเคยเป็นทั้งพนักงาน หัวหน้าทีม และเจ้าของกิจการ จึงขอประยุกต์หลักการทางจิตวิทยา บวกกับประสบการณ์ส่วนตัว มาแชร์ให้คุณลองนำไปปรับใช้ดู


1. อย่าเลือกทำแต่งานง่ายเกินไป เรื่องเหล่านั้นมักไม่ค่อยทำให้คุณพัฒนา และคนส่วนใหญ่มักเลือกงานง่าย คนที่มักเจอแต่เรื่องยากพวกเขาจะเหนื่อยมากมาย แต่ศักยภาพพวกเขาก็จะขยายออกไปเรื่อย ๆ เช่นกัน หากอยากรู้ว่าศักยภาพคุณไปไกลได้แค่ไหน จงมองหางานที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนมากมักเรียกร้องวิธีคิดใหม่ทักษะและความสามารถระดับสูงขึ้น สิ่งนี้เรียกว่าเป็นการออกจากพื้นที่สบาย (Comfort zone) อย่าคาดหวังว่าคุณจะพัฒนามากนักจากการทำเรื่องง่าย ๆ เรื่องเดิม ๆ ใช้ทักษะเดิม ระดับความสามารถเดิม

หากคุณไม่ได้รับโอกาสทำงานที่ยากนัก จงเริ่มด้วยตัวเอง จากงานเดิมแต่เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทำยังไงให้ทำได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง ประหยัดต้นทุนมากขึ้น หรือได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หมั่นออกนอกพื้นที่ความเคยชินทำให้รู้สึกลำบากขึ้นมาอีกซักนิด คุณอาจจะได้เห็นศักยภาพในตัวเองที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้

2. เลือกทำงานกับคนเก่ง การเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบเป็นวิธีให้คุณพัฒนาได้เร็วมาก ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้หาได้ตามหนังสือหรือคอร์สเรียน แต่เป็นการร่วมงานที่ได้เรียนรู้ผ่าน Tacit Knowledge หรือสิ่งที่ไม่สามารถบอกเล่าออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ต้องเกิดจาก "ประสบการณ์" การได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ เท่านั้น ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้คุณกดดันขึ้นอีกและเครียดได้อีก แต่หากคำนวณแล้วมันคุ้มค่า คุณควรรีบคว้าโอกาสหรือสร้างโอกาสการทำงานร่วมกับคนเก่ง ๆ ให้เร็วไว


3. ตั้งเป้าหมายการพัฒนาของตัวเองให้ชัดเจน วิเคราะห์เสมอว่า ในงานของคุณ และเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง และต้องโดดเด่นในเรื่องใด นอกจากวิเคราะห์ในปัจจุบันแล้ว ยังต้องวิเคราะห์ทักษะที่ต้องใช้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้าอีกด้วย เพราะทุกอย่างต้องการเวลาในการสั่งสม ดังนั้น ยิ่งคุณวางแผนอย่างเป็นระบบ มีกลยุทธ์ (by plan) และเป็นรูปธรรมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่นที่อาจสะเปะสะปะหรือพัฒนาตามโอกาส (by chance)


นอกจากนี้ คุณยังควรหาทางขึ้นเป็น Top ในวงการหรือสาขาอาชีพของคุณให้ได้ เพื่อความโดดเด่นและสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง ซึ่งการจะขึ้นถึงตำแหน่งนี้ได้ ต้องอาศัยการมุ่งมั่น แสดงฝีมือให้เห็นจริง รวมทั้ง มีกลยุทธ์การสื่อสารให้คนอื่นเห็นถึงคุณค่าของคุณอีกด้วย


4. ทำงานเกิน Job Description หากคุณทำเพียงงานในขอบเขตหน้าที่ของตัวเอง ต่อให้ทำเริ่ดขนาดไหน คุณก็จะก้าวหน้าไปได้ไม่ไกลเท่ากับคนที่ทำงานในหน้าที่ของตัวเองได้ดี แถมยังช่วยหัวหน้าหรือเจ้าของบริษัทคิดและดูแลเรื่องอื่น ๆ ได้อีก รวมทั้งมองเห็นภาพรวม และคิดในมุมมองของผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของบริษัท แบบนี้ เป็นใครก็ต้องรีบประคบประหงมและเก็บคุณไว้ข้างกาย แถมยังดันให้ก้าวหน้าขึ้นไปรับตำแหน่งดี ๆ ได้อีก เพราะมองเห็นศักยภาพที่แตกต่างจากคนทำงานคนอื่น ๆ


5. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ๆ รวมทั้งพัฒนาความเป็นผู้นำในตัวเอง เพื่อให้พร้อมต่อการรับผิดชอบในตำแหน่งผู้นำ ที่เริ่มต้องการทักษะด้าน "คน" เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ซึ่งผู้บริหารจำนวนมากยืนยันว่า การจัดการเรื่องคนเป็นสิ่งที่ยากที่สุด เพราะคนมีความรู้สึกและอารมณ์ ไม่สามารถคาดเดาหรือใส่ input เข้าไปแล้วคาดหวังผลได้แม่นยำเหมือนเครื่องจักรหรือซอฟท์แวร์ ดังนั้นหากคุณสามารถสร้างความไว้วางใจกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าได้ รวมทั้งทำให้คนอื่นชอบคุณได้ นั่นยิ่งสร้างความโดดเด่นให้กับคุณ แถมเมื่อตอนได้เลื่อนตำแหน่งยังมีคนมากมายที่รอสนับสนุนคุณอีกต่างหาก


ความก้าวหน้าก็คล้ายกับการทำงานอย่างหนึ่ง ที่ต้องมีการวางเป้าหมายให้ชัด และวางแผนให้สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งอาศัยจิตใจที่มุ่งมั่น เอาจริง มี Growth Mindset และการลงมือทำที่มากกว่าคนอื่น ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ