กรุงไทย โอนเงินไม่ได้ วันนี้

KTB netbankเป็นการให้บริการธนาคารทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet Banking) ของบมจ.ธนาคารกรุงไทย ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ธนาคาร” เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าบุคคลธรรมดา ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ขอใช้บริการ” ให้สามารถใช้บริการจัดการทางการเงินต่างๆ ได้แก่ การสอบถามยอดคงเหลือในบัญชีเงินฝาก การสอบถามรายการเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝาก การโอนเงินระหว่างบัญชีเงินฝากของตนเอง การโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากบุคคลอื่นภายในธนาคาร การโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากบุคคลอื่นภายนอกธนาคาร การชำระค่าสินค้าหรือบริการ การใช้บริการ e-Cheque บริการ Talk to net officer รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินใดๆที่ธนาคารได้จัดให้มีขึ้นผ่าน KTB netbank ทั้งที่ธนาคารกำหนดไว้แล้วในขณะนี้และ/หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้าทุกประการโดยผู้ใช้บริการตกลงยินยอมผูกพันตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ KTB netbank ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อตกลง” ดังต่อไปนี้

  1. ในข้อตกลงฉบับนี้ คำว่า “บัญชีเงินฝาก” หมายถึง บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (NetSavings) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ (NetExtra) บัญชีเงินฝากประจำ (NetFixed)และ/หรือบัญชีเงินฝากประเภทอื่นที่ธนาคารกำหนดไว้แล้วในขณะนี้และ/หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า รวมถึงวงเงินสินเชื่อของผู้ขอใช้บริการที่นำมาใช้บริการผ่าน KTB netbank ด้วย
  2. ธนาคารเปิดให้บริการ KTB netbank สำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น
  3. ผู้ขอใช้บริการสามารถสมัครใช้บริการได้ที่สาขา, เครื่องATM/ADM ,Website (www.ktbnetbank.com) หรือ Application KTB netbank ของธนาคาร โดยผู้ขอใช้บริการจะต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทลงนามสั่งจ่ายแต่เพียงผู้เดียวกับธนาคารอย่างน้อย 1 บัญชีและต้องมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่จดทะเบียนในประเทศไทย และ/หรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อกับธนาคาร
  4. การใช้รหัสประจำตัว (net ID) รหัสผ่าน (Password)และรหัส Time Out Password: TOP
    1. เมื่อผู้ขอใช้บริการได้รับอนุมัติให้ใช้บริการแล้ว จะได้รับรหัสประจำตัว (net ID) จากธนาคารและรหัสผ่าน (Password) ที่ผู้ขอใช้บริการกำหนดด้วยตนเองในการเข้าสู่ระบบครั้งแรก ผู้ขอใช้บริการจะต้องเปลี่ยนรหัสประจำตัว(net ID) และรหัสผ่าน(Password) มิฉะนั้นจะไม่สามารถทำรายการต่อไปได้
    2. ผู้ขอใช้บริการต้องรักษารหัสประจำตัว(net ID) รหัสผ่าน(Password) และรหัส Time Out Password: TOP ไว้เป็นอย่างดี และเก็บไว้ในที่ปลอดภัย มิให้สูญหาย รวมทั้งเก็บรักษาไว้เป็นความลับเฉพาะตัวของผู้ขอใช้บริการเท่านั้นหากเกิดความเสียหายประการใดจากการสูญหายหรือการเปิดเผยรหัสต่างๆ ดังกล่าว หรือจากเหตุอื่นใด ธนาคารไม่จำต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านและรหัสประจำตัว (net ID) ได้ด้วยตนเองตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งให้ธนาคารทราบ
    3. ในการใช้บริการทุกครั้ง ผู้ขอใช้บริการจะต้องใส่รหัสประจำตัว (net ID) และรหัสผ่าน (Password) และ/หรือรหัส Time Out Password: TOP กรณีผู้ขอใช้บริการใส่รหัสประจำตัว (net ID) รหัสผ่าน (Password) ไม่ถูกต้องติดต่อกัน 3 ครั้งธนาคารจะระงับการใช้บริการKTB netbank ไว้ชั่วคราวโดยอัตโนมัติและผู้ขอใช้บริการจะไม่สามารถใช้รหัสประจำตัวได้อีก โดยผู้ขอใช้บริการจะต้องติดต่อกับธนาคารด้วยตนเอง เพื่อยกเลิกการระงับการใช้บริการ KTB netbank ชั่วคราวหรือขอออกรหัสผ่านใหม่
    4. กรณีผู้ขอใช้บริการลืมรหัสประจำตัว (net ID) สามารถติดต่อขอรับได้ด้วยตนเองที่สาขาของธนาคาร หรือผ่านช่องทางอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
    5. ผู้ขอใช้บริการสามารถระงับ หรือยกเลิก รหัสประจำตัว(net ID) และรหัสผ่าน(Password) และ/หรือการใช้บริการ KTB netbank ได้ตลอดเวลาด้วยตนเองผ่านช่องทางต่างๆ ตามที่ธนาคารกำหนดทั้งนี้ การระงับรหัสประจำตัว (net ID) และรหัสผ่าน (Password) และ/หรือการใช้บริการดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์ใน 1 วันนับตั้งแต่ธนาคารได้รับแจ้งจากผู้ขอใช้บริการเสร็จสิ้น โดยธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นก่อนการระงับหรือยกเลิกดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ หากผู้ขอใช้บริการมีความประสงค์จะยกเลิกการระงับรหัสประจำตัว (net ID) และรหัสผ่าน (Password) และ/หรือการใช้บริการ KTB netbank ข้างต้น ผู้ขอใช้บริการสามารถดำเนินการยกเลิกการระงับได้ด้วยตนเองผ่าน Website (www.ktbnetbank.com) ,Application KTB netbank ของธนาคาร หรือติดต่อสาขาของธนาคารด้วยตนเอง
    6. การดำเนินการใดๆ ผ่านบริการ KTB netbank อาทิเช่น การโอนเงิน การเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ การแก้ไขบัญชีเงินฝาก การยกเลิก/เพิ่มบัญชีเงินฝากการแก้ไขข้อมูลการชำระค่าสินค้าและบริการหรืออื่นๆ ทั้งที่เป็นการกระทำของผู้ขอใช้บริการเอง หรือเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยประการใดก็ตาม หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัว (net ID) และ/หรือรหัสผ่าน (Password) และ/หรือรหัส Time Out Password: TOP ที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้แล้วผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องสมบูรณ์ของผู้ขอใช้บริการซึ่งมีผลผูกพันผู้ขอใช้บริการเสมือนหนึ่งได้กระทำโดยผู้ขอใช้บริการเอง และผู้ขอใช้บริการยินยอมรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวทุกประการ รวมทั้งให้ถือว่าเป็นการที่ผู้ขอใช้บริการได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการผ่าน KTB netbank ในครั้งนั้นๆ โดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว และตกลงให้ธนาคารสามารถใช้ข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวเป็นต้นฉบับเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่าผู้ขอใช้บริการได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อใช้ในการดำเนินการทางกฎหมายได้ทุกประการ โดยผู้ขอใช้บริการไม่ต้องทำหรือลงลายมือชื่อในเอกสารใดๆ เพื่อเป็นหลักฐานในการนั้นอีก เว้นแต่ธนาคารจะแจ้งหรือจะมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน และผู้ขอใช้บริการตกลงว่าธนาคารไม่จำต้องรับผิดใดๆในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำข้างต้นโดยผู้ขอใช้บริการยินยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าวข้างต้นทุกประการเว้นแต่จะเป็นกรณีตามข้อ 5.นอกจากนี้ในกรณีที่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นแก่ธนาคาร อันเนื่องมาจากการใช้บริการKTB netbank ของผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่ธนาคารโดยสิ้นเชิง โดยไม่มีเงื่อนไขแต่อย่างใดทั้งสิ้นการดำเนินการใดๆ ผ่านบริการ KTB netbank อาทิเช่น  การโอนเงิน การเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ การแก้ไขบัญชีเงินฝาก การยกเลิก/เพิ่มบัญชีเงินฝากการแก้ไขข้อมูลการชำระค่าสินค้าและบริการหรืออื่นๆ ทั้งที่เป็นการกระทำของผู้ขอใช้บริการเอง  หรือเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบุคคลอื่น  ไม่ว่าโดยประการใดก็ตาม  หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัว (net ID) และ/หรือรหัสผ่าน  (Password) และ/หรือรหัส Time Out Password: TOP ที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้แล้วผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องสมบูรณ์ของผู้ขอใช้บริการซึ่งมีผลผูกพันผู้ขอใช้บริการเสมือนหนึ่งได้กระทำโดยผู้ขอใช้บริการเอง และผู้ขอใช้บริการยินยอมรับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวทุกประการ รวมทั้งให้ถือว่าเป็นการที่ผู้ขอใช้บริการได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการผ่าน KTB netbank ในครั้งนั้นๆ โดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว และตกลงให้ธนาคารสามารถใช้ข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวเป็นต้นฉบับเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่าผู้ขอใช้บริการได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อใช้ในการดำเนินการทางกฎหมายได้ทุกประการ โดยผู้ขอใช้บริการไม่ต้องทำหรือลงลายมือชื่อในเอกสารใดๆ เพื่อเป็นหลักฐานในการนั้นอีก เว้นแต่ธนาคารจะแจ้งหรือจะมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน และผู้ขอใช้บริการตกลงว่าธนาคารไม่จำต้องรับผิดใดๆในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำข้างต้นโดยผู้ขอใช้บริการยินยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าวข้างต้นทุกประการเว้นแต่จะเป็นกรณีตามข้อ 5.นอกจากนี้ในกรณีที่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นแก่ธนาคาร อันเนื่องมาจากการใช้บริการKTB netbank ของผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่ธนาคารโดยสิ้นเชิง โดยไม่มีเงื่อนไขแต่อย่างใดทั้งสิ้น
  5. ธนาคารจะรับผิดต่อผู้ขอใช้บริการเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้:
    1. ธนาคารยังไม่ได้ส่งมอบเครื่องมือโอนเงิน (“เครื่องมือโอนเงิน” หมายความถึง บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต รหัสลับรหัสประจำตัว(net ID) และ/หรือรหัสผ่าน(Password) และ/หรือรหัส Time Out Password: TOP แผ่นจานแม่เหล็กที่บรรจุโปรแกรม หรือเครื่องมืออื่นใดที่ธนาคารมอบให้ผู้ขอใช้บริการเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการโอนเงินเข้าหรือออกจากบัญชีเงินฝาก) ให้แก่ผู้ขอใช้บริการและเกิดรายการโอนเงินผ่าน KTB netbank โดยมิชอบ
    2. เกิดรายการโอนเงินผ่านบริการ KTB netbank โดยมิชอบ และมิใช่ความผิดของผู้ขอใช้บริการ

  6. หากในระหว่างการดำเนินการต่างๆ ผู้ขอใช้บริการไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ได้ ให้ถือว่าการดำเนินการนั้นๆ ไม่สำเร็จ และหากผู้ขอใช้บริการประสงค์จะดำเนินการใดๆ ต่อไป ผู้ขอใช้บริการจะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) และใส่รหัสประจำตัว(net ID) และรหัสผ่าน(Password) เพื่อเริ่มต้นดำเนินการดังกล่าวใหม่ โดยผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการดำเนินการไม่สำเร็จดังกล่าวข้างต้นเองทุกประการ
  7. การโอนเงิน/การหักบัญชีเงินฝากผ่าน KTB netbank
    1. การโอนเงินระหว่างบัญชีเงินฝากของตนเองภายในธนาคารผู้ขอใช้บริการสามารถโอนได้ไม่เกินยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากที่สามารถเบิกถอนได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อวัน
    2. การโอนเงินไปบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่นภายในธนาคารและการโอนเงินไปบัญชีเงินฝากต่างธนาคารผู้ขอใช้บริการสามารถโอนเป็นจำนวนยอดรวมกันได้ตามวงเงินที่ผู้ขอใช้บริการได้รับโดยไม่รวมกับวงเงินของบริการ KTB netbank: Talk to net officer ดังนี้
      1. กลุ่มลูกค้า Normal วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท/วัน, ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
      2. กลุ่มลูกค้า VIP วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท/วัน, ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
      3. กลุ่มลูกค้า Silver วงเงินไม่เกิน500,000 บาท/วัน, ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
      4. กลุ่มลูกค้า Gold วงเงินไม่เกิน1,000,000 บาท/วัน, ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
      5. กลุ่มลูกค้าPlatinum วงเงินไม่เกิน5,000,000 บาท/วัน, ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
        ทั้งนี้ สำหรับการโอนเงินไปบัญชีเงินฝากต่างธนาคารผู้ขอใช้บริการสามารถโอนเป็นจำนวนยอดรวมกันได้ตามวงเงินที่ผู้ขอใช้บริการได้รับข้างต้น ทั้งนี้ ไม่เกิน 500,000 บาท/วัน
    3. การโอนเงินไปบัญชีเงินฝากต่างประเทศผู้ขอใช้บริการสามารถโอนเป็นจำนวนยอดรวมกันได้ตามวงเงินที่ผู้ขอใช้บริการได้รับในข้อ 7.2 ทั้งนี้ ไม่เกิน 500,000 บาท/วัน
    4. การหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัญชีเงินฝากเพื่อชำระค่าสาธารณูปโภค/ค่าซื้อสินค้า/บริการ/ค่าภาษี/ค่าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างๆผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารดำเนินการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการที่ให้ไว้กับธนาคารเพื่อชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานหรือองค์กรผู้รับชำระเงินตามข้อตกลงที่ธนาคารมีอยู่กับบุคคลหรือหน่วยงานหรือองค์กรผู้รับชำระเงิน ได้ไม่เกินยอดเงินและ/หรือวงเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากที่สามารถเบิกถอนได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อวันรวมทั้งยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากเพื่อชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการผ่านระบบงาน KTB netbank ตามที่ธนาคารกำหนด
  8. การใช้บริการด้านเช็คผ่าน KTB netbank
    1. การสั่งซื้อสมุดเช็คผ่านบริการ KTB netbank ผู้ขอใช้บริการจะสั่งซื้อสมุดเช็คได้ตามจำนวนเช็คที่ธนาคารอนุมัติให้เท่านั้นโดยธนาคารจะดำเนินการหักค่าอากรเช็คและค่าอากรแสตมป์ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับมอบอำนาจสามารถติดต่อรับสมุดเช็คได้ตามสถานที่ที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ธนาคารสงวนสิทธิในการพิจารณาอนุมัติการสั่งซื้อสมุดเช็คดังกล่าวหากไม่ได้รับการอนุมัติธนาคารจะดำเนินการปรับปรุงบัญชีและคืนเงินโดยไม่มีดอกเบี้ยตามวิธีปฏิบัติงานของธนาคารในภายหลัง
    2. การอายัดเช็คผ่านบริการ KTB netbank โดยใช้รหัสประจำตัว(net ID)และ/หรือรหัสผ่าน (Password) ของผู้ขอใช้บริการให้ถือว่าการอายัดเช็คดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ทันทีที่ทำรายการผ่าน KTB netbank ครบถ้วนถูกต้องและธนาคารได้แจ้งยืนยันการอายัดแล้วโดยผู้ขอใช้บริการไม่ต้องยื่นเรื่องเป็นหนังสือขออายัดเช็คกับสำนักงาน/สาขาของธนาคารที่ผู้ขอใช้บริการเปิดบัญชีเงินฝากไว้อีกแต่หากเช็คฉบับนั้นอยู่ในกระบวนการที่ธนาคารไม่สามารถระงับการจ่ายเงินได้ผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้น

  9. การใช้บริการKTB e-Cheque
    1. ผู้ขอใช้บริการตกลงทำรายการสั่งโอนเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อด้วยตนเองผ่านKTB netbank โดยตกลงเป็นผู้กำหนดข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผู้รับโอนเงิน เช่น ประเภทการโอนเงิน หมายเลขบัญชีเงินฝาก วันที่รายการมีผล วันที่รายการหมดอายุ ผู้ส่งคำสั่งโอนเงิน (Releaser) และ/หรือผู้ยกเลิกรายการรับเงิน (Unwinder) จำนวนเงินที่ผู้ขอใช้บริการจะโอนให้แก่ผู้รับโอนเงินเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้รับโอนเงินเลขที่ประจำตัวประชาชนของผู้รับโอนเงินเป็นต้น ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อมูลการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์” เพื่อให้ธนาคารหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการตามที่ผู้ขอใช้บริการระบุและโอนให้แก่ผู้รับโอนเงินโดยเมื่อธนาคารได้รับข้อมูลการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ธนาคารจะแจ้งรหัสรายการ (Reference) เลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) รหัสรับเงิน (Release code) รหัสยกเลิกการรับเงิน (Unwind code) ให้แก่ผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินเพื่อรับเงิน โดยมีขั้นตอนและเงื่อนไขการให้บริการ ดังต่อไปนี้
      1. กรณีการรับเงินสด ณ ที่ทำการสาขา ธนาคารจะส่งเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) และรหัสรับเงิน (Release code) ไปยังผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงิน (ตามที่ผู้ขอใช้บริการหรือผู้โอนเงินเป็นผู้กำหนดในข้อมูลการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์) โดยในการขอรับเงินสดธนาคารจะต้องได้รับเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) รหัสรับเงิน (Release code) และเลขที่ประจำตัวประชาชนของผู้รับโอนเงินที่ถูกต้อง ธนาคารจึงจะดำเนินการจ่ายเงินสดให้แก่ผู้รับเงิน
      2. กรณีการรับเงินสดที่ตู้ ATM ธนาคารจะส่งรหัสรายการ (Reference) และเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) ให้แก่ผู้ขอใช้บริการ และส่งรหัสรายการ (Reference) และรหัสรับเงิน (Release code) ให้แก่ผู้รับโอนเงินโดยในการขอรับเงินสด ธนาคารจะต้องได้รับเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) และรหัสรับเงิน (Release code) ที่ถูกต้อง ธนาคารจึงจะดำเนินการจ่ายเงินสดให้แก่ผู้รับเงิน
      3. กรณีทำรายการประเภทโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้รับโอนเงินในวันที่รายการมีผล (Effective Date) ตามที่ระบุในรายการ ทั้งนี้หากผู้ขอใช้บริการ เลือกการโอนเงินแบบใช้รหัสรับเงิน (Release code) ธนาคารจะต้องได้รับรหัสรับเงิน (Release code)ที่ถูกต้อง ก่อนหรือภายในวันที่รายการมีผล (Effective Date) จึงจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับโอนเงินในวันที่รายการมีผล (Effective Date) ตามที่ระบุในรายการในกรณีที่ธนาคารได้รับรหัสรับเงิน (Release code) หลังจากวันที่รายการมีผล (Effective Date) ธนาคารจะหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการ เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้รับโอนเงินในวันที่ธนาคารได้รับรหัสรับเงิน (Release code) แทน
    2. ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่าธนาคารจะดำเนินการหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อเข้าบัญชีพักของธนาคารตามวันที่ให้ Hold เงินในบัญชี (Funding Date) ตามประเภทบริการที่ผู้ขอใช้บริการระบุ
    3. ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ผู้ยกเลิกรายการรับเงิน (Unwinder) ตามที่ผู้ขอใช้บริการกำหนดสามารถส่งคำสั่งยกเลิกรายการรับเงิน เพื่อมิให้ธนาคารดำเนินการหักและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการต่อไปตามคำสั่งโอนเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อได้ ดังนั้น เมื่อธนาคารดำเนินการยกเลิกรายการโอนเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อตามคำสั่งยกเลิกรายการรับเงินดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าเป็นการยกเลิกรายการโอนเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อทันที ซึ่งผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ธนาคารได้ปฏิบัติถูกต้องแล้ว และ ไม่มีหน้าที่ติดตามและ/หรือเจรจากับผู้รับโอนเงินเกี่ยวกับภาระผูกพันใดๆ ที่ผู้รับโอนเงินมีอยู่ต่อผู้ขอใช้บริการทั้งสิ้น รวมทั้งผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่ใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากธนาคารด้วย กรณีการยกเลิกรายการที่ทำรายการผ่านช่องทางสาขาของธนาคาร ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่าต้องยกเลิกรายการด้วยตนเองที่สาขาต้นทางที่ทำรายการ โดยธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีพักของธนาคารคืนให้แก่ผู้ขอใช้บริการ ต่อเมื่อธนาคารได้รับเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) รหัสยกเลิกการรับเงิน (Unwind code) และเลขที่ประจำตัวประชาชนของผู้รับโอนเงินที่ถูกต้อง
    4. ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ผู้ขอใช้บริการมีหน้าที่เก็บรักษาและดำเนินการให้ผู้รับโอนเงินเก็บรักษาเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid No.) รหัสรับเงิน (Release code) และรหัสยกเลิกการรับเงิน (Unwind code) เป็นอย่างดี และเก็บไว้ในที่ปลอดภัย มิให้สูญหาย รวมทั้งเก็บรักษาไว้เป็นความลับอยู่ตลอดไป หากเกิดความเสียหายประการใดจากการสูญหายหรือการเปิดเผยของเลขที่อ้างอิงรายการ หรือรหัสดังกล่าว หรือจากเหตุอื่นใด ธนาคารไม่จำต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
    5. ผู้ขอใช้บริการตกลงที่จะดำรงเงินและ/หรือวงเงินสินเชื่อในบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการให้เพียงพอต่อการโอนให้แก่ผู้รับโอนเงิน ตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการนี้ เพื่อให้ธนาคารสามารถหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการได้ทั้งหมดตามจำนวนเงินที่จะต้องโอนตามข้อมูลการโอนเงินที่ได้รับจากผู้ขอใช้บริการ พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมบริการภายในวันที่กำหนด

  10. ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบัญชีเงินฝากของผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงิน และข้อมูลการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารได้รับจากผู้ขอใช้บริการอาทิเช่น จำนวนเงินที่ผู้ขอใช้บริการจะโอนให้ผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินแต่ละราย เลขที่บัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินแต่ละราย เป็นต้นเป็นสาระสำคัญในการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงิน โดยธนาคารไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชื่อบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการ ผู้รับโอนเงินและผู้รับชำระเงิน และไม่มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลใดๆ อีก และเมื่อธนาคารได้ดำเนินการใดๆ ตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเมื่อธนาคารได้รับรหัสรายการ (Reference) และ/หรือเลขที่อ้างอิงรายการ (Paid no.) และ/หรือรหัสรับเงิน (Release code) และ/หรือรหัสยกเลิกการรับเงิน (Unwind code) จากผู้ขอใช้บริการ หรือจากผู้รับโอนเงิน หรือจากบุคคลใดๆ ไม่ว่าโดยประการใดก็ตาม ให้ถือว่าธนาคารได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนทุกประการ หากมีข้อบกพร่องผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามข้อมูลดังกล่าวแล้ว ผู้ขอใช้บริการยินยอมรับผิดชอบในการกระทำและในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าวทุกประการ โดยธนาคารไม่จำต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
  11. ในกรณีที่บัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินมีทั้งรายการหักเงินจาก บัญชีเงินฝากและโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากในคราวเดียวกัน ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเงิน ฝากก่อน แล้วจึงจะดำเนินการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากต่อไป
  12. ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่าย และ/หรือค่าบริการสำหรับการใช้บริการต่างๆ ผ่าน KTB netbank และ/หรือค่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ตามอัตราและวิธีการที่ธนาคารประกาศกำหนด รวมทั้งตกลงยินยอมให้ธนาคารปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกการให้บริการ KTB netbank ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน รวมทั้งอัตราค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่าย และ/หรือค่าบริการ และ/หรือค่าปรับ และ/หรือสิทธิต่างๆ ที่ธนาคารให้แก่ผู้ขอใช้บริการ ตลอดจนวิธีการคำนวณอัตราดังกล่าว เฉพาะแต่ผู้ขอใช้บริการรายใดรายหนึ่งหรือทุกรายเมื่อใดก็ได้และ/หรือวิธีการดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร โดยธนาคารจะประกาศให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ณ สำนักงาน/สาขาของธนาคาร และ/หรือแผ่นพับ ใบปลิว แผ่นโฆษณา และ/หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และ/หรือช่องทางอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด อนึ่ง ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารหักเงินค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่าย และ/หรือค่าบริการ และ/หรือค่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว จากบัญชีเงินฝากทั้งหมดทุกประเภทและทุกวงเงินของผู้ขอใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคารได้ทันที
  13. หากผู้ขอใช้บริการเห็นว่า ธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่าย และ/หรือค่าบริการ และ/หรือค่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ถูกต้อง ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 7 วัน นับจากวันที่ธนาคารหักบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการ หากผู้ขอใช้บริการไม่แจ้งให้ธนาคารทราบถึงความไม่ถูกต้องภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่าธนาคารได้ดำเนินการโดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ซึ่งผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่โต้แย้งคัดค้านหรือเรียกร้องเงินหรือค่าเสียหายใดๆ จากธนาคารในภายหลัง
  14. เพื่อให้การใช้บริการบรรลุตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงฉบับนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝาก และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือโอนเงินของผู้ขอใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคาร เพื่อดำเนินการตามวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ตลอดไปโดยผู้ขอใช้บริการจะไม่ยกเลิกเพิกถอนการให้ความยินยอมนี้ จนกว่าจะมีการยกเลิกการใช้บริการ KTB netbank
  15. ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ธนาคารมีสิทธิที่จะแจ้งหรือไม่แจ้ง รายการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือรายการโอนเงินผ่าน KTB netbank ให้ผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินทราบก็ได้ เนื่องจากผู้ขอใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะ ผลการดำเนินการ และรายงานการหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อและ/หรือโอนเงิน ของผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินผ่าน KTB netbank ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ หากผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินไม่ดำเนินการทักท้วงรายการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อและ/หรือรายการโอนเงินภายใน 7วัน นับแต่วันที่ทำรายการดังกล่าวสำเร็จแล้ว ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่าธนาคารได้ดำเนินการโดยถูกต้องสมบูรณ์ทุกประการแล้วซึ่งผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่โต้แย้งคัดค้านหรือเรียกร้องเงินหรือค่าเสียหายใดๆ จากธนาคารในภายหลัง
  16. ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการใช้บริการหรือทำธุรกรรมประเภทต่างๆ ผ่าน KTB netbank แล้วเกิดความบกพร่องผิดพลาดไม่ว่าความบกพร่องผิดพลาดนั้นๆจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลประการใดก็ตามผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารมีอำนาจทุกประการในการแก้ไขความบกพร่องผิดพลาดให้ถูกต้องตามความเป็นจริงซึ่งรวมถึงการยินยอมให้ธนาคารหักเงินและ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อและ/หรือโอนเงินจากบัญชีเงินฝากทั้งหมดทุกประเภทและทุกวงเงินที่ผู้ขอใช้บริการมีอยู่กับธนาคารได้โดยธนาคารมิต้องแจ้งหรือขออนุญาตจากผู้ขอใช้บริการก่อนล่วงหน้าทั้งนี้ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่าบรรดาเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับการหักเงินเบิกใช้วงเงินสินเชื่อโอนเงินหรือการดำเนินการของธนาคารซึ่งเป็นเอกสารที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขความบกพร่องผิดพลาดข้างต้นเป็นเอกสารที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วนและใช้เป็นพยานหลักฐานตามกฎหมายได้ทุกประการ
  17. ในกรณีผู้ขอใช้บริการพบความบกพร่องผิดพลาดใดๆ จากการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือการโอนเงินผ่าน KTB netbank ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งรายละเอียดของข้อมูล เช่น วันเวลาที่ทำรายการ บัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องในการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือโอนเงิน ประเภทรายการ จำนวนเงินที่โอนเข้าหรือโอนออก ชื่อและสถานที่ติดต่อของผู้ขอใช้บริการและผู้แจ้ง เป็นต้น ให้ธนาคารทราบทันที โดยผู้ขอใช้บริการยินยอมให้ธนาคารดำเนินการตรวจสอบความบกพร่องผิดพลาด ในการหักเงิน และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือโอนเงินจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ขอใช้บริการกับรายงานของธนาคารตามวิธีการของธนาคารทุกประการ หากปรากฏในภายหลังว่าความบกพร่องผิดพลาดดังกล่าว เกิดจากการกระทำของผู้ขอใช้บริการเอง และธนาคารได้ดำเนินการไปตามข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการเป็นผู้แจ้งหรือให้ข้อมูลแล้ว ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมสละสิทธิในการเรียกร้องหรือฟ้องร้องให้ธนาคารชดใช้เงินที่ธนาคารได้หัก และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือโอนเงินดังกล่าว รวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ หากธนาคารต้องจ่ายเงินจำนวนใดๆ ให้แก่บุคคลใดเนื่องจากความผิดพลาดข้างต้นแล้ว ผู้ขอใช้บริการตกลงจะชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย ในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดกรณีผิดนัดชำระหนี้ ตามประกาศของธนาคาร โดยหากธนาคารได้ประกาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวหลายอัตรา ก็ให้ใช้อัตราสูงสุดที่ธนาคารประกาศกำหนด ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ตามที่ธนาคารจะได้ประกาศเป็นคราวๆ ไป โดยผู้ขอใช้บริการตกลงให้อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงมีผลใช้บังคับทันที นับแต่มีการประกาศเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินให้แก่บุคคลอื่นเป็นต้นไป จนกว่าผู้ขอใช้บริการจะชำระคืนให้แก่ธนาคารเพื่อเป็นการชดเชยทุกจำนวนจนครบถ้วน
  18. ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการมีหนี้เงินใดๆ ค้างชำระอยู่กับธนาคาร ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย หรือหนี้เงินซึ่งเกิดขึ้นตามข้อตกลงฉบับนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากทั้งหมดทุกประเภทและทุกวงเงินที่ผู้ขอใช้บริการมีอยู่กับธนาคารเพื่อนำมาหักชำระหนี้ดังกล่าวคืนให้แก่ธนาคารได้ในทันทีโดยธนาคารไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการอีก และหากเงินในบัญชีเงินฝากดังกล่าวมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะนำมาหักชำระหนี้ได้ทั้งหมดผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่าผู้ขอใช้บริการมีภาระหนี้ค้างชำระกับธนาคารตามจำนวนเงินดังกล่าว ซึ่งเป็นหนี้ที่ถึงกำหนดชำระโดยพลัน และผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมชำระคืนยอดหนี้ส่วนที่คงเหลือ พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ 17.นับตั้งแต่วันที่ผู้ขอใช้บริการผิดนัดชำระหนี้เป็นต้นไปจนกว่าผู้ขอใช้บริการจะชำระหนี้ครบถ้วนทั้งนี้ผู้ขอใช้บริการยินยอมให้ธนาคารงดเว้นการให้บริการต่างๆได้ทันที โดยธนาคารจะไม่หักเงินจากบัญชีเงินฝากแต่เพียงบางส่วน และไม่เป็นการตัดสิทธิธนาคารในการที่จะยกเลิกการให้บริการ KTB netbank ได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบซึ่งผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่าธนาคารได้ปฏิบัติถูกต้องแล้ว และผู้ขอใช้บริการตกลงที่จะไม่ยกกรณีดังกล่าวขึ้นเป็นข้อกล่าวอ้างหรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากธนาคาร
  19. ผู้ขอใช้บริการยอมรับว่าบันทึกหลักฐานหรือเอกสารใดๆก็ตาม ที่ธนาคารได้จัดทำขึ้น อันเนื่องจากการใช้บริการผ่านKTB netbank นั้น มีความถูกต้องทุกประการโดยไม่จำต้องให้ผู้ขอใช้บริการตรวจสอบหรือลงลายมือชื่อก่อนแต่อย่างใด
  20. หากเอกสาร และ/หรือหลักฐาน และ/หรือรายละเอียดข้อมูลใดๆ ที่ผู้ขอใช้บริการได้ส่งมาให้กับธนาคาร ไม่ว่าจะส่งมาในรูปแบบใด มีความผิดพลาดหรือบกพร่อง และผู้ขอใช้บริการมีความประสงค์จะขอแก้ไขความผิดพลาดหรือบกพร่องดังกล่าว หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งให้แก่ธนาคารทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือตามแบบฟอร์มที่ธนาคารกำหนด พร้อมสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ธนาคารจะนำข้อมูลเข้าระบบของธนาคาร หากผู้ขอใช้บริการแจ้งให้นาคารทราบภายหลังจากที่ธนาคารได้นำข้อมูลเข้าระบบแล้ว ธนาคารขอสงวนสิทธิในการไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ขอใช้บริการทั้งนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว จะมีผลสมบูรณ์เมื่อธนาคารได้แจ้งผลการเปลี่ยนแปลงให้ผู้ขอใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว และธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์ โดยผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเองทั้งสิ้น
  21. บรรดาเอกสารหรือหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ที่ธนาคารส่งไปยังผู้ขอใช้บริการไม่ว่าจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไม่ลงทะเบียน หรือให้คนนำไปส่งเองก็ตาม หากส่งไปตามที่อยู่ และ/หรือสำนักงาน และ/หรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามที่ได้แจ้งไว้กับธนาคาร ไม่ว่าจะมีผู้รับไว้หรือไม่ก็ตามหรือส่งไม่ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่และ/หรือสำนักงานและ/หรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือที่อยู่และ/หรือสำนักงานถูกรื้อถอนไปและ/หรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับหรือยกเลิกโดยผู้ขอใช้บริการไม่ได้แจ้งเป็นหนังสือต่อธนาคารก็ดี หรือส่งไม่ได้เพราะหาที่ตั้งที่อยู่และ/หรือสำนักงานและ/หรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามที่แจ้งไว้ไม่พบก็ดี ให้ถือว่าผู้ขอใช้บริการได้รับทราบข้อความในเอกสารหรือหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นๆ โดยชอบแล้ว และให้ถือว่าเอกสารหรือหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นๆ ได้ส่งโดยชอบแล้ว
  22. เนื่องจากธนาคารจะส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และ/หรือข้อความ (SMS) แจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ขอใช้บริการแจ้งไว้กับธนาคารทุกครั้งเมื่อมีการ Login เข้าสู่บริการKTB netbank และ/หรือเมื่อมีรายการเคลื่อนไหวด้านบัญชีในจำนวนเงินที่ไม่ต่ำกว่าที่ธนาคารกำหนด หรือบริการอื่นๆ ที่ผู้ขอใช้บริการได้สมัครบริการไว้แล้วแต่กรณีดังนั้น หากผู้ขอใช้บริการเปลี่ยนแปลงเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ผู้ขอใช้บริการหรือที่ติดต่อทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะต้องแจ้งเป็นหนังสือพร้อมสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ธนาคารทราบทันทีผ่านสาขาของธนาคาร หรือสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลง ได้ด้วยตนเองผ่านบริการ KTB netbank โดยผู้ขอใช้บริการจะต้องยังคงใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิมในการเปลี่ยนแปลง โดยธนาคารจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารได้รับหนังสือแจ้งพร้อมสำเนาเอกสารหลักฐานการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการยอมรับว่าการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และข้อความ (SMS) ดังกล่าวอาจมีความล่าช้าและคลาดเคลื่อน
  23. การดำเนินการใดที่ผู้ขอใช้บริการได้ทำรายการไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะขอยกเลิกรายการที่ได้ทำไว้ล่วงหน้าดังกล่าวกับธนาคาร ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ถือว่ายังคงมีผลใช้ได้ผูกพันผู้ขอใช้บริการอยู่ จนกว่าผู้ขอใช้บริการจะได้ทำรายการยกเลิกรายการที่ทำไว้ล่วงหน้าแล้วนั้นโดยถูกต้องสมบูรณ์
  24. ผู้ขอใช้บริการตกลงและยอมรับว่าธนาคารไม่ต้องรับผิดจากการที่ธนาคารไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้ได้ และ/หรือผู้ขอใช้บริการหรือผู้รับโอนเงินหรือผู้รับชำระเงินไม่ได้รับเงินจากการโอนเงิน/หักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการและ/หรือผู้ขอใช้บริการไม่สามารถทำรายการหักบัญชีเงินฝาก และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ เพื่อชำระเงินค่าสาธารณูปโภค/ค่าซื้อสินค้าและ/หรือบริการ/ค่าภาษี/ค่าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างๆ ได้ หรือจากการที่ทำรายการอื่นๆ ไม่สำเร็จ อันเนื่องมาจากกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิที่จะไม่ให้บริการในครั้งนั้นๆ ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควรและผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่ถือเอาเหตุดังกล่าวเป็นข้อเรียกร้องให้ธนาคารรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
    1. เงินในบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการไม่มีหรือมีแต่ไม่เพียงพอให้ธนาคารดำเนินการ
    2. ผู้ขอใช้บริการไม่มีหรือถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อกับธนาคาร
    3. การโอนเงิน/หักเงินจะเป็นผลให้ยอดเงินในบัญชีเกินกว่าวงเงินสินเชื่อที่ผู้ขอใช้บริการตกลงไว้กับธนาคาร
    4. อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย
    5. ธนาคารได้แจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบถึงความขัดข้องของการโอนเงิน/หักเงินอยู่แล้วก่อนหรือขณะที่ทำรายการโอนเงิน/หักเงิน
    6. ผู้ขอใช้บริการปฏิบัติผิดเงื่อนไข หรือข้อตกลงกับธนาคาร
    7. กรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น ในกรณีที่มีความชำรุดบกพร่อง เสียหาย ขัดข้อง หรือล่าช้าของระบบคอมพิวเตอร์ และ/หรือระบบไฟฟ้า และ/หรือระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) และ/หรือระบบการติดต่อสื่อสาร และ/หรือระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และ/หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และ/หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนี้ รวมทั้งปัญหาทางด้านพลังงาน การกระทำของบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงผู้บุกรุก (Hacker) อัคคีภัย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การประท้วง การขนส่งติดขัด การจลาจล สงคราม ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เป็นอันตรายต่างๆ (Harmful Data) หรือเหตุต่างๆ อันอยู่นอกเหนือจากการควบคุมของธนาคาร ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการที่ผู้ขอใช้บริการจะเข้าใช้บริการ หรือต่อการที่ธนาคารจะให้บริการตามข้อตกลงฉบับนี้
    8. ธนาคารยังไม่ได้รับเอกสารหลักฐานประกอบการขอใช้บริการจากผู้ขอใช้บริการ
    9. มีเหตุใดๆ ตามที่ธนาคารและ/หรือกฎหมายกำหนดเกิดขึ้น
    10. ธนาคารมีเหตุจำเป็นหรือเหตุขัดข้องไม่ว่าประการใดๆ
  25. ผู้ขอใช้บริการรับรองว่า บรรดาเอกสาร ข้อมูล รายละเอียดใดๆ ที่ปรากฏ และ/หรือ ที่ได้ส่งมาให้ธนาคารไม่ว่าจะส่งมาในรูปแบบใด มีความถูกต้องแท้จริง และในกรณีที่มีความผิดพลาดในการให้บริการ ซึ่งรวมถึงการหักเงินจากบัญชีเงินฝาก และ/หรือเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ และ/หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากความผิดพลาดหรือบกพร่องแห่งเอกสาร และ/หรือข้อมูล และ/หรือรายละเอียดดังกล่าว หรือมีข้อบกพร่องผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการที่ธนาคารดำเนินการตามเอกสาร และ/หรือข้อมูล และ/หรือรายละเอียดดังกล่าวไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้ขอใช้บริการตกลงว่าธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด โดยผู้ขอใช้บริการตกลงจะดำเนินการใช้สิทธิเรียกร้องไปยังผู้ได้รับประโยชน์เองโดยตรง ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารหักหรือเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของบุคคลซึ่งผู้ขอใช้บริการระบุหรือของบุคคลใดคืนให้แก่ผู้ขอใช้บริการ และขอสละสิทธิในการฟ้องร้องให้ธนาคารชดใช้เงินหรือค่าเสียหายใดๆ อันเกิดจากความผิดพลาดดังกล่าวข้างต้น
  26. ผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่กระทำการใดๆ อันมีผลให้ธนาคารต้องเข้าร่วมในข้อพิพาทระหว่างผู้ขอใช้บริการกับบุคคลอื่นใด ซึ่งเกี่ยวเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับการให้บริการ KTB netbank ตามข้อตกลงฉบับนี้ โดยหากผู้ขอใช้บริการมีข้อต่อสู้ และ/หรือสิทธิเรียกร้องใดๆ ก็จะไปดำเนินการกับบุคคลอื่นด้วยตนเอง
  27. หากธนาคารประสงค์จะยกเลิกการให้บริการ KTB netbank ตามข้อตกลงฉบับนี้ ธนาคารจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งเมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้ ถือว่าข้อตกลงฉบับนี้เป็นอันสิ้นผลลงทันที แต่ทั้งนี้การยกเลิกการให้บริการดังกล่าว ไม่กระทบถึงหนี้ใดๆ ที่ผู้ขอใช้บริการยังคงค้างชำระอยู่กับธนาคาร รวมทั้งไม่เป็นการลบล้างสิทธิ และ/หรือหน้าที่ที่ธนาคารและผู้ขอใช้บริการมีอยู่ต่อกัน อันเนื่องมาจากการใดๆ อันได้กระทำไปก่อนที่การใช้บริการตามข้อตกลงฉบับนี้จะเป็นอันสิ้นผล อนึ่งผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับว่า ธนาคารมีสิทธิระงับและ/หรือยกเลิกการให้บริการได้ทันทีในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการปฏิบัติผิดข้อตกลงฉบับนี้ หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้ธนาคารเชื่อโดยมีเหตุผลอันสมควรว่าผู้ขอใช้บริการใช้บริการKTB netbankโดยมีแนวโน้มที่จะมีเจตนาทุจริต และ/หรือทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย หรือผู้ขอใช้บริการทำและ/หรือใช้เอกสารปลอมเพื่อใช้ประกอบการยื่นคำขอใช้บริการ KTB netbank หรือในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอันเนื่องมาจากการประกาศใช้กฎหมายที่ออกใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย หรือมีการเปลี่ยนแปลงการบังคับใช้กฎหมายใด หรือในการตีความกฎหมาย คำสั่ง ระเบียบ หรือข้อกำหนดใดผิดไปจากเดิม หรือการที่ทางราชการหรือธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกคำสั่ง ระเบียบ หรือข้อกำหนดใดขึ้นใหม่ อันมีผลทำให้ธนาคารต้องยกเลิกระงับและ/หรือยกเลิกการให้บริการ KTB netbank ทันที โดยผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
  28. ธนาคารขอสงวนสิทธิที่จะแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้รับจาก KTB netbankซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม ค่าบริการ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ย หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นได้ตลอดเวลา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่มีผลผูกพันธนาคาร โดยธนาคารจะได้ประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวให้ผู้ขอใช้บริการทราบ ณ สำนักงาน/สาขาของธนาคาร และ/หรือแผ่นพับ ใบปลิว แผ่นโฆษณา และ/หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และ/หรือช่องทางอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
  29. ข้อตกลงฉบับนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทยและให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงฉบับนี้
  30. ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารติดต่อสอบถาม ตรวจสอบ รับและ/หรือเปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดบางประการหรือทั้งหมดของผู้ขอใช้บริการจากหรือให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต สถาบันการเงิน บุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ได้ในกรณีที่จำเป็นหรือในกรณีที่ธนาคารเห็นสมควรตั้งแต่วันที่ทำข้อตกลงฉบับนี้ และเพื่อประโยชน์ในการป้องกันการทุจริตจากกลุ่มมิจฉาชีพผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารตรวจสอบและ/หรือสืบค้นข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรและ/หรือภาพใบหน้าของผู้ขอใช้บริการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้รวมทั้งตกลงยินยอมให้ธนาคารเปิดเผยข้อมูล และ/หรือจัดทำรายการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ขอใช้บริการต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐได้ทุกประการ ในกรณีที่มีกฎหมาย ประกาศ หรือระเบียบของทางราชการกำหนดให้ธนาคารต้องเปิดเผยข้อมูล หรือธุรกรรมการเงินของผู้ขอใช้บริการ หรือลูกค้าของผู้ขอใช้บริการรายหนึ่งรายใดหรือหลายรายต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐเมื่อธนาคารได้รับการร้องขอนอกจากนี้ ผู้ขอใช้บริการ ตกลงยินยอมให้ธนาคารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากธนาคารนำเสนอข่าวสาร และ/หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของธนาคาร และ/หรือบริษัทในเครือของธนาคารให้ผู้ขอใช้บริการทราบ และ/หรือเข้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ซึ่งรวมถึงการส่งหรือแจ้งผ่านระบบ SMS ทั้งนี้ ให้ความยินยอมทั้งหมดนี้มีอยู่ตลอดไปแม้ผู้ขอใช้บริการจะได้มีการยกเลิกการใช้บริการ KTB netbank กับธนาคาร หรือธนาคารยกเลิกการให้บริการแล้วก็ตาม
  31. ผู้ขอใช้บริการตกลงว่า จะไม่เปิดเผย หรืออนุญาตให้พนักงาน ตัวแทน หรือผู้แทนเปิดเผยข้อมูลใดๆ ซึ่งโดยสภาพหรือธนาคารกำหนดว่าเป็นความลับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ข้อมูลที่เกี่ยวกับข้อความในข้อตกลงฉบับนี้แก่บุคคลใดๆ โดยปราศจากความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรของธนาคารไม่ว่าเวลาใด เว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด หรือหน่วยราชการที่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือศาล ซึ่งผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบล่วงหน้าตามสมควรเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ หากเกิดความเสียหายใดๆ เนื่องจากการที่ผู้ขอใช้บริการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นความลับแก่บุคคลภายนอก โดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากธนาคาร ผู้ขอใช้บริการจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
  32. ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมผูกพันและตกลงปฏิบัติตามคู่มือ ระเบียบและวิธีปฏิบัติของธนาคารและเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ KTB netbank ซึ่งธนาคารได้ส่งหรือประกาศ หรือแจ้งไปยัง ผู้ขอใช้บริการ ทั้งที่มีอยู่ ณ ขณะนี้และที่ธนาคารจะได้เพิ่มเติมต่อไปนอกจากนี้ คู่มือหรือเอกสารใดๆ เกี่ยวกับการใช้บริการ KTB netbank ที่ธนาคารจะส่ง หรือประกาศ หรือแจ้งเพิ่มเติมต่อไปในภายหน้า ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงฉบับนี้ด้วย รวมทั้งผู้ขอใช้บริการยินยอมปฏิบัติตามระเบียบและวิธีปฏิบัติของธนาคาร และ/หรือข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำเอกสารอื่นใดให้แก่ธนาคารตามที่ธนาคารและ/หรือทางราชการเป็นผู้กำหนดด้วย
  33. ให้ถือว่าข้อตกลงฉบับนี้รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และ/หรือการทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ที่ธนาคารได้จัดให้มีขึ้นผ่าน KTB netbank ทั้งที่ธนาคารกำหนดไว้แล้วในขณะนี้และ/หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้าทุกประการ เป็นส่วนหนึ่งของใบสมัคร/เปลี่ยนแปลงการใช้บริการ KTB netbankและ/หรือคำขอใช้บริการ KTB netbank ผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ(ATM/ADM) และ/หรือคำขอใช้บริการ KTB netbank ผ่าน Website หรือ Application ของธนาคาร กรณีที่ข้อความใดในใบสมัคร/เปลี่ยนแปลงการใช้บริการ KTB netbank และ/หรือคำขอใช้บริการ KTB netbank ผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ(ATM/ADM) และ/หรือคำขอใช้บริการ KTB netbank ผ่าน Website หรือ Application ของธนาคาร และข้อตกลงและ/หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นขัดหรือแย้งกันเอง ผู้ขอใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของธนาคาร และให้ถือว่าคำวินิจฉัยของธนาคารดังกล่าวเป็นที่สุด โดยผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่โต้แย้ง และ/หรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นจากธนาคาร
  34. ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารมีสิทธิระงับ และ/หรือยกเลิกบริการ KTB netbank ได้ทันที ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการไม่ได้ใช้บริการ KTB netbank เป็นระยะเวลาติดต่อกันตั้งแต่ 2 ปี นับจากวันสมัครหรือวันที่เข้าสู่ระบบครั้งล่าสุด โดยธนาคารไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือได้รับความยินยอมจากผู้ขอให้บริการอีก ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่ถือว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ขอใช้บริการขาดประโยชน์หรือได้รับความเสียหายและจะไม่เรียกร้องให้ธนาคารรับผิดชอบในค่าขาดประโยชน์หรือความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น