สำนักงานประกันสังคมถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของสมาชิกที่เข้าเป็นผู้ประกันตน เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ประกันตนควรรู้ แต่หากขาดส่งประกันสังคมขึ้นมาจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง และขาดส่งกี่เดือนถึงจะโดนตัดสิทธิ
สำนักงานประกันสังคมถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของสมาชิกที่เข้าเป็นผู้ประกันตน เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ประกันตนควรรู้ เพราะหากต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเกิดเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ ประกันสังคมสามารถช่วยเหลือได้ในหลาย ๆ เรื่อง แต่หากขาดส่งประกันสังคมขึ้นมาจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง และขาดส่งกี่เดือนถึงจะโดนตัดสิทธิ จะทำอย่างไรหากขาดส่งประกันสังคม วันนี้ TNN มีคำตอบมาให้คุณค่ะ
ใครที่อาจขาดสิทธิประกันสังคม
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่เป็นสมาชิกของสำนักงานประกันสังคม
เมื่อไหร่ถึงขาดสิทธิประกันสังคม
- ขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน
- เสียชีวิต
- กลับไปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
- ลาออกจากความเป็นผู้ประกันตนจากการแสดงความจำนงที่สำนักงาน
กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 มีการขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน จะสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยไม่สามารถส่งเงินสมทบตามมาตรา 39 ต่อได้อีก
ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้ประกันตนมีการทำงานกับนายจ้างใหม่จึงจะสามารถเข้ามาเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 โดยจะมีการบันทึกข้อมูลต่อเนื่องจากของเดิม และเมื่อลาออกจากงานสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ลาออกจากงาน โดยติดต่อ สปส.กทม.พื้นที่/จังหวัด/สาขาใกล้ที่พักอาศัย
สำนักงานประกันสังคม เตือนผู้ประกันตน ม.40 ส่งเงินสมทบ ก่อนถูกตัดสิทธิ์ เช็กเงื่อนไข ช่องทางการชำระเงิน
วันที่ 26 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งเตือนผู้ประกันตน มาตรา 40 หรือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ให้ส่งเงินสมทบก่อนถูกตัดสิทธิ์์ โดยเงื่อนไขที่จะสามารถใช้สิทธิ์ตามมาตรา 40 ได้ มีดังนี้
- เชียงใหม่ ไชน่าทาวน์ ทุนจีนยึด “สันกำแพง-หางดง”
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กุมภาพันธ์ ย้อนหลัง 10 ปี
- รู้ยัง! เพิ่มคุ้มครองประกันรถใหม่ ตายรับขั้นต่ำ 1 ล้านต่อราย ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย
Advertisement
ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย/เจ็บป่วยฃ
กรณีทุพพลภาพ
กรณ๊นี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบ
Advertisement
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 6 เดือน ภายในระยะเวลา 10 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 500 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 12 เดือน ภายในระยะเวลา 20 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 650 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 24 เดือน ภายในระยะเวลา 40 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 800 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 36 เดือน ภายในระยะเวลา 60 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 1,000 บาทต่อเดือน
กรณีตาย
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายใน 12 เดือนก่อนเสียชีวิต โดยผู้จัดการศพจะได้รับค่าทำศพ
ช่องทางชำระเงินสมทบ ม.40
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่น-อีเลฟเว่น)
- แอปพลิเคชัน ShopeePay
- ตู้บุญเติม
- เซ็นเพย์ พาวเวอร์ by บุญเติม
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- เคาน์เตอร์โลตัส
- เคาน์เตอร์บิ๊กซี
Advertisement
ม.40 ปรับลดเงินสมทบ 6 เดือน
ผู้ประกันตน มาตรา 40 หรือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ค้าขาย ฟรีแลนซ์ การสมัครเข้าร่วมเป็นผู้ประกันตนจะไม่กระทบกับสิทธิ์บัตรทอง หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น และปรับลดเงินสมทบให้ผู้ประกันตน 3 ทางเลือก ดังนี้
1. ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน (ลดเหลือ 42 บาท/เดือน) คุ้มครอง 3 กรณี
- กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้
- ผู้ป่วยใน นอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 300 บาท
- ผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) มีใบรับรองแพทย์ให้หยุด 3 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 200 บาท
- ผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) หยุดไม่เกิน 2 วัน ได้รับความคุ้มครอง ครั้งละ 50 บาท (ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง )
- รับสิทธิผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกหยุดรวมกันไม่เกิน 30 วัน/ปี
- กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาท เป็นเวลา 15 ปี (ขึ้นกับระยะเวลาจ่ายเงินสมทบ)
- กรณีตาย ได้รับเงินค่าทำศพ 25,000 บาท
2. ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน (ลดเหลือ 60 บาท/ เดือน) คุ้มครอง 4 กรณี
- กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้
- ผู้ป่วยใน นอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 300 บาท
- ผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) มีใบรับรองแพทย์ให้หยุด 3 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 200 บาท
- ผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) หยุดไม่เกิน 2 วัน ได้รับความคุ้มครอง ครั้งละ 50 บาท (ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง )
- รับสิทธิผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกหยุดรวมกันไม่เกิน 30 วัน/ปี
- กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาท เป็นเวลา 15 ปี (ขึ้นกับระยะเวลาจ่ายเงินสมทบ)
- กรณีตาย ได้รับเงินค่าทำศพ 25,000 บาท
- กรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล (จากเงินออมสะสม ตามจำนวนงวดที่จ่ายเงินสมทบ) 50 บาท/เดือน
3. ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน (ลดเหลือ 180 บาท/เดือน) คุ้มครอง 5 กรณี
- กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้
- ผู้ป่วยใน นอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 300 บาท
- ผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) มีใบรับรองแพทย์ให้หยุด 3 วันขึ้นไป ได้รับความคุ้มครอง วันละ 200 บาท
- รับสิทธิผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกหยุดรวมกันไม่เกิน 90 วัน/ปี
- กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาท ตลอดชีวิต
- กรณีตาย ได้รับเงินค่าทำศพ 50,000บาท
- กรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล (จากเงินออมสะสม ตามจำนวนงวดที่จ่ายเงินสมทบ) 150 บาท/เดือน
- กรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่แรกเกิด ถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ เดือนละ 200 บาท/คน คราวละไม่เกิน 2 คน
ทั้งนี้ การจ่ายสิทธิประโยชน์เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเกิดสิทธิ สามารถติดต่อขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง