ปิดหนี้บัตรเครดิตได้เมื่อไหร่ สบายใจแน่นอน! ข้อดีของบัตรเครดิตที่เราต่างรู้ดี คือช่วยอำนวยความสะดวกทางการเงิน เพราะไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัว ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่เวลาซื้อของ แต่หากใช้จ่ายเกินงบจนบานปลาย สะสมยอดค้างชำระจนเป็นยอดหนี้บัตรเครดิตที่น่าสะพรึง รวมกับดอกเบี้ยที่สูงจนสู้ไม่ไหว อาจสร้างปัญหาด้านการเงินที่คิดไม่ตก Show
เอาล่ะ ตั้งสติแล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ทางการเงินกันเถอะ เพราะกรุงไทยมี 6 วิธีปิดหนี้บัตรเครดิตให้หมดไวและใช้ได้ผลมาแนะนำ เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น ยกความเครียดออกไปจากอกได้ทันที 1. ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้หากคุณถือบัตรเครดิตอยู่หลายใบ ให้เริ่มต้นจากปิดบัตรเครดิตที่มีแต่ไม่ได้ใช้เป็นอันดับแรก เพราะหากยังถือบัตรเครดิตที่สามารถรูดจ่ายได้เหมือนเดิม อาจกลายเป็นการสร้างภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ธนาคารต่างๆ จะออกมาตรการเพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้อยู่แล้ว โดยลูกหนี้มีทางเลือกในการชำระหนี้มากขึ้น และจะได้รับข้อเสนอที่ผ่อนปรนลงและทำได้จริง 2. เจรจากับธนาคารเจ้าของบัตรตรงไปธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อเจรจาปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจะเกิดผลดีในการวางแผนการจ่ายหนี้ของคุณ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ยอมชำระหนี้ เมื่อดอกเบี้ยสะสมจนกลายเป็นหนี้ที่จ่ายไม่ไหวก็อาจถูกดำเนินคดีได้ ข้อดีของการเจรจากับธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต
3. รวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อทยอยชำระกางหนี้ของบัตรเครดิตแต่ละใบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อเช็คยอดค้างจ่ายและดอกเบี้ยของแต่ละบัตรต่อปี จากนั้นให้ประเมินว่าเราสามารถชำระหนี้ขั้นต่ำได้จำนวนเท่าไหร่ต่อเดือน แนวทางการทยอยชำระหนี้
4. ซื้อของด้วยเงินสดและซื้อเฉพาะของที่จำเป็นหากคุณเป็นคนที่ใช้จ่ายด้วยการรูดบัตรเครดิตจนติดเป็นนิสัย อาจจะต้องลองเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการใช้จ่ายด้วยเงินสดมากขึ้น ข้อดีข้อแรกคือไม่เพิ่มหนี้บัตรเครดิตใหม่ให้เพิ่มขึ้น ข้อถัดมาคือ การใช้เงินสดทำให้เห็นจำนวนเงินที่มี และทำให้กล้าใช้เงินน้อยลง นอกจากนี้ต้องใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นไปก่อน เพื่อให้เหลือเงินใช้หนี้มากขึ้น 5. วางแผนทางการเงินอย่างจริงจังการบันทึกรายรับและรายจ่ายอาจดูเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากในแต่ละวัน แต่สำหรับคนที่ติดหนี้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะทำให้คุณรู้ว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเองอยู่ในส่วนไหนบ้าง และเมื่อเราเห็นตัวเลขของรายรับและรายจ่ายทั้งหมดจะสามารถนำมาจัดลำดับความสำคัญ ตัดบางรายการที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อนำเงินมาลดภาระหนี้จากบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญควรเขียนเป้าหมายทางการเงินไว้ตัวโตๆ ว่า “เราจะปิดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดให้สำเร็จ!” 6. กู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำหลังจากวางแผนทางการเงินอย่างจริงจังแล้ว การมีเงินก้อนมาโปะหนี้บัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้ โดยสามารถกู้เงินออนไลน์การหรือเลือกกู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำจะได้เงินก้อนที่สามารถนำมาปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าได้ กรุงไทยอยากให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้สำเร็จ จึงออกแบบ 3 สินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยต่ำ ที่กู้ง่าย อนุมัติไว ให้คุณมีเงินก้อนไปปิดหนี้ได้ กรุงไทยหวังว่า 6 วิธีข้างต้นจะช่วยให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้ตามแผนที่วางไว้ และปิดได้หมดไวอย่างที่ตั้งใจ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้านการเงินได้อีกครั้ง เคยได้ยินแต่การรีไฟแนนซ์บ้าน หรือรีไฟแนนซ์รถกันใช่มั๊ยครับ แต่บทความนี้จะเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คนที่มีบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ และกำลังปวดหัวกับหนี้สินในแต่ละใบ ต้องอ่านบทความต่อไปนี้เลย ซึ่งจะอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจว่าการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตมีขั้นตอนอะไรบ้าง แล้วข้อดีข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้นดีอย่างไร รวมไปถึงเปรียบเทียบว่าแต่ละธนาคารมีอะไรโดดเด่น หากเราได้เลือกที่จะไปรีไฟแนนซ์กับทางธนาคารนั้นๆ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คืออะไรการรีไฟแนนซ์ ที่หลาย ๆ คนเข้าใจก็จะหมายถึงการนำเงินที่ค้างอยู่ไปยื่นขอกู้ใหม่กับสถาบันทางการเงินหรือธนาคาร เพื่อทำให้ดอกเบี้ยต่ำลง แต่การขอรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้น มักจะเกิดจากการที่หนี้มาจากหลายใบและยอดค่อนข้างสูง บวกกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไปอีก ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่นั้นย้ายหนี้มารวมไว้บัตรเดียวอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิตก็จะลดลง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายลง ขอเพิ่มเวลาการชำระหนี้ได้ และทำให้เราปลดหนี้ได้ไว้มากขึ้น แล้วแบบนี้เราควรจะเลือกธนาคารไหนก็จะต้องอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขของแต่ละแห่งให้ดี เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตมีขั้นตอนดังนี้
ทั้งนี้ยังมีขั้นตอนรายละเอียดอีกมากมาย แนะนำให้ใช้รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต Refinn แล้วจะทำให้ขั้นตอนทั้งหลายนั้นง่ายมากขึ้น เพราะทาง Refinn เราได้รวบรวมโปรโมชันต่างๆจากธนาคารชั้นนำให้คุณได้เลือกสมัครฟรี รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี 25661.ธนาคารกสิกรไทยการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย เป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาในการชำระคืนหลายรูปแบบ ตั้งแต่ 12 เดือน ไปจนถึง 60 เดือน ซึ่งทำให้เราเลือกสินเชื่อตามความเหมาะสมกับตนเองได้ การขอวงเงินสินเชื่อ ทางธนาคารจะให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของเงินเดือนและสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบี้ยประเภทนี้จะคิดแบบเงินต้นลดดอก ดอกเบี้ยก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะมีเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยดังนี้ กรณีของพนักงานบริษัทข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ประจำ แต่ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านธนาคารกสิกรไทย
กรณีพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีรายได้ประจำและได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย
กรณีผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัวหรือเป็นเจ้าของกิจการ
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารกสิกรไทยฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 2.ธนาคารออมสินสินเชื่อของธนาคารออมสิน เป็นสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ และระยะเวลาการผ่อนชำระให้สูงสุด 8 ปี และเป็นสินเชื่อที่ทางธนาคารให้วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท แต่หากผู้ขอสินเชื่อมีหลักประกันมาค้ำก็จะขอกู้ได้มากขึ้น เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบี้ย จะแบ่งออกเป็นการระยะเวลาในการขอสินเชื่อ ตั้งแต่ระยะเวลา 36 เดือน ไปจนถึง 96 เดือนตามเงื่อนไขของธนาคาร และอัตราดอกเบี้ยจะเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 6.15 ต่อปี
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารออมสินฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 3.ธนาคารกรุงศรีอยุธยาสินเชื่อของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นสินเชื่อที่ให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 5 ปี ซึ่งสามารถสมัครได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกัน และไม่เสียค่าธรรมเนียม เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มตั้งแต่ 19.99 % - 25 % ต่อปี ซึ่งต่อจากนี้เราจะมาดูว่าดอกเบี้ยในแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันอย่างไร สำหรับกลุ่มรายได้ประจำ ได้แก่ พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
สำหรับธุรกิจส่วนตัว
สำหรับบัตรกดเงินสด
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 4.ธนาคารทหารไทยสินเชื่อของธนาคารทหารไทย หรือทีทีบี จะเหมาะกับผู้ที่รับเงินผ่านบัญชีของธนาคารทหารไทย จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ และวงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 1.5 ล้านบาท พร้อมระยะเวลาผ่อนนานตั้งแต่ 12 - 60 เดือน เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบียของธนาคารทหารไทย รวบยอดหนี้มาอยู่ในบัตรเดียว กับดอกเบี้ยคงที่จนยอดหนี้หมด ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 13 ต่อปี จะแบ่งออกมาเป็น พนักงานบริษัท พนักงานราชการ และผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว พนักงานบริษัทและพนักงานราชการ อัตราดอกเบี้ยปกติ
อัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่ใช้บัญชี ttb all free และ Direct Debit
ผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว อัตราดอกเบี้ยปกติ
อัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่ใช้บัญชี ttb all free และ Direct Debit
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารธหารไทยไทยฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 5.ธนาคารกรุงเทพสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพ ที่มีสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์ให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น สินเชื่อบัวหลวงสุขใจ สินเชื่อบัวหลวงอุ่นใจ และสินเชื่อบุคคลที่มีบัญชีเงินฝากเป็นหลักประกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต พนักงานบริษัทที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ธนาคารกรุงเทพจะมีสินเชื่อมากมายให้เราเลือกให้เหมาะกับตนเอง ซึ่งในแต่ละสินเชื่อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เรามาดูกันว่าในแต่ละประเภทมีรายละเอียดอะไรบ้าง
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารกรุงเทพฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 6.ธนาคาร CIMBสินเชื่อของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ที่เป็นสินเชื่อที่ทำให้เราวางแผนทางการเงินได้ในระยะยาว ผ่อนน้อย ระยะเวลาผ่อนนานตั้งแต่ 12 เดือนไปจนถึง 60 เดือน และไม่ต้องใช้หลักประกันค้ำ พร้อมวงเงินอนุมัติ 5 เท่าของรายได้ เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ 2 แบบได้แก่
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทยฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 7.ธนาคารไทยพาณิชย์สินเชื่อของธนาคารไทยพาณิชย์ จะเป็นสินเชื่อที่อนุมัติวงเงินง่าย และไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน ซึ่งทางธนาคารจะอนุมัติเงินสินเชื่อได้ 5 เท่าของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท และระยะเวลาผ่อนยาวนานถึง 72 เดือน เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบุคคล จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทอาชีพ ซึ่งครั้งนี้จะแบ่งตาม พนักงานบริษัท เจ้าของธุรกิจและผู้ที่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชี SCB กลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มพนักงานบริษัท
กลุ่มที่สอง กลุ่มเจ้าของกิจการ
กลุ่มที่สาม กลุ่มผู้ที่รับเงินเดือนผ่าน SCB
** ทั้งนี้กรณีที่กู้เงินมากกว่า 500,000 บาท ยอดชำระต่อเดือนประมาณ 2,200 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 72 เดือน และเป็นการคำนวณดอกเบี้ยแบบเงินต้นลด ดอกเบี้ยลดตาม สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารไทยพาณิชย์ฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL 8.ธนาคารกรุงไทยการขอสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลาในการผ่อนที่นานมากขึ้น และเหมาะกับผู้ที่ต้องรวบรวมหนี้สินจากบัตรเครดิตให้อยู่ในบัตรเดียว และทางธนาคารกรุงไทยจะมีหลายสินเชื่อบัตรให้เราเลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน ดังนั้นเราจะต้องดูเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงจำนวนเงินที่จะต้องชำระในแต่ละเดือนให้ละเอียด เงื่อนไขการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
รายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยการขอสินเชื่อ
สนใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารกรุงไทยฟรี ผ่าน Refinn คลิ๊ก: https://bit.ly/2ZrTWsL สิ่งที่ต้องเช็คก่อนรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตสิ่งที่เราควรจะต้องเช็คก่อนที่เราจะรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หากเราเกิดปัญหาทางการเงินก็จะทำให้เราต้องหาทางในการปลดหนี้สินของตนเอง ต้องมาศึกษาการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ทั้ง 4 ข้อที่ควรทราบ ดังนี้
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตบัตรเครดิตเป็นการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับสิทธิพิเศษมากมาย แต่ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกันหากเราไม่มีวินัยในการใช้เงิน ดังนั้นเราจะมาดูข้อดีของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพื่อทำให้หนี้สินที่จ่ายไปหมดไวขึ้น อย่างแรก ดอกเบี้ยในแต่ละเดือนนั้นลดลง เพราะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้สินใหม่ขึ้น อาจจะทำให้เงินที่จ่ายไปเป็นเงินต้นมากกว่าธนาคารเดิม และดอกเบี้ยของเงินต้นนั้นลดลง อย่างที่สอง เป็นการรวมหนี้สินให้อยู่ในที่เดียว ทำให้เราจัดการกับหนี้สินนั้นง่ายมากขึ้น พร้อมกับทำให้จัดการทางการเงินได้ดีกว่าเดิม อย่างที่สาม มีสภาพทางการเงินดีมากขึ้น เพราะการมีบัตรเครดิตหลายใบ หนี้หลายก้อน ก็เสียดอกเบี้ยหลายอัตรา บัตรบางใบดอกเบี้ยแพงกว่า ดังนั้นเมื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวแล้ว ก็ทำให้เราคำนวณเงินได้ง่ายมากขึ้น อย่างที่สี่ จะทำให้ประวัติทางการเงินดีมากขึ้น เพราะการมีบัตรหลายใบก็อาจจะลืมจ่ายเงินให้ตรงตามกำหนดได้ หากลืมจ่ายบ่อย ๆ ก็จะทำให้ประวัติของเราติดแบล็กลิสต์ได้ สรุปการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราเอง เพราะการจัดการทางการเงินให้ดีได้นั้นเกิดจากตัวเราเป็นหลัก การใช้จ่ายบัตรเครดิตที่มากเกินไปหรือหลายใบ ก็ อาจเป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องแก้ไขปัญหาในอนาคตเช่นกัน |