เผยแพร่: 31 ก.ค. 2565 11:32 ปรับปรุง: 31 ก.ค. 2565 11:32 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ Show
จากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ไถลออกนอกรันเวย์ขณะกำลังนำเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อช่วงคืนวันที่ 30 ก.ค. 65 ส่งผลให้ต้องปิดทางวิ่งในวันนี้ (31 ก.ค.65) และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในวันนี้ “ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง” จ.เชียงราย ได้ออกประกาศปิดทางวิ่ง โดยแจ้งผ่านเฟสบุค Mae Fah Luang Chiang Rai International Airport – CEI ดังนี้ “ขอประชาสัมพันธ์
สำหรับข้อมูลล่าสุดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จากเดิมที่เคยมีเที่ยวบินที่จะเดินทางเข้าออกท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง วันนี้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด หรือมีการเปลี่ยนเส้นทางบินไปยังสนามบินในจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.เชียงใหม่ จ.น่าน ฯลฯ จำนวน 5 สายการบิน 15 เที่ยวบิน โดยมีผู้โดยสารได้รับผลกระทบประมาณ 2,000 คน ขณะเดียวกันทางท่าอากาศยานฯได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ จากนั้นจึงจะปฏิบัติการกู้และเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่ประสบเหตุ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคาดการณ์ว่าอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากกรรมการตรวจสอบชุดนี้ต้องเดินทางมาจากกรุงเทพฯ คาดว่าจะเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเดินทางไปยัง จ.เชียงราย ด้วย จากนั้นเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจึงจะมีคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกู้ภัยเข้ามาดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องบินต่อได้ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองว่าการดำเนินการจะสามารถทำได้เร็วกว่านี้ได้หรือไม่ หลังจากที่มีการประกาศงดทำการบินจนถึงเวลา 22.00 น.วันที่ 31 ก.ค.นี้ ไปแล้ว
######################################### สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภายในอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หรือ สนามบินเชียงราย (อังกฤษ: Mae Fah Luang – Chiang Rai International Airport) (IATA: CEI, ICAO: VTCT) ตั้งอยู่เลขที่ 404 หมู่ 10 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ห่างจากถนนพหลโยธิน (เชียงราย - แม่จัน) ทางทิศตะวันออกประมาณ 2.6 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงราย ประมาณ 8 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 3,042 ไร่ ข้อมูลทั่วไป[แก้]ท่าอากาศยานเชียงรายเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2535 สังกัดกรมการบินพาณิชย์ (บพ.) กระทรวงคมนาคม ต่อมา บพ.ได้ถูกโอนมาขึ้นอยู่กับการบริหารของ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2541 และ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” ได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ "บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)” เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545 ถึงปัจจุบัน[1] ต่อมา คณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบให้เพิ่มชื่อท่าอากาศยานเชียงรายเป็น ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตามที่ได้มีการร้องขอจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในจังหวัดเชียงราย ดังนั้น ทอท. จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา[2] ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นสนามบินที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี และสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ เช่น Boeing 777, Boeing 787, Airbus A330 series, Airbus A340 series และอากาศยานขนาดใหญ่มาก เช่น Boeing 747 series ในอดีต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เคยนำเครื่องบินขนาดใหญ่แบบ แอร์บัส เอ340 Airbus A340-642 และขนาดใหญ่มากแบบ Boeing 747 ทำการบินจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง ไป-กลับ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อีกด้วย ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการที่ ทชร. จำนวน 5 สายการบิน แบ่งเป็นเส้นทางภายในประเทศ 5 สายการบิน (สายการบินการบินไทยสมายล์, ไทยเวียดเจ็ทแอร์, ไทยไลออนแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, และสายการบินนกแอร์) โดยเปิดบริการในเส้นทางดังต่อไปนี้ เชียงราย-กรุงเทพมหานคร ไป-กลับ วันละ 20 เที่ยวบิน รวม 40 เที่ยวบิน (แบ่งเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 8 เที่ยวบิน, ท่าอากาศยานดอนเมือง 12 เที่ยวบิน) เชียงราย-ภูเก็ต อาทิตย์ละ 4 เที่ยวบิน รวม 8 เที่ยวบิน (ทำการบินในวันจันทร์/วันพุธ/วันศุกร์/วันอาทิตย์)- ข้อมูล ณ 2 พ.ย. 65 โดยตารางบินข้างต้นอาจเพิ่มหรือลดได้ตามตารางบินของสายการบินนั้นๆ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565 มีเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศเที่ยวบินแรกของ Nomad Aviation AG อากาศยานแบบ แอร์บัส เอ319 เส้นทาง DPS (บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย) - CEI (เชียงราย ประเทศไทย) มีผู้โดยสารทั้งหมด 17 คน[1] ทั้งนี้ ทชร.มีศักยภาพพร้อมที่จะรองรับสายการบินระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการค้าและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย รายชื่อสายการบิน[แก้]
ภายในอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภายนอกอาคารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เส้นทางบินที่เคยให้บริการ[แก้]
สถิติ[แก้]ข้อมูลการจราจรในแต่ละปีปฏิทิน
ข้อมูลจำเพาะของท่าอากาศยาน[แก้]
ทางวิ่งอากาศยาน (RUN WAY)[แก้]ทางวิ่งมีหนึ่งเส้นทาง เป็นแอสฟัลติกคอนกรีตในทิศทาง 03/21 ค่าความแข็งของพื้นผิวทางวิ่ง PCN 84/F/D/X/T มีความยาว 3,000 เมตร กว้าง 45 เมตร ไหล่ทางวิ่งข้างละ 7.5 เมตร และ STOP WAY ปลายทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ยาวด้านละ 60 เมตร[4] สามารถรองรับอากาศยาน CODE E (กางปีกตั้งแต่ 52 เมตร ไม่เกิน 65 เมตร ฐานล้อหลักกว้างตั้งแต่ 9 ถึง 14 เมตร) เช่น B-777, B-787 and A330
ทางขับ (TAXI WAY)[แก้]EXIT TAXI WAY มี 2 เส้นทาง คือ TAXI WAY A และ TAXI WAY B (ไม่มี RAPID-EXIT TAXI WAY) ทางขับทั้งสองเส้นเป็นแอสฟัลติคคอนกรีต มีความกว้าง 23 เมตร ไหล่ทางขับกว้าง 10.5 เมตร ค่าความแข็งของพื้นผิวทางขับ (TAXI WAY) 84 F/D/X/T[5] ลานจอดอากาศยาน[แก้]มีจำนวนเนื้อที่โดยประมาณ 45,330 ตารางเมตร ขนาด 120 x 337 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของทางวิ่ง ห่างจาก RUN WAY CENTER LINE 280 เมตรพื้นผิวเป็นคอนกรีต ค่าความแข็ง 73 R/D/X/T มีจำนวน หลุมจอดอากาศยาน จำนวน 7 หลุมจอด และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 12 หลุมจอด[6] หลุมจอดอากาศยาน[แก้]จำนวน 7 หลุมจอด แบ่งเป็น[7]
อาคารผู้โดยสาร[แก้]เป็นอาคารเดี่ยวคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น พื้นที่ขนาด 60 x 180 เมตร พื้นที่ใช้ประโยชน์ 22,960 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้ถึง 1,250 คน โดยพื้นที่ใช้ประโยชน์ประกอบด้วย[8]
บริการที่จอดรถยนต์[แก้]
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย[แก้]บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” เปิดเผยว่า ในฐานะที่เชียงรายเป็น 1 ใน 3 ท่าอากาศยานที่คณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติให้ปรับแผนแม่บทใหม่ในการลงทุนพัฒนาปรับปรุงสนามบิน (เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561 ที่ประชุมบอร์ด ทอท.อนุมัติให้ใช้วงเงินลงทุนรวมประมาณ 4,400 ล้านบาท ระหว่างปี พ.ศ. 2561–2563) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารปัจจุบันซึ่งมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ในอาคารผู้โดยสารให้สะดวกสบายมากขึ้น และในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 10/2559 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนา ทชร. โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่หนึ่ง ปี พ.ศ. 2561–2565 ระยะที่สอง ปี พ.ศ. 2564–2569 และระยะที่สาม ปี พ.ศ. 2569–2570 แผนพัฒนาระยะที่หนึ่ง ปี พ.ศ. 2561–2565[แก้]- รองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้ถึงปี พ.ศ. 2568 - รองรับเที่ยวบินได้ 16 เที่ยวบิน/ชั่วโมง - หลุมจอดอากาศยาน 10 หลุมจอด - รองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน/ปี - ที่จอดรถ 1,200 คัน - สร้างทางขับคู่ขนาน* ** *ทำสัญญากับผู้รับเหมา เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 64 ที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลาสัญญาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 660 วัน (4 ต.ค. 64–26 ก.ค. 66) รายละเอียดโครงการประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นผิวทางวิ่งเดิม (Existing taxiways), เส้นนำจอด (Apron taxilane) และทางวิ่งคู่ขนาน (Parallel taxiway) พร้อมจุดเชื่อมต่อกับทางวิ่งหลัก ** น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ผชร.) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตหลายด้าน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายจึงมีโครงการก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือและปรับปรุงทางขับซ้ายหลุมจอด พร้อมทางขับเอและบี เริ่มก่อสร้าง 4 ต.ค. 64 โดยมีกรอบการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ (ในการก่อสร้างบางพิ้นที่จะมีการปิดสนามบินช่วงเวลา 15.01–22.59 ของทุกวัน ทำให้ตารางบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง) 1.ระยะที่ 1 (Phase 1, ช่วงเวลาก่อสร้าง 3 เดือนหลังจากเริ่มก่อสร้าง) ทำการปรับระดับพื้นผิวก่อสร้างและถอดถอนอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21) เช่น ไฟสัญญาณ PAPI (Precision Approach Path Indicator), ระบบ AWOS (Automated Weather Observing System) 2.ระยะที่ 2 (Phase 2, ช่วงเวลาก่อสร้าง 12 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 1) ทำการก่อสร้างทางขับ (Taxiway) A, B, C, D, P และ G โดยที่ C คือทางขับออกด่วน (Rapid exit taxiway) และ P คือทางขับคู่ขนาน (Parallel taxiway), ระบบท่อระบายน้ำ, ระบบไฟสัญญาณ รวมถึงการถอดถอนและติดตั้งอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21) 3.ระยะที่ 3 (Phase 3, ช่วงเวลาก่อสร้าง 7 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 2) ทำการปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติมทางขับประชิด (Closer taxiway) E, F และ G รวมถึงทำการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ไฟสัญญาณ, PAPI และระบบท่อระบายน้ำ *** ช่วงปลายปี 2563 ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานครบวงจร (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) ภายใต้กรอบการพัฒนาร่วมของ ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) อนึ่ง โครงการนี้จะก่อสร้างบนพื้นที่ 80 ไร่ โดยมีอาคารซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่ พร้อมอาคาร Workshop, สำนักงาน และศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมอากาศยานครบวงจร คาดว่าจะกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 ได้มีการเริ่มดำเนินการก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานโดยการปรับพื้นที่เพื่อสร้างอาคารซ่อมบำรุง จำนวน 2 หลัง พร้อมลานจอดอากาศยาน บนพื้นที่ 50 ไร่ ของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง ตั้งแต่ 1 เม.ย. 65 ถึง 31 ก.ค. 66 แผนพัฒนาระยะที่สอง ปี พ.ศ. 2564-2569[แก้]- รองรับผู้โดยสารได้ 3.3 ล้านคน/ปี - รองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้ถึงปี พ.ศ. 2573 - หลุมจอดอากาศยาน 12 หลุมจอด - ขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ เพื่อรองรับการเพิ่มหลุมจอดระยะประชิดเป็น 6 หลุมจอด แผนพัฒนาระยะที่สาม ปี พ.ศ. 2569–2574[แก้]- รองรับผู้โดยสารได้ 3.7 ล้านคน/ปี - รองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้ถึงปี พ.ศ. 2578 - รองรับเที่ยวบินได้ 30 เที่ยวบิน/ชั่วโมง - หลุมจอดอากาศยาน 13 หลุมจอด ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|