อาการตอนเป็นประจําเดือน pantip

ซึ่งมีชื่อว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome เป็นอาการทางกาย พฤติกรรม และอารมณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการมีประจําเดือน อาจมีอาการได้ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการมีประจําเดือน อาการจะดีขึ้นและหมดไปเมื่อประจําเดือนมา 2–3 วัน กลุ่มอาการดังกล่าวจัดอยู่ในระดับไม่รุนแรงถึงรุนแรงปานกลาง โดยทั่วไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน แต่บางรายอาจมีอาการขั้นรุนแรง ที่เรียกว่า PMDD หรือ Premenstrual Dysphoric Disorder ได้

สาเหตุการเกิด PMS

สาเหตุสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในช่วงระหว่างการตกไข่ในแต่ละรอบเดือน (ประมาณ 7-10 วันก่อนการมีประจำเดือน) ปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง ปัญหาจากความเครียด โรคทางอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า การขาดสารอาหารพวกวิตามินและเกลือแร่ หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือกาเฟอีนเป็นประจำ

อาการของ PMS มีดังนี้

1. อาการทางด้านอารมณ์: หงุดหงิด เครียด โกรธง่าย วิตกกังวล กระวนกระวายใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
2. อาการทางด้านร่างกาย: เหนื่อยง่าย อ่อนล้า มีการบวมของร่างกาย อยากอาหารมากกว่าปกติทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ท้องเสียหรือท้องผูก คัดตึงเต้านม เป็นสิว นอนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และบางรายมีอาการนอนไม่หลับ

อาการที่พบบ่อยได้แก่ บวม เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ น้ำหนักเพิ่ม นอนไม่หลับ รับประทานมากขึ้น สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า และอารมณ์แปรปรวน

อันตรายจาก PMS มีหรือไม่?

ความรุนแรงของ PMS สามารถเพิ่มระดับจนพัฒนาเป็น PMDD โดยจะมีความรุนแรงทางด้านอารมณ์มากกว่า PMS คือ มีอารมณ์ก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หดหู่ใจ สิ้นหวัง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า อยากฆ่าตัวตาย หรืออยากทำร้ายผู้อื่น ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างรีบด่วน

อาการของ PMDD

ถ้าถ้าหากพบว่ามีอาการดังกล่าวอย่างน้อย 5 ข้อ แสดงว่าคุณมีโอกาสเป็น PMDD ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

1. ซึมเศร้า หมดหวัง คิดทำร้ายตัวเอง
2. วิตกกังวลและเครียด
3. อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
4. อารมณ์ไม่มั่นคงโกรธง่าย
5. ไม่สนใจชีวิตประจำวันและไม่สนใจคนรอบข้าง
6. ไม่มีสมาธิ
7. อ่อนเพลีย
8. กินจุ กินบ่อย
9. นอนไม่หลับ
10. ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
11. อาการทางกายได้แก่ แน่นท้อง เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ ปวดข้อ

การรักษาและการดูแลสุขภาพโดยรวม

ทำสมุดบันทึกการมีรอบเดือนและจดรายละเอียดของอาการที่เกิดขึ้นทุกครั้ง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแพทย์ในการบำบัดรักษาในรายที่มีอาการรุนแรง

สาวๆคงเคยได้ยินความเชื่อมากมายเกี่ยวกับประจำเดือนแบบนี้มาบ้าง บางครั้งฟังแล้วก็ไม่แน่ใจว่าความจริงหรือความเชื่อกันแน่ วันนี้เราจะมาไขปัญหาความเชื่อ หรือเรื่องที่เขาบอกกันว่า "ห้ามทำ" ช่วงเป็นประจำเดือนมาฝากจ้า

1. ห้ามกินน้ำมะพร้าวอ่อน ช่วงเป็นประจำเดือน:

บางคนบอกว่ากินน้ำมะพร้าวแล้วจะทำให้ประจำเดือนมาน้อย หรือหยุดไปเลย ทำให้ปวดท้อง บางคนบอกว่าน้ำมะพร้าวจะทำให้ประจำเดือนมามากขึ้นมาก จริงๆแล้วก็เป็นความเชื่อที่อิงจากหลักวิทยาศาสตร์นะ

เพราะในน้ำมะพร้าวอ่อนมีสารอาหารแบบเดียวกับฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วในช่วงนั้นของเดือน แปรเปลี่ยนมากขึ้นอีก จึงอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากขึ้น หรือหยุดไปเลยได้ แต่เนื่องจากในมะพร้าวแต่ละลูกมีปริมาณฮอร์โมนไม่เท่ากัน

รวมทั้งร่างกายของสาวๆแต่ละคนก็มีความแข็งแรงและการเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนไม่เท่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนนี้จะมีผลกับสาววัยรุ่นมากกว่า สาวๆในวัยที่โตกว่าด้วยนะ ดังนั้นความเชื่อนี้มีมูลความจริงอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ถึงกับห้ามซะทีเดียว เลือกให้เหมาะกับตัวเองจะดีที่สุดจ้ะ

2. ห้ามอาบน้ำหรือสระผมในช่วงเป็นประจำเดือน:

โอ้..โนว..ไม่ใช่น๊า...ช่วงมีประจำเดือนเป็นช่วงเวลาที่เราควรจะรักษาความสะอาดเป็นพิเศษนะจ๊ะสาวๆ เพราะฉะนั้นอาบน้ำสระผมได้แน่นอนจ้า

แต่มีเคล็ดลับที่อยากบอก..ช่วงเวลาที่ผู้หญิงเรามีประจำเดือนเป็นช่วงที่ร่างกายค่อนข้างเซนซิทีฟ เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ภูมิคุ้มกันลดลง ความเย็นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสารโพแทสเซียมในร่างกายจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตะคริวได้ง่าย ถ้าอาบน้ำหรือสระผมโดยเฉพาะวันมามากอาจจะใช้น้ำที่อุ่นเล็กน้อย พออาบน้ำสระผมเสร็จเสร็จรีบเช็ดผมเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น เท่านี้ก็โอเคเลย (สำหรับวันมามากถ้ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ ปวดหัว ไม่แนะนำให้สระผมนะจ๊ะ)

3. ห้ามกินน้ำแข็ง ช่วงเป็นประจำเดือน:

จริงๆแล้วช่วงมีประจำเดือนสาวๆสามารถทานน้ำแข็งและไอศรีมของโปรดได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่ควรทานมากจนเกินไปเพราะอย่างที่บอกร่างกายจะเซนซิทีฟกับความเย็นในช่วงนี้ แต่ก็ขึ้นกับความแข็งแรง และฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในร่างกายของแต่ละคนด้วยนะ

อ้อ! แต่ถ้าในช่วงปวดท้องประจำเดือนล่ะก็ การทานน้ำอุ่นจัดจะช่วยให้อาการปวดเกร็งผ่อนคลายได้ดีกว่าจ้า ลองดูนะ

4. ห้ามออกกำลังกายช่วงมีประจำเดือน:

ใครบอกอย่างนี้เนี่ยไม่รักกันจริงเลยนะ เพราะการออกกำลังกายจะเพิ่มสารเอนโดรฟินที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และคลายความเครียดได้ด้วย ดังนั้นถึงจะเป็นช่วงมีประจำเดือนก็ออกกำลังกายได้แน่ค่ะ แต่ไม่ถึงกับหักโหม ใช้แรงหรือข้อต่างๆในร่างกายมากเกินไป ออกกำลังกายเบาๆหรือเล่นเครื่องเล่นในฟิตเนสชิลๆ วันละ 30 นาทีเป็นประจำก็เพียงพอจ้ะ

5. ห้ามฉีดยาตอนเป็นประจำเดือน:

บางบ้านมีความเชื่อผิดๆเรื่องการฉีดยาในช่วงมีประจำเดือนว่าทำให้เสียชีวิตได้ เรื่องนี้ทางการแพทย์ได้ออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยจ้า สาเหตุที่อาจทำให้เสียชีวิตได้นั้นมีมากมาย ไม่จำเป็นว่าจะเป็นช่วงเป็นประจำเดือนหรือไม่ แต่ถ้าไม่สบายแล้วคุณหมอวินิจฉัยว่าควรฉีดยาแล้วไม่ฉีดสิ อันตรายมากกว่า ถ้าใครไม่สบายใจ ลองปรึกษาคุณหมอดูได้นะจ๊ะ อ้อ ส่วนการฉีดวัคซีน ถ้าปวดประจำเดือนอยู่แล้วอาจจะเลี่ยงการไปฉีดวัคซีนในช่วงนี้เพราะว่าวัคซีนบางชนิดจะทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ประมาณ 6-12 ชม หลังจากการรับวัคซีนนะ

6. ห้ามทำสีผม ช่วงเป็นประจำเดือน:

อันนี้ต้องตอบว่า มีส่วนถูกนะ สังเกตให้ดี บางครั้งข้อความนี้มีปรากฏอยู่ที่ฉลากข้างกล่องยาย้อมผมบ้างแบรนด์เลยละ ส่วนใหญ่แล้วการทำสีผมแม้จะเป็นแบรนด์เดิม สีแบบเดิมกับการย้อมครั้งก่อน ก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เพราะขึ้นกับสภาพร่างกายของเราในช่วงขณะนั้นด้วย การห้ามทำสีผม ช่วงเป็นประจำเดือนก็เนื่องจากสาเหตุเพราะร่างกายของเราจะอ่อนแอลงในช่วงเป็นประจำเดือน และทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายและผิวหนังของเราด้วยค่ะ รู้อย่างนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปดีกว่าเนอะ

ความจริงแล้วความเชื่อต่างๆที่มีมาตั้งแต่ในอดีตก็เกิดจากการเรียนรู้ของพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรามาทั้งนั้น เพียงแต่ว่าด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป วิวัฒนาการทำให้เราสามารถค้นคว้าวิจัยหาความจริงมาไขปัญหาความเชื่อเหล่านี้ได้ ทีนี้รู้จริงแล้ว ก็นำไปปรับใช้กับช่วงเป็นประจำเดือนของตัวเองกับคนรอบข้างได้อย่างมั่นใจแล้วสิเนอะ แต่ถ้าจะให้มั่นใจหายห่วง อย่าลืมพก ผ้าอนามัย โซฟี ไว้ อุ่นใจทั้งกลางวัน กลางคืนแน่นอนนะจ๊ะ

อาการก่อนเป็นประจําเดือน กี่วัน

รู้ได้ไงว่าเป็นประจําเดือน

อาการปวดท้องประจําเดือน เกิดจากอะไร

ปวดท้องประจําเดือนจะปวดตรงไหน