น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ปรากฏการณ์ธรรมาชาติเหล่านี้ พวกเราคงรู้จัก และเห็นกันอยู่ชินตา ไม่ว่าจะเคยประสบด้วยตัวเองหรือเห็นจากภาพต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต แต่ปรากฏการณ์ที่เราจะพามาชมต่อไปนี้ รับรองว่าคุณจะต้องอึ้ง และไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้แน่นอน Show 1. ทะเลโฟม ถูกพบบริเวณชายฝั่งเมืองยัมบา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยเกิดจากสิ่งสกปรกในทะเลหลายชนิด เช่น เกลือ สารเคมีที่เกิดจากซากพืชและสัตว์ ถูกคลื่นตีจนเป็นฟองโฟม 2. ลาวาสีน้ำเงิน จากภูเขาไฟ Kawah-Ijen ที่ประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากกำมะถันที่หลอมละลายจากความร้อนจนปลดปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงินออกมา 3. พายุทอร์นาโดเพลิง ปรากฏการณ์หาชมได้ยากมาก ที่เกิดจากสภาวะอุณหภูมิ และปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ที่เหมาะสมจริงๆ เท่านั้น 4. ดอกไม้ผลึกน้ำแข็ง เป็นรูปแบบของแผ่นน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นเมื่อไอน้ำอิ่มตัว และแทรกขึ้นมาตามรอยแตกของแผ่นน้ำแข็ง จนเกิดเป็นผลึกน้ำแข็งที่มีรูปทรงคล้ายดอกไม้ 5. วงธัญพืช หรือ Crop Circle สัญลักษณ์ปริศนาขนาดใหญ่ยักษ์ ที่ปรากฏอยู่บนทุ่งข้าวโพดหรือทุ่งข้าวสาลี โดยไม่ทราบสาเหตุ ปัจจุบันมีการพบวงธัญพืชมากกว่า 10,000 แห่ง ซึ่งกว่า 80% พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากมนุษย์ทำทั้งสิ้น 6. ทะเลดวงดาว ที่เกาะ Vaadhoo หนึ่งในหมู่เกาะมัลดีฟส์ ที่สามารถเห็นเหมือนเป็นดวงดาวเรืองแสงในน้ำเวลากลางคืน เกิดจากปฏิกิริยาเคมีที่ถูกสร้างโดยแพลงตอนชนิดหนึ่ง 7. หินเดินได้ ที่อุทยานแห่งชาติเดธวัลเลย์ แคลิฟอเนียร์ เป็นปรากฏการณ์ปริศนาที่พบร่องรอยของหินเคลื่อนที่ได้เอง เกิดขึ้นทุกๆ 2-4 ปี มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายสาเหตุของการเดินได้ของหินเหล่านี้ แต่ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการเกิดแผ่นน้ำแข็งใต้ก้อนหิน ที่มาจากฝนตกจนน้ำท่วมขัง ทำให้หินเหล่านี้สไลด์ไปเองได้ 8. วงแหวนน้ำแข็ง ปรากฏการณ์หากยาก ที่น้ำแข็งเกิดเป็นรอยวงกลม สาเหตุเกิดจากการแข็งตัวของน้ำกลายเป็นน้ำแข็งจากจุดศูนย์กลางไปเรื่อยๆ จนถึงขอบวงกลม โดยขนาดใหญ่ที่เคยพบมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 150 เมตร 9. ทะเลคาปูชิโน่ ถูกพบที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อทะเลโดนหิมะถล่มจนน้ำผสมกับหิมะ และกลายเป็นคลื่นที่คล้ายกับฟองสบู่ หรือดูดีๆ ก็เหมือนกับฟองนมคาปูชิโน่ที่อยู่บนกาแฟนั่นเอง 10. ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว เป็นรูปแบบแปลกๆ ของหิมะที่เกิดในแถบพื้นที่สูง โดยมีลักษณะเหมือนใบมีดบางตั้งสูงเรียงกันเป็นทุ่ง เป็นผลมาจากการส่องสว่างของแสงอาทิตย์ตอนหิมะละลาย ส่วนชื่อนี้ถูกตั้งให้เหมือนกับลักษณะหมวกของนักบวช ที่มีทรงแหลมสูง 11. ดินแดนแห่งสายฟ้านิรันดร์ ที่ปากแม่น้ำคาตาทัมโบ เวเนซูเอล่า เป็นพื้นที่ๆ มีฟ้าผ่าปีละ 140 – 160 วัน และวันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งในแต่ละชั่วโมงจะมีฟ้าผ่ากว่า 280 ครั้ง นี่คือสถานที่ๆ มีฟ้าผ่ามากที่สุดในโลก 12. รุ้งหมอก หรือรุ้งไร้สี เกิดจากการหักเหและสะท้อนภายในละอองน้ำที่อยู่ในหมอก จะเห็นได้ง่ายเมื่อผู้สังเกตอยู่บนภูเขาและมองลงไปยังหุบเขาที่มีหมอก ขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่ด้านหลังของผู้สังเกตในระดับต่ำใกล้ขอบฟ้า 13. นิ้วน้ำแข็งแห่งความตาย ที่แอนตาร์กติก มีลักษณะเป็นน้ำแข็งรูปคล้ายนิ้วหมุนวนลงมาจากธารน้ำแข็งจนถึงก้นทะเล มันมีความเย็นที่สูงมากๆ ขนาดที่สามารถฆ่าสิ่งชีวิตทุกตัวที่มันผ่านไปได้หมด 14. เมฆม้วน เมฆสวยๆ เหล่านี้เกิดจากมวลกระแสอากาศเย็นที่พุ่งลงพื้น โดยกระแสอากาศนี้กระจายออกจากทางด้านหน้าของพายุที่กำลังรุกเข้ามา หรือบางทีก็กระจายออกจากทางด้านหลังของพายุที่กำลังสลายตัว 15. พายุสายฟ้าภูเขาไฟ ปรากฏการณ์สุดหายากที่พายุสายฟ้าเกิดขึ้นในระหว่างที่ภูเขาไฟระเบิดพอดิบพอดี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกันได้อย่างไร 16. แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด 17. รุ้งไฟ เกิดจากการที่แสงอาทิตย์หักเหออกจากผลึกน้ำแข็งในเมฆเซอรัสที่อยู่ในระดับสูงในแนวราบ ขณะเดียวกันดวงอาทิตย์ก็ต้องอยู่ในมุมที่สูงพอด้วยจึงจะทำให้เกิดไฟสายรุ้งขึ้นมาได้ 18. แสงแห่งมาร์ฟา (Marfa Light) หรือจุดแสงกระพริบประหลาดบนท้องฟ้าที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาเหตุผลดีๆ มาอธิบายไม่ได้ ถูกพบหลายที่บนโลก มีหลากหลายสี รูปร่างหลายทรง มีการเคลื่อนที่ขึ้นในแนวดิ่งหรือเคลื่อนที่ในแนวราบ บางที่มีให้เห็นนานเกือบ 12 นาที ในบางทีอาจได้ยินเสียงฟู่ หากพบในระยะใกล้ และบ่อยครั้งที่พบตามแหล่งน้ำ ในบ้านเราก็มีพบแสงนี้ที่บริเวณ เขากะลาอีกด้วย แต่อีกหลายคนเชื่อว่า เป็น UFO มากกว่า ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหมายถึงอะไรปรากฏการณ์ธรรมชาติ คือ การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ทั้งในระยะยาวและระยะสั้นสภาพแวดล้อมของโลกเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ทั้งเป็นระบบและไม่เป็นระบบ เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา
ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีอะไรบ้างภัยพิบัติทางธรรมชาติ. Red Rainbow เกิดที่ไหน3. Red rainbow
รุ้งกินน้ำสีแดงเป็นปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเหมือนกับรุ้งกินน้ำทั่วๆ ไปที่เกิดจากการหักเหของแสงในหยดน้ำ แต่การจะเกิดรุ้งแดงนั้น แสงแดดจะต้องอยู่ใกล้กับเส้นขอบฟ้า และเนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาพแสงน้อย สีของรุ้งจึงออกมาเร้าอารมณ์อย่างที่เห็น
|