ข้อสอบเคมีอินทรีย์ (พร้อมเฉลย) ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่
A. กรดอินทรีย์ B. แอลกอฮอล์ C. เอสเทอร์ D. แอลดีไฮด์ 2. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3COOH A. กรดอินทรีย์ B. แอลกอฮอล์ C. เอสเทอร์ D. แอลดีไฮด์ 3. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3COOCH3 A. กรดอินทรีย์ B. แอลกอฮอล์ C. เอสเทอร์ D. แอลดีไฮด์ 4. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด HCHO A. กรดอินทรีย์ B. แอลกอฮอล์ C. อสเทอร์ D. แอลดีไฮด์ 5. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3COCH3 A. ฅเอมีน B. เอไมด์ C. คีโตน D. อีเทอร์ 6. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3OCH3 A. เอมีน B. เอไมด์ C. คีโตน D. อีเทอร์ 7. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3CONH2 A. เอมีน B. เอไมด์ C. คีโตน D. อีเทอร์ 8. สารที่มีสูตรดังที่กำหนดให้ต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใด CH3NH2 A. เอมีน B. เอไมด์ C. คีโตน D. อีเทอร์ 9. หมู่ฟังก์ที่กำหนดให้นี้มีชื่อตรงกับข้อใด -OH A. ไฮดรอกซิล B. คาร์บอกซิล C. คาร์บอนิล D. คาร์บอกซาลดีไฮด์ 10. หมู่ฟังก์ที่กำหนดให้นี้มีชื่อตรงกับข้อใด -COOH A. ไฮดรอกซิล B. คาร์บอกซิล C. คาร์บอนิล D. คาร์บอกซาลดีไฮด์ 11. สารอินทรีย์ตัวอย่างเป็นของเหลวมีจุดเดือด 1100C ละลายน้ำได้ดีมาก สารละลายที่ได้เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงินเป็นแดง สารนี้ให้ฟองก๊าซกับโลหะโซเดียมและสารละลายชอง NaHCO3 สารตัวอย่างดังกล่าวคือสารใด 1. CH3CH2OH 2. CH3CHO 3.CH3CH2COOH 4. HOCH2CHOHCH2OH ตอบ 3 12. การทดลองข้อใดที่ทำให้เกิดกรดบิวทาโอนิกขึ้นในสารละลาย 1. ต้มเมทิลทาโอเนต 0.1 โมลกับกรดซัลฟุริกข้น 98% โดยน้ำหนัก โดยมีเนื้อกรดอยู่ 0.01 โมล ต้มเอทิลทาโอเนต 0.1 โมลกับกรดซัลฟุริกข้น 1% โดยน้ำหนัก โดยมีเนื้อกรดอยู่ 0.01 โมล 3. ต้มเอทิลทาโอเนต 0.1 โมลกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ข้น 50% โดยน้ำหนัก โดยมีเนื้อเบส0.01 โมล 4. ต้มเอทิลทาโอเนต 0.1 โมลกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ข้น 1% โดยน้ำหนัก โดยมีเนื้อเบส0.01 โมล 13.จากการศึกษาสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่งพบว่า 1) สารประกอบนี้มีโครงสร้างไม่เป็นวง 2) เป็นของเหลวระเหยง่าย 3) ไม่ฟอกจางสีด่างทับทิม 4) ไม่ทำปฏิกิริยากับโบรมีน CCl4 ในที่มืด 5) ทำปฏิกิริยากับโบรมีน CCl ที่มีแสงสว่างเกิดก๊าซที่มีสมบัติเป็นกรด สารประกอบไฮโดรคาร์บอนนี้คือสารใด 1. C3H6 2. C3H8 3. C6H1 4.C6H14 ตอบ 4 14. ข้อใดอ่านชื่อของ CH3COOCH3 ได้ถูกต้อง 1. เมทิลเอทาโนเอต 2. เอทาโนอิกแอซิค 3. เมทิลเมทานอล 4. เมทิลเมทาโนอิก ตอบ 1 15. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน 1. เป็นปฏิกิริยาการเตรียมเอสเทอร์ 2. เป็นปฏิกิริยาที่เอสเทอร์ทำปฏิกิริยากับ H2O 3. สารตั้งต้นที่ใช้ คือ แอลกอฮอล์กับกรดอินทรีย์ 4.ข้อ ก และ ค ถูก ตอบ 4 16. กรด A + กรด B H+ CH3CH2CH2OOCCH3 + H2O ข้อใดสรุปได้ถูกต้อง 1. A คือกรดโพรพาโนอิก 2.B คือ โพรพานอล 3. A คือ CH3CH2COOH 4. B คือ เอทานอล ตอบ 2 17. สารอินทรีย์ซึ่งมีสูตรโมเลกุล C3H6O ตัวที่คาดว่าจะมีจุดเดือดสูงที่สุด คือข้อใด 1. กรดอินทรีย์ 2.แอลกอฮอล์ 3. เอสเทอร์ 4. คาร์โบไฮเดรต ตอบ 2 18. ข้อใดไม่ถูกต้อง 1.สารประกอบคีโตนจะมีหมู่แอลคอกซีคาร์บอนิลเป็นหมู่ฟังก์ชัน 2. โพรพาโนนมีชื่อสามัญว่าแอซีโตน 3. แอซีโตนใช้เป็นตัวทำละลายพลาสติกและแลกเกอร์ 4. แอซีโตนเป็นสารที่ไวไฟมาก ไอระเหยของสารนี้ถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการมึนงงซึม และหมดสติได้ ตอบ 1 19. ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. แอลกอฮอล์มีหมู่ -OH เป็นหมู่ฟังก์ชัน ข. จุดเดือดและจุดหลอมเหลวของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นเมื่อคาร์บอนอะตอมเพิ่มขึ้น ค. แอลกอฮอล์จะมีจุดเดือดสูงกว่าแอลเคนที่มีจำนวนคาร์บอนเท่ากัน ง. แอลกอฮอล์ที่มีจำนวนคาร์บอนอะตอมมากจะมีผลทำให้แรงดึงดูดจากพันธะไฮโดรเจนเพิ่มขึ้น 1. แอลกอฮอล์มีหมู่ -OH เป็นหมู่ฟังก์ชัน 2. จุดเดือดและจุดหลอมเหลวของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นเมื่อคาร์บอนอะตอมเพิ่มขึ้น 3. แอลกอฮอล์จะมีจุดเดือดสูงกว่าแอลเคนที่มีจำนวนคาร์บอนเท่ากัน 4. แอลกอฮอล์ที่มีจำนวนคาร์บอนอะตอมมากจะมีผลทำให้แรงดึงดูดจากพันธะไฮโดรเจนเพิ่มขึ้น ตอบ 4 20. สาร E ควรมีสูตรโครงสร้างอย่างไร 1. CH3COOCH2CH3 2. CH3COOCH3 3. HCOOCH2CH3 4. ข้อมูลไม่ครบ ตอบ 3 21. หลังจากเติมน้ำลายไปอุ่นให้ร้อนแล้วปฏิกิริยาใดที่เกิดขึ้น 1. พอลิเมอไรเซชัน 2. ปฏิกิริยาการแยกสลายแป้งให้เป็นน้ำตาล 3. ปฏิกิริยาการสะเทิน 4. ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง ตอบ 2 22. สารตั้งต้นในข้อใดที่ใช้เตรียมไขมัน 1. glucose กับ NaOH 2. fatty acid กับ NaOH 3. amino acid กับ alcohol 4.fatty acid กับ giycerol ตอบ 4 23. เมื่อผสมยีสต์ลงในสารละลายน้ำตาลแล้วเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลาหลายวัน ข้อความใดถูกต้อง 1. ยีสต์จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นคาร์บอนมอนอกไซด์และเอทานอล 2. น้ำตาลจะเปลี่ยนยีสต์เป็นคาร์บอนมอนอกไซด์และเอทานอล 3. ยีสต์ทำให้น้ำตาลแตกตัวเป็นคาร์บอนมอนอกไซด์และเอทานอล 4. เอนไซม์ในน้ำตาลทำให้ยีสต์แตกตัวเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และเอทานอล ตอบ 4 24. หน่วยย่อยของกรดนิวคลีอิกคืออะไร 1. กรดอะมิโน 2. กลูโคส 3.นิวคลีโอไทด์ 4. กรดไขมัน ตอบ 3 25. โครงสร้างพื้นฐานของ DNA และ RNA ในสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนกัน คือข้อใด 1. ชนิดของหมู่เบส 2. รูปร่าง 3. พันธะในโมเลกุล 4.พันธะระหว่างหน่วยย่อย ตอบ 4 26. วัตถุดิบที่ใช้ในการเตรียมสบู่คืออะไร 1. ไตรกลีเซอไรด์กับกรดอะมิโน 2.ไตรกลีเซอไรด์กับโซดาไฟ 3. กรดอะมิโนกับน้ำมันพืช 4. กลูโคสกับโซดาไฟ ตอบ 2 27. น้ำมันชนิดใดต่อไปนี้จะเกิดการเหม็นหืนได้ง่ายที่สุด 1.น้ำมันมะพร้าว 2. น้ำมันถั่วเหลือง 3. น้ำมันรำข้าว 4. น้ำมันดอกทานตะวัน ตอบ 1 28. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของไขมัน 1. ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 2. ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น 3. ช่วยป้องกันการกระแทก 4. ช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อน ตอบ 1 29. เมื่อได้รับความร้อน สารพอลิเมอร์ข้อใดจะมีสมบัติแตกต่างไปจากข้ออื่น 1. พอลิเอทิลีน 2. เทฟลอน 3. พอลิยูเรียฟอร์มาลดีไฮด์ 4. พอลิสไตรีน ตอบ 3 30. พอลิเมอร์ชนิดหนึ่งเคยนิยมใช้เป็นวัสดุทำกระทงสำหรับลอย แต่พอลิเมอร์ชนิดนี้จะให้สารทำลายโอโซนในบรรยากาศชั้นบน มอนอเมอร์ของพอลิเมอร์นี้ได้แก่สารใด 1. CH2=CHCl 3. CH2 = CHCH3 4. CH2 = CH2 31. ในปัจจุบันภาชนะที่ทำด้วยพลาสติกมีขายอยู่ทั่วไปในราคาไม่แพง มีการออกแบบเป็นภาชนะรูปต่างๆน่าใช้ สีสวย แต่พีวีซีไม่เหมาะจะใช้ทำภาชนะใส่อาหาร เพราะเหตุใด 1.มอนอเมอร์ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอาจหลุดออกมาปนในอาหาร 2. พีวีซีเมื่อถูกความร้อนจะสลายให้แก๊สคลอรีนออกมา 3. ในกระบวนการพอลิเมอไรเซชันของพีวีซีนั้น มีการใช้สารที่มีตะกั่วเจือปน 4. สีที่ฉาบบนพีวีซีจะไม่ติดแน่น และเมื่อสีนี้หลุดออกจากภาชนะจะเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ตอบ 1 32. ข้อความใดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่นข้อใดไม่ถูกต้อง 1. มอนอเมอร์ที่เป็นสารตั้งต้นต้องมีหมู่ฟังก์ชันอย่างน้อย 2 หมู่ 2. เมื่อเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่นจะมีสารโมเลกุลเล็กเกิดขึ้นด้วย 3. มอนอเมอร์ส่วนใหญ่เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัว 4. ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่นบางชนิดเกิดขึ้นได้ที่อุณหภูมิห้อง ตอบ 3 33. กำหนดข้อความต่อไปนี้ A. พลาสติกที่เติมใยแก้ว B. พอลิสไตรีนใช้ทำหลอฉีดยา C. พลาสติกเติมผลแกรไฟต์เพื่อให้พลาสติกนำไฟฟ้าได้ D. พอลิเมอร์ที่ใช้เป็นเส้นใยได้ต้องมีความยาวอย่างน้อย 100 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของพอลิเมอร์ ข้อใดถูกต้อง 1. ข้อ A B และ C 2. ข้อ A B และ D 3. ข้อ A C และ D 4.ข้อ A B C และ D ตอบ 4 34. ข้อใดถูกต้อง ข้อความเกี่ยวกับพอลิเมอร์ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้ A. เป็นโคพอลิเมอร์แบบเส้น B. จัดอยู่ในกลุ่มพอลิเอสเทอร์ C.สามารถสังเคราะห์ได้จากการควบแน่นของเอทิลีนและกรดเทเรฟทาลิก 1.A และ B เท่านั้น 2. B และ C เท่านั้น 3. A และ C เท่านั้น 4. A B และ C ตอบ 1 35. ข้อใดถูกต้องในการผลิตเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ 1. ใช้สารละลายอิ่มตัวของ CuSO4?5H2O เป็นตัวทำละลายเซลลูโลสจากกระดาษกรอง 2. เซลลูโลสจากกระดาษกรองทำปฏิริยากับสารละลายแอมโมเนียได้คิวปราโมเนียมเรยอง 3.ปราโมเนียมเรยองเมื่อฉีดลงในน้ำจะได้สารละลายสีน้ำเงิน 4. กรด H2SO4เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาระหว่างเซลลูโลสจากกระดาษกรองและ CuSO4?5H2O ตอบ 3 36. จงพิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้ A. เป็นกระบวนการพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น B. เป็นกระบวนการที่สามารถเกิดพอลิเมอร์แบบร่างแหได้ C. เป็นกระบวนการทำให้เกิดพลาสติกชนิดเทอร์มอเซต ข้อใดถูกต้อง 1. A เท่านั้น 2. A และ B 3. B และ C 4.A B และ C ตอบ 4 37. พลาสติก A ไม่อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อนที่อุณหภูมิสูงจะแตกและไหม้กลายเป็นขี้เถ้า ส่วนพลาสติก B อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน ติดไฟง่าย ดับยาก พลาสติก A และ B คือสารใด 1. เมลามีน พอลิสไตรีน 2. พีวีซี พอลิเอทิลีน 3. ฟอร์ไมกา เมลามีน 4. พอลิสไตรีน พีวีซี ตอบ 1 38. ข้อใดกล่าวผิดสำหรับกระบวนการแตกสลายน้ำมันดิบ 1. ในอุตสาหกรรมกระบวนการนี้มักเกิดที่อุณหภูมิไม่สูงนัก แต่ต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยา 2. ผลิตภัณฑ์ที่ได้บางชนิดอาจเป็นสารไม่อิ่มตัว 3. ในกระบวนการนี้อาจมีปฏิกิริยาการสูญเสียไฮโดรเจนเกิดขึ้นด้วย 4. แอลเคนที่เป็นสายยาวและมีกิ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นแอลเคนสายตรงซึ่งใช้เป็น น้ำมัน เชื้อเพลิงรถยนต์ ตอบ 4 39. LPG คือก๊าซปิโตรเลียมเหลวซึ่งเป็นก๊าซผสมระหว่างโพรเพนกับบิวเทน ซึ่งไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่มีพิษต่อร่างกายโดยตรง แต่หากสูดดมมากๆจะทำให้วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เพราะไปแย่งที่ก๊าซออกซิเจนในการหายใจ จึงมีการเติมสารบางอย่างลงไปเพื่อให้ทราบได้เวลาเกิดการรั่วซึม สารดังกล่าวคืออะไร 1. Sulphur dioxide 2.Ethylmercaptan 3. Ethylamine 4. Hydrogen sulphide ตอบ 2 39. ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ 1. ไอโซออกเทน 93% เฮปเทน 7% โดยมวล 2. ไอโซออกเทน 93% เตตระเอทิลเลด 7% โดยมวล 3. ไอโซออกเทน 90% เตตระเอทิลเลด 10% โดยมวล 4. ไอโซออกเทน 90% เฮปเทน 10% โดยมวล มลพิษจากการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นตามลำดับข้อใด 1.1 4 2 3 2. 2 1 3 4 3. 1 2 4 3 4. 2 3 1 4 ตอบ 1 40. แก๊สโซฮอล์คืออะไร 1. เป็นน้ำมันไบโอดีเซลชนิดหนึ่ง 2. น้ำมันที่ได้จากการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันปาล์ม 3. เป็นน้ำมันเบนซินชนิดหนึ่งมีคุณภาพเทียบเท่าเบนซิน 91 4. น้ำมันที่ได้จากการผสมระหว่างน้ำมันเบนซินกับแอลกอฮอล์ ตอบ 2 41.การเผาไหม้ของน้ำมันเบนซินในข้อใดที่ทำให้เครื่องยนต์เกิดการจุดระเบิดได้ง่ายที่สุด 1. น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 100 2. น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 91 3. น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 95 4. น้ำมันเบนซินที่มีเลขออกเทน 90 ตอบ 1 42. พิจารณาข้อความต่อไปนี้ A. LPGเป็นแก็สหุงต้มและสามารถปรับใช้แทนน้ำมันเบนซินได้ B. เลขออกเทนใช้บอกคุณภาพของน้ำมันเบนซิน ส่วนเลขซีเทนใช้บอกคุณภาพน้ำมันดีเซล C. แก๊สโซฮอล์เป็นเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมเมทานอลกับน้ำมันเบนซินในอัตราส่วน1:9 D. MTBEเป็นสารที่เติมลงในน้ำมันเบนซินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และเรียกว่าน้ำมันไร้สารตะกั่ว ข้อใดถูก 1. A และ B 2. C และ D 3. A B และ C 4. A B และ D ตอบ 4 43. การกลั่นลำดับส่วนสารไฮโดรคาร์บอนไดออกมาก่อน เรียงตามลำดับ 1. แก๊สหุงต้ม เบนซิน ดีเซล น้ำมันก๊าด 2. น้ำมันดีเซล น้ำมันก๊าด เบนซิน แก๊สหุงต้ม 3. แก๊สหุงต้ม เบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล 4. แก๊สหุงต้ม น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล เบนซิน ตอบ 3 44. ข้อความใดถูกต้องที่สุด 1. ปริมาณคาร์บอนและออกซิเจนในถ่านหินมีผลต่อพลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาไหม้ ถ่านหิน ถ้ามีคาร์บอนมากและออกซิเจนน้อยจะให้พลังงานความร้อนน้อย 2. เมื่อเผาหินน้ำมันที่ 500 องศา สารเคโรเจนจะละลายตัวให้น้า มันดิบและก๊าซธรรมชาติ 3. น้ำมันดิบและน้ำมันหินเมื่อนำมากลั่นจะได้สารบางชนิดเหมือนกันคือ น้ำมันเบนซิน น้ำมัน ดีเซล น้ำมันเตาและบิทูเมน 4. การเผาไหม้ถ่านหินแอนทราไซต์ ไม่เกิดก๊าซพิษ CO NO2 และ SO2 เพราะแอนทราไซต์ ไม่มี N และ S ตอบ 3 45. กำหนดสารต่อไปนี้ A. (C2H5)4Pb B. C2H5OH C. CH3OH(CH3)3 D. (CH3CH2)2O สารในข้อใดใช้เติมลงในน้ำมันเบนซินเพื่อเพิมเลขออกเทน โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ 1. A 2. C 3. B และ C 4.B C และ D ตอบ 4 46. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดถูกต้อง 1. ไอโซเมอร์หนึ่งของไอโซออกเทนมีสูตรโครงสร้าง (CH3)2 CHCH2CH2 CH(CH3)2 มีค่าออกเทนเป็น 100 2. น้ำมันเบนซินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ประเภทสันดาปภายในนั้นมีค่าออกเทนต่ำมาก 3. น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น มีจำนวนคาร์บอนในโมเลกุล 10-14 อะตอม 4. ก๊าซปิโตรเลียมเมื่อนำมาทำการแตกสลายจะให้น้ำมันเบนซินที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ตอบ 3 47. ของเหลวชนิดหนึ่งทำ ปฏิกิริยำกับโลหะโซเดียมได้ ละลายน้ำ ได้ดีได้สารละลำยที่มีpH7ของเหลวนี้คือ ก. เอทำนอล ข. กรดแอซิติก ค. เอทิลแอซีเตด ง. อีเทน ตอบ ก คำชี้แจง ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ประกอบการตอบคำ ถาม ข้อ 2-3 สาร ก + สาร ข สาร ค สาร ค ไฮโดรไลซ์ด้วย NaOH ได้สาร ก + สาร ข สาร ข ทำ ปฏิกิริยากับ ให้ NaHCO3 สาร ข ทำ ปฏิกิริยากับโลหะ Na และ NaOH ได้ สาร ค มีจำนวนอะตอมเท่ากับ 7 48.สาร ค คืออะไร ก. แอลเคน ข. แอลคีน ค. แอลกอฮอลล์ ง. เอสเทอร์ ตอบ ง 49. สมบัติต่อไปนี้ควรเป็นสาร ก. ทั้งสิ้น ยกเว้นข้อใด ก. ทำปฏิกิริยากับ ให้ ข. ทำปฏิกิริยากับโลหะ Na ให้ ค. ลุกไหม้ให้เปลวสว่างไม่มีเขม่า ง. เตรียมจากแอลคีนได้ ตอบ ก 50. สารอินทรีย์ (X) ถูกใช้เป็นสารกันบูดในขนมปังขึ้นราสารนี้ละลำยได้ในน้ำแต่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลาย NaOH เมื่อนำสารละลำยของ (X) มาเติมกรด ให้มากพอแล้วนำไปต้มกับเอทานอล จะได้สารประกอบที่มีกลิ่นหอมชวนดม สาร(X) คืออะไร ก. กรดอินทรีย์ ข. แอลกอฮอลล์ ค. เอสเทอร์ ง. เกลือของกรดอินทรีย์ ตอบ ง 51. สารอินทรีย์ซึ่งมีสูตรโมเลกุล O ตัวที่คาดว่าจะมีค่าจุดเดือดสูงที่สุด คือ ก. กรดอินทรีย์ ข. แอลกอฮอลล์ ค. เอสเทอร์ ง. คาร์โบไฮเดรต ตอบ ข 52.สารอินทรีย์ตัวอย่างเป็นของเหลวมีประจุเดือด 110องศาเซลเซียส ละลายน้ำได้ดีมาก สารละลายที่ได้เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงินเป็นแดง สารนี้ให้ฟองแก๊สกับโลหะโซเดียมและสารละลายของNaHCO3 สารตัวอย่างดังกล่าวคือสารใด ก.CH3CH2OH ข. CH3CHO ค.CH3CH2COOH ง.HOCH2CHOHCH2OH ตอบ ค 53. เมื่อนำสารประกอบ X ที่เกิดจากกระบวนการหมักน้ำตาลทรายด้วยเอนไซม์ในภาชนะปิด มาทำปฏิกิริยำกับกรดโพพาโนอิก ณ จุดสมดุลในส่วนผสมจะประกอบด้วย กรด น้ำ ก.CH3COOCH2CH2CH3 ข.CH3CH2OOCCH2CH3 ค.CH3CH2COCH2OCH3 ง.(CH3O2)CHCH2CH3 ตอบ ข 54. สาร A ละลายน้ำได้ดี เมื่อทำปฏิกิริยากับโซมเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่สาร B ไม่ทำปฏิกิริยำกับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตแต่ทำปฏิกิริยำกับโลหะโซเดียมเกิดฟองแก๊ส เมื่อให้ A ทำปฏิกิริยากับ B เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่คือ C พร้อมกับการสูญเสียน้ำ 1 โมเลกุล ข้อใดผิด ก. สุตรโครงสร้างของ A และ B ที่เป็นไปได้คือ CH3CH2CO2H ข. ผลิตภัณฑ์ C ละลำยน้ำได้ดี ค. C ไม่ทำปฏิกิริยาทั้งกับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตและโลหะโซเดียม ง. เมื่อนำ C ไปทำปฏิกิริยากับสารละลายกรดจะเกิดจะเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสกลับมาเป็น A และ Bตอบ ข 54. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยำสะปอนนิฟิเคชันของเอทิลบิวทาโนเอตด้วยโซเดียมไฮดรอกไซด์คือ ก. CH3CH2OH + CH3CH2CH2CO2Na ข. CH3CH2ONa + CH3CH2CH2CO2H ค. CH3CH2CH2CH2OH + CH3CO2Na ง. CH3CH2OH + CH3CH2CH2CO2Na ตอบ ก 56. บิวทานาไมด์(CH3CH2CH2CONH2) เป็นของเหลวที่ไม่ละลายน้ำ แต่ถ้านำมาต้มกับกรดเกลือเจือจาง พบว่าได้ของผสมที่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งนี้เพราะ ก. บิวทานาไมด์ทำปฏิกิริยากับกรดเกลือให้เกลือของบิวทานาไมด์ซึ่งละลายน้ำได้ดี ข. บิวทานาไมด์ละลายได้ดีในน้าร้อน ค. บิวทานาไมด์แตกตัวได้ผลิตภัณฑ์ที่ละลายน้ำได้ดี ง. บิวทานาไมด์ซึ่งอยู่เหนือน้ำระเหยไปหมด จึงเหลือแต่กรดเกลือเจือจาง ตอบ ก 57. สาร A มีสูตรโมเลกุล C7H12 สาร A ฟอกสีโบรมีนได้อย่างรวดเร็ว ให้สาร B มีสูตร C7H12Br2 สาร A ทำปฏิกริยากับสารละลายโพปทสเซียมเปอร์แมงกาเนต ให้สาร C มีสูตร C7H14O2 สาร C ทำปฏิกริยากับโลหะโซเดียมให้แก๊สไฮโดรเจน แต่ไม่ทำปฏิกริยากับสารละลายโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต สารA ควรเป็นสารในข้อใด 1. สารประกอบแอลคีนโซ่เปิดที่พันธะคู่ 2 พันธะ 2. สารประกอบแอลคีนที่มีโครงสร้างเป็นวง และมีพันธะคู่ 1 พันธะ 3. สารประกอบแอลไคน์ 4. สารประกอบอะโรมาติก ข้อใดถูกต้อง (ENT’มี.ค.44) ก. 1 และ 2 ข. 2เท่านั้น ค. 3 ง. 4 เฉลย ข. 2 เท่านั้น 58.C7H12 (H หาย 4) ทำปฏิกิริยากับ Br2 เป็น C7H12Br2 (แทรกได้ 2) แสดงว่า A เป็นโซ่ปิดที่มี พันธะคู่ 1 แห่ง ในการทดสอบเพื่อจำแนกสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชันที่แตกต่างกันข้อใด ถูกต้อง (PAT-2 ต.ค.’52) ก. แอลกอฮอลล์ และอีเทอร์ ทดสอบด้วยสารละลาย NaHCO3 ข. แอลเคน และแอลคีน ทดสอบด้วยสารละลาย KMnO4 ค. กรดอินทรีย์ และกรดไขมัน ทดสอบด้วยโลหะ Na ง. มีคำตอบถูกมากกว่า 1 ข้อ เฉลย ข. 59.ธาตุชนิดหนึ่งเป็นของเหลวสีน้ำตาลแดง สามารถภูกฟอกสีได้เมื่อทำปฏิกิริยากับเอทิลีน และเมื่อทำปฏิกิริยากับ Na2S ให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแข็งสีขาวกระจายในน้ำ ถ้าธาตุดังกล่าวหนัก 4 กรัม ควรทำปฏิกิริยาได้พอดีกับโพแทสเซียมหนักกี่กรัม (ENT’28) ก. 1.23 ข. 1.95 ค. 4.39 ง. 8.12 เฉลย ข 14. เมื่อชั่งกรดคาร์บอกซิลิกไม่อิ่มตัว 4 ชนิด ต่อไปนี้มีน้ำหนักเท่ากัน (ENT’38) 1. C3H4O2 (มวลโมเลกุล 72) 2. C10H16O2 (มวลโมเลกุล 168) 3. C18H30O2 (มวลโมเลกุล278) 4. C20H32O2(มวลโมเลกุล 304) นำมาทำปฏิกิริยากับสารละลายโบรมีนในเฮกเซนปริมาณของโบรมีนที่ใช้กับกรดแต่ละชนิดเป็นอย่างไร ก. 1 > 2 > 3 > 4 ข. 1 > 4 > 2 > 3 ค. 4 > 3 > 2 > 1 ง. 3 > 2 > 4 > 1 เฉลย ข 60. เมื่อสารละลายกรดอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีเนื้อกรด 0.15 กรัม เติมลงในโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ 56 ลูกบาศก์เซนติเมตร ที่ STP กรดนั้นอาจเป็นกรดใด (ENT’37) ก. เมทาโนอิก ข. เอทาโนอิก ค.โพรพาโนอิก ง. บิวทาโนอิก เฉลย ข 61.การเปรียบเทียบคุณสมบัติของเหลว 3 ชนิดคือ เพนเทน เฮกเซน และเพนทานอลข้อใดถูกต้อง ก. ความดันไอ เพนเทน >เฮกเซน>เพนทานอล ข. แรงยึดระหว่างโมเลกุล เฮกเซน>เพนทานอล>เพนเทน ค. ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ เฮกเซน>เพนเทน>เพนทานอล ง. ถ้านำของเหลวทั้ง 3 ชนิด มากลั่นลำดับส่วนจะได้ เพนเทน เพนทานอล และเฮกเซน ออกมาตามลำดับ เฉลย ก 62.ข้อใดถูกต้องมากที่สุด ก. เมทานอลมีสมบัติเป็นกลาง ยืนยันได้จากการทดสอบด้วยกระดาษลิตมัสที่ชื้นโดยสีของกระดาษจะไม่เปลี่ยนแปลง ข. เอทานอลมรสมบัติเป็นกรดอ่อน เพราะสามารถสร้างพันธะไฮโดรเจนได้กับน้ำ ค. โพรพานอลมีสมบัติเป็นกรดอ่อน เพราะสามารถทำปฏิกิริยากับโซเดียมไฮดรอกไซด์ซึ่งเป็นเบสแก่ให้เกลือกับน้ำ ง. บิวทานอลมีสมบัติเป็นกรดอ่อน เพราะสามารถทำปฏิกิริยากับโซเดียมให้แก๊สไฮโดรเจน เฉลย ก 63. สารอินทรีย์ที่มีสูตรโมเลกุลอย่างง่ายสารใดทำปฏิกิริยากับ NaHCO3 แล้วสารที่ได้สามารถทำให้น้ำปูนใสขุ่น ก. CH2O ข. CH5N ค. C2H6O ง. C2H6O2 เฉลย ก 64. ปฏิกิริยาระหว่างกรดซาลิกซิลิกกับเมทานอลโดยมีกรดซัลฟิวริกเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเกิดขึ้นโดย 1. มีเมทิลซาลิซิเลต และน้ำเป็นผลิตภัณฑ์ 2. เมทิลซาลิซิเลตเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ และน้ำเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนน้อย 3. ได้เมทิลซาลิซิเลตและน้ำ พร้อมกับยังคงมีกรดซาลิซิลิก และเมทานอลเหลือกลับคืนมา 4. กรดซาลิซิลิกและเมทานอลทั้งหมด เปลี่ยนไปเป็นเมทิลซาลิซิเลตและน้ำ ถ้าใช้เวลาต้มให้นานเกินพอ ข้อที่ถูกต้องเกี่ยวกับปฏิกิริยานี้คือข้อใด ก. 1 และ 2 ข. 1 และ 3 ค. 1 และ 4 ง. 1 2 3 และ 4 เฉลย ข สุวรรชฎา ปัญจรักษ์ 22 ก.ย. 61 เวลา 17:02 น.1 like 136,274 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คนยกเลิก |