การบันทึกรายการเกี่ยวกับสินค้าในสมุดรายวันทั่วไปและการผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภททั่วไป วิธีการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับสินค้า ธุรกิจซื้อขายสินค้าเป็นธุรกิจที่ซื้อสินค้ามาจำหน่าย ขนาดของธุรกิจอาจแบ่งได้เป็นขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ในธุรกิจขนาดเล็กเจ้าของอาจเป็นผู้ดำเนินการจัดการภายในธุรกิจของตนเอง แต่ถ้าเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ เจ้าของไม่สามารถจัดการได้เพียงคนเดียว ต้องแบ่งหน้าที่การจัดการเป็นส่วน ๆ ได้แก่ แผนกคลังสินค้า แผนกจัดซื้อ แผนกตรวจรับสินค้า และแผนกบัญชี การขายสินค้าจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ การขายเงินสด การขายเงินเชื่อ และการขายผ่อนชำระ เมื่อกิจการขายสินค้าหรือซื้อสินค้าเพื่อจำหน่ายอาจพบว่าสินค้าแตกหักเสียหาย ดังนั้นผู้ซื้อต้องแจ้งให้ผู้ขายทราบ แบ่งเป็น 1. ด้านผู้ซื้อ ถ้าผู้ซื้อส่งสินค้าคืนไปยังผู้ขาย เรียกว่า “การส่งคืนสินค้า” 2. ด้านผู้ขาย ถ้ารับคืนสินค้าจากผู้ซื้อ เรียกว่า “การรับคืนสินค้า” เพื่อเป็นการจูงใจการซื้อสินค้า และการจ่ายชำระเงิน จึงมีการกำหนดการให้ส่วนลด โดยที่ลูกค้าซื้อสินค้าในปริมาณมาก จะให้ส่วนลดที่เรียกว่า “ส่วนลดการค้า” แต่ถ้าซื้อแล้วลูกค้าชำระเงินภายในกำหนดเวลาที่กำหนดไว้จะได้ส่วนลดที่เรียกว่า “ส่วนลดเงินสด” เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า คือ ข้อตกลงในการขนส่งสินค้าระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แบ่งเป็น 1. F.O.B Shipping Point เป็นการส่งมอบสินค้าต้นทาง ผู้ซื้อเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งสินค้า เรียกว่า “ค่าขนส่งเข้า” 2. F.O.B Destination เป็นการส่งมอบสินค้าปลายทาง ผู้ขายเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งสินค้า เรียกว่า “ค่าขนส่งออก) การบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือ แบ่งเป็น ด้านผู้ซื้อ และด้านผู้ขาย
วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือ มี 2 วิธี คือ 1. วิธีบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง (Perpetual Inventory Method) 2. วิธีบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือเมื่อสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับสินค้าทั้ง 2 วิธี มีความแตกต่าง จึงมีผลทำให้การปิดบัญชี การจัดทำกระดาษทำการ และงบกำไรขาดทุน มีความแตกต่าง แต่งบดุลจะเหมือนกัน สรุปวิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือ
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าในสมุดรายวันทั่วไป การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อซื้อขายสินค้ามี 2 วิธี คือ วิธีบันทึกบัญชีแบบต่อเนื่อง (Perpetual Inventory Method) และวิธีบันทึกบัญชีแบบสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) สำหรับกิจการที่จดทะเบียนเข้าสู่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% มีวิธีการบันทึกบัญชีดังต่อไปนี้
นำมาผ่านรายการบัญชีได้ 2 ตารางดังนี้
เมื่อมีรายการต่อมาดังนี้
ในส่วนของ เงินสด ก็นำมาบันทึกเพิ่มลงในบัญชีเงินสดเดิม ส่วนเจ้าหนี้ ก็แยกออกมาเป็นบัญชีใหม่ ชื่อบัญชีเจ้าหนี้
|