หมูสามชั้น ทำ อะไร กิน ดี

เดี๋ยวนี้กระแสการทานอาหารคลีนหรือลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิคกำลังมาแรงนะคะ เพราะเป็นการเน้นทานอาหารช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนกลับหักโหมและโฟกัสกับการออกกำลังกายหรือลดน้ำหนักมากเกินไป เช่นออกกำลังกายอย่างหนักทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ หรือทานสลัดและอาหารคลีนทั้งสัปดาห์แบบหักดิบ การทำแบบนี้จะส่งผลให้คุณเกิดความเครียดและร่างกายจะอ่อนล้าได้ในที่สุด ดังนั้นคุณไม่ควรลดน้ำหนักแบบหักดิบหรือออกกำลังกายหักโหม และควรมีชีทเดย์ (Cheat Day) สัปดาห์ละหนึ่งวัน ซึ่งชีทเดย์คือวันที่เราไม่จำเป็นต้องโฟกัสกับการออกกำลังกายหรืออาหารการกิน เป็นวันที่ร่างกายของเราจะได้ปลดปล่อยความเมื่อยล้าและความเครียดค่ะ

ไหน ๆ ก็ชีทเดย์แล้วเรามาจัดหนักจัดเต็มกันสักหน่อยดีกว่า ถึงแม้ว่าหมูจะเป็นหนึ่งในสัตว์ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนปริมาณและเปลี่ยนเครื่องปรุงให้คลีนและดีต่อสุขภาพได้ค่ะ วันนี้เราจึงเอา “เมนูหมูสามชั้น” ที่ทำตามได้ง่าย ๆ แต่อร่อยระดับห้าร้อยดาวมาฝาก ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเมนูโปรดของเพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่า

1. หมูกรอบ

หมูกรอบ

ถ้าพูดถึงเมนูหมูสามชั้น อันดับแรกที่หลายคนนึกออกคงจะเป็นเมนูหมูกรอบแน่นอน เพราะการได้เคี้ยวเนื้อหมูนุ่ม ๆ หนังหมูกรอบ ๆ นี่มันช่างฟินเหลือเกิน จะกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อย หรือกินกับซีอิ๊วหวานก็เข้ากัน แต่จะซื้อทีก็แพงแถมได้น้อย จะทำเองบางครั้งก็ไหม้เกินไป บางทีหนังหมูก็เหนียวจนเคี้ยวต่อไม่ไหว อย่าเพิ่งท้อค่ะเพื่อน ๆ เพราะวันนี้เราเอาเคล็ดลับในการทำหมูกรอบกรอบมาแบ่งปัน รับรองว่าเคล็ดลับของเราจะทำให้เพื่อน ๆ กลายเป็นยอดเชฟหมูกรอบภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงแน่นอน ? ?

วัตถุดิบการทำหมูกรอบ

• หมูสามชั้น
• เกลือ หรือ น้ำปลา
• ผงปรุงรส
• น้ำส้มสายชู
• น้ำมัน

วิธีทำหมูกรอบ

แนะนำให้เลือกซื้อเนื้อหมูส่วนท้องเพราะจะมีความนิ่ม หนังบาง และมีมันแทรกพอเหมาะ อันดับแรกนำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วผึ่งให้แห้งหรือซับด้วยกระดาษทิชชู่สำหรับทำอาหาร หลังจากนั้นก็ต้มหมูทั้งชิ้นให้หนังสุกใสเลย แต่ไม่ต้องถึงกับเปื่อยนะคะ ยกลงพักไว้ให้เย็นก่อน

หมูเย็นแล้วก็ใช้ปลายมีดหรือส้อมจิ้มให้ทั่วทั้งชิ้นเลยโดยเฉพาะส่วนหนัง ยิ่งจิ้มเยอะหนังยิ่งพองกรอบสวยงามในทอดค่ะ คุณอาจจะเมื่อยหน่อยแต่อร่อยแน่นอน หลังจากนั้นก็บั้งหนังหมูตามแนวยาว ตอนทอดเสร็จจะได้หั่นง่ายจ้า บั้งแล้วก็จัดการหมักเนื้อหมูด้วยน้ำส้มสายชูและเกลือ คลุก ๆ ให้เกลือและน้ำส้มสายชูสัมผัสกับเนื้อหมูทั่วทั้งชิ้น นวด ๆ ให้หมูผ่อนคลายหายเมื่อยหน่อยนึง หลังจากนั้นพักทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีให้เกลือซึมเข้าเนื้ออีกสักหน่อย

หมูกรอบ

หลังจากหมูของเราหมักได้ที่แล้วก็เอาลงกระทะเลยจ้าใส่น้ำมันให้ท่วมเลยหมูจะได้สุกทั่วทั้งชิ้น แต่ขั้นตอนนี้ระวังหน่อยนะคะเพราะน้ำมันจะกระเด็นแรงมาก ทอดให้เนื้อกลายเป็นสีทองอร่ามทั้งชิ้น เอาขึ้นพักไว้ให้เย็นแล้วเอาลงทอดใหม่ในกระทะใบเดิมด้วยไฟกลาง หมั่นดูถ้าหนังหมูพองฟูและมีกลิ่นหอมจนเราแทบทนไม่ไหวแล้วก็แปลว่าภารกิจนี้สำเร็จ ก่อนจะปิดเตาก็เร่งไฟแรงอีกหน่อยนึงน้องหมูของเราจะได้ไม่อมน้ำมัน หลังจากนั้นก็ยกลง ปิดเตา จัดการหั่นตามขนาดที่ต้องการเลยจ้า

แต่ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เห็นทีว่าเราจะต้องแพ้ให้กับน้ำมันร้อน ๆ อย่างแน่นอนก็จับหมูสามชั้นของเราโยนใส่หม้อทอดไร้น้ำมันหรือหม้ออบลมร้อนเลยจ้า ตั้งอุณหภูมิเริ่มต้นประมาณ 200 องศาเซลเซียส ใช้ประมาณ 30 นาที หรือพยายามเปิดดูบ่อย ๆ เพื่อความแน่ใจก็ได้ค่ะ อย่าลืมคว่ำด้านหนังลงก่อนนะคะ รอดูจนเนื้อหมูสุกแล้วก็ยกลงพักไว้ แล้วกลับด้านหมูอีกครั้ง ใช้ไฟเท่าเดิมเวลาเท่าเดิมแต่เปลี่ยนเอาหนังหมูขึ้น รอจนครบเวลายกหมูลง หั่นตามตามแนวที่บั้งไว้ด้วยความั่นใจ ฉับ! ฉับ! จัดเรียงใส่จาน หาพงหาผักมาตกแต่งหน่อยให้พอมีสีสัน จัดเรียงถ้วยน้ำจิ้มเล็ก ๆ แล้วถ่ายรูปสักแชะพร้อมติด #cheatday สักหน่อย เสร็จแล้วก็เอนจอยจ้า

ปล. ถ้าเพื่อน ๆ ทานหมูกรอบไม่หมดให้เอาหมูใส่กล่องเก็บอาหารแล้วเก็บในตู้เย็นนะคะ เวลาจะทานก็ค่อยตัดแบ่งชิ้นแล้วเอาลงหม้อทอดใหม่สักหน่อยหนังหมูจะได้กรุบกรับเคี้ยวเพลินเหมือนเดิม

2. หมูสามชั้นสไลด์ทอดน้ำปลา

เราได้ทดลองทอดหมูสามชั้นสไลด์ทอดน้ำปลาด้วยหม้อไฟ้าอเนอกประสงค์จาก HAFEL

หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310

อีกหนึ่งเมนูทานเล่นก็ได้ทานกับข้าวก็ดี หมูทอดน้ำปลาบาง ๆ กรอบ ๆ กัดคำแรกกลิ่นหอมน้ำปลาก็ตีขึ้นจมูก โอ้โหบอกเลยว่าท้องร้องจ๊อก ๆ อย่ามัวโอ้เอ้ให้เสียเวลา วันนี้เราเอาสูตรหมูสามชั้นทอดน้ำปลากรอบระดับพุงกระเพื่อมมาฝาก นึ่งข้าวเหนียวให้เรียบร้อยแล้วไปดูวิธีการทำกันเลยจ้า

วัตถุดิบหมูสามชั้นสไลด์ทอดน้ำปลา

• หมูสามชั้น
• น้ำปลา
• แป้งทอดกรอบ
• พริกไทยขาวป่น
• น้ำมันพืช

วิธีทำสามชั้นสไลด์ทอดน้ำปลา

วิธีทำสามชั้นสไลด์ทอดน้ำปลา ด้ววยหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ HAFELE

หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310

ก่อนอื่นเรานำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดก่อนเลยค่ะ ใช้มีขูดตรงหนังหมูเพื่อเอาขนออกให้เรียบพร้อมเผยผิวชมพูสดใส หลังจากนั้นก็จัดการแล่ให้เป็นแผ่นบางพอประมาณ ไม่ควรบางเกินไปนะคะประมาณครึ่งนิ้วกำลังพอดี เสร็จแล้วก็เอาส้อมจิ้มเนื้อหมูให้ทั่วเลย เวลาหมักจะได้เข้าเนื้อเร็ว ๆ และจัดการคลุกน้ำปลาสักสองสามช้อนโต๊ะหรือกะปริมาณความเค็มตามที่เพื่อน ๆ ชอบเลยค่ะ โรยพริกไทยขาวป่นเพิ่มรสชาติอีกนิดหน่อย คลุก ๆ นวด ๆ แล้วหมักทิ้งไว้สัก 30 นาที

หลังจากเนื้อหมูของเราได้ที่แล้วก็เทแป้งทอดกรอบลงไปเลยค่ะ คลุก ๆ ให้แป้งติดกับเนื้อหมูบาง ๆ ทั่วทั้งชิ้น ถ้าเนื้อแห้งไปก็พรมน้ำสักหน่อยแป้งจะได้ไม่หลุดระหว่างทอด เรียบร้อยแล้วก็พักหมูไว้ก่อน

คราวนี้เราหันมาตั้งกระทะเปิดไฟกลางค่อนไปทางแรง ใส่น้ำมันท่วม ๆ หน่อย ใส่เกลือลงไปนิดนึงเนื้อหมูจะได้ไม่ติดกระทะ พอน้ำมันเดือดได้ที่แล้วก็ใส่หมูของเราลงไปเลย หลังจากใส่เนื้อหมูแล้วก็ปรับไฟลงนิดหน่อย ทอดไปเรื่อย ๆ จนเนื้อหมูเป็นสีทองกรอบก็ใช้ได้แล้วค่ะ เสร็จแล้วก็ยกลงหั่นและจัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ได้เลย

ถ้าเพื่อน ๆ มีหม้อทอดไร้น้ำมันหรือหม้ออบลมร้อนก็สามารถนำมาทอดหมูได้น้า แค่นำหมูจัดใส่ตะแกรง ใช้ไฟประมาณ 200 – 300 องศา กะเวลาประมาณ 10 นาทีหรือตามปริมาณและความหนาของเนื้อหมูเลยค่ะ เสร็จแล้วก็พลิกเอาอีกด้านขึ้นอบต่อด้วยไฟและระยะเวลาเท่าเดิม เท่านี้หมูทอดน้ำปลากรอบ ๆ ของเราก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว นอกจากจะได้ทานหมูทอดอร่อย ๆ แล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

3. หมูกระทะ – ปิ้งย่าง – ชาบู ด้วยหมูสามชั้น 

ปิ้งย่างหมูสามชั้น

ไม่ว่าจะวันเกิด, ปีใหม่ หรือโอกาสไหน ๆ ชาบูหมูกระทะก็อยู่คู่คนไทยมาตลอด เพราะเมนูนี้สามารถทานได้ทั้งครอบครัว แถมยังเลือกวัตถุดิบได้ตามใจชอบอีกต่างหาก และหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ชาบูหมูกระทะขาดไม่ได้เลยก็คือ ‘หมูหมัก’ แต่จะหมักหมูยังไงให้นุ่มอร่อยเหมือนทานที่ร้านล่ะ? ไม่ต้องกังวลค่ะ วันนี้มาพร้อมสูตรหมักหมูกระทะนุ่มเด้งถึงเครื่องถึงรส จะมีส่วนผสมอะไรบ้างไปดูกันเลย ? ?

วัตถุดิบปิ้งย่าง ชาบู หมูสามชั้น

• เนื้อหมู
• ซอสหอยนางรม
• น้ำมันงา
• งาขาวคั่ว
• ผงปรุงรส
• แป้งมัน
• ไข่ไก่
• ซีอิ๊วขาว
• เบกกิ้งโซดา
• น้ำตาลทราย

วิธีทำปิ้งย่าง ชาบู หมูสามชั้น

เลือกเนื้อหมูส่วนสันคอหรือสันนอก เพราะส่วนนี้จะมีมันแทรกและนิ่มมากที่สุด พอเพื่อน ๆ ย่างมันจะช่วยให้เนื้อหวานและไม่แข็งจนปวดกราม หลังจากได้เนื้อแล้วก็ล้างทำความสะอาด ถ้าเป็นเนื้อก้อนใหญ่ก็จัดการใช้มีดแล่บาง ๆ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป

หลังจากเนื้อหมูพร้อมแล้วก็ผสมซอสหอยนางรม, ผงปรุงรส, แป้งมัน, ไข่ไก่, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย, เบกกิ้งโซดา, งาขาว และน้ำมันงา คลุกเคล้ากับเนื้อหมูให้เข้ากัน น้ำมันงาจะช่วยให้เนื้อของเราหอมส่วนเบกกิ้งโซดาจะทำให้เนื้อมีความนุ่มเด้งค่ะ หมักทิ้งไว้อย่างน้อยสามสิบนาที ยิ่งหมักนานก็ยิ่งอร่อยน้า

หลังจากหมักหมูเรียบร้อยแล้วเราก็หันมาเตรียมน้ำซุปกันบ้าง เริ่มจากการต้มน้ำใส่กระดูกหมู, รากผักชี และหัวไชเท้า เคี่ยวจนน้ำซุปหอม ใส่เกลือและผงปรุงรสนิดหน่อยให้พอมีรสชาติ หลังจากกระดูกหมูเปื่อยได้ที่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ถ้าอยากได้น้ำซุปใส ๆ ก็สามารถกรองเอาหัวไชเท้าและกระดูกหมูออกได้ค่ะ สูตรนี้จะทำให้น้ำซุปหวานและหอมกระดูกหมูส่วนหัวไชเท้าก็นุ่มหวานสุด ๆ

น้ำซุปเสร็จแล้ว หมูก็หมักได้ที่แล้ว และเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง จัดการเอาหม้อชาบูออกมาเติมน้ำซุป ส่วนวิธีการกินชาบูให้อร่อยควรเริ่มจากการจุ่มเนื้อก่อน ขั้นตอนนี้จะทำให้น้ำซุปของเราหอมเครื่องหมักเนื้อ หลังจากนั้นค่อยตามด้วยผัก ลวกเนื้อจนสุกได้ที่แล้วก็จิ้มน้ำจิ้มสุกี้รสกลมกล่อมตามด้วยผักและน้ำซุป บอกเลยว่าฟินนนนนน ส่วนเนื้อก็แบ่งไปย่างให้เกรียมหน่อยทานพร้อมผักสดได้ฟีลนูน่าเกาหลีสุด ๆ

4. หมูสามชั้นผัดกะปิ

หมูสามชั้นผัดกะปิ

Ayo, southern food lover checkkk ✔ คนรัก “อาหารใต้” ต้องรู้จักเมนูนี้แน่นอนเพราะกลิ่นของเขาหอมฟุ้ง เดินผ่านมีน้ำลายสอกันบ้างแหละ ซึ่งเมนูนี้ก็ทำไม่ยากเลยค่ะ ส่วนผสมหาง่ายมากแถมยังอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพมาก ๆ อีกด้วย หุงข้าวให้เสร็จสรรพแล้วไปดูวิธีการทำกันเลยจ้าสาวนุ้ย

วัตถุดิบหมูสามชั้นผัดกะปิ

• เนื้อหมู
• กะปิ
• พริกขี้หนู/
• กระเทียม
• ใบมะกรูด
• น้ำตาล
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูสามชั้นผัดกะปิ

ล้างทำความสะอาดเนื้อหมูหลังจากนั้นหั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ยิ่งเป็นหมูสามชั้นยิ่งดีนะคะเพราะจะให้เนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ มีมันแทรกนิด ๆ แล้วก็หันมาเด็ดพริก ปอกเปลือกกระเทียม (ยิ่งเป็นกระเทียมไทยยิ่งดีค่ะ) เลือกใบมะกรูดแล้วเอาทั้งหมดไปล้างทำความสะอาดให้เกลี้ยงเกลา เสร็จแล้วจับเอาพริกกระเทียมไปตำให้พอแหลก ไม่ต้องถึงกับละเอียดมาก

ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย จากนั้นก็ผัดหมูให้สุกเหลืองเลยค่ะ ยิ่งด้านนอกกรอบ ๆ นิดนึงก็ยิ่งดี เสร็จแล้วใช้ตะหลิวเขี่ยไว้ขอบกระทะก่อน ใส่พริกกระเทียมตำลงไปผัดให้หอมตามด้วยกะปิอย่างดีสักหนึ่งช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลหน่อย ๆ ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน ถ้าแห้งเกินไปก็เติมน้ำได้นิดหน่อยนะคะ หลังจากทุกอย่างในกระทะได้ที่แล้วก็ฉีกใบมะกรูดตามลงไปเลยค่ะ คลุกเคล้าให้หอมไปสามบ้านแปดบ้านก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมทาน ยิ่งใส่สะตอลงไปด้วยยิ่งอร่อยครบเครื่อง

5. หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว

หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว

เปลี่ยนมาทานเมนูนุ่ม ๆ กันบ้างกับเมนู หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว เมนูง่าย ๆ เหมาะกับทุกโอกาส ซึ่งหมูสามชั้นต้มซีอิ๊วเป็นเมนูขึ้นชื่อจากจังหวัดภูเก็ต ว่ากันว่าเมนูนี้เดินทางมาจากประเทศจีนเลยนะคะ เนื้อหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ ๆ ต้มจนเปื่อยนุ่ม มาพร้อมกับน้ำราดเข้มข้นหอมกลิ่นขิงเป็นเอกลักษณ์ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี

วัตถุดิบหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว

• เนื้อหมู
• ซีอิ๊วดำหวาน
• ซอสปรุงรส
• กระเทียม
• พริกไทย
• รากผักชี
• ขิง
• เหล้าจีน
• น้ำตาลปี๊บ

วิธีทำหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว

ล้างวัตถุดิบทั้งหมดให้สะอาด หลังจากนั้นทุบขิง, กระเทียม และรากผักชีพักไว้ เสร็จแล้วหันไปตั้งหม้อใส่น้ำพอประมาณและใส่วัตถุดิบที่เราทุบก่อนหน้าพร้อมพริกไทยลงไป รอน้ำเดือด ระหว่างรอน้ำเดือดเราก็จัดการหั่นหมูสามชั้นให้เป็นชิ้นหนาพอประมาณ ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้ทั่วทั้งชิ้นจะได้ซึมซับรสชาติและเปื่อยเร็วขึ้น หลังจากน้ำเดือดแล้วก็ใส่หมูของเราลงไปเลย ถ้าเพื่อน ๆ มีหม้ออัดแรงดันไฟฟ้าก็ทำซ้ำขั้นตอนแรกในหม้ออัดแรงดันพร้อมใส่หมูลงไปเลยค่ะ จะได้ประหยัดเวลาและหมูยังเปื่อยนุ่มเร็วขึ้นอีกด้วย

หลังจากหมูสุกแล้วเราก็ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส, เหล้าจีน และน้ำตาลปี๊บ เสร็จแล้วเติมซีอิ๊วดำหวานลงไปสักหน่อยจะได้มีสีสันน่ารับประทาน ที่นี้ก็ตุ๋นหมูทิ้งไว้ยาว ๆ เลย ระหว่างรอคุณสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นพื่อฆ่าเวลา หลังจากหมูของเราเปื่อยนุ่มหอมได้ที่แล้วก็จัดการตักเสิร์ฟ อาจจะลวกหน่อไม้ฝรั่งหรือคะน้ารองก้นก็ได้นะคะ แล้วก็ตักน้ำตุ๋นราดลงไป ทานกับข้าวหอมมะลิร้อน ๆ หรือจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดนิดนึงรู้ตัวอีกทีข้าวหมดหม้อแล้วค่ะ

6. หมูหวาน หมูสามชั้นผัดหวาน

หมูหวาน หมูสามชั้นผัดหวาน

เมนูซอฟต์ ๆ เอาใจเด็ก ๆ ซึ่งหมูหวานก็มีมานานมากแล้วนะคะ เมนูนี้สามารถดัดแปลงหรือทานร่วมกับเมนูอื่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ทานกับข้าวคลุกกะปิหอม ๆ หรือทานกับข้าวต้มก็เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว อย่ารอช้าเราไปเข้าครัวทำหมูหวานไว้ทานกันเลยดีกว่า

วัตถุดิบหมูหวาน

• เนื้อหมู
• หอมแดง
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำเปล่า
• ซอสปรุงรส
• ซีอิ๊วดำหวาน

วิธีทำหมูหวาน

เริ่มจากการเลือกซื้อเนื้อหมูช่วงท้องหรือราวนมเพราะเนื้อบริเวณนี้จะนุ่มและมีชั้นไขมันน้อย หลังจากนั้นก็นำมาล้างทำความสะอาด ใช้มีดขูดหนังหมูให้สะอาดผุดผ่องก่อนค่ะ เสร็จแล้วก็หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ไม่หนาไม่บางจนเกินไป แล้วหันมาปอกหอม ทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วซอยหอมตามปริมาณที่ต้องการเลยค่ะ ชอบมากใส่มาก ชอบน้อยใส่น้อย

หลังจากเตรียมหมูกับหอมซอยเสร็จแล้วก็เอาทั้งหมดใส่หม้อ ใส่น้ำให้ท่วมเนื้อหมูแล้วตั้งเตาให้เดือดเลยจ้า ขั้นตอนนี้ต้องคอยตักฟองออกเป็นระยะน้ำจะได้ไม่ขุ่นและหมูจะมีรสชาติดีด้วย ต้มทิ้งไว้ให้หมูเปื่อยและน้ำงวดลงอีกหน่อย

หมูนุ่มได้ที่แล้วก็ใส่ซอสปรุงรสและซีอิ๊วดำหวานตามลงไป ต้องระวังอย่าใส่ซีอิ๊วเยอะเกินไปนะคะ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เหยาะทีละนิดจนเนื้อหมูเข้มนิดหน่อยก็พอแล้ว หลังจากนั้นก็ใส่น้ำตาลปี๊บแล้วคนจนน้ำตาลละลายเลยค่ะ เหตุผลที่ใส่น้ำตาลปี๊บหลังสุดเพราะน้ำตาลจะไม่รัดเนื้อหมู หมูของเราก็จะนุ่มเคี้ยวเพลิน หลังใส่น้ำตาลแล้วก็ปิดฝาเคี่ยวต่ออีกนิด สังเกตุให้น้ำแห้งและข้นหนืดก็เป็นอันเรียบร้อย ปิดเตาจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

7. ต้มจับฉ่ายหมูสามชั้น

เมนูล้างตู้เย็นยอดฮิตของหลาย ๆ บ้าน มีอะไรเหลือติดตู้ก็ใส่ลงไปอย่าได้ลังเล ต้มหมูและผักเปื่อย ๆ เค็ม ๆ ทานได้ไม่มีเบื่อ และด้วยความที่ต้มจับฉ่ายไม่มีสูตรตายตัวทำให้เราสามารถดัดแปลงใส่ผักอะไรก็ได้ที่เราชอบ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหัวไชเท้า เพราะเจ้าสิ่งนี้จะทำให้ซุปมีความหวานหอมกลมกล่อม ? ?

วัตถุดิบต้มจับฉ่ายหมูสามชั้น

• เนื้อหมู
• ผักสด
• หัวไชเท้า
• กระเทียม
• รากผักชี
• พริกไทย
• น้ำมันพืช
• ซีอิ๊วขาว
• ซีอิ๊วดำ
• น้ำตาล
• เกลือ
• น้ำเปล่า

วิธีทำต้มจับฉ่ายหมูสามชั้น

อันดับแรกเรานำเนื้อหมูและผักสดมาล้างทำความสะอาดก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นก็หั่นเนื้อหมูให้เป็นชิ้นพอดีคำ ไม่ต้องใหญ่มาก เสร็จแล้วก็จัดการหั่นผักกันต่อ ปอกหัวไชเท้าแล้วหั่นชิ้นพักไว้ ปอกกระเทียมแล้วนำไปตำรวมกับรากผักชีและพริกไทยให้ละเอียด เรียกกันว่าสามเกลอค่ะ เสร็จแล้วก็ตั้งหม้อต้มน้ำรอไว้

หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เปิดเตาตั้งกระทะให้เรียบร้อย ใส่น้ำมันและตามด้วยสามเกลอ ผัดให้หอมแล้วใส่หมูที่เราหั่นไว้แล้วลงไปผัดต่อจนสุก ตามด้วยผักสดที่เตรียมไว้ ผัดจนผักสลดแล้วค่อยยกลงจากเตาพักไว้ ขณะเดียวกันก็ใส่หัวไชเท้าในหม้อน้ำที่เดือดได้ที่ หลังจากหัวไชเท้าสุกนิ่มก็ใส่ผักและหมูที่ผัดไว้ลงในหม้อเลย ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลืออย่างละนิดอย่างละหน่อย ตามด้วยซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำเพื่อเพิ่มสีสัน ต้มต่อจนผักเปื่อยนุ่มน้ำซุปเข้มข้น ชิมดูให้มีรสชาติเค็มหวานก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

8. หมูสามชั้นทอด

หมูสามชั้นทอด

อาหารจานหลักในวัยเด็ก ไม่รู้จะกินอะไรก็ทำหมูทอดเอาไว้ก่อน หมูทอดกรอบ ๆ ร้อน ๆ ทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ วันนี้เราเลยเอาวิธีทำหมูทอดมาฝากเพื่อน ๆ รับรองว่าสูตรของเราอร่อยไม่แพ้ร้านดังแน่นอน เตรียมกระดาษปากกาจดเลยจ๊ะ อย่าลืมแช่ข้าวเหนียวไว้ก่อนด้วยนะ ? ?

วัถุดิบหมูสามชั้นทอด

• เนื้อหมู
• แป้งทอดกรอบ
• ซีอิ๊วขาว
• ผงปรุงรส
• กระเทียม
• รากผักชี
• งาขาว
• พริกไทย
• น้ำมันพืช

วิธีทำหมูสามชั้นทอด

ขั้นตอนแรกนำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดแล้วใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วน้ำหมักจะเข้าเนื้อเร็วขึ้น หลังจากนั้นนำกระเทียม, รากผักชี และพริกไทยไปตำรวมกันให้ละเอียดเลยค่ะ นำมาคลุกเค้ากับเนื้อหมูให้ทั่ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและผงปรุงรสเล็กน้อยตามด้วยงาขาว นวดผสมให้หมูและน้ำหมักเข้ากันหลังจากนั้นหมักในตู้เย็นประมาณ 20 นาที

ครบ 20 นาทีแล้วนำหมูออกมาพัก คลุก ๆ อีกครั้งและใส่แป้งทอดกรอบลงไปเลยค่ะ คลุกให้แป้งคลุมเนื้อหมูบาง ๆ ไม่ต้องหนา แล้วก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอเลย ก่อนน้ำมันร้อนแนะนำให้บีบน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำมันสักสองปี๊ด น้ำส้มสายชูจะช่วยให้หมูฟูและกรอบ น้ำมันร้อนแล้วใส่หมูลงไปเลย ทอดทิ้งไว้ให้เหลืองทองสวยงามแล้วเร่งไฟแรง ทอดหมูต่ออีกสี่ห้านาทีก็ยกมาผึ่งให้สะเด็ดน้ำมัน

หมูสูกแล้วก็หั่นให้ได้ขนาดตามต้องการแล้วทานคู่กับน้ำจิ้มที่ชอบเลยค่ะ ยิ่งได้ข้าวเหนียวสักห่อกับจิ้มแจ่วเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ถือว่าเป็นเพอร์เฟ็คคอมบิเนชั่น

9. สามชั้นคั่วพริกเกลือ

หมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ

สามชั้นคั่วพริกเกลือ เมนูสุดฮิตที่เหมาะเป็นกับแกล้มมากกว่ากับข้าว รสชาติเผ็ดเค็มนัว ๆ เข้ากันอย่างลงตัว หอมพริกหอมกระเทียมฟุ้งไปทั้งบ้านทำหนึ่งครั้งคนรู้กันทั้งซอย อย่ารอช้าเราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ รับรองว่าง่ายแสนง่าย

วัตถุดิบสามชั้นคั่วพริกเกลือ

• เนื้อหมู
• รากผักชี
• กระเทียม
• พริกขี้หนู
• ผงปรุงรส
• เกลือ

วิธีทำสามชั้นคั่วพริกเกลือ

อันดับแรกก็หั่นเนื้อหมูให้มีขนาดตามที่ต้องการเลย หลังจากนั้นก็จัดการสับกระเทียม, รากผักชี และพริกขี้หนู ตั้งกระทะแล้วเอาเนื้อหมูลงไปผัดเลยค่ะ ไม่ต้องเติมน้ำมันเพราะเดี๋ยวน้ำมันหมูจะออกมาอีก หลังจากน้ำมันหมูออกมาแล้วก็ทอดต่อจนหมูเหลืองกรอบ ถ้าน้ำมันมีเยอะเกินไปก็เทออกไปหน่อยนะคะ เหลือไว้พอขลุกขลิกก็พอแล้ว

เขี่ยหมูทอดไว้ขอบกระทะแล้วใส่กระเทียม, รากผักชี แล้วก็พริกที่เราสับไว้ลงไปกลางกระทะเลยค่ะ ผัดให้มีกลิ่นหอมแล้วเอาเนื้อหมูมาคลุกอีกที เติมผงปรุงรสและเกลืออีกหน่อย ชิมรสชาติให้เผ็ด ๆ เค็ม ๆ ก็ถือว่าใช้ได้แล้วล่ะค่ะ รีบยกลงจากเตาก่อนที่กระเทียมและพริกไหม้แค่นี้สามชั้นคั่วพริกเกลือของเราก็พร้อมรับประทาน เทน้ำลำไยเย็น ๆ รอเลยจ้า

10. ไข่พะโล้หมูสามชั้น

ไข่พะโล้หมูสามชั้น

ปิดท้ายกันด้วยเมนูยอดฮิตเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ดูเหมือนจะหาทานง่ายแต่ถ้าจะเอาแบบต้นตำรับเดี๋ยวนี้หายากค่ะ เพราะเท่าที่เห็นในปัจจุบันน้ำพะโล้จะใสและออกหวานอย่างเดียวเลย วันนี้เราจึงมาพร้อมกับสูตรพะโล้ต้นตำรับ น้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่นเครื่องเทศ ยิ่งเคี่ยวยิ่งหอมเข้าเนื้อ! ? ?

วัถุดิบไข่พะโล้หมูสามชั้น

• เนื้อหมู
• ไข่
• น้ำตาลปี๊บ
• รากผักชี
• กระเทียม
• พริกไทย
• ซีอิ๊วขาว
• ซีอิ๊วดำ
• ผงปรุงรส
• น้ำเปล่า
• เกลือ
• น้ำมันพืช
• เครื่องพะโล้

วิธีทำไข่พะโล้หมูสามชั้น

ต้มน้ำ ใส่เกลือ และใส่ไข่ลงไปต้มจนสุก การใส่เกลือลงไปในน้ำต้มจะช่วยให้เราปอกเปลือกไข่ง่ายขึ้น เนื้อไข่ไม่ติดเปลือกค่ะ หรือจะใช้เป็นเครื่องต้มไข่ก็สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มากเลยค่ะ

หลังจากต้มไข้แล้วก็กันมาล้างทำความสะอาดและหั่นหมูให้มีขนาดพอดี ๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป เสร็จแล้วก็ตำกระเทียม, พริกไทย รากผักชีให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ เวลาต้มจะได้ละลายไปกับน้ำไม่ลอยขึ้นมา

ตั้งหม้ออีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อแล้วนำวัตถุดิบที่เราตำไว้ลงไปผัดพร้อมกับเครื่องพะโล้ให้หอม หลังจากนั้นตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ผัดต่อจนน้ำตาลละลายและมีสีเข้มแต่ระวังอย่าให้น้ำตาลไหม้ หลังจากนั้นก็ใส่หมูของเราลงไปเลยค่ะ ผัดให้หมูเกือบสุกก็ใส่ไข่และตามด้วยน้ำเปล่าจนท่วม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, ผงปรุงรส, เกลือ และซีอิ๊วดำ คนให้เข้ากันและต้มทิ้งไว้

ระหว่างต้มคอยตักฟองออกเป็นระยะน้ำพะโล้จะได้ใส ไม่ขุ่นและมีรสชาติกลมกล่อม หลังจากนั้นก็ตุ๋นยาว ๆ เลยค่ะประมาณครึ่งชั่วโมงหรือจนหมูนุ่มเปื่อย แต่ถ้ามีหม้อตุ๋นไฟฟ้าก็จับโยนโบ๊ะ ตั้งเวลาแล้วนั่งรอสวย ๆ หลังจากนั้นชิมรสชาติให้มีออกเค็ม ๆ หวาน ๆ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ปิดไฟยกจากเตาเลยค่ะ พร้อมเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนูหมู ๆ ที่เรานำมาฝากวันนี้ แต่ละเมนูดูน่ารับประทานชวนน้ำลายสอทั้งนั้นเลยแถมยังทำไม่ยากอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ พอมีเวลาหรือคิดไม่ออกว่าเย็นนี้จะกินอะไรดีก็ลองทำตามเมนูของเราได้นะคะ รับรองว่าอร่อยเด็ดแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะและหมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพด้วยนะคะ ส่วนตอนนี้ต้องขอตัวไปนอนดูซีรีส์ก่อนแล้วค่ะ ไว้เจอกันบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ