ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเมืองฟุกุโอกะ ไม่แพ้เมืองอื่นๆ อย่างโตเกียว หรือ ซัปโปโร ในญี่ปุ่น เพราะฟุกุโอกะถือเป็นเมืองที่ใหญ่มากที่สุดของเกาะคิวชู เกาะที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น นอกจากความใหญ่ของพื้นที่แล้ว ฟุกุโอกะยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่นเลยด้วยนะ ใหญ่ขนาดนี้ .. บอกเลยว่าฟุกุโอกะมีครบทุกอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวธรรมชาติ วัดวาศาลเจ้า ช็อปปิ้ง หรือแม้แต่การตะลอนกิน ซึ่งแน่นอนว่าการมาเที่ยวเกาะคิวชูนั้น คงเริ่มเที่ยวจากที่ไหนอื่นเป็นไม่ได้ ถ้าไม่ได้เริ่มจากเมืองฟุกุโอกะ ฮ่า Show
Go to top แพลนเที่ยวเกาะคิวชู ตอนเหนือสำหรับทริปเที่ยวเกาะคิวชูเหนือครั้งนี้ ก๊อตใช้เวลาเที่ยวทั้งหมด 8 วัน โดยมีเมืองและสถานที่หลักๆ เลยคือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) นางาซากิ (Nagasaki) ยุฟุอิน (Yufuin) คุมาโมะโตะ (Kumamoto) และยังมีอีกสองเมืองย่อยๆ ที่อยู่ในจังหวัด คุมะโมะโตะ (Kumamoto) ที่ก๊อตจะทำรีวิวแยกเลยคือ ทาคาจิโฮะ (Takachiho) และ ภูเขาอะโสะ (Mount Aso) ที่ก๊อตเที่ยวเต็มๆ แบบวันละที่เลย ซึ่งดีมากกกก ยังไงลองดูแพลนเที่ยวได้ และสามารถคลิกดูรีวิวแบบละเอียดในแต่ละเมืองได้เล้ย 👀✨ วันที่เมืองที่นอนแพลนเที่ยวคิวชูเหนือ1ฟุกุโอกะฟุกุโอกะ (Fukuoka) รวมรีวิวเที่ยวคิวชูทุกตอนจาก Hashcorner
Go to top เที่ยวเกาะคิวชูแบบนี้ต้องซื้อพาสรถไฟ JR มั้ย ?หากเราเที่ยวเกาะคิวชูโดยที่เราออกนอกตัวเมืองฟุกุโอกะล่ะก็ แนะนำให้ซื้อพาสรถไฟของ JR เพื่อความประหยัด สะดวก และรวดเร็ว โดยพาสที่แนะนำ คือ JR Kyushu Rail Pass ซึ่งมันแตกแยกย่อยออกเป็น 3 พาส ได้แก่ All Kyushu Area Pass, Northern Kyushu Area Pass และ Southern Kyushu Area Pass ซึ่งอันนี้อยู่ที่เราแล้วว่าแพลนไปที่ไหนบ้างในเกาะคิวชูบ้าง
ถ้าอยากให้แนะนำแบบซื้อง่าย จ่ายง่าย ไปรับสะดวก ผมจะแนะนำให้ซื้อออนไลน์ที่เว็บ Klook ที่เค้าเป็นเว็บขายตั๋วท่องเที่ยวเกือบทุกอย่างบนโลกนี้ ฮ่าๆ ด้วยความที่ราคาถูกกว่าชาวบ้านชาวช่องแล้ว มันสะดวกเพราะเรากดซื้อและจ่ายเงินตัดบัตรเครดิตผ่านเว็บได้เลย ทีนี้ Klook เค้าจะส่ง Exchange Order หรือใบยืนยันการจองมาให้เราทางอีเมล จากนั้นเราสามารถปริ้นเอาใบนี้ไปยื่นบัตรจริงได้เลยที่ JR Ticket Office ซึ่งสาขาที่ผมไปแลกนั้นอยู่ในสถานีรถไฟ JR Hakata เลย จากประสบการณ์ส่วนตัว จะบอกว่าการซื้อ JR Northern Kyushu Pass กับ Klook สะดวกมากกก โดยก๊อตซื้อก่อนวันไปญี่ปุ่นแค่ 2 วันเท่านั้น ซึ่งมันดีที่พาสนี้ เราไม่ต้องมารอใบ Exchang Order มาส่งให้ที่บ้านให้ยุ่งยาก แค่ปริ้นจากอีเมล แล้วไปแลกที่ญี่ปุ่นแค่นั้น จบเลยจริงๆ ถือว่าง่ายกว่าปกติมากเลย
ส่วนลด 30% [⚡️ด่วน จำนวนจำกัด] ส่วนลด 30% สำหรับ JR KYUSHU RAIL PASS (All Kyushu) เมื่อซื้อผ่าน Klookด่วน! ส่วนลด 30% off JR KYUSHU RAIL PASS เฉพาะแบบ All Kyushu Area เมื่อซื้อผ่าน Klook * Northern / Southern Kyushu Pass ไม่ร่วมรายการ รีบกดรับส่วนลด และใช้ซื้อ Klook ได้เลย KNWJRKRP30 คลิกดูโค้ดส่วนลด [⚡️ด่วน จำนวนจำกัด] ส่วนลด 30% สำหรับ JR KYUSHU RAIL PASS (All Kyushu) เมื่อซื้อผ่าน Klook ×ด่วน! ส่วนลด 30% off JR KYUSHU RAIL PASS เฉพาะแบบ All Kyushu Area เมื่อซื้อผ่าน Klook * Northern / Southern Kyushu Pass ไม่ร่วมรายการ รีบกดรับส่วนลด และใช้ซื้อ Klook ได้เลย KNWJRKRP30 Copy โค้ด KNWJRKRP30 ไปที่เว็บสรุปพาสรถไฟของคิวชู
ส่วนลด 12% ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 555 บาท เมื่อซื้อกิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น ขั้นต่ำ 3,500 บาทKonnichiWow รับส่วนลดสูงสุด 800.- สำหรับกิจกรรมในญี่ปุ่น เงื่อนไขและข้อตกลง หมดอายุ: 15-01-2023 หมดอายุไปแล้วเมื่อ: 15-01-2023 ไม่มีวันหมดอายุ JPWOW12 คลิกดูโค้ดส่วนลด ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 555 บาท เมื่อซื้อกิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น ขั้นต่ำ 3,500 บาท ×KonnichiWow รับส่วนลดสูงสุด 800.- สำหรับกิจกรรมในญี่ปุ่น เงื่อนไขและข้อตกลง
JPWOW12 Copy โค้ด JPWOW12 ไปที่เว็บGo to top แนะนำที่พักและโรงแรมในฟุกุโอกะ (Fukuoka)คนที่กำลังหาที่พักใน ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อยู่ล่ะก็ ก๊อตจะแนะนำย่านที่พักให้ โดยก๊อตขอแบ่งแยกออกเป็นสองย่านที่สะดวกที่สุดในการเลือกที่พักในฟุกุโอกะ คือ ฮากาตะ (Hakata) และ เทนจิน (Tenjin) ซึ่งแต่ละย่านเค้าก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน ดังนั้น เลือกตามที่ตัวเองชอบและสะดวกได้เลย เลือกย่านได้แล้ว ก็ลองดูๆ โรงแรมที่ก๊อตแนะนำก็ได้ครับ อันนี้คัดมาให้แบบเริ่ดๆ แล้วว 🏨 ดูที่พักแนะนำในฟุกุโอกะ จาก Agoda / Traveloka / Trip.com / Expedia / Booking.com#1 ฮากาตะ (Hakata)ถ้าจะให้แนะนำที่พักในย่านที่สะดวกที่สุดสำหรับการเที่ยวในฟุกุโอกะ แนะนำให้พักในโซนรอบ สถานีรถไฟฮากาตะ (Hakata Station) ที่เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และเป็นศูนย์รวมการเดินทางทั้งหมดเลยก็ว่าได้ จะเดินทางมาจากสนามบินก็สะดวก มีทั้งสถานีรถไฟใต้ดิน (Subway) ที่ใช้เดินทางภายในเมืองฟุกุโอกะ และยังเป็นสถานีรถไฟ JR และสถานีรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) ที่ใช้เดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ในเกาะคิวชู หรือไปได้ทั่วสารทิศของญี่ปุ่น ดังนั้น โซนนี้คือสะดวกสุดแล้วเด้อ และนอกจากสถานีรถไฟ แถวฮากาตะเองยังมีร้านอาหารและห้างเยอะแยะมากมายอีกด้วย ไม่มีที่ไหนปังเท่าตรงนี้เลย ที่พักและโรงแรมแนะนำ
#2 เทนจิน (Tenjin)ส่วนตัวเลือกที่สองรองจากฮากาตะคือ ย่านเทนจิน (Tenjin) ที่นี่นั้นเด่นดังเรื่องช็อปปิ้งขั้นสุด การเดินทางก็สะดวกรองลงมาจากฮากาตะคือ มีรถไฟใต้ดิน (Subway) และมีสถานีรถไฟของบริษัทนิชิเท็ตสึ (Nishitetsu) สำหรับเดินทางไปยังเมืองดาไซฟุ (Dazaifu) นั่นเอง ที่พักและโรงแรมแนะนำ
Go to top วันแรก: ฟุกุโอกะวัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)จริงๆต้องบอกก่อนว่า ก่อนที่ผมจะมาเที่ยวฟุกุโอกะและเกาะคิวชู คือผมเที่ยวโอกินาว่ามาก่อน ทีนี้พอเที่ยวโอกินาว่าเสร็จก็บินในประเทศต่อมายังฟุกุโอกะเลย กว่าจะมาถึงที่นี่ก็บ่ายๆแล้ว ดังนั้น วันแรกของการเที่ยวฟุกุโอกะจะไปแค่ที่เดียวคือ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ครับผม ฮี่ฮี่ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) อยู่ในเมือง ซาซะกูริ (Sasaguri) นั่งรถไฟจากฟุกุโอกะแปปเดียวก็ถึงล๊าวว ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น วิธีมาก็ไม่ยากคือ ให้เราขึ้นรถไฟสาย JR Sasaguri Line ไปลงที่สถานี Kido Nanzoin-mae Station จากนั้นเดินตามทางอีกนิดหน่อย
ตัววัดนันโซอิน คือเงียบสงบมาก มีฟีลความเป็นวัดจริงๆ ไม่ใช่วัดสำหรับการท่องเที่ยว (ที่คนน้อยอาจจะเพราะผมไปถึงตอนสามโมงเย็นด้วยมั้ง ฮ่าๆ) ด้วยฟีลสงบๆแบบนี้ ทำให้ตัวผมเองรู้สึกดีและชอบวัดนี้มากเลยแหละ เมื่อเราเดินเข้ามาเราจะเจอกับพระพุทธรูปที่พุงเปลี่ยนจากสีทองสำริดเป็นสีทองแดงเพราะโดนคนลูบ ซึ่งเค้าเชื่อกันว่าถ้าเราลูบท้องของพระพุทธรูปองค์นี้ เราจะโชคดี 😁 หากใครมีเวลาเยอะสามารถเดินเล่นบริเวณนี้ของวัดได้ ซึ่งเมื่อเดินมาตามทางเดิน ผ่านตัววัดไปก็จะเจอกับรูปปั้นเทพองค์ใหญ่ และเมื่อมองไปทางซ้ายมือ เราก็จะเจอทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าเล็กๆด้านบน จากนั้นเราจะไปยังจุดไฮไลท์ของวัดนี้ ซึ่งก็คือพระนอนสำริด ที่ญี่ปุ่นเค้าเคลมว่าใหญ่ที่สุดในโลกกัน ทีนี้ทางเดินไปยังจุดหมาย ให้เราเดินกลับมาที่บริเวณตัววัดและสังเกตป้ายภาษาอังกฤษที่เขียนว่า Big Buddha จากนั้นเดินตามทางจนเจอทางที่เป็นอุโมงค์ซึ่งจะนำเราไปยังพระนอนสำริดนั่นเอง ระหว่างทางเราจะเจอกับ เทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7 (七 福神, Shichifukujin) ของญี่ปุ่น แนะนำให้หยุดไหว้และขอพร ซึ่งที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องของการขอโชคลาภมากกกแกร๊
หลังจากออกจากอุโมงค์ เราจะเจอกับลานโล่งที่แบ่งเป็นสองทาง ทางนึงคือไปศาลเจ้าด้านบน อีกทางคือไปพระนอนสำริด โดยผมแนะนำว่าให้ไปพระสำริดกันก่อนเด้อ แล้วค่อยเดินวนกลับมาทางศาลเจ้าด้านบน เมื่อถึงจุดหมายแรกของผม พระนอนสำริดที่นี่คือองค์ใหญ่มากจริงและสวยมากกก .. ที่พีคคือ ตอนที่ผมไปถึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีคนเลย เงียบสงบอย่างแท้จริง จนนี่ตกใจว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จักสถานที่แห่งนี้เลยจริงๆ หรือเรามาเย็นเกินไป จนวัดเงียบมากขนาดนี้ฟ่ะ
ตอนนั้นคือไม่ได้เข้าไปยังฐานใต้พระพุทธรูป เพราะต้องรีบทำเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แต่แค่ได้เดินรอบๆก็อิ่มเอมแล้วแหละ ต่อไปเราจะเดินไปยังศาลเจ้าด้านบนกันต่อ โดยเดินย้อนตามทางที่เรามาจนเจอกับรูปปั้นหินประจำวันเกิดทั้ง 7 ที่ใส่เสื้อผ้าสีสันน่ารัก ซึ่งจะมีทางเดินฉีกขึ้นไปยังศาลเจ้าด้านบนที่เรากำลังจะไปนั่นล่ะ
ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามาช่วงกลางวันน่าจะสวยน้อยกว่าช่วงเย็น ช่วงที่ผมเดินมาตรงนี้คือประมาณ 5 โมง ใกล้จะมืดแล้ว ทางศาลเจ้าจึงเปิดไฟตามทางเดินระหว่างซุ้มประตูศาลเจ้า เรียงกันสวยมาก ขอบอกตรงนี้เลยว่า มองจากรูปภาพสวยไม่เท่าเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ ฮ่าๆ ที่ดีย์คือ ไม่มีคนเลย บางทีก็เงียบจนวังเวงเกือบจะขนลุก ฮ่าๆ สรุปวันแรกของการเที่ยวฟุกุโอกะ คือนี่ประทับใจกับ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ค่อนข้างมาก ใจจริงนี่ไม่ค่อยอินอะไรกับวัดหรือศาลเจ้ามากเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองแก่ขึ้นมั้ยหรือยังไง คือแบบ การเดินเอื่อยๆ ชิลๆในวัดที่สงบแบบนี้ มันก็สนุกและอิ่มเอมใจจังเล้ย โอ้ยย .. หรือเราแก่ขึ้นแล้วจริงๆ ฮือ // ก่อนขึ้นรถไฟกลับ เจอแมวน่าร้าก จะเข้าไปจับกอดแต่แมวกลัวนี่เลยวิ่งหนี 55555555555 🤣 Go to top วันที่สอง: ดาไซฟุ + ฟุกุโอกะซื้อพาสก่อน! Fukuoka Tourist City Passการเที่ยวฟุกุโอกะให้ประหยัดมากขึ้น แนะนำให้ซื้อ Fukuoka Tourist City Pass ได้เลย มันจะเป็นบัตร (ที่แม่มใหญ่ชิบหาย) ไว้ใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถไฟบนดิน และรถเมล์ในเมืองฟุกุโอกะ ทีนี้อาจจะต้องทำความเข้าใจกับแพลนตัวเราเองซักหน่อยว่าเราต้องใช้รถสาธารณะอะไรบ้าง แล้วไปดูว่าเราควรเลือกซื้อ Fukuoka Tourist City Pass แบบไหน เพราะมันมี 2 แบบบให้เลือกนะจย๊าา
ความแตกต่างของ Fukuoka Tourist City Pass ระหว่างแบบ 820 เยน กับ 1,340 เยน คือ แบบ 820 เยน สามารถขึ้นรถไฟใต้ดิน (Subway), รถไฟ JR บางสถานี (ระหว่างสถานี Uminonakamichi จนถึงสถานี Takeshita) รถเมล์ของบริษัท Nishitetsu Bus และ รถเมล์บริษัท Showa Bus ส่วนแบบ 1,340 เยน จะใช้ทุกอย่างที่มีในพาส 820 เยนได้ ที่เพิ่มเติมคือ เราสามารถนั่งรถไฟของบริษัท Nishitetsu ได้นั่นเอง ซึ่งไอ้รถไฟสายนี้คือเอาไว้ใช้ไปเมืองดาไซฟุนั่นแหละ // อ่านแล้วอาจจะงง แนะนำให้ดูแผ่นพับของพาสนี้ได้ที่ลิงค์นี้ ⎡nishitetsu.jp/docs/en/tourist_pass.pdf⎦ ดูแล้วน่าจะเข้าใจอะไรมากขึ้น
ส่วนใครที่แพลนจะไปดาไซฟุ (Dazaifu) พร้อมกับเมืองยานากาวะ (Yanagawa) ที่เป็นพายเรือ แนะนำให้ซื้อ Pass นี้แทน “Dazaifu and Yanagawa Sightseeing Ticket” อันนี้สามารถหารายละเอียดอ่านเพิ่มติมในอากู๋ได้ครับ นี่ลองดูแล้วมีให้อ่านเยอะแน่นอน Go to top เมืองดาไซฟุ (Dazaifu)อย่างที่ได้บอกไปด้านบน ครึ่งเช้าเราจะไปเที่ยวที่ เมืองดาไซฟุ (Daizaifu) เป็นเมืองเล็กๆเก่าแก่ ที่ตอนนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว การเดินทางก็ง่าย เพราะเราสามารถนั่งรถไฟจากตัวเมืองฟุกุโอกะไปดาไซฟุได้ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอ๊งง ที่เที่ยวมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คือมีถนนคนเดินที่มีร้านสตาร์บัคดีไซน์เก๋ชื่อดัง และ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) ส่วน วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji Temple) ในวันที่ผมไปคือปิด // ร้องไห้เสียใจมาก ฮือ
Go to top ถนนคนเดินไปศาลเจ้า .. ของกินเพียบ! กรี๊ดดดออกจากสถานีรถไฟดาไซฟุ (Dazaifu) มา เราจะสะพรึงว่าคนเยอะชิบหาย แถมตอนที่ผมไปฝนยังตกอีก ทีนี้เราจะเจอของขายเต็มสถานีรถไฟไปหมด อย่าพึ่งไปสนใจ ของดีมันไม่ได้อยู่ตรงนี้โว้ย ให้เราเดินตรงไปนิดแล้วเลี้ยวขวาที่เป็นถนนมีร้านขายของตลอดทาง ถนนนี้แหละมันคือถนนที่ตรงไปยัง ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) นั่นเอง หากใครที่ตื่นเช้า ยังไม่ได้กินอะไร ไม่ต้องไปหากินที่ไหนอีกแลัว ของกินตรงถนนคนเดินทางไปศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ นี่แหละ ของกินเยอะมากกก! มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของฝาก และร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีร้านสตาร์บัคชื่อดังที่ขึ้นชื่อในเรื่องการดีไซน์ร้านที่ดูโดดเด้งออกมาจากถนนคนเดินเลยทีเดียว .. ตอนแรกคือนี่จะกินนะ แต่คนเยอะสัส แถมไม่มีที่นั่งด้วย เดินออกจากร้านไปกินอย่างอื่นที่เป็นขนมญี่ปุ่นดีกว่า โว้ยยย 555555
ใครมาดาไซฟุแล้วไม่ได้กินขนมโมจิล่ะก็ ยูพลาดมากเว้ย ทีนี้ปัญหาคือ ไอ้ร้านขายโมจินี่มันเยอะมาก นี่ก็ไม่รู้เจ้าไหนเด็ด เจ้าไหนดัง หรือเจ้าไหนออริจินอล จากที่ตัวเองได้ลองกินมาสองร้าน นี่เลยอยากจะแนะนำร้านนี้แล้วกัน ไม่รู้มันชื่อร้านอะไร มีแต่รูปหน้าร้านให้ดู คือโมจินุ่มอร่อยมากแกร๊
กินจนอิ่มพอกรุบกริบ สุดถนนคนเดินจะเป็นทางเข้าของ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) พอดี Go to top ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu)
ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) คือ ศาลเจ้าของเทพเทนจิน (Tenjin) เทพเจ้าแห่งการเรียนของคนญี่ปุ่น โดยเทพเทนจินนั้น คือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนอยู่จริงในญี่ปุ่นช่วงสมัยเอฮัน (พันกว่าปีที่แล้ว) โดยชื่อจริงท่านชื่อว่า สึกาวาระโนะ มิจิซาเนะ (Sugawara no Michizane) ซึ่งท่านนั้นไต่เต้าตำแหน่งงานราชการด้วยความสามารถและความหมั่นเพียร จนกระทั่งได้มาเป็นขุนนางระดับ 5 และได้เป็นคนสนิทของจักพรรดิอุดะ .. คือตำแหน่งใหญ่มากจนคานอำนาจกับ ตระกูลฟุจิวาระ ตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในสมัยนั้นได้ จนเมื่อจักรพรรดิอุดะสิ้นสมัยลง และมีจักรพรรดิองค์ไดโกะสืบบัลลังก์ คนในตระกูลฟุจิวาระนี่แหละ ใส่ความมิจิซาเนะ (Michizane) จนถูกเนรเทศมายังเกาะคิวชู ตรงเมืองดาไซฟุตรงนี้ ไม่นานหลังจากนั้นท่านก็เสียชีวิตลง และศพของมิจิซาเนะก็ถูกฝังอยู่คู่กับ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) แห่งนี้ เค้าว่ากันว่า วิญญาณของมิจิซาเนะได้เข้าไปแก้แค้นขุนนางในตระกูลฟุจิวาระและลูกของจักพรรดิไดโกะ บ้างก็เสียชีวิตด้วยโรคร้าย บ้างก็โดนฟ้าผ่า หรือแม้แต่บางคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ทีนี้บรรดาคนในตระกูลฟุจิวาระที่เหลืออยู่ต่างหวาดกลัววิญญาณของมิจิซาเนะและตกลงกันว่าจะสร้างศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังงู (Kitano Tenmangū) ในเกียวโต และศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmangu) ขึ้นเพื่อเป็นการขอขมาและบูชาสึกาวาระโนะ มิจิซาเนะในฐานะเทพแห่งนักปราชญ์ หรือเทพเท็นจิน เพื่อให้วิญญาณของมิจิซาเนะสงบลงนั่นเอง ตรงหน้าทางเข้าศาลเจ้า เราจะเห็นรูปปั้นวัวตัวเมียที่มีคนต่อคิวถ่ายรูปยาวมากกก ตามเรื่องเล่าเค้าบอกว่าวัวคือสัตว์ที่แบกร่างของ มิจิซาเนะ (Michizane) หลังจากเสียชีวิต เค้าเลยเชื่อกันว่า หากเราได้ลูบหัวและเขาของรูปปั้นนี้ เราจะโชคดี ซึ่งผมก็ไม่ได้ลูบ เพราะคนต่อคิวยาวมากเว่อร์ ฮ่าๆ
เมื่อเราไหว้และขอพรที่ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ เสร็จเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้เราเดินอ้อมไปด้านหลัง แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ เราจะเจอกับร้านข้าวเยอะแยะที่แม่ค้าเค้ากวักมือเรียกให้เราเข้าไปทานอาหาร ถ้าเราไม่หิวให้เดินผ่านไปเลย 55555 เดินต่อไปอีกมันมีจะมีทางขึ้นไปยังศาลเจ้าอีกที่ คือศาลเจ้าเท็นไค อินารี (Tenkai Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าที่บูชาเทพอินาริ (Inari) ที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะคิวชู ตรงทางขึ้นจะมีเสาโทริอิ (Torii) เรียงยาวขึ้นไปจนถึงศาลเจ้า ตรงนี้สวยมากกกก
Go to top วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji Temple)ออกมาจากศาลเจ้าดาไซฟุ นี่รีบเปิดกูเกิ้ลแมพทันทีว่า วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji Temple) อยู่ตรงไหน เปิดดู .. อ้าว แม่งอยู่ข้างๆศาลเจ้าดาไซฟุนิดเดียวนี่หว่า นี่เลยเดินไปพร้อมกับมีความรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยที่โซนศาลเจ้าดาไซฟุคือคนเยอะมากเว่อร์ แต่ตรงนี้กลับเงียบผิดปกติ 👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️ ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙 |