หากใครใช้ Android อยู่ จะรู้ว่าเมื่อใช้ไปสักพัก ต้องมี Reset เครื่องบ้างเพื่อลบแคชหรือ Reboot ให้ระบบได้ทำงานอย่างราบลื่น แต่หากไม่สามารถ Reset ได้ตามปกติล่ะ เราจะทำยังไงต่อดี ? ใน Smartphone Android แทบทุกรุ่น จะมีปุ่ม Force Reset (ปุ่มบังคับ Restart) อยู่ที่ปุ่มเปิด/ปิด หน้าจอครับ วิธีการคือ
แต่ Smart phone บางแบรนด์ก็ปุ่มพิเศษที่ทำ Force Reset ได้เร็วขึ้นอย่าง Samsung ที่กดลดเสียงพรัอมกับปุ่มเปิด/ปิด หน้าจอ เพียงแค่ 7-8 วินาที เครื่องก็ Reset ให้แล้วครับ ข้อควรรู้
อีกวิธีหนึ่ง หากทำทุกอย่างแล้ว ยังใช้ไม่ได้ผล คือไปให้ร้านซ่อมมือถือ ให้เค้าถอดแบตออกครับ (วิธีนี้คลาสสิกสุด ๆ แล้ว) Facebook Comments SHARE Previous articleMicrosoft จะเริ่มลบ Adobe Flash ออกจาก Windows 10 อย่างถาวรในเดือนกรฏาคมนี้ Next articleเอ็มจี เปิดตัวการขายแบบออนไลน์ ประเดิมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ MG HS piphat P ผมเป็นนักเล่า ไม่ใช่นักเขียน แต่ผมมักจะเล่าเรื่องราวผ่านการเขียน... โดยเฉพาะเรื่องของไอที ^_^ [email protected] // [email protected] ปกติแล้ว การรีบู๊ตอุปกรณ์ Android เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้และทำได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว ในกรณีที่อุปกรณ์ Android ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไม่ตอบสนองต่อการใช้งาน เช่น ไม่สามารถกดปุ่มอะไรได้เลย หรือหน้าจอทัชแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคสแบบนี้จะไม่สามารถรีบู๊ตด้วยวิธีเดิม ๆ ได้ ต้องเป็นการ Force Restart เท่านั้น หลายคนอาจจะจำสับสนว่า Force Restart กับ Factory Reset คืออันเดียวกัน จริง ๆ แล้วเป็นคนละอย่างกัน Factory Reset คือการล้างข้อมูลทุกอย่างเพื่อกลับไปยังสถานะที่มีมาตั้งแต่ตอนซื้อเครื่องมาใหม่ ๆ ซึ่งวิธีนี้ ข้อมูลทั้งหมดในตัวเครื่องจะถูกลบออกไป ฉะนั้น การทำ Factory Reset จะต้องทำการสำรองข้อมูลก่อนทุกครั้ง แต่ Force Restart หรือจะเรียกอีกชื่อว่าคือการทำ Hard Reboot ซึ่งจะเป็นการบังคับให้ตัวเครื่องทำการรีสตาร์ทเท่านั้น จะไม่ลบข้อมูลใด ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องออกไป โดยวิธีนี้จะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อตัวเครื่องค้าง กดปุ่มอะไรก็ไม่ติด และไม่ตอบสนองใด ๆ มาดูกันดีกว่าว่า การทำ Force Restart หรือ Hard Reboot บนมือถือ Android มีขั้นตอนอย่างไร วิธีการทำ Force Restart / Hard Reboot สำหรับมือถือ Android วิธีการทำ Force Restart ง่าย ๆ ก็เพียงแค่กดปุ่ม Power ค้างไว้ราว ๆ 20-30 วินาทีจนกว่าหน้าจอจะดับ ซึ่งมือถือ Android บางรุ่น จะต้องกดทั้งปุ่ม Power กับปุ่มลดระดับเสียงพร้อมกัน ค้างไว้ราว ๆ 20-30 วินาทีเช่นกัน เพียงเท่านี้ อาการตัวเครื่องค้าง / จอค้าง ก็จะหายไป และสามารถใช้ตัวเครื่องได้ตามปกติ ส่วนมือถือ Android รุ่นเก่าที่ยังสามารถแกะฝาหลังได้ ให้ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อให้ตัวเครื่อง Shut down แล้วค่อยเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ ซึ่งการถอดแบตเตอรี่ออกแบบนี้ ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อตัวเครื่อง |