การเขียน เรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่าง มาเจาะลึกถึงเทคนิคการเขียน resume ภาษาอังกฤษกันสักหน่อย การเขียนเรซูเม่ให้ดีเป็นสิ่งที่ยากมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเขียนไม่ได้ หลักสำคัญคือ ต้องเขียนสิ่งที่เป็ฯตัวเราจริงๆ เนื้อความสั้น กระชับ และได้ใจความ ส่วนรูปแบบของเรซูเม่ จริงๆแล้วไม่มีใครรู้ว่าแบบไหนคือดีที่สุด เอาเป็นว่าอ่านง่ายสบายตา เท่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรซูเม่ที่ดีค่ะ การเขียนเรซูเม่ทั่วไปมีหลักการเช่นเดียวกับการเขียนออไลน์เรซูเม่ แต่ออนไลน์เรซูเม่มีความพิเศษกว่า เพราะสามารถใส่ลิ้ง (Link) เพื่อที่จะโชว์ความสามารถพิเศษหรือ portfolio ของเราให้นายจ้างดูได้ และยังสามารถใส่วีดีโอเรซูเม่ (VDO Resume) เพื่อแนะนำหรือพรีเซนต์ประวัติย่อของเราได้ด้วย ซึ่งนายจ้างที่เห็นวีดีโอเรซูเม่ก็จะสามารถเห็นบุคลิกภาพของเราก่อนเรียกเข้าสัมภาษณ์งาน ความพิเศษของออนไลน์เรซูเม่ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้เรซูเม่ของเราน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการเรียกเข้าสัมภาษณ์งานให้กับเราอีกด้วย ในบทความนี้เราจะแบ่ง resume ออกเป็น 6 ส่วนหลักๆ คือ 1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective ) 2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information) 3. ทักษะความสามารถ (Skills) 4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education) 5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience) 6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References) 1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading ู& Career Objective ) ส่วนจุดมุ่งหมายในงาน (Career Objecting) คือการระบุเป้าหมายของการสมัครงานในตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร และควรระบุตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัครให้ชัดเจน อาจมีการระบุจำนวนเงินเดือนที่ต้องการด้วยก็ได้ ตัวอย่าง หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading ู& Career Objective )
MR. AEC JOB LISTING 800 Unit A Sukhumvit 71 Rd., Klongton-Nua, Wattana Mahidol Rd.,Bangkok, 10110 Tel. 089-1354202 E-mail: CAREER OBJECTIVE: Seeking a position in the accounting field where excellent analytical and technical skills can be utilized to improve the company’s profitability 2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information) ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information) หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับสัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก ส่วนสูง และงานอดิเรกที่เราสนใจนอกเวลางาน บางคนอาจจะเลือกที่จะไม่ใส่ขอมูลเกี่ยวกับ สัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก และส่วนสูง ถ้าต้องการให้เรซูเม่ของเราดูเป็นมืออาชีพ และถ้าข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้องาน ดังนั้นในส่วนนี้ จะใส่เพียว ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ และงานอดิเรกที่สนใจนอกเวลางาน เท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเนื้องานก็จำเป็น เช่น ถ้าเราสมัครเป็นแอร์โฮสเตส ที่นายจ้าจะต้องรู้ความสูงและน้ำหนัก แบบนี้เราก็ควรระบุลงไปให้ชัดเจน เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information) PERSONAL INFORMATION ทักษะความสามารถ เป็นหัวที่เราควรใส่ลงในเรซูเม่ (Resume) ของเรา เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสัมภาษณ์งาน เนื่องจากปัจจุบันนายจ้างจะเลือกดูประสบการณ์ทำงานและทักษะความสามารถของผู้สมัครเป็นหลัก ดังนั้น ใครมีความสามารถอะไร ควรใส่ให้ครบนะคะ ทักษะความสามารถแบ่งออกเป็น Hard Skill และ Soft Skill คือ ทักษะที่จำเป็นในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ เช่น ถ้าเราเป็นนักบัญชี เราต้องรู้เกี่ยวกับการบันทึกบัญชี การสอบบัญชี และการยื่นภาษีต่างๆ ถ้าเราเป็นวิศวกร คุณต้องรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการคำนวณ ว่ากันง่ายๆคือ ทักษะส่วนใหญ่ที่เราเรียนมาในมหาวิทยาลัย (อาจจะดูได้จากวิชาหลักที่เราเรียนในมหาวิทยาลัย) คือ Hard Skill Soft Skillคือ มีขอบเขตที่กว้างกว่า โดยเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้กับทุกสายอาชีพ เป็นลักษณะส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence Quotient) เช่นทักษะการสื่อสารการแก้ปัญหาความขัดแย้ง การจูงใจ การจัดการอารมณ์ของตัวเอง การเจรจาต่อรอง การคิดเชิงกลยุทธ์ การสร้างทีมงาน ซึ่งแตกต่างจาก Hard Skills ที่สัมพันธ์กับความฉลาดทางสติปัญญา (Intelligence Quotient) ตัวอย่าง การเขียนทักษะความสามารถ (Skills) QUALIFICATION Skill 4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education) เขียนวุฒิการศึกษาที่เราได้รับมา และการฝึกอบรมต่างๆ หรือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เคยเข้าร่วม ถ้าให้ดีต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน สามารถใช้ประสบการณ์ระหว่างการศึกษาได้ เช่น ถ้าเคยเป็นเหรัญญิกของสมาคมหรือค่าอาสา ก็เขียนว่า ได้รับเลือกให้เป็นเหรัญญิกของโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบท มีหน้าที่จัดทำเอกสาร รวบรวมเอกสาร รวมถึงบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดของโครางการ เป็นต้น ส่วนคนที่เคยมีประสบการทำงานมาแล้วก็สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำมาได้เลย (อย่าลืมใส่ลิ้ง หรือเว็บไซต์ของที่ทำงานเก่า ลงไปในออนไลน์เรซูเม่ด้วย เพื่อให้นายจ้างตรวจเช็คได้สะดวก) การเขียนข้อมูลทางการศึกษา (Education) ให้เรียงจากวุฒิการศึกษสูงสุดไปวุฒติที่ต่ำที่สุด แต่ไม่ควรต่ำเกิดวุฒิมัธยมปลายหรือ ปวช. และถ้าเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน ให้เขียนเรียงลำดับจาก ช่วงเวลาที่เรียน วุฒิที่ได้รับ และชื่อสถาบัน ตัวอย่าง ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education) May 2010 – Aug 2012 May 2006 – Feb 2010 May 2000 – Feb 2006
เขียนชื่อวุฒิขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ 5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience) ในส่วนนี้จะคล้ายกับข้อมูลการศึกษา โดยเริ่มจาก ชื่อสถานประกอบการ ตำแหน่งงาน จังหวัด ประเทศ (ถ้าทำงานต่างประเทศมาก่อน) วันเดือนปีที่เริ่มทำงาน และระยะเวลาที่ทำงานนั้น และควรใส่หน้าที่ที่เราได้รับผิดชอบขณะทำงานอยู่ด้วย หรืออาจจะจัดรูปแบบให้แตกต่างแต่อานแล้วสบายตา เข้าใจง่ายก็ได้ (ดูตัวอย่างข้างล่าง) นอกจากนั้น ถ้าเคยผ่านงานมาหลายที่ ให้เขียนงานที่ทำปัจจุบันก่อน แล้วเรียงไปจนถึงตำแหน่งงานแรก ตัวอย่าง ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience) WORK EXPEREINCE MOMO MARKETING, Bangkok THAILAND (Feb 2013 – April 2014) -Performed accounts payable functions for construction expenses. STONE PARK WEB DESIGN CO., LTD, Bangkok, THAILAND (March 2010 – Dec 2012) -Performed general office duties and administrative tasks. 6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References) เรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ ที่เราเขียนจะดูมีความน่าเชื่อถือสูง ถ้าเรามีชื่อและข้อมูลการติดต่อของบุคคลที่นายจ้างสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเราได้ ประมาณ 2-3 คน (ไม่ควรทำงานที่เดียวกัน และต้องไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา) ดังนั้นบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (reference) ของเราควรเป็นหัวหน้างานเก่าหรือ หากคุณยังไม่มีประสบการณืทำงานเลย ก็ควรจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ในวงการธุรกิจ เช่น ต้องเป็นบุคคลที่มีงานมั่นคง หรือมีชื่อเสียง อาจเป็นข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน อาจารย์ หรือเจ้าของกิจการ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องรู้จักและเคยเห็นการทำงานของเราเป็นอย่างดี การเขียนให้เรียงจากชื่อ-นามสกุล (ถ้าเป็นอาจารย์ที่มีตำแหน่งต้องใส่คำนำหน้าด้วย เช่น ศาสตราจารย์ = Prof. , รองศาสตราจารย์ = Assoc.Prof) ตำแหน่ง ชื่อสถานประกอบการ และหมายเลขโทรศัพท์ ตัวอย่าง บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References) REFERENCES Mr. Chanin Kulkanjanatorn, Director, AEC Enlist Co.Ltd., Bangkok THAILAND Tel. 02-392-4186 อย่างไรก็ตาม resume ที่เราส่งไปนั้นยังไม่ต้องอ้าง reference ก็ได้แต่ให้เขียนว่า “References will be sent on request.” (หมายความว่า เอกสารอ้างอิงจะส่งให้กรณีที่ทางบริษัทร้องขอมา) ดูตัวอย่างเรซูเม่ภาษาอังกฤษ ฉบับเต็มได้ที่ https://www.aecjoblisting.com/advice/เรซูเม่-online-resume/ เขียนโดย AEC Job Listing, www.aecjoblisting.com |