โครง งาน วิทยาศาสตร์ เรื่อง แอร์ จาก กล่อง โฟม

โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์

เร่อื ง
แอร์เคล่ือนที่

จัดทาโดย
นายเสฏฐวุฒิ ปั้นแจง้ อรณุ รหสั 6313 – 00026 – 3
นายสนอง คามูล รหัส 6313 – 00018 – 8

ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
กศน.ตาบลแม่สลิด
ครูทีป่ รึกษา

นางสาวธฤดี คามาวงษ์
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอบา้ นตาก
สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวดั ตาก
สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ

ช่ือโครงงาน : แอรเ์ คล่ือนที่
จัดทาโดย : นายเสฏฐวฒุ ิ ปน้ั แจง้ อรุณ รหัส 6313 – 00026 – 3

นายสนอง คามลู รหัส 6313 – 00018 – 8

ครูท่ีปรึกษา : นางสาวธฤดี คามาวงษ์
สถานทศี่ ึกษา : กศน.ตาบลแม่สลิด

บทคดั ย่อ

จากการทดลองทาโครงงาน เร่ืองแอร์เคล่อื นที่ เพือ่ ศึกษาการนาวสั ดุทเี่ หลือใช้ทาใหเ้ กิดประโยชน์

เพือ่ ประหยดั ค่าใช้จา่ ยในครัวเรอื น และเพอื่ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์

โดยการนามอเตอร์ ขนาด 12 โวลต์ มาวางบนฝากล่องพลาสติก ใช้ปากกาเมจิกเขยี น เส้น

รอบวงมอเตอร์ใบพัดบนฝากลอ่ ง ตัดผากลอ่ งดว้ ยปลายหัวแรง้ ตามรอยปากกาเมจิกที่ทาเคร่ืองหมายไว้ หันพัด

ลมใหเ้ ป่าลมเขา้ ฝากลอ่ ง จากนัน้ ใชป้ ืนกาวยิงพดั ลมให้ยดึ ติดกบั ฝากล่องตัดสายท่อยน่ นา้ ท้ิงจานวน 2 ชิ้น จากนั้นเจาะรู

บนฝากลอ่ ง 2 รูโดยใช้ปลายหัวแร้ง,,จากนั้นนาทอ่ ยน่ น้าทงิ้ ทั้ง 2 ชิ้น มาใส่ในท่ีเจาะรูไว้ และ ยิงด้วย ปนื กาวทั้ง

ด้านนอกและด้านใน ทาการตดิ ตง้ั สวิทซ์ แจ็ค DC ตอ่ พว่ งเขา้ กับใบพดั นาอแด๊ปเตอร์ 12 โวลต์ มาต่อแจ็ค DC ท่ีติดต้ัง

ไว้ จากน้ันทาการเปิดสวทิ ซ์เพื่อทดสอบว่าใบพัดทางานหรือไม่ นาน้าแข็งมาใสใ่ นกล่องพลาสติก ปิดฝากลอ่ งให้สนิท

ทาการเปิดสวทิ ซเ์ พื่อทาการใช้งาน

สรปุ ได้ แอร์เคลอื่ นที่ ทีเ่ กดิ จากการนาวสั ดทุ เี่ หลอื ใช้ทาให้เกดิ ประโยชน์ เพอื่ ประหยดั ค่าใช้จา่ ยในครัวเรอื น

กติ ตกิ รรมประกาศ

การทาโครงงานในคร้งั นส้ี าเรจ็ ได้เพราะเจา้ หน้าทีบ่ รรณารักษ์ ห้องสมุดประชาชน“เฉลมิ ราชกมุ ารีฯ”
อาเภอบ้านตาก ท่เี อื้อเฟ้ือวสั ดุอปุ กรณ์ต่างๆในการประดษิ ฐ์ และได้รับคาแนะนาจากครกู ศน.ตาบลแมส่ ลดิ รวมไปถงึ
เพอ่ื น พี่ ท่ีให้คาแนะนาในการทาโครงงานครงั้ นี้

จึงขอขอบพระคุณไว้ ณ ท่นี ี้

คณะผู้จดั ทา


คานา
โครงงาน เรอื่ งแอร์เคล่อื นที่ เปน็ การนาใช้วัสดทุ ่ีเหลือใช้มาทาให้เกิดประโยชน์สงู สุด
เปน็ สิ่งประดิษฐ์ และสามารถทาเองได้งา่ ย ใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ ช่วยฝกึ สมาธิในการทางาน เสรมิ สรา้ งความคดิ
ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ สามารถนาความรู้ไปปรบั เปล่ียนและสามารถสรา้ งเปน็ อาชพี เสรมิ

ผ้จู ดั ทา

สารบญั ง

บทคัดยอ่ หนา้
กิตตกิ รรมประกาศ ก
คานา ข
สารบัญ ค
บทที่ 1 บทนา ง
บทท่ี 2 เอกสารท่ีเก่ียวข้อง 1
บทที่ 3 วธิ ดี าเนินการ 2
บทที่ 4 ผลการศึกษา 4
บทที่ 5 สรปุ และอภปิ รายผลการทดลอง 5
6
บรรณานกุ รม

1

บทที่ 1
บทนา

ท่ีมาและความสาคัญ

ในปัจจุบันการดารงชีวิตของคนเรานั้นพึ่งพา วสั ดทุ ่ีเกิดจากกระบวนการผลิตทางโรงงานอุตสหกรรมท่ี
เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของเราเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มการใช้งานท่ีเพ่ิมมากข้ึนเพราะใช้ทดแทน
ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ไม้และเหล็กได้เป็นอย่างดี และมีราคาถูก น้าหนักเบาสามารถผลิตให้มีสมบัติต่างๆ ตามที่

ต้องการได้จากการเลอื กชนิดของวัตถุดิบ ปฏกิ ิริยาเคมี กระบวนการผลิตและกระบวนการข้ึนรูป นอกจากน้ียังสามารถ
ปรงุ แต่งสมบตั ไิ ด้ง่ายโดยการเติมสารเติมแตง่

ดงั นั้นผ้จู ัดทา จึงคิดทจ่ี ะนาวัสดุที่เหลือใช้มาทาการประดิษฐ์ เป็นแอรเ์ คลือ่ นท่ีขึ้น เปน็ ส่ิงประดิษฐ์ และ

สามารถทาเองได้ง่าย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ช่วยฝึกสมาธิในการทางาน เสริมสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
สามารถนาความรไู้ ปปรับเปล่ยี นและสามารถสร้างเป็นอาชพี เสรมิ

วัตถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ศึกษาการนาวสั ดุที่เหลือใช้ทาให้เกดิ ประโยชน์
2. เพื่อประหยดั คา่ ใช้จา่ ยในครัวเรอื น

3. เพ่อื ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์

สมมติฐาน
แอร์เคลอ่ื นทจ่ี ากวสั ดุเหลอื ใช้

ตวั แปรที่เกย่ี วข้อง วัสดเุ หลือใช้
แอรเ์ คลอ่ื นที่
ตัวแปรตน้ ขนาดและความยาวของกลอ่ งพลาสติก
ตวั แปรตาม
ตัวแปรควบคมุ

2

วงจรพดั ลมไฟฟา้ บทท่ี 2
เอกสารที่เก่ยี วข้อง

ประเภทของพดั ลมไฟฟ้า

พดั ลมทใ่ี ชง้ านกันตามบา้ นส่วนใหญ่นัน้ สามารถแบง่ ออกได้เป็น 3 ประเภท คือ พดั ลมตง้ั โตะ๊ พัดลมตงั้
พ้นื และพดั ลมแขวนผนงั โดยมีหลกั การทางานทค่ี ล้ายคลงึ กัน

สว่ นประกอบของพดั ลม แบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่
- ตวั เครอื่ ง (มอเตอรไ์ ฟฟ้า)
- กลไกทท่ี าใหพ้ ัดลมหยุดกับทห่ี รอื หมุนสา่ ยไปมา
- ใบพัดและตะแกรงคลมุ ใบพัด
- สวติ ช์ควบคมุ การทางาน (เปิด/ปิด)
- ปล๊ักไฟฟ้า

การทางานของพดั ลมแบบด้งั เดมิ

พดั ลมไฟฟา้ ทวั่ ไปจะทางานไดก้ ต็ ่อเมื่อมกี ระแสไฟฟ้าเขา้ สู่ระบบ ดงั นัน้ เม่ือเราเสยี บปล๊ักไฟของพัด
ลมเข้ากบั เตา้ รับไฟฟา้ แล้วกดสวติ ชห์ รือปุม่ เลอื กใหล้ มแรงหรือเบาตามท่ีตอ้ งการ กระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลผ่านเข้าสู่ตวั
มอเตอร์ จะทาใหแ้ กนมอเตอร์หมนุ ใบพดั ทตี่ ิดอยกู่ บั แกนก็จะหมุนตามไปดว้ ย จงึ เกิดลมพดั ออกมานัน่ เอง

ทางานของพดั ลม

พัดลมจะทางานไดเ้ มอ่ื กระแสไฟฟา้ เขา้ สรู่ ะบบ และเมือ่ กดปมุ่ เลือกให้ลมแรงหรือเรว็ ตามทผี่ ใู้ ช้
ต้องการ กระแสไฟฟ้าจึงไหลเข้าสตู่ ัวมอเตอร์ ทาใหแ้ กนมอเตอรห์ มนุ ใบพดั ทต่ี ดิ อยูก่ บั แกนกจ็ ะหมนุ ตามไปดว้ ย
จึงเกดิ เป็นลมพัดออกมา

พดั ลมไฟฟา้ มาตรฐาน

พดั ลมไฟฟา้ ซ่ึงมีอยู่มากมายในทอ้ งตลาด อาจจะทาความลาบากให้กบั ผซู้ ้อื เพราะไม่รู้วา่ จะเลือก
ซือ้ ย่หี อ้ ไหนดีสง่ิ ท่ีจะชว่ ยท่านได้ คอื การสังเกตเคร่อื งหมายมาตรฐานที่แสดงบนผลติ ภณั ฑ์ เพราะเปน็ พดั ลมไฟฟ้า
ท่ีผ่านการรบั รอง คุณภาพจากสานกั งานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม

3

มอเตอรแ์ ละหลกั การทางานของมอเตอร์

ความหมายและหลกั การทางานของมอเตอร์

1.ความหมายและชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นอปุ กรณ์ท่ีนยิ มใช้กนั อยา่ งแพรห่ ลายในโรงงานต่างเป็นอปุ กรณท์ ีใ่ ชค้ วบคมุ เครอื่ งจกั รกล

ตา่ งๆในงานอตุ สาหกรรมมอเตอรม์ หี ลายแบบหลายชนิดทใี่ ชใ้ ห้เหมาะสมกับงานดงั นั้นเราจงึ ตอ้ งทราบถงึ ความหมายและ

ชนดิ ของมอเตอร์ไฟฟา้ ตลอดคณุ สมบัติการใช้งานของมอเตอร์แตล่ ะชนิดเพื่อใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพสงู สดุ ในการใชง้ านของ
มอเตอรน์ นั้ ๆและสามารถเลอื กใชง้ านให้เหมาะสมกบั งานออกแบบระบบประปาหมบู่ ้านหรอื งานอนื่ ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้

1.1ความหมายของมอเตอร์และการจาแนกชนดิ ของมอเตอร์

มอเตอรไ์ ฟฟา้ (MOTOR) หมายถงึ เป็นเครอื่ งกลไฟฟา้ ชนดิ หน่งึ ทเ่ี ปล่ยี นแปลงพลังงานไฟฟา้
มาเป็นพลงั งานกล มอเตอร์ไฟฟ้าทใี่ ช้พลังงานไฟฟา้ เปล่ียนเป็นพลงั งานกลมที ง้ั พลังงานไฟฟ้ากระแสสลบั และพลงั งาน
ไฟฟ้ากระแสตรง

1.2 ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอรไ์ ฟฟา้ แบ่งออกตามการใชข้ องกระแสไฟฟ้าได้ 2 ชนดิ ดงั น้ี

1.2.1 มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current Motor) หรือเรยี กว่าเอ.ซี มอเตอร์ (A.C. MOTOR)
การแบง่ ชนดิ ของมอเตอรไ์ ฟฟ้าสลับแบง่ ออกไดด้ ังน้ี

มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั แบ่งออกเปน็ 3 ชนดิ ไดแ้ ก่

1. มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับชนิด 1 เฟส หรอื เรียกวา่ ซงิ เกลิ เฟสมอเตอร์ (A.C. Sing Phase)
- สปลทิ เฟส มอเตอร(์ Split-Phase motor)
- คาปาซเิ ตอร ์มอเตอร์ (Capacitor motor)

- รพี ัลชนั่ มอเตอร์ (Repulsion-type motor)
- ยูนิเวอร์แวซลมอเตอร์ (Universal motor)
- เชด็ เดดโพล มอเตอร์ (Shaded-pole motor)

2. มอเตอรไ์ ฟฟา้ สลบั ชนิด 2 เฟสหรือเรียกวา่ ทูเฟสมอเตอร์ (A.C.Two phas Motor)
3. มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับชนิด 3 เฟสหรอื เรียกว่าทีเฟสมอเตอร์ (A.C. Three phase Motor)
1.2.2.มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Motor ) หรอื เรียกวา่ ดี.ซี มอเอตร์ (D.C. MOTOR) การ

แบ่งชนดิ ของมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรงแบง่ ออกไดด้ ังน้ี
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งออกเปน็ 3 ชนิดไดแ้ ก่
1. มอเตอรแ์ บบอนกุ รมหรอื เรยี กวา่ ซรี สี ม์ อเตอร์ (Series Motor)

2. มอเตอรแ์ บบอนุขนานหรือเรียกว่าชันทม์ อเตอร์ (Shunt Motor)
3. มอเตอรไ์ ฟฟา้ แบบผสมหรือเรียกว่าคอมเปาวด์มอเตอร์ (Compound Motor)

4

บทที่ 3
วธิ ีดาเนนิ งาน

วธิ ดี าเนนิ การ
1. ประชุมรว่ มกนั วางแผนการทางาน

2. ออกแบบการทดลอง
3. ค้นคว้าตามแหล่งความรแู้ ละสอบถามผู้รเู้ พ่ือเปน็ แนวคิด
4. ปฏิบัตติ ามแผน

5. สรปุ ผลการทดลอง

วสั ดอุ ุปกรณ์
1. กล่องพลาสติก
2. พัดลม ขนาด 12 โวลต์

3. อแด๊ปเตอร์ ขนาด 12 โวลต์
4. ทอ่ ย่นน้าทง้ิ
5. สวทิ ซ์ แจค็ DC

6. กรรไกร
7. มีดคดั เตอร์
8. หวั แร้ง

9. ปนื กาว
10. ปากกาเมจกิ

วิธีทา
1. นามอเตอร์ ขนาด 12 โวลต์ มาวางบนฝากลอ่ งพลาสติก ใช้ปากกาเมจกิ เขยี นเสน้ รอบวงมอเตอร์ใบพดั บน

ฝากลอ่ ง
2. ตดั ผากลอ่ งดว้ ยปลายหัวแรง้ ตามรอยปากกาเมจิกทที่ าเครอ่ื งหมายไว้
3. หันพดั ลมใหเ้ ป่าลมเขา้ ฝากลอ่ ง จากนัน้ ใชป้ นื กาวยิงพัดลมให้ยดึ ติดกับฝากล่อง

4. ตดั สายท่อย่นน้าทง้ิ จานวน 2 ชนิ้ จากน้นั เจาะรูบนฝากล่อง 2 รูโดยใชป้ ลายหัวแรง้
5. จากนั้นนาท่อยน่ น้าทงิ้ ทง้ั 2 ช้ิน มาใส่ในที่เจาะรไู ว้ และยิงด้วยปืนกาวท้งั ดา้ นนอกและด้านใน
6. ทาการตดิ ตั้งสวทิ ซ์ แจค็ DC ต่อพว่ งเข้ากับใบพัด

7. นาอแด๊ปเตอร์ 12 โวลต์ มาต่อแจค็ DC ทตี่ ิดตง้ั ไว้ จากนั้นทาการเปดิ สวิทซเ์ พอ่ื ทดสอบวา่ ใบพัดทางาน
หรือไม่

8. นาน้าแข็งมาใส่ในกลอ่ งพลาสตกิ ปดิ ฝากลอ่ งใหส้ นทิ ทาการเปดิ สวิทซเ์ พ่ือทาการใช้งาน

5

บทท่ี 4
ผลการศกึ ษาคน้ ควา้

ไดแ้ อรเ์ คลอื่ นท่ี ดังรปู

6

บทท่ี 5
สรุปและอภิปรายผลการศกึ ษา

สรปุ ผลการศกึ ษา
จากการผลการประดษิ ฐ์ แอร์เคล่ือนท่ี โดยนามอเตอร์ ขนาด 12 โวลต์ มาวางบนฝากล่องพลาสตกิ ตัด

สายท่อยน่ น้าทงิ้ จานวน 2 ช้นิ จากน้ันเจาะรูบนฝากลอ่ ง 2 รูโดยใช้ปลายหัวแร้งจากนั้นนาทอ่ ย่นนา้ ทง้ิ ท้งั 2 ช้ิน มาใส่ใน
ทเ่ี จาะรูไว้ และยิงด้วยปืนกาวทั้งด้านนอกและด้านในทาการติดต้ังสวิทซ์ แจ็ค DC ต่อพ่วงเข้ากับใบพัด นาอแด๊ป
เตอร์ 12 โวลต์ มาต่อแจ็ค DC ทตี่ ดิ ตั้งไว้ จากน้นั ทาการเปดิ สวิทซ์เพือ่ ทดสอบวา่ ใบพดั ทางานหรือไม่ นาน้าแขง็ มา
ใส่ในกล่องพลาสตกิ ปดิ ฝากลอ่ งให้สนทิ ทาการเปิดสวิทซเ์ พ่อื ทาการใชง้ าน

ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ
1. ใชว้ สั ดุที่เหลอื ใช้มาทาใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ
2. เป็นสิ่งประดิษฐ์ทสี่ ามารถทาเองไดง้ า่ ย
3. ใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์
4. ช่วยฝกึ สมาธใิ นการทางาน
5. เสรมิ สรา้ งความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์
6. สามารถนาความรู้ไปปรับเปล่ยี นและสามารถสร้างเป็นอาชพี เสริมได้

บรรณานกุ รม

สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย, สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง
ศกึ ษาธิการ.โครงงานเพื่อพัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ .กรงุ เทพฯ : เอกพมิ พ์ไทย,2555.

สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั , สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวง
ศึกษาธกิ าร.การใช้พลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวัน 3 .กรุงเทพฯ : สานักงาน กศน.2559.