เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ คาถา

รวม  1,000    คาถาครับ  เป็นธรรมเนียมถือกันมาแต่โบราณว่า การเทศน์คาถาพันต้องระวังมิให้ผิดพลาดหรือตกหล่น จะเป็นบาปหนัก. การบูชากัณฑ์ก็ถือว่า ต้องใช้เครื่องบูชาเท่าจำนวนคาถา  เครื่องบูชากัณฑ์นิยมใช้ ธง   5    สี ธูป เทียน ดอกบัว ทุกอย่างจำนวนอย่างละ  1,000  ในบางครั้งมีการ เทศน์คาถาหมื่น คือ นิมนต์พระ 10  รูป เทศน์คาถาพันพร้อมกัน. และถ้านิมนต์พระ   100  รูป เทศน์คาถาพัน ก็เรียกว่า เทศน์คาถาแสน.

เมื่อวันที่ 16ธันวาคม2558 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จัดโครงการ   "ครุศาสตร์สืบสานตำนานยี่เป็งเทศน์มหาชาติ13กัณฑ์" อันประกอบด้วย กัณฑ์ที่1ทศพร19พระคาถา สำหรับคนเกิดปีชวด กัณฑ์ที่2หินมพานต์ 134พระคาถา สำหรับคนเกิดปีฉลู กัณฑ์ที่3ทานกัณฑ์ 209พระคาถา สำหรับคนเกิดปีขาล กัณฑ์ที่4วนปเวศน์ 57พระคาถา สำหรับคนเกิดปีเถาะ กัณฑ์ที่5ชูชก 79 พระคาถา สำหรับคนเกิดปีมะโรง กัณฑ์ที่6 จุลพน39พระคาถา สำหรับคนเกิดปีมะเส็ง กัณฑ์ที่7มหาพน 80พระคาถา สำหรับคนเกิดปีมะเมีย กัณฑ์ที่8กุมาร101พระคาถา สำหรับคนเกิดปีมะแม กัณฑ์ที่9มัทรี 90พระคาถา สำหรับคนเกิดปีวอก กัณฑ์ที่10 สักบรรพ์ 43พระคาถา สำหรับคนเกิดปีระกา กัณฑ์ที่11มหาราช 69 พระคาถา สำหรับคนเกิดปีจอ กัณฑ์ที่12 ฉกกษัตริย์ 36พระคาถา สำหรับคนเกิดปีกุน และกัณฑ์ที่13 นครกัณฑ์ 48 พระคาถา กัณฑ์ชัยมงคล ณ ศาลาพระพุทธจตุรทิศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์เวียงบัว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาเข้าร่วมรับฟังเทศน์มหาชาติจำนวนมาก โครงการเทศน์มหาชาติจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา การเทศน์มหาชาติ คือการร่ายยาวหรือการเล่าเรื่องมหาเวชสันดรชาดก ว่าด้วยพระบุพจริยาของพระพุทธองค์ในอดีตชาติ เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวชสันดรบรมโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นชาติสุดท้ายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่เหมาะสมจะเชิดชูขึ้นเป็นหลักเป็นประธานในการเสริมสร้างอัธยาศัยของคนในชาติ จัดให้มีขึ้นตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาจนกระทั่งถึงปัจจุบันจึงเป็นการสนับสนุนให้มีการศึกษาปริยัติสัทธรรมและเป็นการสืบทอดพระศาสนาอีกด้วย ชาวพุทธมีความเชื่อกันว่าผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติหรือเวสสันดรชาดกครบ 13กัณฑ์ 1000พระคาถา จบภายในหนึ่งวันและบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนแต่ละอย่างให้ครบพัน นิยมว่าเป็นสิริมงคลแม้น้ำที่ตั้งไว้ในมณฑลพิธีก็ถือกันว่าเป็นน้ำมนต์ อาจจะบำบัดเสนียดจัญไรได้ และจะได้ผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ 5 ประการ คือ (1)จะได้เกิดมาในยุคศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งจะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคต (2) เมื่อดับขันธ์จะได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติอันโอฬาร (3) จะไม่เกิดในอบาย (ไม่ตกนรก) เมื่อตายไปแล้ว (4) จะเป็นผู้มั่งมีลาภยศ สรรเสริญ ไมตรี และมีความสุข (5) เมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา จะได้รับมรรคผล นิพพานเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาและถึงความพ้นทุกข์ ซึ่งเป็นโครงการที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เป็นประจำทุกปีเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังเล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา และนำข้อคิดจากการฟังเทศน์ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 

เริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้  แล้วเสด็จไปเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร  ต่อจากนั้นเสด็จไปโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์ เกิดฝนโบกขรพรรษ  พระสงฆ์สาวกกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงเรื่องมหาเวสสันดรชาดก  เริ่มตั้งแต่เมื่อกัปที่ 98 นับแต่ปัจจุบัน  พระนางผุสดีซึ่งจะทรงเป็นพระมารดาของพระเวสสันดร  ทรงอธิษฐานขอเป็นมารดาของผู้มีใจบุญ จบลงตอนพระนางได้รับพร 10 ประการจากพระอินทร์

เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ คาถา

กัณฑ์ที่ ๑ ทศพร

1. ขอให้เกิดในกรุงมัททราช แคว้นสีพี
2. ขอให้มีดวงเนตรคมงามและดำขลับดั่งลูกเนื้อทราย
3. ขอให้คิ้วคมขำดั่งสร้อยคอนกยูง
4. ขอให้ได้นาม “ผุสดี” ดังภพเดิม
5. ขอให้มีพระโอรสเกริกเกียรติที่สุดในชมพูทวีป
6. ขอให้พระครรภ์งาม ไม่ป่องนูนดั่งสตรีสามัญ
7. ขอให้พระถันเปล่งปลั่งงดงามไม่ยานคล้อยลง
8. ขอให้เส้นพระเกศาดำขลับตลอดชาติ
9. ขอให้ผิวพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำธรรมชาติ
10. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษที่ต้องอาญาประหารได้

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้ จะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา  ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีที่เป็นที่ชอบเนื้อเจริญใจ  บุรุษจะได้ภรรยาเป็นที่ต้องประสงค์ จะได้บุตรหญิงชายเป็นคนว่านอนสอนง่าย  มีรูปร่างที่งดงาม  มีความประพฤติดีกริยาเรียบร้อย

2. หิมพานต์ (134 พระคาถา)

เวสสันดรทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสัญชัยกับพระนางผุสดี  แห่งแคว้นสีวีราษฎร์ ประสูติที่ตรอกพ่อค้า  ยินดีในการบริจาคทาน เมื่อพระเวสสันดรได้รับราชสมบัติจากพระบิดา  ได้พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์แก่กษัตริย์แคว้นกลิงคราชฎร์  ประชาชนไม่พอใจ  พระเวสสันดรจึงถูกพระราชบิดาเนรเทศไปอยู่ป่าหิมพานต์

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะได้สิ่งที่ปรารถนาทุกประการ  ครั้นตายแล้วได้บังเกิดในสุคติโลกสวรรค์เสวยสมบัติอันมโหฬาร  มีบริวารแวดล้อมบำรุงบำเรออยู่เป็นนิตย์ จุติจากสวรรค์แล้ว จะลงมาเกิดในตระกูลขัตติยะมหาศาล หรือตระกูลพราหมณ์มหาศาล อันบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร บริวารมากมาย  ประกอบด้วยสุขทุกอิริยาบถ

3. ทาน (209 พระคาถา)

ก่อนเสด็จไปอยู่ป่า พระเวสสันดรได้พระราชทานสัตตสตกมหาทาน  คือช้าง  ม้า  รถม้า  ทาสชาย  ทาสหญิง  โคนม  นางสนม และอาภรณ์ อย่างละ 700  ขณะนั่งรถเดินทางเข้าป่า ก็ได้พระราชทานรถ ม้า แก่ผู้มาขอจนหมดสิ้น สุดท้ายพระเวสสันดร พระนางมัทรี ชาลี กัณหา ต้องเดินเท้าเข้าป่า

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะบริบูรณ์ด้วยแก้วแหวนเงินทองทาส  ทาสี  และสัตว์ 2 เท้า 4 เท้า  ครั้นตายแล้ว จะได้ไปเกิดในสวรรค์มีนางเทพอัปสรแวดล้อมมากมาย เสวยสุขในปราสาทแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ

4. วนปเวสน์ (57 พระคาถา)

พระเวสสันดรทรงพระนางมัทรีและพระชาลี ( โอรส ) พระกัณหา (ธิดา ) เสด็จจากเมืองผ่านแคว้นเจตราษฎร์  จนเสด็จถึงเขาวงกตในป่าหิมพานต์  และพักอาศัยอยู่ที่นั่น ในอาศรมซึ่งพระอินทร์มาเนรมิตไว้ให้

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า จะได้เป็นบรมกษัตริย์ในชมพูทวีป  เป็นผู้ทรงปรีชาเฉลียวฉลาดสามารถปราบอริราชศัตรูให้ย่อยยับไป

5. ชูชก (79 พระคาถา)

ชูชก พราหมณ์ผู้มีอาชีพขอทาน ได้นางอมิตตาบุตรสาวของเพื่อนเป็นภรรยา  นางใช้ให้ชูชกไปขอสองกุมาร  ชูชกเดินทางไปสืบข่าวในแคว้นสีวีราษฎร์  สามารถหลบหลีกการทำร้ายของชาวเมือง  เดินทางไปเขาวงกตจนพบสุนัขของพรานเจตบุตรผู้คอยเฝ้าอารักขาอยู่ปากทางเข้าป่าหิมะพานต์ ฝูงสุนัขไล่กัดชูชก จนชูชกหนีขึ้นไปหลบบนต้นไม้

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะได้บังเกิดในตระกูลกษัตริย์  ประกอบด้วยสมบัติอันงดงามกว่าคนทั้งหลาย  จะเจรจาปราศรัยก็ไพเราะเสนาะโสต  แม้จะได้สามีภรรยา  และบุตรธิดาก็ล้วนแต่มีรูปทรงงดงาม

6. จุลพน (35 พระคาถา)

พรานเจตบุตร เห็นท่าไม่ดี เกรงพราหมณ์เฒ่าจะเข้าไปรบกวนพระเวสสันดร จึงยกหน้าไม้จะยิงชูชกให้ตาย แต่ชูชกหลอกลวงพรานเจตบุตรให้บอกทางไปเขาวงกต ว่าตนเป็นราชทูตของพระเจ้ากรุงสญชัย กำลังจะเข้าไปเชิญพระเวสสันดรกลับเมือง เพราะพระเจ้ากรุงสญชัยทรงอภัยโทษแล้ว พรานเจตบุตรหลงเชื่อ จึงบอกทางและมอบเสบียงทางให้อีกด้วย

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  แม้บังเกิดในปรภพใดๆก็ตาม จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมบัติบริวาร  มีอุทยานอันดารดาษด้วยไม้หอมตลบอบอวน  มีสระโบกขรณีอันเต็มไปด้วยประทุมชาติ  ครั้นตายไปแล้วก็ได้เสวยทิพยสมบัติในโลกหน้าสืบต่อไป

7. มหาพน (80 พระคาถา)

เฒ่าชูชกเดินทางไปตามคำบอกของพรานเจตบุตร พบฤาษีอัตจุตก็เล่าความเท็จอีก ฤาษีจึงชี้ทางไปอาศรมของพระเวสสันดร เมื่อไปถึงเป็นเวลาพลบค่ำ เฒ่าชูชกก็ซ่อนตัวบนชะง่อนเขาด้วยคิดว่า ต้องรอรุ่งเช้าให้พระนางมัทรีออกไปหาผลไม้ เพราะนางคงไม่ยอมยกลูกให้ใครแน่

เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ คาถา

มหาพน

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์มหาพน จะได้เสวยสมบัติในดาวดึงส์เทวโลก หากเกิดเป็นมนุษย์จะได้เป็นกษัตริย์มหาศาล มีทรัพย์ศฤงคารบริวารมาก มีอุทยานและสระโบกขรณีเป็นที่ประพาส บริบูรณ์ด้วยศักดานุภาพ

8. กุมาร (101 พระคาถา)

ชูชกทูลขอสองกุมาร  พระเวสสันดรก็ได้มอบให้ แต่ขอให้ชูชกรอมัทรีให้แม่ลูกได้ร่ำลากันก่อน ชูชกไม่ยอม ด้วยเกรงว่านางมัทรีจะไม่ยกสองกุมารให้ตน ก่อนชูชกจะพาสองกุมารจากไป พระเวสสันดรได้ตั้งราคาค่าตัวสองกุมารว่า ถ้าใครจะไถ่ตัวกัณหาชาลีไป ต้องให้ ทาส ทาสี ช้าง ม้า โคนม ทองคำ สิ่งละ 100  จากนั้น ชูชกได้ใช้เถาวัลย์มัดข้อมือสองกุมาร ลากจูงพาออกไป สองกุมารขัดขืน ก็ใช้ไม้โบยตี สองกุมารได้รับความลำบากเป็นอันมาก

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา  ครั้นตายไปแล้วได้เกิดในฉกามาพจรสวรรค์ และในสมัยที่พระศรีอริยเมตไตยมาอุบัติ ก็จะได้พบศาสนาของพระองค์  จะได้เกิดในตระกูลกษัตริย์  ตลอดจนได้สดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาของพระองค์  แล้วบรรลุพระอรหัตตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4

9. มัทรี (90 พระคาถา)

พระนางมัทรีเสด็จกลับจากหาผลไม้ในป่า ไม่เห็นสองกุมาร ได้ร้องเรียกติดตามหาก็ไม่พบ พระนางถึงกับสลบ ต่อพระพักตร์พระเวสสันดร  เมื่อทรงฟื้นแล้วพระเวสสันดรตรัสเล่าความจริงเกี่ยวกับสองพระกุมาร  พระนางทรงอนุโมททนาปุตตทานด้วย

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  เมื่อเกิดในโลกหน้า จะเป็นผู้มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาวทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงามกว่าคนทั้งหลาย  จะไปในที่ใดๆก็จะมีแต่ความสุขทุกแห่งหน

10. สักกบรรพ์ (43 พระคาถา)

พระอินทร์เกรงว่าหากมีผู้มาขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็จะบริจาคเป็นทาน พระอินทร์ไม่อยากให้พระนางมัทรีตกไปเป็นภรรยาของผู้อื่น จึงแปลงเป็นพราหมณ์ชรามาทูลขอพระนางมัทรี เมื่อพระเวสสันดรมอบให้ตนแล้ว ก็ไม่เอาไป ได้ถวายคืนแก่พระเวสสันดร โดยห้ามพระองค์ประทานนางแก่ผู้ใดอีก ก่อนจากไปพระอินทร์ได้ประทานพรให้พระเวสสันดร 8 ประการ คือ

1.  ขอให้พระบิดามีพระเมตตาเสด็จออกมารับพระองค์กลับเข้าไปครองราชย์สมบัติในพระนครสีพี
2. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษจากเรือนจำทั้งมวล
3. ขอให้ได้อนุเคราะห์คนยากจนในแว่นแคว้นให้บริบูรณ์ด้วยสรรพโภคสมบัติ
4. ขออย่าให้ลุอำนาจสตรี ล่วงภรรยาผู้อื่น ให้พอใจเฉพาะในชายาของพระองค์เท่านั้น
5. ขอให้พระโอรสทั้งสอง คือพระชาลีกุมารและกัณหากุมารี มีชนมายุยืน และได้เป็นพระมหากษัตริย์สืบราชสมบัติต่อไป
6. ขอให้ฝนแก้ว ๗ ประการ ตกลงในเมืองสีพี ขณะเมื่อพระองค์ไปถึงพระนคร
7. ขอให้สมบัติในท้องพระคลังอย่ารู้หมดสิ้นในเวลาบริจาคแก่ยาจกทั่วเมือง
8. เมื่อทิวงคตแล้ว ขอให้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อจุติลงมาเป็นมนุษย์ ให้ได้บรรลุพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ

แล้วพราหมณ์ชรา ก็คืนร่างเป็นพระอินทร์เหาะขึ้นฟ้าจากไป

อานิสงส์์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะเป็นผู้ที่เจริญด้วยลาภยศ และจตุรพิธพรทั้ง 4 คือ อายุ วรรณะ  สุขะ  พละ  ตลอดไป

11. มหาราช (69 พระคาถา)

ชูชกโบยตี ลากจูงชาลี กัณหาเดินทางออกจากป่าหิมพานต์ จนไปถึงทางสองแพร่ง ซึ่งเป็นทางไปเมืองกลิงคราฐและเมืองสีพี ชูชกหลงเลือกทางไปเมืองสีพี เดินทางไปถึงในตัวเมือง  พวกข้าหลวงจำชาลี กัณหาได้ จึงจับชูชกพาไปเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสญชัย พระเจ้ากรุงสญชัยได้ไถ่สองกุมาร  และพระราชทานอาหารเลี้ยงชูชกมากมาย  ชูชกกินมากเกินไป อาหารไม่ย่อยและถึงแก่กรรม

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะได้มนุษย์สมบัติ  สวรรค์สมบัติ  และนิพพานสมบัติ กล่าวคือ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระราชา เมื่อจากโลกมนุษย์ไปก็จะไปเสวยทิพยสมบัติ  ในฉกามาพจรสวรรค์มีนางเทพอัปสรเป็นบริวาร  ครั้นบารมีแก่กล้าก็จะได้นิพพานสมบัติอันตัดเสียซึ่งชาติ  ชรา   พยาธิ  มรณะ  พ้นจากโอฆะทั้ง๓ มี กาโมฆะ  เป็นต้น

12. ฉกษัตริย์ (36 พระคาถา)

พระเจ้ากรุงสญชัย  พระนางผุสดี พระชาลี พระกัณหา  เสด็จไปทูลเชิญพระเวสสันดร  พระนางมัทรีกลับพระนคร  เมื่อกษัตริย์ทั้งหกพระองค์ทรงพบกัน ต่างก็ทรงสะอื้นไห้คร่ำครวญ เสนาอำมาตย์ สนมกำนัล ก็สะอื้นไห้คร่ำครวญ ต่างตกอยู่ในวิสัญญีภาพ  ต่อมาพระอินทร์บันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ทุกคนจึงฟื้นคืนสติ  และขอให้พระเวสสันดรลาผนวช กลับไปครองราชสมบัติสืบไป

อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์นี้  จะได้เป็นผู้ที่เจริญด้วยพร 4 ประการ  คือ  อายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ  ทุกๆชาติ

13. นคร (48 พระคาถา)

พระเวสสันดรทรงลาผนวช ทรงสั่งลาพระอาศรม รับเครื่องทรงกษัตริย์ แล้วเสด็จกลับไปครองเมืองสีพี พระเวสสันดรเสด็จขึ้นครองราชย์ครองแผ่นดิน ทำให้ไพร่ฟ้าเสนาอำมาตย์มีสุขสงบกันทั่วทั้งแคว้น ชาวเมืองยึดมั่นในศีล บำเพ็ญกุศลตามสัตย์อธิษฐานของพระเวสสันดร กษัตริย์เมืองกลิงคราฐ ก็นำช้างปัจจัยนาเคนทร์มาถวายคืน เพราะบ้านเมืองมีฝนตกต้องตามฤดูกาลแล้ว พระเวสสันดรทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม และยังคงทรงบริจาคทาน จนพระชนมายุได้ ๑๒๐ พรรษาจึงสวรรคต แล้วจุติอุบัติเป็นท้าวสันดุสิตเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นดุสิต รวมระยะเวลาที่พระเวสสันดร มัทรี ชาลี กัณหา ต้องนิราศจากพระนครไปอยู่ป่า เป็นเวลา ๑ ปี ๑๕ วัน

เทศน์มหาชาติมี 13 กัณฑ์มีกัณฑ์อะไรบ้าง

เทศน์มหาชาติ;เทศนาเวสสันดรชาดก;13 กัณฑ์;คัมภีร์ใบลาน;กัณฑ์ทศพร;กัณฑ์หิมพานต์;กัณฑ์ทานกัณฑ์;กัณฑ์วนปเวศน์;กัณฑ์ชูชก;กัณฑ์จุลพน;กัณฑ์มหาพน;กัณฑ์กุมาร;กัณฑ์มัทรี;กัณฑ์สักกบรรพ;กัณฑ์มหาราช;กัณฑ์ฉกษัตริย์;กัณฑ์นครกัณฑ์ Item no.

กัณฑ์มัทรีมีกี่พระคาถา

กัณฑ์ทศพร มี 19 พระคาถา กัณฑ์หิมพานต์ มี 134 พระคาถา กัณฑ์ทานกัณฑ์ มี 209 พระคาถา กัณฑ์วนประเวศน์ มี 57 พระคาถา

กัณฑ์วนประเวศน์ มีกี่คาถา

กัณฑ์วนประเวศน์ มี 57 พระคาถา ข้อคิดประจำกัน มิตรแท้ย่อมไม่ทอดทิ้งเมื่อยามเพื่อนทุกข์ ช่วยปลอบปลุกยามเพื่อนอ่อนล้า ช่วยฉุดดึงยามเพื่อนตกต่ำ และช่วยชูค้ำยามเพื่อนขึ้นสู่ที่สูง กัณฑ์ชูชก มี 79 พระคาถา ข้อคิดประจำกัน อย่าฝากของมีค่า ของสำคัญหรือของหวงแหนไว้กับผู้อื่น

ในกัณฑ์ใดที่กล่าวถึง พรานเจตบุตร

#กัณฑ์ที่กัณฑ์จุลพน กล่าวถึงชูชกเดินทางไปเขาวงกต พบพรานเจตบุตร ชุชกใช้กลอุบายหลอกว่าเป็นราชทูตของพระเจ้ากรุงสัญชัย พร้อมชูกลักพริก กลักขิงเสบียงกรังที่นางอมิตตดาจัดหาให้ ว่าเป็นพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงสัญชัย จนพรานเจตบุตรหลงเชื่อ จึงชี้บอกทางให้ไปจนถึงอาศรมบทของพระอัจจุตฤาษี