โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น888 หมู่ 16 ถ.มะลิวัลย์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น 40000โทรศัพท์: 043 042 888 โทรสาร: 043 042 800 E-mail: [email protected] Personal Data Protection Act
Google Map: GPS: 16.441602, 102.819856 View on Google กรณีศึกษา 1 ชั่วโมงต่อมาหลังจากเข้านอนรักษาในหอผู้ป่วย ผู้ป่วยหมดสติ ซึมลง สูติแพทย์เจ้าของไข้มาดูอาการและวินิจฉัยว่ามีเลือดออกในสมอง ต้องได้รับการรักษาความดันโลหิตสูงและการผ่าตัดฉุกเฉิน แพทย์โทรแจ้งให้สามีทราบว่าจำเป็นต้องผ่าตัดด่วน สามีได้อนุญาตให้ผ่าตัดได้และกำลังเดินทางมาโรงพยาบาล จึงไม่ได้มีการเซ็นใบยินยอมรับการผ่าตัด หลังจากผ่าตัดทำคลอดและผ่าตัดสมอง ลูกปลอดภัย แต่ผู้ป่วยเสียชีวิต. ประเด็นศึกษา เมื่อตอบรับว่าจะให้ประวัติการรักษาทั้งหมดแล้ว ด้วยท่าทีที่อ่อนโยนและเข้าใจในความสูญเสียของสามีผู้ป่วย แพทย์อาจแสดงความเห็นอกเห็นใจด้วยการพาสามีผู้ป่วย ไปนั่งสงบอารมณ์ในห้องเงียบๆ โดยแพทย์อยู่เป็นเพื่อน ปลอบโยน ค่อยๆ เล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างโดยละเอียด ต้องทำใจที่อาจต้องเล่าให้ฟังซ้ำๆ เพราะสามีผู้ป่วยกำลังอยู่ในสภาพตกใจมาก อาจฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เมื่อเล่าแล้วต้องคอยถามเป็นระยะๆว่า อยากถามอะไรหมออีกหรือเปล่า ไม่เข้าใจอะไรอีกบ้าง และเสนอความช่วยเหลือว่ามีอะไรให้หมอช่วยเหลือได้บ้าง อยากจะให้ช่วยติดต่อใครอีกบ้าง เป็นต้น. 2. สามีผู้ป่วย กล่าวว่าเมื่อครู่ที่แพทย์โทร มาแจ้งข่าว ตนบอกให้รอก่อนจนกว่าตนจะมาถึงโรงพยาบาล ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกับที่สูติแพทย์ได้รับทางโทรศัพท์
และเนื่องจากเป็นการแจ้งข้อมูลทางโทรศัพท์ซึ่งไม่มีบุคคลที่สามเป็นพยาน หากขึ้นศาล ศาลจะเชื่อข้อมูลฝ่ายใด เมื่อแยกคุยในห้องที่เป็นสัดส่วน เงียบสงบ ควรแสดงความเสียใจและปลอบโยนสามีผู้ป่วย ถึงความสูญเสียอันใหญ่หลวงของเขา ต้องมีสติอย่าโกรธตอบหรือโต้เถียงกลับ อย่าโต้ตอบกับคำขู่ตรงๆ แต่ให้ฟังที่ความหมายของคำขู่นั้นว่าขู่ทำไม จริงๆ แล้วหมายความว่าอะไร ต้องการอะไร ไม่จำเป็นต้องไปโต้ตอบ หรือโต้เถียงในประเด็นว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง. เมื่อสามีผู้ป่วย อารมณ์เย็นลงหรือกำลังร้องไห้เสียใจ แพทย์ต้องทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้เขาทราบโดยละเอียด และอาจชี้ให้เห็นว่า "คราวนี้เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินมาก หมอจึงต้องรีบช่วยชีวิต ทั้งแม่และลูกในครรภ์ ขณะที่โทรศัพท์แจ้งให้คุณทราบด้วยว่ากำลังเกิดเหตุขึ้น หมอได้พยายามช่วยชีวิตทั้งภรรยาและลูกคุณอย่างดีที่สุดแล้ว หมอเสียใจด้วยที่คุณต้องสูญเสียภรรยาไป แต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีลูกอยู่อีกคนหนึ่งที่ยังต้องการคุณ". หากพิสูจน์ได้ว่าแพทย์ให้การรักษาถูกต้องตามมาตรฐาน โดยมีการบันทึกไว้ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการรักษา ถ้ามีการฟ้องศาลแพทย์ก็สามารถต่อสู้คดีได้ การฟ้องร้องไม่อาจยับยั้งได้ถ้าเขาต้องการฟ้อง แต่ถ้าทำให้เขาเข้าใจสภาพข้อเท็จจริงจนหมดข้อสงสัยก็อาจเปลี่ยนใจผู้ต้องการจะฟ้องได้. ข้อสำคัญที่มักจะเข้าใจผิดกันในเวชปฏิบัติ คือ การขอและได้รับ Informed consent ไม่ใช่การลงชื่อใน consent form การลงชื่อไม่ได้กระทำเพื่อช่วยให้บุคลากรการแพทย์ปลอดภัยจากการถูกฟ้องร้อง
แต่ทำเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีสิทธิตามที่ควรมี 2 อย่าง คือ สิทธิที่จะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร (the right to know) และสิทธิที่จะได้เลือกตัดสินใจด้วยตนเอง (the right to self-determination). ในใบยินยอมที่ให้เซ็นนั้นต้องบรรยายข้อมูลอย่างละเอียด และต้องใช้ภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย ไม่ใช่ภาษาหมอ ให้เขาอ่านให้เข้าใจเสียก่อน ไม่ใช่ให้เซ็นกระดาษเปล่า ควรแจ้งว่าการทำผ่าตัดอาจจะเกิด อะไรขึ้นบ้าง หรือหากไม่ผ่าตัดจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาจะได้ตัดสินใจให้เหมาะสมกับภาวะของเขา ชีวิตของเขา ให้เขาเซ็นรับทราบข้อมูลว่าเขาได้มีสิทธิเลือกการรักษาอย่างที่ต้องการแล้ว ไม่ใช่เซ็นว่าได้จำใจเลือกตามที่หมอบอกแล้ว และจำใจต้องรับผิดชอบกับความเสียหายจากการผ่าตัดนั้นๆ เสียเอง. ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ความยินยอมได้ ผู้ที่จะลงชื่อให้ความยินยอมควรเป็นญาติใกล้ชิดและมีบทบาทสำคัญในครอบครัวซึ่งต้องพิจารณาเป็นกรณีๆไป ไม่จำเป็นต้องใช้ลำดับของทายาทในการรับมรดก. 6. สามีมีสิทธิอะไรบ้างตามกฎหมายในการเซ็นยินยอมให้ภรรยาเข้ารับการรักษาพยาบาล เช่น การผ่าตัดฉุกเฉิน การทำหมัน การคุมกำเนิด ฯลฯ อย่างไรก็ตามเมื่อคำนึงถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว หากสามีไม่ยินยอมก็อาจให้คู่สมรสไปตกลงกันเองเสียก่อน โดยแพทย์ช่วยเหลือให้ข้อมูล ที่คู่สมรสยังติดใจสงสัย แต่หลังจากนั้นหากหญิงยินยอม และยืนยันให้แพทย์ทำการผ่าตัดให้ แพทย์ก็ต้องทำให้ เพราะเป็นสิทธิของหญิงนั้นที่จะทำได้ ในทางปฏิบัติแพทย์อาจใช้วิธีคุยกับหญิงมีสามีก่อนเข้ารับการผ่าตัดว่า เรื่องนี้ได้คุยกับสามีมาดีแล้วหรือยัง อาจชวนให้คู่สมรสไปคุยกันก่อน และแพทย์ต้องบันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ในเวชระเบียน. 7. ในกรณีที่มีการเซ็น informed consent ยินยอมให้ผ่าตัดแล้ว แต่ผู้ป่วยได้รับความเสีย หายจากการรักษาโดยเหตุสุดวิสัย แพทย์มีความผิดหรือไม่ อย่างไร อนึ่งคำว่า เหตุสุดวิสัย เป็นภาษาทางกฎหมาย อยู่ในกฎหมายแพ่ง หมายถึง เหตุที่บุคคลไม่อาจจะป้องกันได้ เช่น จากฟ้าผ่า แผ่นดินไหว. กรณีนี้อาจเป็นเหตุที่ไม่อาจทราบล่วงหน้าที่จะป้องกันได้ แต่ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามคำในภาษากฎหมาย. สายพิณ หัตถีรัตน์ พ.บ., ว.ว (เวชปฏิบัติทั่วไป) อ.ว. (เวชศาสตร์ครอบครัว) |