โดย ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร Show
อัตราสำหรับ SMEถ้าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน ฿5,000,000 และรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการตลอดทั้งปี (รอบระยะเวลาบัญชี) ไม่เกิน ฿30,000,000 จะได้รับอัตราภาษีพิเศษสำหรับ SME ดังนี้12
อัตราทั่วไปในกรณีที่ไม่ใช่ SME จะเสียภาษีในอัตราคงที่ 20% ของกำไรสุทธิตั้งแต่บาทแรก
ติดต่อ iTAX sme เพื่อรับบริการวางแผนภาษีธุรกิจ ตั้งบริษัท ทำบัญชี จด VAT ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอื่นๆ โทร. 062-486-9787 ทำธุรกิจอยู่ จดบริษัทเลยเสียภาษีถูกกว่ามั้ย?ติดต่อขอรับบริการได้ที่ iTAX sme ค่าบริการ โทร 062-486-9787 อ้างอิง
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีบุคคลที่ทุกคนจะต้องเสียให้แก่รัฐหากมีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยจัดเก็บจากฐานกำไรสุทธิทางภาษี ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบในเรื่องอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเปรียบเทียบและมองภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าควรจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือไม่ ท่านใดต้องการบริการรับทำบัญชี ทางเรามีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ให้ใช้ฟรี สามารถออกเอกสารหน้าตาสวยงามผ่านโปรแกรมได้ ดูรายละเอียดที่นี่ : รับทำบัญชี
สารบัญ
วิธีในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยทั่วไปแล้ววิธีในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีสูตรการคำนวณดังนี้ เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งจริงๆแล้ววิธีการในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ซึ่งผมได้เคยเขียนอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดแล้วในบทความที่ชื่อว่า “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคำนวณอย่างไร” ดังนั้นในบทความนี้ผมจะไม่ได้เขียนรายละเอียดวิธีการคำนวณอีก ท่านใดต้องการทราบวิธีการคำนวณก่อนเชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านบทความย้อนหลังได้เลยนะครับ วิธีคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลวิธีการในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลมีวิธีการคำนวณดังต่อไปนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล = กำไรทางภาษี x อัตราภาษี จากสูตรในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว สามารถแตกรายละเอียดออกมาได้ดังนี้ กำไรทางภาษี = กำไรทางบัญชี + ผลแตกต่างระหว่างกำไรทางบัญชีและกำไรทางภาษี ผลแตกต่างระหว่างกำไรทางบัญชีและกำไรทางภาษี จริงๆแล้วมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ในที่นี้ผมขอสรุปตัวหลักๆมาให้ดังนี้ครับ ผลแตกต่างระหว่างกำไรทางบัญชีและกำไรทางภาษี = รายจ่ายต้องห้าม + รายได้เพิ่มทางภาษี สรุปสูตรภาษีเงินได้นิติบุคคลดังนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล = (กำไรสุทธิทางบัญชี + ผลแตกต่างระหว่างกำไรทางบัญชีและกำไรทางภาษี) x อัตราภาษี จริงๆแล้ววิธีการในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลมีรายละเอียดเพิ่มเติมค่อนข้างมาก ซึ่งผมได้เคยเขียนอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดแล้วในบทความที่ชื่อว่า “ภาษีเงินได้นิติบุคคลคืออะไร” ดังนั้นในบทความนี้ผมจะไม่ได้เขียนรายละเอียดวิธีการคำนวณอีก ท่านใดต้องการทราบวิธีการคำนวณก่อนเชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านบทความย้อนหลังได้เลยนะครับ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2564สำหรับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัพเดทล่าสุดจะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้
โดยบุคคลแต่ละบุคคลที่มีเงินได้ ต้องนำเงินได้สุทธิที่คำนวณได้ มาคำนวณกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังกล่าวเพื่อคำนวณหาภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกมา เช่น สมมติให้นาย ก มีเงินได้สุทธิประจำปีที่ 1,550,000 บาท ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของนาย ก จะอยู่ที่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เมื่อนำเงินได้สทธิ คูณกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แล้วก็จะได้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = 252,500 บาท ที่มา : อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แนะนำหลักสูตรเรียนออนไลน์
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 2564สำหรับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอัพเดทล่าสุดจะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในปัจจุบัน จะแบ่งได้ออกเป็น 2 กรณี นั่นคือ
ความหมายของคำว่า SME ตามกฎหมายภาษีอากรคือนิติบุคคลที่มีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท นิติบุคคลที่ไม่ใช่ SME คือเป็นนิติบุคคลที่มีทุนชำระแล้วเกิน 5 ล้านบาท หรือรายได้รวมเกิน 30 ล้านบาท สำหรับตัวอย่างในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล สมมติ บริษท กขค จำกัด มีกำไรสุทธิทางภาษีที่ 3,200,000 บาท หากบริษัท กขค จำกัดเป็น SME จะคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ดังนี้
หากบริษัท กขค จำกัดไม่ได้เป็น SME (เป็นบริษัทขนาดใหญ่) จะคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ดังนี้
เปรียบเทียบ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา VS อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลตารางเปรียบเทียบแบบชัดๆระหว่างอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล แสดงได้ดังนี้
จากรูปเมื่อนำอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาเปรียบเทียบกับอัตราภาษีเงินได้นิติบบุคลดูแล้ว จะเห็นได้ว่าอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเริ่มต้นจาก ยกเว้นภาษี ไปแตะอัตราสูงสุดถึง 35% หากเป็นนิติบุคคล SME อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเริ่มต้นจาก ยกเว้นภาษี ไปแตะอัตราสูงสุดที่ 20% และหากไม่ใช่นิติบุคคล SME ก็จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีโดยจะอัตราภาษีอยู่ที่ 20% จากตารางข้างต้นนี้สรุปได้ว่าหากธุรกิจของคุณยังเล็กอยู่รายได้ยังไม่มาก ทางคุณก็ควรที่จะทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา เนื่องจากอัตราภาษีเงินได้บุคคลธุรรมดาในช่วงแรกที่ต่ำกว่าอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล หากธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคล SME เริ่มใหญ่ขึ้น ช่วงกำไรที่เกิน 750,000 บาทขึ้นไป จะเริ่มมีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต่ำกว่าอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากธุรกิจของคุณเป็นนิติบุคคลที่ไม่ใช่ SME ช่วงกำไรที่เกิน 1,000,000 บาทขึ้นไป จะเริ่มมีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต่ำกว่าอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ดังกล่าวเป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้นเนื่องจากตัวฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์นั้นเป็นคนละฐานกัน กล่าวคือ หากเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เราจะใช้ฐานเงินได้สุทธินำมาคำนวณ แต่หากเป็นนิติบุคคลเราจะใช้ฐานกำไรสุทธิทางภาษีมาคำนวณ ดังนั้นหากต้องการวิเคราะห์จริงๆว่าธุรกิจของเรานั้นควรจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ผมแนะนำให้ลองคำนวณออกมาเป็นตัวเลขจริงๆเท่านั้นครับ สรุปจากข้อมูลการเปรียบเทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล สรุปได้ว่าหากธุรกิจที่เราทำนั้นยังเล็กๆอยู่ก็ควรที่จำทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา เพราะมีอัตราภาษีที่ต่ำ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทางด้านบัญชีอีกด้วย แต่หากธุรกิจของคุณเริ่มใหญ่มากๆขึ้น การดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลอาจมีความคุ้มค่าในเชิงภาษีมากกว่า ช่วยแชร์บทความให้หน่อยครับ |