ทีม ที่ ดี ที่สุด ใน โลก

วันที่ 19 มกราคม 2566 ดีลอยต์ (Deloitte) เครือข่ายบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำ เผยผลการจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก ประจำฤดูกาล 2021-22 โดยวัดกันที่รายได้ที่เข้าสู่สโมสร ปรากฏว่า 20 อันดับแรกมาจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 11 ทีม จากทั้งหมด 20 สโมสรเลยทีเดียว ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการจัดอันดับมานาน 26 ปี ที่มีทีมจากลีกเดียวกันติดเข้ามาเกินครึ่งลีก

ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีอันดับขยับขึ้นมามากที่สุดถึง 4 อันดับ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ขึ้นจากที่ 5 มาอยู่อันดับ 4 เช่นกัน ส่วน เชลซี, สเปอร์ส และ อาร์เซนอล ยังรักษาตำแหน่งในกลุ่มท็อป 10 เอาไว้ได้

สำหรับ 20 อันดับแรกทำรายได้รวมกันถึง 7,820 ล้านปอนด์ (320,620 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ จากฤดูกาล 2020-21 ซึ่งตัวแปรสำคัญอยู่ที่แฟนบอลกลับมาเข้าสนามได้ตลอดทั้งฤดูกาลอีกครั้ง นับตั้งแต่ผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 โดยรายได้ในวันแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก 97.34 ล้านปอนด์ (3,990.94 ล้านบาท) เป็น 1,227.72 ล้านปอนด์ (50,336.52 ล้านบาท)

เรอัล มาดริด คือสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา เจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย และลา ลีกา 3 สมัย นี่ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความยิ่งใหญ่ของทัพราชันชุดขาวในรอบสิบปี

เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่พวกเขาใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะมากมาย ความสำเร็จตรงนี้อาจไม่ทำให้ใครแปลกใจนัก แต่อย่างที่เห็นกันอยู่บ่อยครั้งว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวของการพิชิตโลกลูกหนัง การยืนระยะเป็นทีมฟุตบอลหมายเลขหนึ่งนานถึง 10 ปี ย่อมมีปัจจัยความสำเร็จมากกว่าทุ่มซื้อนักเตะ และนี่คือปัจจับเบื้องหลังที่ทำให้เรอัล มาดริด ครองความยิ่งใหญ่ตลอดช่วงปี 2010s 

วัฒนธรรมแห่งความสำเร็จ

ผลงานการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 9 สมัย และประสบความสำเร็จในการสร้างทีมรวมดารา “กาลาติกอส” ในทศวรรษ 2000s ทั้งหมดที่กล่าวมาคือหลักฐานชั้นดีที่ยืนยันว่า เรอัล มาดริด คือสโมสรฟุตบอลที่มีคำว่าความสำเร็จอยู่ในวัฒนธรรมสโมสร และเพื่อจะทำให้ทัพราชันชุดขาวยังคงเป็นทีมฟุตบอลหมายเลขหนึ่งแห่งยุโรป ความสำเร็จในระดับช็อคโลกจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งในทศวรรษ 2010s

ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก จึงกลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ทัพราชันชุดขาวต้องการคว้ามาครองให้ได้ทุกฤดูกาล เพราะ เรอัล มาดริด ถือเป็นสโมสรแรก ๆ ในยุโรปที่มองเห็นว่าความสำเร็จในถ้วยยุโรปต่างหากที่จะทำให้สโมสรฟุตบอลทีมหนึ่งโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่การผูกขาดแชมป์ลีกในประเทศอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ โปรเจคต์กาลาติกอสรอบสองจึงเริ่มต้นอีกครั้งในช่วงต้นทศวรรษ 2010s โดยนักเตะชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน โรนัลโด, แกเร็ธ เบล, โทนี่ โครส และคาริม เบนเซมา ทั้งหมดคือนักเตะชื่อดังนอกสเปนที่ทัพราชันชุดขาวตัดสินใจกว้านซื้อมาเป็นเจ้าของในเวลานั้น เพื่อเป็นรากฐานของทีมที่จะครองความยิ่งใหญ่ในอีกสิบปีข้างหน้า

ทีม ที่ ดี ที่สุด ใน โลก

Getty Images

การใช้เงินซื้อความสำเร็จจึงกลายเป็นข้อครหาของเรอัล มาดริด ในช่วงเวลานั้น เพราะแนวทางของพวกเขาช่างขัดแย้งกับวิธีการของบาร์เซโลน่าในช่วงต้นทศวรรษ 2010s ที่เน้นย้ำไปยังการสร้างทีมโดยเด็กปั้นจากศูนย์ฝึกเยาวชนของทีม แต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน วิสัยทัศน์และความทะเยอทะยานของทัพราชันชุดขาวได้ก้าวเข้าไปยังหัวใจของคนทั่วโลก

เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่ง แฟนบอลต่างตระหนักได้ว่า เรอัล มาดริด ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับบาร์เซโลน่าภายใต้แนวทางเดียวกัน เพราะทั้งสองคือสโมสรฟุตบอลที่มีปรัชญาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และในเมื่อวัฒนธรรมของทัพราชันชุดขาวคือการสร้างความสำเร็จ แม้จะเป็นการเอาชนะและคว้ามาด้วยเงินมหาศาล ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแนวทางของเรอัล มาดริด ที่ทำมาตลอดหลายสิบปี และความสำเร็จที่เกิดขึ้นตรงนี้ก็เป็นความสำเร็จจากตัวตนของมาดริดจริง ๆ

“ทำไมเรอัล มาดริด ถึงคว้าแชมป์มากมาย ? เป็นเพราะเงิน แน่นอนว่าคำตอบนั้นถูกต้อง หรือจะเป็นเพราะนักเตะมีความสามารถ นั่นก็ถูกอีกเหมือนกัน หรือจะเป็นเพราะการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างจริงจัง นั่นก็ใช่อีกเช่นกัน” สตีเวน มันดิส นักเขียนชาวอเมริกันกล่าวถึงแนวคิดสำคัญที่ทำให้เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จเหนือใคร

“แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนไม่ใช่แนวทางที่แท้จริงของเรอัล มาดริด เหล่าผู้บริหารทีมเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือวัฒนธรรมของทีมจะมีผลต่อผลงานของสโมสรมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกสนามก็ตาม” 

เงิน 100 ล้านยูโรที่จ่ายเพื่อคว้าตัวแกเร็ธ เบล ในฤดูกาล 2013-14 อาจจะยังไม่ตอบแทนพวกเขาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจนถึงทุกวันนี้ แต่ใครจะไปสนใจความคุ้มค่าตรงนั้นในเมื่อบั้นปลายแล้ว เรอัล มาดริด คือทีมที่คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลดังกล่าว นี่คือสัญญาณที่ทัพราชันชุดขาวแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของพวกเขา ก่อนคว้าความสำเร็จมาครองได้จริงอย่างที่ฝันไว้ทุกประการ

ทีม ที่ ดี ที่สุด ใน โลก

พัฒนาศักยภาพนักเตะในทุกมิติ

ไม่มีความสำเร็จไหนบนโลกใบนี้ที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ และความสำเร็จของเรอัล มาดริด ในทศวรรษ 2010s คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากสโมสรไม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาศักยภาพทีมในทุกมิติ โดยหนึ่งในการยกระดับมาตรฐานทีมที่หลายคนอาจมองข้ามไป คือการพัฒนาคุณภาพของบุคลากร และศูนย์ฝึกหรือเครื่องอำนวยความสะดวกด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ล้ำสมัย

“ในความเป็นจริง ยิ่งคุณมีเครื่องมือมากมายให้ใช้งานมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทีมคุณจะแสดงผลงานได้ดีขึ้นก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสที่ทีมคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นด้วย” กูตี อดีตนักเตะเรอัล มาดริด และอดีตกุนซือทีมเยาวชนเรอัล มาดริด กล่าว

ด้วยเหตุนี้ เรอัล มาดริด จึงไม่ลังเลที่จะยกระดับศูนย์ฝึกนักเตะ หรือแม้แต่สำนักงานของพวกเขามาตั้งแต่ปี 2005 โดยสำนักงานของพวกเขากินพื้นที่ขนาดใหญ่ถึงกว่า 6,668 ไร่ แถมยังอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติมาดริดบาราคัส เพื่อช่วยให้เหล่าบรรดานักเตะหน้าใหม่ หรือบุคลากรของสโมสรมีความสะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด

“ทั้งผู้เล่นและโค้ชของเราคือผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษอย่างแท้จริง เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณมาถึงที่นี่ คุณจะพบกับบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพัฒนาในแต่ละขั้นตอนที่จำเป็นต่อการฝึกซ้อมของผู้เล่น” กูตี กล่าวเสริม

ศูนย์การแพทย์ที่กว้างขวาง, ห้องกายภาพและพื้นที่วารีบำบัดขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำสี่สระ, อ่างน้ำร้อนและเย็นสองอ่าง, ห้องซาวน่า และห้องอาบน้ำสไตล์ตุรกี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกส่วนหนึ่งที่นักเตะเรอัล มาดริด จะได้รับ ซึ่งนี่ยังไม่รวมความจริงที่ห้องแต่งตัวของนักเตะชุดใหญ่เชื่อมกับโรงยิมขนาดใหญ่ และสนามฝึกซ้อมของทีมโดยตรง ซึ่งสนามซ้อมของทีมใช้หญ้าแบบเดียวกับซานติอาโก้ เบร์นาบิว เพื่อเพิ่มความคุ้นชินของนักเตะ

ทีม ที่ ดี ที่สุด ใน โลก

Getty Images

ส่วนเหตุผลว่าทำไมเรอัล มาดริด ต้องลงทุนกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อนักเตะมากขนาดนี้ นั่นเพราะทางสโมสรรู้ดีว่าพวกเขาต้องพึ่งพานักเตะซูเปอร์สตาร์ที่ย้ายมาด้วยค่าตัวราคาแพง ซึ่งบางครั้งนักเตะเหล่านี้อาจย้ายทีมอย่างกระทันหัน จึงขาดการเตรียมตัวกับสโมสรใหม่ หรือบางทีนักเตะของทีมอาจมีโปรแกรมที่แน่นขนัด การลงสนามที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายนักเตะย่ำแย่ได้ นี่คือสิ่งที่เหล่าผู้บริหารเรอัล มาดริด มองเห็นมานานแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เรอัล มาดริด อันเป็นสโมสรที่ลงทุนไปกับนักเตะชื่อดังราคาแพงจึงต้องลดความเสี่ยงให้มากที่สุด การพัฒนาศูนย์ฝึกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการดูแลสภาพจิตใจนักเตะไม่ให้เกิดความเหนื่อยหน่ายขณะลงแข่งขันจึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือรายละเอียดเล็กน้อยที่เรอัล มาดริด ไม่เคยมองข้าม และปัจจัยนี้ส่งผลให้เห็นเด่นชัดถึงความสำเร็จในทศวรรษ 2010s ของพวกเขา
 

ก้าวหน้าเรื่องวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ 

หากปัจจัยด้านสิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่เพียงพอที่จะยกเรอัล มาดริด ขึ้นเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของโลก การใช้ข้อมูลเชิงสถิติวิเคราะห์ หรือ Data analytics คืออีกหนึ่งสิ่งที่ทัพราชันชุดขาวให้ความสำคัญเหนือสโมสรไหน โดยในปี 2015 ทางสโมสรได้เปิดทำการศูนย์นวัตกรรมกีฬา (Global Sports Innovation Center) ห้องแล็บเพื่อทำการศึกษาข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของนักเตะโดยเฉพาะ

ศูนย์นวัตกรรมกีฬาของเรอัล มาดริด ถือเป็นหนึ่งในโปรเจคต์ใหญ่ที่สุดเท่าที่วงการฟุตบอลสเปนเคยมีมา เพราะศูนย์วิจัยนี้ได้รับความร่วมมือจากสามภาคส่วน ได้แก่ ทุนส่วนตัว, ทุนสาธารณะ และองค์กรการศึกษา ที่ต่างเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อทำการวิจัย และพัฒนานักเตะด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเรอัล มาดริด มองเห็นว่าการพัฒนานักเตะเชิงเทคนิคเป็นเรื่องสำคัญ การลงทุนไปกับข้อมูลเชิงสถิติวิเคราะห์จึงเป็นเรื่องสำคัญ

เรอัล มาดริด จะมีการประเมินผลงานของนักเตะอย่างเข้มข้น ไล่ตั้งแต่ ผลงานของพวกเขาในสนามฝึกซ้อมแต่ละวัน, รูปแบบการเคลื่อนที่ว่าเป็นประโยชน์กับแผนการเล่นของทีมมากแค่ไหน หรือแม้แต่ทิศทางการจ่ายบอลของผู้เล่นรายบุคคล ทั้งหมดถูกนำมาคิดในเชิงสถิติวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการเล่นของทีมในภาพรวม

แต่สิ่งสำคัญที่สุดซึ่งทำให้เรอัล มาดริด สามารถใช้การเก็บข้อมูลเชิงสถิติวิเคราะห์เพื่อนำมาพัฒนาทีมอย่างถูกต้อง คือการเน้นย้ำกับโค้ชและนักเตะว่า การพัฒนาในลักษณะนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเตะรายบุคคล แต่เป็นไปเพื่อค้นหาและพัฒนาศักยภาพของทีมให้มากที่สุด เพราะการเก็บข้อมูลเชิงสถิติวิเคราะห์คือวิธีเดียวที่โค้ชจะมองเห็นปัจจัยความเชื่อมโยงของนักเตะในทีมซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (เช่น การสร้างเครือข่ายการจ่ายบอลที่มีประสิทธิภาพ)

เรอัล มาดริด จึงทุ่มงบประมาณมหาศาลไปยังการพัฒนาโครงสร้างของทีมในแง่การเก็บข้อมูลเชิงสถิติวิเคราะห์ เพราะการสร้างสรรค์แผนการเล่นในรูปแบบใหม่ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมองข้อมูลผ่านตัวเลขเท่านั้น นี่คือทิศทางใหม่ที่โลกฟุตบอลกำลังก้าวไป และเรอัล มาดริด มองเห็นเรื่องนี้ก่อนใครตั้งแต่ทศวรรษก่อนหน้า

ทีม ที่ ดี ที่สุด ใน โลก

@ChampionsLeague

เมื่อลองพิจาณาถึงปัจจัยทั้งหมด เรอัล มาดริด จึงไม่ใช่สโมสรที่ประสบความสำเร็จในทศวรรษ 2010s เพราะทุ่มหนักเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะวัฒนธรรมสโมสรที่ต้องการความสำเร็จ จนนำมาสู่การพัฒนาที่ล้ำหน้าในทุกด้าน สิ่งเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เรอัล มาดริด กลายเป็นยอดทีมเหมือนในปัจจุบัน

ทีมอะไรเก่งที่สุดในโลก

บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเป็นสโมสรที่ดีสุดของโลก จากการจัดอันดับล่าสุด จากการจัดอันดับของบริษัทเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ด้านกีฬา ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานดีขึ้นเข้ามาติดกลุ่มท็อป 10.

ใครคือนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก

เดอะ การ์เดี้ยน หนังสือพิมพ์ชื่อดังของ อังกฤษ ได้ทำการจัดอันดับ 100 นัดเตะยอดเยี่ยมของโลก ประจำปี 2022 โดยมีคณะกรรมการตัดสินจำนวน 206 คน ปรากฏว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้รับการโหวตมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนสูงถึง 76 เปอร์เซนต์ จากผลงานที่พา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เมื่อ ...

ทีมไหนได้แชมป์มากที่สุด

fifa.com/clubworldcup. ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2022. ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุด คือ เรอัลมาดริด จากสเปน 5 สมัย ... ชนะเลิศ (จำแนกตามเมือง).

ทีมฟุตบอลในอังกฤษมีกี่ทีม

ณ ฤดูกาล 2021–22 มี 50 สโมสรที่เคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีก โดยแบ่งเป็นสโมสรจากอังกฤษ 48 สโมสรและสโมสรจากเวลส์ 2 สโมสร (คาร์ดิฟฟ์ซิตีและสวอนซีซิตี) พวกเขาลงเล่นในระบบลีกฟุตบอลอังกฤษด้วยเหตุผลในทางปฏิบัติและทางประวัติศาสตร์