เส้นเลือด ใน สมอง ตีบ น่า กลัว ไหม

เพราะฉะนั้น สรุปก็คือ ภาวะหลอดเลือดผิดปกติจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่สมองขาดเลือด กับ กลุ่มที่มีเลือดออกในสมอง

สาเหตุภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

โรคหรือภาวะหลอดเลือดในสมองผิดปกติ เราพบได้ตั้งแต่อายุ 20, 30, 40 ไปจนถึงวัยกลางคน ไปจนถึงผู้สูงอายุ สาเหตุรูปแบบของการผิดปกติ มันมีความแตกต่างกันหลายรูปแบบ

ในกลุ่มคนอายุน้อย ๆ อาจจะเป็นลักษณะของความผิดปกติแต่กำเนิด เป็นความผิดปกติของระดับพันธุกรรมที่ให้หลอดเลือดในสมองผิดปกติเกิดเป็นปาน เกิดมีการต่อกันของหลอดเลือดผิดปกติ

ส่วนในวัยกลางคนก็มักจะเกิดจากการใช้ชีวิต สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่สาเหตุหลัก ๆ จะมาจากการสูบบุหรี่ นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของสารเคมีที่ใช้หรือยาที่ใช้ ยาบางอย่างก็ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น มีการอุดตัน หรือมีการอักเสบของหลอดเลือดได้

ส่วนในผู้สูงอายุก็จะเป็นลักษณะของความเสื่อม คือผนังหลอดเลือดมันเสียความยืดหยุ่นไป หรือมีภาวะของโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคเลือด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในวัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ

สัญญานเตือนภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

อาการหลักคือ อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว แขนขาอ่อนแรง หรือมีการพูดไม่ชัด แต่โอกาสที่มันจะเตือน ระยะเวลามันสั้นมาก บางคนไม่คิดด้วยซ้ำว่า อันนี้คือการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง เพราะจริง ๆ แล้ว อาการปวดศีรษะ อาการคลื่นไส้ อาเจียน มันเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง เพราะฉะนั้น มันค่อนข้างยากที่จะบอกว่าเป็นอาการของหลอดเลือดสมอง แต่ก็ต้องบอกว่าอาการปวดศีรษะ อาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นอาการนำของการเกิดภาวะของหลอดเลือดผิดปกติในสมอง

การรักษาภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

ทุกคนก็ทราบดีว่าเวลามันเกิดความเสียหายขึ้นในสมองแล้ว โอกาสที่เราจะกลับมาเหมือนเดิมเรียกว่ามันค่อนข้างยาก เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของเลือดที่ออก หรือขนาดของตำแหน่งของสมองที่เสียหาย ขนาดของสมองที่ขาดเลือด ตำแหน่งที่มีการเสียหายของสมอง อันนี้จะเป็นตัวแปรที่จะทำให้เราบอกได้ว่าคนไข้จะกลับมาได้แค่ไหน

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ เวลามันมีการเสียหายของระบบประสาทหรือสมองเกิดขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้น ณ วินาทีนั้นเลย ที่มีการฉีกขาดหรือมีการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง เพราะฉะนั้น โอกาสที่คนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมเลย มันก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรักษา และวิธีการรักษา เราก็ต้องจัดการในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวของคนไข้เอง เบาหวาน ความดัน โรคไต โรคหัวใจ ถัดมาก็คือปัญหาที่ตัวสมองเอง เราจะสามารถควบคุมการอักเสบของสมองไม่ว่าจะเป็นจากการที่สมองขาดเลือด หรือมีเลือดออกในสมองได้อย่างไร และหลังจากนั้นแล้ว ถ้าคนไข้รอดชีวิตมาแล้ว การฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาหรือพอที่จะขยับแขนขา หรือลดการกดทับของร่างกายได้นี่ อันนี้ต้องปฏิบัติ ต้องทำต่อไป

สัญญาณเตือน FAST ถือเป็นสิ่งจำเป็นพึงจดจำ หากพบอาการหนึ่งอาการใดข้างต้น ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที เนื่องจากเซลล์สมองขาดเลือดเพียง 1 นาที ส่งผลให้เซลล์สมองตายมากถึง 2 ล้านเซลล์ ดังนั้นการเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต รวมถึงการเสียชีวิตได้

แบ่งปันเกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพทั้งโรคภัยไข้เจ็บ วิธีออกกำลังกาย เคล็ดลับลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อยู่กินของอร่อยไปได้อีกนาน ๆ

มีอยู่ไม่กี่โรคที่สามารถคร่าชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไปได้ภายในไม่กี่วินาที หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นโรคหัวใจวาย หลอดเลือดสมองแตก หรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้ระบบการทำงานของหัวใจ หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่อีกหนึ่งโรคที่อันตรายไม่แพ้กัน และยังสามารถคร่าชีวิตเราไปได้ภายในเวลาไม่นาน คือ “เส้นเลือดในสมองตีบ”

อ่านต่อ >> "โจอี้ บาซู" เส้นเลือดในสมองตีบ ป่วยอัมพาตซีกขวาหยุดนิ่ง แพทย์ชี้หายเป็นปกติยาก

 

เส้นเลือดในสมองตีบ คืออะไร?

เส้นเลือดในสมองตีบ เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง สิ่งที่ทำให้เส้นเลือด หรือหลอดเลือดตีบ คือการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดระหว่างที่เลือดกำลังไหลไปตามกระแสเลือดเข้าสู่สมอง หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมอง หรือทำให้เส้นเลือดในสมองตีบจนเลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ทำให้หลอดเลือด หรือเส้นเลือดตีบแคบลง มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง เหมือนท่อน้ำที่ตันจากเศษอาหาร

 

ปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองตีบ

- อายุที่มากขึ้น ทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพลงไปด้วย ผิวชั้นในของผนังหลอดเลือดด้านในอาจจะหนา หรือแข็งขึ้นจากการที่มีไขมัน หรือหินปูนมาเกาะ ทำให้รูในเส้นเลือดแคบลง เลือดก็ไหลเวียนได้น้อยลง

- เพศชาย มีความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดในสมองตีบ รวมไปถึงโรคในตระกูลหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้หญิง

- อยู่ในภาวะพบการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงของการที่เม็ดเลือดจับตัวกัน หรือเกิดลิ่มเลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

- ความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ

- เบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย หากเกิดอาการหลอดเลือดแข็งที่สมอง ก็จะมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองอื่นๆ มากกว่าคนทั่วไปถึง 2-3 เท่า

- ไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยที่สำคัญของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เพราะอยู่ในภาวะไขมันสะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดมากเกินไป จนทำให้เข้าไปกีดขวางการลำเลียงเลือดเข้าสู่สมอง

- โรคหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจผิดปกติ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด และอาจเข้าไปอุดตันที่เส้นเลือดในสมอง จนทำให้สมองขาดเลือดได้

- สูบบุหรี่ เพราะนิโคติน และคาร์บอนมอนอกไซด์ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง เป็นตัวทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว เพียงแค่สูบบุหรี่ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองมากถึง 3.5 %

- ยาคุมกำเนิด ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเป็นเวลาติดต่อกัน อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิด

- โรคซิฟิลิส เป็นสาเหตุของอาการหลอดเลือดอักเสบ และหลอดเลือดแข็ง

- ขาดการออกกำลังกายอย่างพอเพียง และเหมาะสม

 

สัญญาณอันตราย “เส้นเลือดในสมองตีบ”

  1. มีอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า และ/หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย

  2. พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ น้ำลายไหล กลืนลำบาก
  3. ปวด หรือเวียนศีรษะเฉียบพลัน

  4. ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือเห็นเพียงครึ่งซีก หรืออาจจะตาบอดข้างเดียวเฉียบพลัน

  5. เดินเซ ทรงตัวลำบาก

อาการเหล่านี้อาจเกิดเพียงชั่วคราวแล้วหายไป อาจจะเกิดขึ้นหลายครั้งเป็นๆ หายๆ หรืออาจจะมีอาการตอนที่หลอดเลือดอุดตันจนมีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอกะทันหัน จนทำให้สมองขาดเลือดถาวร ดังนั้นหากมีสัญญาณตามอาการดังกล่าวแม้เพียงครั้งเดียว ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยทันที เพราะหากไม่ถึงชีวิต ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้เช่นกัน

 

การรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

แพทย์อาจทำการสั่งยาสลายลิ่มเลือดให้ทาน เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น วิธีนี้จะได้ผลดีกับผู้ป่วยที่มีอาการแล้วรีบมาพบแพทย์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง (ไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง) แต่หากถึงขั้นเส้นเลือดในสมองปริ หรือแตกจนเลือดออก แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต

 

วิธีป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

  1. ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงก่อนเกิดอาการ

  2. ควบคุมระดับความดันโลหิต ปริมาณไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลา

  3. ควบคุมอาหาร โดยลดอาหารรสเค็ม หวาน และมัน

  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ และอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง

  5. งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

  6. หากมีอาการตามที่กล่าวเอาไว้ใน “สัญญาณอันตราย เส้นเลือดในสมองตีบ” ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

>> "ตีบ ตัน แตก" อันตรายจากโรคหลอดเลือดสมอง

>> 10 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับ “ความดันโลหิตสูง” สาเหตุโรคหัวใจ-ไต-หลอดเลือดสมอง

>> จริงหรือไม่? อาบน้ำผิดวิธี เสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตกในห้องน้ำ

>> วิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วย "หลอดเลือดสมองแตก

โหลดเพิ่ม

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ภาพ :iStock

เส้นเลือด ใน สมอง ตีบ น่า กลัว ไหม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เส้นเลือดในสมองตีบเส้นเลือดในสมองแตกหลอดเลือดสมองหลอดเลือดในสมองสุขภาพกายรู้ทันโรคดูแลสุขภาพความเสี่ยงอันตรายโรค