มือถือตกเปิดไม่ติด เกิดจากอะไร จะเช็กและแก้ไขอย่างไรดี สำหรับคนเผลอทำมือถือตกพื้น ควรทำยังไงก่อนตัดสินใจส่งซ่อม เชื่อว่าคนใช้มือถือแทบทุกคนน่าจะเคยเผลอทำเครื่องตกพื้นกันบ้างแหละ และถ้าหากโชคร้ายก็อาจตกแรงเกินไปจนเครื่องมีปัญหา เปิดไม่ติด ใช้งานไม่ได้ งานเข้ากันเลยทีเดียว เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วหลายคนก็อาจจะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ จะส่งซ่อมเลยดีไหม วันนี้เรามีข้อแนะนำมาฝากกัน มือถือตก เปิดไม่ติด เกิดจากอะไร ? เมื่อเราทำมือถือตก ตัวเครื่องก็จะกระแทกกับพื้น ทำให้เกิดแรงกระทบกระเทือนตั้งแต่ภายนอกเครื่องไปจนถึงภายในเครื่อง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรงที่ทำตก ระดับความสูงจากพื้น ไปจนถึงลักษณะของพื้นว่าเป็นไม้ ปูน หรือพื้นผิวอื่น ๆ และถ้าหากมือถือถูกแรงกระแทกมากพอ ก็อาจทำให้หน้าจอแตก ตัวเครื่องเป็นรอย ไปจนถึงเปิดไม่ติดอีกเลย สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตัวเครื่องเปิดไม่ติดนั้นก็สามารถเป็นไปได้หลายอย่าง อาจจะหน้าจอพัง สายหรือชิ้นส่วนภายในเครื่องหลุดหรือเสียหาย ซึ่งในบางกรณีก็อาจสามารถตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ แต่ส่วนมากมักจะต้องให้ศูนย์บริการหรือช่างซ่อมเป็นผู้ตรวจสอบให้ มือถือตกเปิดไม่ติด มีวิธีแก้ไขยังไงได้บ้าง ? 1. เช็กดูว่าเครื่องเปิดไม่ได้ หรือแค่หน้าจอไม่ติด ตอนกดเปิดเครื่องให้ลองสังเกตดี ๆ ว่า ตัวเครื่องมีการส่งเสียงหรือการสั่นใด ๆ หรือไม่ ถ้าหากเครื่องสั่นตอนกดเปิดแต่หน้าจอไม่มีภาพขึ้น ก็แสดงว่าตัวเครื่องยังเปิดได้อยู่ แค่หน้าจอไม่ติด ซึ่งอาจเกิดจากสายแพของหน้าจอหลุดขณะทำตก หรือหน้าจออาจเสียหาย แต่ถ้าหากว่าตัวเครื่องไม่มีการสั่นหรือส่งเสียงใด ๆ เลย ก็แสดงว่าไม่สามารถเปิดเครื่องได้ ซึ่งหน้าจออาจจะเสียหายด้วยหรือไม่ก็ได้ 2. ลองเสียบชาร์จแบตเตอรี่ มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ในขณะทำมือถือตก แบตเตอรี่อาจจะหมดพอดี ทำให้เปิดเครื่องไม่ติด โดยให้ลองนำที่ชาร์จมาเสียบทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อยลองเปิดเครื่องดูใหม่ นอกจากนี้ถ้าหากมือถือรองรับชาร์จไร้สายก็อาจลองใช้วิธีชาร์จแบบไร้สายดู เผื่อในกรณีที่พอร์ตชาร์จของมือถือมีปัญหา ถ้าหากยังเปิดไม่ติดเหมือนเดิม ก็แสดงว่าตัวเครื่องเกิดการเสียหายจากการทำตกจริง ไม่ใช่เพราะแบตเตอรี่หมด 3. ส่งศูนย์ซ่อม ถ้าหากว่าตัวเครื่องที่ทำตกนั้นเสียหายจนเปิดไม่ติดจริง ๆ ก็คงต้องส่งเครื่องให้ศูนย์บริการซ่อม ซึ่งในบางกรณีถ้าตัวเครื่องไม่ได้มีรอยที่เห็นได้ชัดว่าเคยทำตกกระแทกแรง ๆ ก็น่ายังไม่ถือว่าหมดประกัน แต่ถ้าหากเป็นเครื่องที่หมดประกันหรือเก่ามากแล้ว ซ่อมไม่คุ้ม ก็ให้ลองพิจารณาซื้อใหม่ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าก็ได้ ถ้าหากว่าอาการหนักและซ่อมไม่คุ้มจนต้องตัดสินใจซื้อมือถือเครื่องใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เราได้รวบรวมมือถือใหม่ในแต่ละช่วงราคามาแนะนำ สามารถเข้าไปดูได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลย และอย่าลืมหาเคสดี ๆ ใส่ด้วยล่ะ จะได้ช่วยป้องกันเวลาทำตกไม่ให้เสียหายอีก มือถือราคาไม่เกิน 3,000 บาท ปี 2021 มีรุ่นไหนบ้าง วิธีแก้โทรศัพท์ดับเอง ทั้งที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่หมด เกิดจากอะไร แก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง ใครมีมือถือจอดับ โทรศัพท์ดับเอง เปิดไม่ติด ลองมาดูวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นกัน คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้โทรศัพท์มือถือตามปกติ แต่อยู่ดี ๆ เครื่องก็ดับหรือรีสตาร์ตเองทั้ง ๆ ที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่ได้หมดหรือใกล้หมดเสียด้วยซ้ำ เมื่อเปิดเครื่องใหม่ใช้ได้สักพักก็อาจดับอีก หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็อาจเปิดไม่ติดอีกเลย วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบเบื้องต้นกัน ใครที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าวก็ลองนำไปใช้กันได้ 1. ลองรีสตาร์ตเครื่องดู ขั้นแรกถ้าหากพบปัญหามือถือดับเองหรือรีสตาร์ตเรื่อย ๆ ก็ให้ลองจัดการรีสตาร์ตเครื่องด้วยตัวเองหรือปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่สักรอบ หรือถ้าหากเครื่องค้างก็ให้ใช้วิธี Hard Reset ด้วยการกดปุ่ม Power กับปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงค้างไว้ (แล้วแต่รุ่นมือถือ) ซึ่งในบางกรณีการทำแค่นี้ก็อาจช่วยแก้ปัญหาให้มือถือสามารถกลับมาใช้เป็นปกติก็ได้ 2. เสียบที่ชาร์จแบตเตอรี่ บางครั้งปัญหามือถือดับเองก็อาจเกิดจากปัญหาภายในตัวเครื่องหรือแบตเตอรี่ก็เป็นได้ และถ้าหากเป็นเช่นนั้น การลองชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้สักพักก็อาจช่วยแก้ปัญหาได้ หรือถ้าหากเครื่องดับแล้วเปิดไม่ติด ก็ให้ลองนำที่ชาร์จแบตเตอรี่มาเสียบแล้วกดเปิดเครื่องดูอีกครั้ง นอกจากนี้ถ้าหากมือถือรองรับชาร์จไร้สายก็อาจลองใช้วิธีชาร์จแบบไร้สายดู เผื่อในกรณีที่พอร์ตชาร์จของมือถือมีปัญหา 3. Factory Reset ล้างเครื่องใหม่ ถ้าหากทำตามวิธี 2 ข้อแรกแล้วยังไม่ได้ผล ก็คงต้องยอมทำใจจัดการ Factory Reset เพื่อล้างเครื่องดูสักรอบ ซึ่งจะเป็นการทำให้เครื่องกลับไปสู่การตั้งค่าแบบจากโรงงานใหม่อีกครั้ง และแน่นอนว่าแอปฯ รวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องจะถูกลบล้างหายไปทั้งหมด โดยวิธีนี้จะสามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดจากด้านซอฟต์แวร์ได้ สำหรับคำสั่ง Factory Reset นั้นจะอยู่ใน Settings ของเครื่อง ซึ่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือที่ใช้อยู่ 4. ส่งศูนย์ซ่อม ถ้าหากทำตามวิธีข้างต้นหมดแล้ว แต่ปัญหาก็ยังอยู่ แก้ไม่หายสักที นั่นก็อาจเป็นเพราะปัญหาเกิดจากด้านฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือส่วนอื่น ๆ ภายในตัวเครื่อง ก็คงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือส่งเครื่องให้ศูนย์บริการซ่อม แต่ถ้าหากเป็นเครื่องที่หมดประกันหรือเก่ามากแล้ว ซ่อมไม่คุ้ม ก็อาจลองพิจารณาซื้อเครื่องใหม่ อาจจะดีกว่าก็ได้ ขอบคุณข้อมูลจาก androidcentral.com, androidpit.com |