อย่างที่กล่าวไว้ในข้อ 4 หากคุณมีเว็บไซต์อย่างเดียว นั่นหมายถึงคนที่ต้องรู้จักชื่อโรงแรมหรือรีสอร์ตของคุณแล้วนะ ถึงจะเจอคุณได้บน Search Engine แต่หากคุณต้องการเพิ่มการมองเห็น หรือจับกลุ่มแขกใหม่ ๆ ได้ด้วยการโฆษณาจากคำค้นหาหลักอื่น ๆ เช่น โรงแรมหรือรีสอร์ตติดทะเล, โรงแรมหรือรีสอร์ตเปิดใหม่ในกรุงเทพ, โรงแรมหรือรีสอร์ตเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น หรือการโฆษณาในรูปแบบ Banner ที่ติดตามแขกคุณหรือแขกที่คิดว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณที่หน้าเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อเชื้อเชิญ หรือ สร้าง Brand Awareness ให้พวกเขาเข้ามายังหน้าเว็บไซต์โรงแรมของคุณ นั่นย่อมเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ของโรงแรม และเพิ่มช่องทางในการจองห้องพักให้กับคุณ
นอกจากโฆษณาในรูปแบบข้อความค้นหา หรือ Banner แล้ว ยังมีการโฆษณาผ่าน Google Hotel Ads ที่เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมช่องทางในการขายและราคาห้องพักของ OTAs ต่าง ๆ ของโรงแรมหรือรีสอร์ตแต่ละแห่ง และยังแสดงข้อมูล รีวิวจากผู้ที่เข้าพัก แผนที่ เว็บไซต์ของโรงแรมหรือรีสอร์ตนั้น ๆ ทำให้ลูกค้าของคุณสะดวกในการเปรียบเทียบราคา ณ วันที่ลูกค้าจะเข้าพักได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการปรากฏตัวของ Google Hotel Ads จะอยู่ด้านขวามือของการค้นหา โดยปกติแล้วส่วนใหญ่คุณจะเห็นว่ามีแต่ OTAs หรือเอเจ้นท์เท่านั้น แต่วันนี้หากคุณใช้ ระบบจองโรงแรมออนไลน์ Hotel Booking Engine ชื่อโรงแรมหรือรีสอร์ตของคุณก็สามารถขึ้นไปปรากฏบนผลการค้นหาภายใต้การจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง (Official Website) ผ่านช่องทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบ Pay Per Click คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Hotel Ads ได้โดย คลิกที่นี่
หน่วยที 2 การใช้อินเตอร์เน็ตในงานธุรกิจ
1.เพื่อให้ทราบความหมายเกี่ยวกับธุรกิจ
"ธุรกิจ"หมายถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การจัดจำหน่าย และการบริการ โดยภายในหน่วยงานหรือธุรกิจนั้น ๆ มีการนำทรัพยากรที่มีอยู่มาผสมผสานกันอย่างมีระบบ มีระเบียบตามกฏเกณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนหรือผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดผลประโยชน์หรือบรรลุตามเป้าหมายของธุรกิจ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
2.เพื่อให้ทราบความสำคัญของการนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจด้านต่างๆ
ความสำคัญของการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานทางด้านต่างๆ มีดังนี้
1. การนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานด้านธุรกิจการศึกษา (Education) เช่น
1.1 การเรียนรู้ผ่ารนระบบอินเทอร์เน็ต
1.2 การรับสมัครนักศึกษาเข้าเรียน
1.3 การดุผลการเรียน
2. การนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในทางด้านธุรกิจการเงินและการธนาคาร (Finance) เช่น
2.1 การให้บริการกับลูกค้าด้านการเงิน
2.2 การฝากเงิน การโอนเงิน และการถอนเงิน
2.3 การชำระค่าบริการต่างๆ เป็นต้น
3.เพื่อให้ทราบลักษณะธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) คือ ธุรกิจที่ดำเนินการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นระบบและเป้นการดำเนินธุรกิจที่น่าเชื่อถือมาก ซึ่งวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจภานิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีดังนี้
1. เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำการตลาดเเละขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าหรืบริการให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพราะลูกค้าในต่างประเทศ
2. เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ ให้เป็นที่รุ้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
3. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคโดยไม่ต้องเสียเวลา
4.เพื่อให้ทราบประเภทของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
5.เพื่อให้ทราบวัตถุประสงค์ของการนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจ
1. เพื่อให้ธุรกิจของตนเองพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจ
3. เพื่อให้ข้อมูลของบริษัทพร้อมให้ลูกค้าเข้ามาค้นหาได้
4. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า
5. ขยายผลและขอบเขตการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
6. ขจัดปัญหาด้านเวลาดำเนินการของธุรกิจ
7. การขายสินค้าหรือบริการ
8. การนำเสนอข้อมูลของธุรกิจแบบ Multi-media
9. การเข้าสู่ตลาดที่ลูกค้ามีความต้องการบริโภคสินค้าสูง (Highly Desirable Demographic Market)
10. การตอบคำถามของลูกค้าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ (Frequently Asked Questions)
แหล่งที่มา
(มปป)//sites.google.com/site/pornthaweenaka/na-senx-khxmul-dwy-tnxeng/hnwy-thi-1-khwam-ru-beuxng-tn-keiyw-kab-sangkhm-xxnlin/hnwy-thi-2-kar-chi-xinthexrnet-ni-ngan-thurkic