การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

ในวันที่โลกเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ชีวิตของผู้คนก็ไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น การวางแผนและกำหนดกลยุทธ์การตลาดก็ไม่ต่างกัน ยิ่งเป็นการตลาดในยุคดิจิทัล ที่การซื้อ การขาย การให้บริการ การขยายฐานลูกค้า การสร้างแบรนด์ และการสร้างความภักดีของสินค้า ล้วนมีความเกี่ยวโยงกันเป็น story หรือเรื่องราว รวมถึงการตลาดในยุคดิจิทัลแทบจะไร้ข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ นี่เองจึงทำให้การวางแผนการตลาดต้องปรับเปลี่ยนให้ทัน และเลือกใช้การตลาดให้เหมาะ จะใช้การตลาดแบบเดิม หรือจะเลือกใช้การตลาดดิจิทัล แล้ว Digital Marketing กับ Traditional Marketing ต่างกันอย่างไร ควรใช้กลยุทธ์ไหนในยุคปัจจุบันนี้ มาฟังคำตอบกัน

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Traditional Marketing 

เป็นการทำการตลาดแบบดั้งเดิม ไม่มีไม่มีอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วย ไม่มีเทคโนโลยี และเครื่องมือมาช่วยมากนัก เป็นการสื่อสารข้อมูลสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการไปยังผู้บริโภคแบบทางเดียวคือ รู้จักกลุ่มเป้าหมายผ่านการทำวิจัยตลาด แต่ด้วยข้อจำกัดของโฆษณาทำให้ต้องเหวี่ยงแหไปให้หมด และไม่มีช่องทางการรับรู้ถึงฟีดแบค ตัวอย่างของการตลาดแบบเดิม เช่น การแจกใบปลิว โบรชัวร์ การโฆษณาผ่านโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์  

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital Marketing

ส่วน Digital marketing หรือการตลาดแบบดิจิทัลเป็นการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น อินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการประชาสัมพันธ์ สื่อสารข้อมูลสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการ ไปยังผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์  Social Media หรือสื่อออนไลน์ประเภทอื่น และมีการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน ก่อนที่จะทำการสื่อสาร มีการใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่จำเป็นมาช่วยในการสื่อสาร เช่น SEO, super content และมีช่องการซื้อ การติดต่อสื่อสาร การชำระเงินที่หลากหลาย ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ  Digital marketing จะทำให้ลูกค้า และผู้ประกอบการ มีช่องทางติดต่อเข้าถึงซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยไม่มีขีดจำกัดด้านเวลาและสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Digital marketing เป็นการทำการตลาด ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data driven) จึงทำให้วัดผลได้อย่างแม่นยำ ทั้งหมดนี้ Digital marketing จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ออกมามากที่สุด โดยใช้ต้นทุนหรือทรัพยากรน้อยที่สุด

เทคนิคการทำ Digital Marketing แบบง่าย ๆ นักการตลาดมือใหม่ก็ทำได้

Digital Marketing คือ อะไร สำคัญหรือไม่ในยุคดิจิทัล

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital Marketing ทุกการซื้อขายเริ่มต้นด้วยการค้นหา

หมดยุคกับการสนใจสินค้า แล้วเดินออกไปร้านค้าเพื่อสอบถาม ทุกวันนี้ หากต้องการข้อมูลอะไร ซื้อสินค้าประเภทไหน หรือต้องการเปรียบเทียบราคา ผู้คนจะเปิดหาจากเว็บไซต์ของร้านค้า หรือใช้วิธีการค้นหาจาก search engine เป็นอันดับแรก ๆ  

กลยุทธ์การทำ SEO เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้า

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital marketing ขับเคลื่อนแบบโฟกัสด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

การเลือกใช้เครื่องมือดิจิทัลที่เหมาะสมในการทำตลาดดิจิทัล เช่น Big Data, และ AI ช่วยให้ธุรกิจคุณขับเคลื่อนแบบมีโฟกัส เช่น กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ ลูกค้า จะนำมาซึ่งข้อมูลจำนวนมาก ที่นำมาพัฒนาเป็นฐานข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์พฤติกรรมได้ โดย Big Data Analytic สื่อสารแบบมีเป้าด้วย AI เป็นต้น

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital Marketing เข้าถึงได้มากกว่า 

ผู้ซื้อได้ย้ายตัวเองจากโลกออฟไลน์ จากการตลาดแบบเดิม ๆ เช่น แผ่นพับ โบรชัวร์ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ มาเป็น Digital Mobile Devices และท่องอยู่ในโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Instagram, TikTok เลยทำให้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม เป็นที่รวบรวมบรรดาผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก และอาจจะกลายเป็นสื่อหลักในการขายสินค้าไปแล้ว การทำ Digital Marketing ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่ว่ามานี้ จึงเป็นการสื่อสารแบบสองทางที่ขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital marketing ทำให้มีปฏิสัมพันธ์ และสร้างความน่าเชื่อถือ

Digital Marketing เป็นการสร้างตัวตนให้ผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของธุรกิจนี้ สินค้าและบริการนี้ เวลาที่เราจะหาข้อมูล ซื้อสินค้า หรือสอบถาม เราจะเชื่อมั่นที่เปิดเจอหน้าร้านบนโลกออนไลน์ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งอ้างอิงชั้นดีแล้ว Digital Marketing ยังทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เช่น ผ่านการกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม ฯ Digital Marketing ยังเป็นอีกช่องทาง ในการติดต่อ พูดคุย สื่อสาร กันได้อีกด้วย

การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง
การตลาดแบบดั้งเดิม ตัวอย่าง

Digital Marketing ลดต้นทุนร้านค้า 

เนื่องจากการตลาดในยุคดิจิทัลใช้ความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีมาช่วยลดภาระร้านค้า ใช้บุคลากรน้อยลงแต่ได้ผลผลิตมากขึ้น จึงประหยัดต้นทุน เช่น การใช้ AI chatbot มาช่วยตอบคำถาม ให้ข้อมูล หรือโฆษณาสินค้าให้กับลูกค้า แชตบอทสามารถทำงานได้ตลอดเวลา รวมถึงทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลจากการซื้อขายระหว่างร้านค้าและลูกค้า ทำให้เราเข้าใจ Customer Journey และ Customer Touchpoint เพื่อออกแบบแผนการขาย กลยุทธ์การตลาด กำหนดโปรโมชั่นแบบไม่หลักลอย นอกจากนี้ Digital Marketing ยังมีเครื่องมือรองรับการผลิต และนำเสนอ content เพื่อบอกเล่าข้อมูลสินค้า และผลิตภัณฑ์ ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 

ยุค Digital Marketing คุณก็สามารถผลิตโฆษณา หรือเนื้อหาต่าง ๆ ได้ด้วยคุณตัวเอง เช่น การทำคลิป VDO, การทำ SEO, การทำ super content เป็นต้น ซึ่ง Digital Marketer ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก ไปกับการจ้าง PR agency ประโยชน์ของ Digital Marketing จึงจะช่วยให้ร้านคุณ เติบโตอย่างก้าวกระโดด 

แนะนำ 7 ช่องทางการตลาดแพลตฟอร์มมาแรง สร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจ

แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าการตลาดแบบเดิมจะลดทอนคุณค่าลง เพราะยังไงเสีย Digital Marketing ก็ยังอยู่บนหลักการพื้นฐานของ Marketing  คือการตอบสนองความต้องการของผู้ซื้ออันเหมาะสมในเวลาที่ผู้ซื้อต้องการ

คำถามว่าแล้วควรใช้กลยุทธ์ไหน ระหว่าง Digital marketing กับ Traditional Marketing ในยุคปัจจุบัน อาจแยกกันอย่างสิ้นเชิงเป็นไปได้ยาก ทางออกที่ดีคือ การผสมผสานระหว่าง Traditional Marketing และ Digital Marketing จะยิ่งให้ธุรกิจของคุณ ยังเดินหน้าต่อไป ขยายการรับรู้สร้างแบรนด์มีความเข้มแข็งขึ้น หรือเจ้าของธุรกิจอาจแบ่งสัดส่วนว่าจะใช้ Digital Marketing กับ Marketing เท่าใด เช่น 70:30 หรือ 80:20 เป็นต้น  

สำหรับท่านใดที่ต้องการที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัล สามารถส่งเมล์มาสอบถามรายละเอียดได้ฟรีที่ [email protected]

การตลาดแบบดั้งเดิมและการตลาดดิจิทัลต่างกันอย่างไร

ระยะเวลา – แบบดั้งเดิมจะใช้กันระยะยาว ส่วนดิจิทัล เป็นการวางแผนแบบคร่าวๆ และใช้การโต้ตอบอย่างรวดเร็ว ลักษณะการพูดกับกลุ่มผู้บริโภค – รูปแบบจะเป็นการปกปิดเสียเป็นส่วนใหญ่และใช้การสื่อสารผ่านเมล, โทรศัพท์ ส่วนดิจิทัลก็เน้นความรวดเร็วแบบโต้ตอบกันทันทีอย่างเปิดเผย

ธุรกิจแบบดั้งเดิมกับธุรกิจแบบแพลตฟอร์มแตกต่างกันอย่างไร

ธุรกิจรูปแบบ Platform ดำเนินงานแตกต่างไปจากธุรกิจรูปแบบดั้งเดิม ธุรกิจอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมจะซื้อวัตถุดิบมาผลิตเป็นสินค้า แล้วก็ขายให้กับคนซื้อหรือผู้บริโภค แต่วัตถุดิบของธุรกิจ Platform คือการนำลูกค้าที่เป็นคนต่างกลุ่มกันมาพบปะกัน สิ่งที่ธุรกิจแบบ Platform ขาย คือการที่สมาชิกของแต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงกันและกัน ...

ข้อได้เปรียบของการตลาดแบบ Traditional Marketting คือข้อใด

Traditional marketing คือ การตลาดแบบดั้งเดิม โดยการตลาดแบบนี้คือการทำการตลาดโดยที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ และเป็นการใช้ช่องทางออฟไลน์ต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้นเป็นการสื่อสารไปยังผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ อีกทั้งการตลาดแบบดั้งเดิมยังเป็นการสื่อสารเพียงด้านเดียวอีกด้วย ...

การตลาด6p มีอะไรบ้าง

6Ps. ผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place or Distribution Channel) การส่งเสริมการตลาด (Promotion) อำนาจทางการเมือง (Political Power) และความคิดเห็นสาธารณะ (Public Opinion)