แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

เรื่อง: Aimee

          คุณเป็นอีกคนที่ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านได้โดยไม่รู้สึกเดือดร้อน ในขณะที่ถ้าลืมโทรศัพท์มือถือ ต้องดิ่งรถกลับไปเอาที่บ้านหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในยุคที่โทรศัพท์มือถือมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันมากจนแทบขาดไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นอย่ามัวเสียเวลาทั้งวันไปกับการอัพเดทบรรดาโซเชียลมีเดียเดิมๆ แล้วลองมาใช้แอพพลิเคชั่นเจ๋งๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นดีกว่า

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Evernote Scannable
แอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกและรวดเร็วขึ้นด้วยความสามารถในการสแกนเก็บข้อมูลบนแผ่นกระดาษมาลงในโทรศัพท์ได้ง่ายๆ และได้ไฟล์คุณภาพระดับ High-quality ราวกับเครื่องสแกนก่อนจะแชร์ต่อได้ทันที ที่เจ๋งสุดคงเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สแกนนามบัตรซึ่งจะเปลี่ยนกระดาษแผ่นเล็กไปเป็นข้อมูลบน LinkedIn ได้ง่ายๆ

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Seven
แอพพลิเคชั่นเอาใจคนอยากหุ่นเฟิร์มแต่ไม่มีเวลาจะออกกำลังโดยรวบรวมเอาวีดีโอ รูปภาพ และคำอธิบายของท่าออกกำลังต่างๆที่สามารถทำได้เสร็จในเวลา 7 นาที แต่ให้ผลเท่ากับการออกกำลังกายถึง1ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่สำคัญคือคุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างหรืออุปกรณ์ใดๆ เลย

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Momentage
รวบรวมความทรงจำหรือประสบการณ์ดีๆ ไว้ในหนึ่งเฟรมที่ประกอบไปด้วยรูป วีดีโอ และเพลง ซึ่งจะเปลี่ยนจากโพสต์ธรรมดาของคุณให้กลายเป็นงานคราฟท์เท่ๆ ได้ในหนึ่งแอพพลิเคชั่น

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Daily Cost
จัดการกับการเงินของคุณให้ฉลาดขึ้นได้ด้วยแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายอย่าง Daily Cost โดยการจดรายรับ-รายจ่ายที่แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ แล้วแอพพลิเคชั่นจะทำสรุปข้อมูลการใช้เงินของคุณออกมาเป็นแผนภูมิและกราฟที่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Amount
ไม่ต้องสับสนกับการเปลี่ยนหน่วยหรือค่าเงินต่างๆ อีกต่อไปด้วยแอพพลิเคชั่นที่ใช้ง่ายและมีขนาดเล็กจึงไม่กินพื้นที่ในโทรศัพท์เท่าไหร่นัก พร้อมกับหน่วยต่างๆ ที่คำนวนได้กว่า 700 หน่วย

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

RescueTime
รู้หรือไม่ว่าตัวคุณเสียเวลากับการเล่นโทรศัพท์แทนที่จะทำงานไปเท่าไหร่แล้ว RescueTime จะช่วยรายงานเวลาในแต่ละวันที่คุณใช้ไปกับกิจกรรมต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ เปิดเว็บไซต์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่สำคัญคือคุณสามารถตั้งบล็อคเว็บไซต์ที่จะรบกวนสมาธิของคุณได้อีกด้วย

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

30/30
สำหรับใครที่กำลังหาวิธีจัดการกับความเครียดที่มาพร้อมกับงานอันแสนรุมเร้า ต้องมาลองวิธีการทำงานแบบใหม่ที่แอพพลิเคชั่น30/30นำมาเสนอ โดยแบ่งเป็นเวลาทำงาน 30 นาที และเวลาพักอีก 30 นาที วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วมาลองดูว่าคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างที่เขาบอกไว้จริงหรือเปล่า

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Noom Walk
อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักสุขภาพด้วยการนับก้าวที่เดินในแต่ละวัน เพียงแค่พบโทรศัพท์มือถือไว้กับตัวก็ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใดๆเพิ่มอีก

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

Aqualert
จะมีสักกี่คนที่ไม่รู้ว่าการดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วในหนึ่งวันมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเพียงไร แต่ใช่ว่าทุกคนรู้แล้วจะทำ เพราะงานที่รัดตัวอาจจะทำให้คุณลืมดื่มน้ำระหว่างวันไปเลยก็ได้ แต่ Aqualert จะช่วยคำนวนปริมาณน้ำที่แต่ละคนควรดื่ม และแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ร่างกายของคุณต้องการน้ำ ทำให้ร่างกายของคุณรักษาสมดุลเอาไว้ได้และมีสุขภาพที่ดี

 

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

TripIt
จัดการเอกสารและแพลนการท่องเที่ยวของคุณได้ภายในแอพพลิเคชั่นเดียวที่จะรวบรวมข้อมูลต่างๆทั้งเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ จองร้านอาหาร แล้วจัดแผนให้คุณอย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งยังสามารถตั้งเตือนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ ในระหว่างที่คุณกำลังท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานได้อีกด้วย
สนานได้อีกด้วยกำลังท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานได้อีกด้วย

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

แอปพลิเคชั่นดีๆ ที่ควรมีไว้รับมือการทำงานตอนอยู่บ้าน

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันการสถานการณ์แพร่ระบาดกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นจนภาครัฐและภาคเอกชนต้องออกมาตรการต่างๆ ควบคู่ไปกับการป้องกันตัว ไม่เว้นแม้แต่การอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ซึ่งในปัจจุบันก็มี แอปพลิเคชัน ต่างๆไว้ใช้ประชุมติดต่อสื่อสารกันแบบตัวต่อตัวอย่างสะดวกสบายแต่ในบางองค์กรการ Work from Home ก็อาจจะมีอุปสรรคเรื่องการติดต่อสื่อสารกันในทีมเพราะทำงานต่างสถานที่ และอาจอยู่ไกลกันรวมถึงบางองค์กรก็มีพนักงานจำนวนมากจึงทำให้การสื่อสารติดขัด ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเลือกตัวโปรแกรมประชุมออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับโจทย์ที่มี

ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ การทำงานที่บ้าน ดูจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในสถานการณ์COVID-19 แต่ความจริงเเล้วการทำงานที่บ้านก็ไม่ต้องทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียว สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ แต่ก็จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีความครบเครื่องและครบครันมากที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น หลายคนก็ชอบการทำงานเเบบ Work From Home แต่บางคนก็ไม่ชอบเอาเสียเลยเราลองมาดู ข้อดี-ข้อเสียของ Work From Home กันดีกว่าว่ามีข้อไหนบ้างแล้วอาการของเรานั้นตรงกับข้อไหน
ข้อดีของการ Work from Home

1. ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัส
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
3. ช่วยพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของพนักงานภายในองค์กร
4. เพิ่มความสะดวกสบายและทางเลือกใหม่ ๆ ในการทำงาน
5. ไม่ต้องเดินทาง
6. มีความสุขและผ่อนคลายมากกว่า

ข้อเสียของการ Work from home
1. ติดต่องานยาก
2. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับการทำงาน
3. ทำงานได้ช้าลง
4. ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
5. เสียสมาธิค่อนข้างง่าย
6. ปัญหาด้านประชุมออนไลน์ถี่มากกว่าเดิม

ทำให้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักงานเต็มเวลาอีกต่อไปแต่การทำงานก็ยังคงมีประสิทธิผลเช่นเดิมหรืออาจมากกว่าการทำงานรูปแบบเดิมที่ต้องนั่งประจำที่สำนักงานด้วยซ้ำไป

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานมีอะไรบ้าง

ก่อนจะ Work From Home มีอะไรบ้างที่องค์กรต้องทำ

ในช่วงเวลาแพร่ระบาดของโรคนี้หลายๆคนก็อาจไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมาก่อน แต่ด้วยปัจจุบันมีแอปพลิเคชันและโปรแกรมมากมายที่เป็นประโยชน์สำหรับการ Work from Home ในการสื่อสารและการประชุมก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งองค์กรหลายๆองค์กรทั่วโลกต่างก็นำมาใช้ หากคุณต้อง Work From Home แล้วล่ะก็ แอปพลิเคชัน Work From Home เหล่านี้คือสุดยอดแอปที่ใช้ทำงานได้

Slack
เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับ ‘team communication’ หรือการสื่อสารกันภายในทีม สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้หลายรูปแบบทั้งข้อความธรรมดา ไฟล์ภาพ วิดีโอ ลิงก์
Zoom
แอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับการประชุม คุยงาน อบรม สัมมนา หรือเปิดคอร์สสอนออนไลน์ รองรับผู้เข้าใช้งานได้ 50 คน
Skype
โปรแกรมติดต่อสื่อสารแบบ Real Time จุดเด่นของแอพพลิชันนี้คือ คุณภาพของภาพและเสียงที่คมชัด
Line Meeting
ประชุมพร้อมกันสูงสุด 200 คนรองรับการใช้งานทุกอุปกรณ์สร้างและสามารถแชร์หน้าจอ / ไฟล์ต่างๆร่วมกันได้
Microsoft Teams
คล้ายกับ Slack และเป็นส่วนหนึ่งของ Office 365 Microsoft Teams เป็นอีกทางเลือกที่สามารถใช้แทน Slack ได้
Cisco Webex Meetings
จำกัดการประชุม 50 นาทีสำหรับบัญชีฟรี และจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน 100 คนเป็นที่นิยมเนื่องจากกลยุทธ์ในการให้บริการฟรี จึงมีการขยายตัวของการใช้งานมากขึ้น ด้วยฟังก์ชั่น active view
Google Meet
จำกัดการประชุม 60 นาทีสำหรับบัญชีฟรี ถ้าประชุมแบบ 1:1 สามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมง และจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน 100 คน
Trello
เพื่อติดตามงานของคุณและประสานกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Time Doctor
ตรวจสอบติดตามการทำงานและติดตาม จัดการ และรายงานประสิทธิภาพการทำงาน

ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ทำให้คุณสามารถ Work from Home ได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเข้าเว็บไซต์ หรือการประชุมต่างๆก็ทำได้อย่างสะดวกและองค์กรดัง ๆ หลายที่เขาใช้กันแพร่หลาย

ในแอปด้านบนก็รวมเเอปประชุมออนไลน์และapplication ช่วยในการทำงาน Work from Home เพราะการทำงานสมัยนี้ ไม่ได้จำกัดว่าต้องนั่งทำงานอยู่แค่ออฟฟิศไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ ซึ่งประโยชน์ของแอปพลิเคชัน Work From Home ก็มีมากหลายอย่างเช่น
1.ยืดหยุ่นในการทำงาน
2.ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น
4.เข้าถึงการทำงานได้มากขึ้น
5.ได้ทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
6.เกิดการพัฒนาผลงานด้วยไอเดียใหม่ ๆ

และทั้งหมดนี้ก็คือแอปพลิเคชั่น ที่ช่วยทำให้การทำงานแบบ Work from Home มีประสิทธิภาพเหมือนยังทำงานอยู่ออฟฟิศ แต่สุดท้ายเเล้วเราก็คงต้องเลือกตามความสะดวกของคุณและคนในทีมที่ต้องใช้ร่วมกันว่าจะเลือกใช้แอปตัวไหนและวิธีการไหน