Fintech มีประโยชน์และผลกระทบต่อสถาบันการเงินอย่างไรบ้าง อธิบาย

คำว่า Fintech ย่อมาจาก Financial Technology เป็นคำที่ใช้อธิบายกิจกรรมทางการเงินที่หลากหลาย เช่น การโอนเงิน การฝากเงินด้วยสมาร์ทโฟนระหว่างบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินและผู้บริโภค แม้ว่าจะเป็นคำศัพท์ใหม่ในโลกดิจิทัลแห่งศตวรรษ 21 แต่ยังมีอนาคตและแนวโน้มการพัฒนาได้อีกไกลเพราะการให้บริการทางธนาคารแบบดั้งเดิมกำลังพัฒนารูปแบบบริษัทให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายฟินเทคโดยมีจุดประสงค์ตอบโจทย์ให้แก่นักลงทุนรายย่อยสำหรับโอกาสการลงทุนได้ง่ายมากขึ้น

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

แท้จริงแล้วทุกคนล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ผ่านการใช้งานในนวัตกรรมฟินเทค แต่อาจไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังใช้งานอยู่นั้นเรียกว่าอะไร ตัวอย่างฟินเทคต่อการใช้ชีวิตประจำวันเช่น การโอนเงินออนไลน์ผ่านการทำธุกรรมทางมือถือ, การสแกนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่ออัปโหลดในหน้าเว็บไซต์

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญของเว็บไซต์การเทรด ฟินเทคสำหรับการเทรดออนไลน์มีการปรับประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเทรดอัตโนมัติ, การทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ, การโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าผ่านแชทบอท เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นการเอื้ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งานและการปรับตัวของเทคโนโลยีใหม่ให้เข้ากับโลกปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

Fintech มีอิทธิพลต่อการเทรดออนไลน์ได้อย่างไรบ้าง?

การลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีฟินเทคในยุคดิจิทัลนี้ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสการลงทุนได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเงินใด ๆ เลยยังมีโอกาสเข้าสู่โลกทางการเงินนี้ได้ด้วยแอปพลิเคชั่นบนมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น เช่น แอปพลิเคชั่นตลาดหุ้น ข้อดีของการลงทุนผ่านโทรศัพท์มือถือนี้คือใช้งานง่าย แม้แต่มือใหม่ก็สามารถเรียนรู้วิธีการใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพราะในแอปพลิเคชั่นได้ออกแบบด้วยฟีเจอร์การใช้งานแบบง่าย รวมทั้งเมนูสอนการใช้งานแบบวิดีโอที่คุณสามารถทำตามได้ทันที

สำหรับแอปพลิเคชั่นตลาดหุ้นมีวิธีการทำงานที่ตรงไปตรงมา กล่าวคือ ผู้ที่ต้องการซื้อหุ้นสามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้เพียงไม่กี่คลิก เช่น แอป SET app แอปพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 500,000 คน อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ผ่านมือถือ อีกทั้งยังนำเสนอวิธีการเรียนรู้ด้านการลงทุนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แอปนี้ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับนักลงทุนชาวไทย และทำให้การซื้อหุ้นทำได้ง่ายเหมือนกับการซื้อสินค้าอื่น ๆ ในช่อทางออนไลน์

ด้วยการใช้งานและเข้าถึงง่ายนี้เองที่ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยหรือมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การลงทุนเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมากโดยไม่มีข้อจำกัด เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้นในตลาดดั้งเดิมจะมีความยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ระดับสูงและประสบการณ์ด้านการเงินในระดับหนึ่งจึงสามารถเริ่มการลงทุนได้

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายหุ้นหรือสกุลเงินต่าง ๆ ก็ยังคงต้องใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ไม่มากก็น้อย ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเริ่มต้นได้เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น สมัครสมาชิก ฝากเงิน และเริ่มการซื้อขายที่ต้องการได้ทันที

เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีช่วยให้การลงทุนในโลกการลงทุนแห่งยุคใหม่นี้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นและใครก็สามารถเทรดได้ หากแต่ข้อจำกัดขององค์ความรู้สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังต้องมีความรู้ขึ้นพื้นฐานและการฝึกฝนการเทรดในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงมีโบรกเกอร์ออนไลน์มากมายที่นำเสนอเครื่องมือการลงทุนแบบใช้งานง่าย เช่น แหล่งความรู้ แหล่งค้นคว้า รวมถึงบัญชีทดลองที่จะมีเงินเสมือนจริงให้แก่เทรดเดอร์เพื่อเป็นการจำลองการเทรดเช่นเดียวกับเงินจริง

ออนไลน์แบ้งกิ้งและบัญชีเทรดในแอพเดียว

ข้อดีของแอปพลิเคชั่น Fintech คือ ไม่เพียงแต่ให้บริการการซื้อขายหุ้นเท่านั้น หากแต่ยังมีการบริการด้านธนาคารออนไลน์ให้แก่ผู้ใช้งานอีกด้วย บริการเหล่านี้จะเปิดใช้งานในรูปแบบดิจิทัลและออนไลน์ 100% ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเปิดบัญชีที่ธนาคารสาขาดังเช่นการทำธุรกรรมแบบดั้งเดิม

วิธีการตั้งแต่เริ่มต้นเปิดใช้งานบัญชีจนถึงการรับ-ส่งธุรกรรมสามารถทำได้ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่ทำงาน สำหรับการยืนยันตนยังสามารถใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน ด้วยวิธีการง่าย ๆ ได้แก่ การสแกนเอกสารหรือหลักฐานที่ระบุในแอปพลิเคชั่น และรูปถ่ายของตนเอง จากนั้นสามารถกดส่งไปยังธนาคารได้ทันที จากนั้นเมื่อการอนุมัติเสร็จสมบูรณ์ ผู้ใช้งานก็สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ

จากตัวอย่างเช่นเดียวกับ Set APP ในขณะเดียวกันหนึ่งในรูปแบบฟินเทคในประเทศไทยที่มีการพัฒนาที่เด่นชัดคือการบริการชำระเงินออนไลน์ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด หรือ Mobile payment ด้วยการชำระเงินเพียงสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านโทรศัพท์มือถือและจ่านเงินได้ทันที

ฟินเทคและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หากกล่าวถึงนวัตกรรมฟินเทคหลายคนมักจะนึกถึงคำว่า AI หรือ Artificial Intelligence เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนในประเทศไทย หน้าที่หลักคือการมอบหมายให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่แทนมนุษย์ในการทำงานที่หลากหลาย เช่น การชำระเงิน การยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล การสื่อสาร การแปลภาษา คำสั่งที่ทำได้ด้วยเสียงหรือแชทบอท

สำหรับประเทศไทยธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้พยายามนำเทคโลยีใหม่นี้เข้ามามีบทบาททางการเงินในเศรษฐกิจไทย เช่น การพิมพ์ธนบัตร, การกแลกเปลี่ยนธุรกรรมทางการเงิน, การจัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กถึงขนาดกลางแบบอัตโนมัติ

นอกจากในมุมมองของธนาคารแล้ว เทคโนโลยี AI ยังช่วยให้การดำเนินงานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น เช่น การอ่านข้อมูลผ่านบัตรประจำตัวประชาชน, ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการกู้ยืมเงิน เป็นต้น

สรุป

ด้วยการทดลองและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่กับทั้งนักลงทุนรายย่อยหรือบุคคลทั่วไปถือว่าได้ผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ด้วยเหตุผลหลักคือความสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ที่ทำให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในโลกยุคปัจจุบันนี้อย่างมาก

สำหรับการเทรดออนไลน์ในปัจจุบัน การใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้บุคคลทุกระดับเข้าถึงตลาดการเงินได้อย่างง่ายดาย หากแต่ก็มีข้อจำกัดด้านการใช้งานเช่นกัน เช่น ยิ่งฟินเทคใช้อัลกอริธึมการเทรดอัตโนมัติหรือเสนอวิธีแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งานในตลาดมากเท่าไร อัลกอริธึมเหล่านี้ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลงเท่านั้น เพราะการพัฒนาของระบบที่ยังไม่รองรับการใช้งานของผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี