บ่อยครั้งที่พนักงานที่ปฏิบัติงานกับเครื่องจักรชนิดต่างๆ นั้นเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานโดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นมีหลายปัจจัยเช่น เกิดจาก สภาพการณ์เครื่องมือ หรือ อุปกรณ์ไม่ปลอดภัย (Hardware) เกิดจากวิธีการทำงานไม่ปลอดภัย (Software) และ ความประมาทของตัวบุคคล (Hunman ware) ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากความประมาทของผู้ปฏิบัติงานเองเป็นส่วนมาก Show ในกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องจักร ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้
เรียกได้ว่าครอบจักรวาลกันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดก็ตามที่มีส่วนประกอบ หรือกลไกเหล่านี้เข้าใจตรงกันว่าอยู่ในการบังคับใช้ตามกฎหมายฉบับนี้นะครับไปกันต่อ..
หากพูดตามเจตนารมณ์ของกฎหมายสรุปได้ดังนี้ ข้อ 6 นายจ้างต้องดูแลให้ลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรปฏิบัติ คำว่านายจ้างก็ไม่ใช่แต่เพียงเจ้าของเพราะในที่นี้คนที่ดูแลพนักงาน หรือ เรียกอีกชื่อคือตัวแทนนายจ้างก็ได้แก้ จป.บริหาร จป.หัวหน้างานนี่เอง จะต้องช่วยกันควบคุมดูแลให้พนักงานต้องปฏิบัติดังนี้
ข้อ 7 บริเวณที่มีการติดตั้ง ซ่อมแซม หรือการตรวจสอบเครื่องจักร หรือเครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร นายจ้างต้องติดป้ายแสดงการดำเนินการดังกล่าวโดยใช้เครื่องหมายหรือข้อความที่เข้าใจง่ายและเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งใช้ระบบ วิธีการ หรืออุปกรณ์ป้องกัน ไม่ให้เครื่องจักรนั้นทำงาน และแขวนป้ายแสดงเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ห้ามเปิดสวิตช์ไว้ที่สวิตช์ของเครื่องจักรด้วย
ข้อ 8 การประกอบ การติดตั้ง การทดสอบ การใช้ และ การซ่อมแซม การบำรุงรักษา การตรวจสอบ การรื้อถอน หรือการเคลื่อนย้ายเครื่องจักร รถยก ลิฟต์ เครื่องจักรที่ใช้ยกคนขึ้นทำงานบนที่สูง จะต้องปฏิบัติตามคู่มือที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้ หากไม่มีรายละเอียดหรือคู่มือในการใช้งานเครื่องจักร นายจ้างต้องจัดให้มีวิศวกรเป็นผู้จัดทำรายละเอียดคุณษณะและคู่มือการใช้งานเป็นหนังสือ และต้องมีสำเนาเก็บไว้ให้ราชการสามารถตรวจสอบภายหลังได้อีกด้วย ข้อ 9 นายจ้างต้องดูแลให้ลูกจ้างที่ทำงานกับเครื่องจักร ตรวจสอบเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพดีและปลอดภัยก่อนการใช้งาน ตามระยะเวลาการใช้งานที่เหมาะสม และจัดให้มีการตรวจรับรองประจำปีตามชนิดและประเภทที่อธิบดีประกาศกำหนด
ข้อ 7 ห้ามมิให้นายจ้างใช้หรือยินยอมให้ลูกจ้างใช้เครื่องจักรทำงานเกินพิกัดหรือขีดความสามารถที่ผู้ผลิตกำหนด
ข้อ 8 เครื่องปั๊มโลหะ เครื่องเจีย เครื่องตัด เครื่องไส หรือเครื่องจักรที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้โดยสภาพ นายจ้างต้องประกาศกำหนดวิธีการทำงาน และติดไว้บริเวณที่ลูกจ้างทำงาน
ข้อ 9 ในกรณีที่ลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับเครื่องปั๊มโลหะ เครื่องเชื่อมไฟฟ้า เครื่องเชื่อมก๊าซ รถยก หรือเครื่องจักรที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้โดยสภาพที่อธิบดีประกาศกำหนด นายจ้างต้องใช้ลูกจ้างที่มีความชำนาญในการใช้เครื่องจักรนั้น และผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกำหนด ข้อ 10 นายจ้างต้องดูแลให้พื้นบริเวณรอบเครื่องจักรอยู่ในลักษณะที่ปลอดภัย ข้อ 11 นายจ้างต้องจัดให้มีวิธีการดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้ลูกจ้างได้รับอันตรายจากการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ดังต่อไปนี้
สำหรับสายพานแขวนลอยที่มีความเร็วไม่น้อยกว่า 540 เมตร/นาที หรือสายพานที่มีช่วงยาวเกินกว่า 3 เมตร หรือสายพานที่กว้างกว่า 20 เซนติเมตร หรือสายพานโซ่ ต้องมีเครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรนั้น
กรณีที่นายจ้างไม่สามารถจัดให้มีวิธีการดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตราย ตามวรรคหนึ่งได้ ต้องออกแบบอุปกรณ์ช่วยเพื่อป้องกันหรือกำหนดขั้นตอนการทำงานให้ปลอดภัย และแจ้งให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายทราบโดยไม่ชักช้า
การป้องกันอันตรายจากการทํางานกับเครื่องจักร
การได้รับอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงาน เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานได้ถูกต้อง และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการอบรมการทำงานกับเครื่องจักรทั่วไป หรือหลักสูตรที่ระบุชัดเจน เช่น การอบรมการทำงานกับรถขุด รถแบคโฮ ควรไปถึงนายจ้างจะต้องจัดให้มีการตรวจรับรองเครื่องจักรประจำปีตามกฎหมายเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งนายจ้างและลูกจ้างเพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างปลอดภัย อันตรายจากเครื่องจักร มีอะไรบ้าง1. การถูกหนีบ ส่วนใดของเครื่องจักรเคลื่อนไหว ก่อให้เกิดจุดหนีบ บีบ อัด และดึงหรือฉุด 2. การถูกชนหรือกระแทก ส่วนใดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว 3. การสัมผัสถูก ส่วนใดที่แหลมคม ร้อน เย็น หรือกระแสไฟฟ้า
อันตรายในโรงงานมีอะไรบ้างอันตรายที่อาจเกิดกับผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรม ที่สังเกตพบได้ง่าย ได้แก่ อันตรายจากการสัมผัส, อันตรายจากการสูดดม (จมูก), อันตรายที่เกิดจากการมอง (ดวงตา/สายตา), อันตรายจากเสียงดัง (หู) ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบทางด้านร่างกายได้ ตั้งแต่ในระดับการบาดเจ็บจนต้องเสียเลือดเนื้อ บาดเจ็บเรื้อรัง สูญเสียอวัยวะ ไปจนถึงเสีย ...
หากต้องการให้เครื่องจักรมีความปลอดภัยต้องประกอบด้วยอะไรบ้างใช้เครื่องจักรอย่างระมัดระวัง ปฏิบัติงานตามคู่มือ หรือขั้นตอนที่กำหนดเสมอ ห้ามถอดเครื่องมือนิรภัยหรือที่ครอบป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรออกเด็ดขาด สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมกับงาน ระวังอย่าให้มือหรือส่วนใดของร่างกายเข้าใกล้จุดหมุน จุดหนีบ หรือส่วนที่เคลื่อนไหวของเครื่องจักร
การปฏิบัติงานสกัดจะใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายอะไรบ้างการใช้สกัดถึงแม้ว่าสกัดจะคมผู้ปฏิบัติงานก็ควรจะสวมแว่นตาและในทานองเดียวกันมิใช่สวม แว่นตาแล้วยังคงใช้สกัดหัวบานแบบดอกเห็ด เพื่อป้องกันบุคคลอื่นหรือเพื่อนร่วมงานจากสะเก็ดเหล็ก ที่ปลิวกะเด็นควรกั้นฉากล้อมงานที่สกัดอยู่หรือถ้างานสกัดต้องอาศัยผู้อื่นตอกผู้จับสกัดควรใช้คีมจับ
|