โจทย์ปัญหา
อยากได้คำอธิบายละเอียดๆครับ โลภมาก ค่ะ
ขอโทษทีค่ะเขียนตก
ยังไม่เข้าใจใช่ไหม? ลองถามคำถามกับคุณครู QANDA! โจทย์ที่คล้ายกันกับโจทย์ข้อนี้
กาพย์พระไชยสุริยา กาพย์พระไชยสุริยา เป็นผลงานการประพันธ์ของสุนทรภู่ กวีที่มีชื่อเสียงในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สุนทรภู่แต่งกาพย์พระไชยสุริยาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อไว้ใช้เป็นแบบเรียนเทียบคำอ่านและเขียนเกี่ยวกับมาตราตัวสะกดในแม่ ก กา จนถึงแม่เกย โดยใช้กาพย์ 3 ชนิด กาพย์พระไชยสุริยามีเนื้อเรื่องเป็นนิทานที่น่าสนใจ ประกอบกับการแต่งที่มีสัมผัสคล้องจองที่ทำให้จดจำได้ง่าย มีถ้อยคำภาษาที่ไพเราะ ตลอดจนให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตแฝงไว้ในเรื่องด้วย ความเป็นมาของกาพย์พระไชยสุริยา กาพย์พระไชยสุริยาเป็นงานประพันธ์ของสุนทรภู่ ประพันธ์ขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2382-2385 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะที่สุนทรภู่บวชอยู่ที่วัดเทพธิดาราม (แต่บ้างก็ว่าน่าจะแต่งขณะเป็นฆราวาสและไปเป็นครูอยู่ที่เพชรบุรีในภายหลัง) ด้วยเหตุที่สุนทรภู่เคยเป็นครูของเจ้าฟ้าสามพระองค์ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้แก่ เจ้าฟ้าอาภรณ์ เจ้าฟ้ากลาง เจ้าฟ้าปิ๋ว สุนทรภู่จึงได้แต่งแบบเรียนขึ้นเพื่อถวายเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋วโดยนำเรื่องพระไชยสุริยา มาเป็นเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับการสอนหนังสือไทย เมื่อผู้เรียนอ่านตัวอักษรได้แล้วจึงให้เรียนการประสมอักษร จุดมุ่งหมายในการแต่ง กาพย์พระไชยสุริยาแต่งขึ้นเพื่อใช้เป็นแบบสอนอ่านคำเทียบ หลังจากที่เรียนการผันอักษรแล้ว จึงให้อ่านประสมคำในมาตราแม่ต่าง ๆ ลักษณะคำประพันธ์ สุนทรภู่นำนิทานเรื่องกาพย์พระไชยสุริยา มาแต่งโดยใช้กาพย์ 3 ชนิด ได้แก่ กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และสุรางคนางค์ 28 เนื้อเรื่องย่อ พระไชยสุริยาเป็นกษัตริย์ครองเมืองสาวะถี (สาวัตถี) มีมเหสีชื่อสุมาลี บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์และเป็นสุขมาช้านาน จนกระทั่งเมื่อข้าราชการบริพารและผู้มีอำนาจพากันลุ่มหลงในอุบายมุขและเที่ยวข่มเหงราษฎรจนเดือดร้อนไปทั่ว ในที่สุดน้ำป่าก็ไหลบ่าท่วมเมืองจนผู้คนล้มตาย ผู้ที่รอดก็หนีออกจากเมืองไป ทิ้งให้เมืองสาวัตถีกลายเป็นเมืองร้าง พระไชยสุริยาพามเหสีข้าทาสบริวารหนีลงเรือสำเภาออกจากเมือง แต่ถูกพายุใหญ่พัดเรือแตก พระไชยสุริยากับนางสุมาลีว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งแล้วรอนแรมไปในป่าใหญ่พระฤๅษีรูปหนึ่งเข้าฌานเห็น พระไชยสุริยากับนางสุมาลีต้องทนทุกข์ทรมานก็เวทนา เพราะเห็นว่าพระไชยสุริยาทรงเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่ประสบเคราะห์กรรมเพราะหลงเชื่อเสนาอำมาตย์ จึงเวทนาโปรดจนทั้งสององค์ศรัทธาและบำเพ็ญธรรม จนได้ไปเกิดในสวรรค์ คุณค่าจากเรื่องกาพย์พระไชยสุริยา 1. ด้านวรรณศิลป์ สุนทรภู่มีการใช้พรรณนาโวหารแทรกเป็นช่วงๆ เช่น บทพรรณนาธรรมชาติในป่า ซึ่งใช้ภาพพจน์เปรียบเทียบและคำเลียนเสียงธรรมชาติที่ทำให้เกิดจินตภาพได้อย่างชัดเจน ดังตัวอย่าง ยูงทองร้องกะโต้งโห่งดัง เพียงฆ้องกลองระฆัง แตรสังข์กังสดาลขานสียง กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง พญาลอคลอเคียง แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง เพลินฟังวังเวง อีเก้งเริงร้องลองเชิง 2. ด้านคติธรรม กาพย์พระไชยสุริยามีคุณค่าในด้านคติสอนธรรม ดังเห็นได้จากคำสอนที่แทรกไว้หลายตอน ดังนี้ 2.1 สอนให้รู้จักกาลกิณี 4 ประการ ซึ่งทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนและผู้คนไม่เป็นสุข กาลกิณีเหล่านั้นได้แก่ การเห็นผิดเป็นชอบ การไม่รู้คุณ การเบียดเบียนทำร้ายกันและความโลภ ดังในคำประพันธ์ต่อไปนี้ 1. ประกอบชอบเป็นผิด กลับจริตผิดโบราณ สามัญอันธพาล ผลาญคนซื่อถือสัตย์ธรรม์ 2. ลูกศิษย์คิดล้างครู ลูกไม่รู้คุณพ่อมัน 3. ส่อเสียดเบียดเบียนกัน ลอบฆ่าฟันคือตัณหา 4. โลภลาภบาปบคิด โจทก์จับผิดริษยา อุระพสุธา ป่วนเป็นบ้าฟ้าบดบัง 2.2 สอนเรื่องผลบาปจากการเบียดเบียนและหลอกลวงผู้อื่นว่า จะทำให้ต้องทนทุกข์ไปนาน ส่วนผลบุญจากการมีเมตตากรุณาก็จะทำให้มีความสุขตลอดไป ดังคำประพันธ์ต่อไปนี้ เบียดเบียนเสียดส่อฉ้อฉล บาปกรรมนำตน ไปทนทุกข์นับกัปกัลป์ เมตากรุณาสามัญ จะได้สวรรค์ เป็นสุขทุกวันหรรษา กาพย์พระไชยสุริยาเป็นวรรณคดีที่มีคุณค่านานัปการ เมื่ออ่านอย่างหนังสือหัดอ่านเขียน ก็ได้เรียนรู้เรื่อง คำประพันธ์และมาตราตัวสะกด เมื่ออ่านอย่างนิทานก็ยังได้รับความเพลิดเพลินจากเรื่องเล่า เรื่องพรรณไม้และสัตว์ป่า ความไพเราะจากคำประพันธ์ และคติธรรมคำสอนอีกด้วย |