พายุหมุนเขตร้อน (tropical cyclone) คือ พายุ ที่ก่อตัวในมหาสมุทรเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน (ละติจูด 30oN – 30oS) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลสูงกว่า 26.5 oC ส่วนใหญ่มักเกิดช่วง ปลายฤดูร้อนของแต่ละซีกโลก เนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลช่วงต้นฤดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มแตะระดับที่สูงกว่า 26.5 oC ในช่วงปลายฤดูร้อน น้ำในมหาสมุทรระเหยและลอยตัวขึ้น ทำให้เกิดศูนย์กลาง ความกดอากาศต่ำ (L) ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นพื้นที่ ความกดอากาศสูง (กว่า) (H) จึงมีลมแรงพัดเข้าสู่ศูนย์กลางด้วยความเร็วมากกว่า 115 กิโลเมตร ขณะเดียวกันศูนย์กลางความกดอากาศต่ำจะยกตัวสูงขึ้น และเย็นลงด้วยอัตราอะเดียเบติก (อุณหภูมิลดลงเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น) ทำให้เกิด เมฆ (clouds) และ หยาดน้ำฟ้า (pecipitation) ซึ่งในพื้นที่เปิดโล่ง ที่มีระบบการหมุนเวียนที่ดี เช่น กลางมหาสมุทร อาจทำให้ฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและคลื่นลมแรง พายุหมุนจะมีความรุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอัตราการลดลงของความกดอากาศ หากความกดอากาศลดลงอย่างรวดเร็วจะเกิดพายุหมุนที่รุนแรง Show
องค์ประกอบพายุหมุนเขตร้อนโดยปกติพายุหมุนเขตร้อน สามารถมีเส้นผ่าศูนย์กลางได้มากกว่า 100 กิโลเมตร และมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงกว่า 117 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งพายุหนึ่งลูกจะมีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน ดังนี้
วงจรชีวิตพายุหมุนเขตร้อนโดยทั่วไปพายุหมุนเขตร้อนมีวงจรชีวิตไม่เท่ากัน พายุบางลูกสามารถอยู่ได้ยาวนานเป็นวันถึงสัปดาห์ แต่บางลูกเกิดขึ้นเพียง 2-3 ชั่วโมงก็สลายตัว ซึ่งหากพายุหมุนเขตร้อนพัฒนาความรุนแรงเป็นระดับไต้ฝุ่น นักวิทยาศาสตร์สามารถแบ่งวิวัฒนาการของพายุได้ 4 ระยะ ดังนี้
เพิ่มเติม : เมฆ . หมอก . น้ำค้าง ระดับความรุนแรงพายุหมุนเขตร้อนความรุนแรงพายุขึ้นกับอัตราลดความกดอากาศ โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization: WMO) WMO (1995) ได้แบ่งชนิดของพายุหมุนเขตร้อนตามความรุนแรงของลมใกล้ศูนย์กลางของพายุไว้เป็น 3 ประเภท คือ
พายุหมุนเขตร้อนสามารถเปลี่ยนแปลงอัตราความเร็วของลมได้ เช่น พายุดีเปรสชั่นเมื่อมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเพิ่มขึ้นจะกลายเป็นพายุโซนร้อนหรือพายุไต้ฝุ่น ในขณะเดียวกันเมื่อพายุไต้ฝุ่นลดความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางลงจะกลายเป็นพายุโซนร้อนหรือพายุดีเปรสชั่น หรืออาจลดกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แล้วจึงสลายตัวไปในที่สุด การเรียกชื่อพายุพายุหมุนเขตร้อนมีชื่อเรียกต่างๆ กันตามแหล่งกำเนิด หากเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้ เรียกว่า ใต้ฝุ่น (Typhoon) หากเกิดในอ่าวเบงกอล และทะเลอาหรับ เรียกว่า พายุไซโคลน (Cyclone) หากเกิดในแอตแลนติก และทะเลแคริบเบียน เรียกว่า พายุเฮอร์ริเคน (Hurricane) หากเกิดในทะเลประเทศฟิลิปปินส์ เรียกว่า พายุบาเกียว (Baguio) แต่ถ้าพายุหมุนเขตร้อนเกิดบริเวณทะเลติมอร์แล้วเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางเป็นตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่ภาคเหนือของประเทศออสเตรเลีย จะเรียกว่า พายุวิลลี-วิลลี (Willy-Willy) ระดับความรุนแรง (เสียหาย) จากพายุระดับความรุนแรงของพายุหมุนเขตร้อนแบ่งย่อยเป็น 5 ระดับ ตามมาตรา ซึ่งประเมินจากการตรวจวัดความเร็วลม ความเสียหายและอุทกภัยที่จะเกิดขึ้น โดยจะใช้กับพายุเฮอร์ริเคนที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติก และทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกเท่านั้น ระดับความเร็วลม (กิโลเมตร/ชั่วโมง)ความกดอากาศ (มิลลิบาร์)ความสูงของคลื่น (เมตร)อานุภาพการทำลายล้างตัวอย่าง1.119-153 < 9801.2-1.5เล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อ สิ่งก่อสร้าง น้ำท่วมตามชายฝั่งบ้าง ท่าเรือเสียหายเล็กน้อย 2.154-177965-9791.8-2.4น้อย หลังคา ประตูหน้าต่างอาคารเสียหายเล็กน้อย น้ำท่วมทำลายท่าเรือ สมอเรืออาจหลุดหรือขาดได้Bonnie (1988) Isabel (2003) 3.178-209945-9642.7-3.7ปานกลาง ทำลายโครงสร้างที่อยู่อาศัยขนาดเล็กได้บ้าง โทรศัพท์บ้านถูกตัดขาดแผงป้องกันพายุตามบ้านเรือนได้รับความเสียหาย อาจเกิดน้ำท่วมขังเข้ามาถึงพื้นดินส่วนในแคทรีน่า Roxanne (1995) Fran (1996) Ivan (2004) 4.210-249944-9204.0-5.5สูง แผงป้องกันพายุเสียหายหนักขึ้น หลังคาบ้านเรือนบางพื้นที่ถูกทำลาย น้ำท่วมเข้ามาถึงพื้นดินส่วนในAndrew (1992) Charley (2004)5. > 250 < 920 > 5.5สูง หลังคาบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมถูกทำลาย บางอาคารอาจถูกพัดถล่ม เกิดน้ำท่วมขังจำนวนมากถึงขั้นทำลายข้าวของในชั้นล่างของบ้านเรือนใกล้ชายฝั่ง และอาจต้องมีการประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ทำการอพยพโดยด่วนLabor Day (1935) Camille (1969) มาตราเฮอร์ริเคนแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน (Saffir-Simpson Hurricane Wind Scale) การประเมินการเคลื่อนที่ของพายุ
ในกรณีพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทย ส่วนใหญ่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง และเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย โดยมักเข้าเข้าปะทะประเทศไทยบริเวณภาคใต้ตอนบน นอกจากนี้ ยังมีพายุที่ก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือ หรือทางด้านทิศตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ บางครั้งเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประเทศเวียดนาม ลาว และสลายตัวบริเวณประเทศไทย หลักการตั้งชื่อพายุเดิมทีสหรัฐอเมริกาจะตั้งชื่อพายุทั่วโลก เพราะเป็นประเทศที่มีความเพียบพร้อมทางเทคโนโลยีทางดาวเทียมตรวจสภาพอากาศ ความเคลื่อนไหวของพายุ ซึ่งในอดีตมักจะใช้ ชื่อผู้หญิง ในการตั้งเพื่อให้ดูอ่อนโยน ดูรุนแรงน้อยลง ภายหลังมีนักสิทธิสตรีในสหรัฐอเมริกาออกมาประท้วงว่าการตั้งชื่อพายุทำให้ภาพลักษณ์ของผู้หญิงโหดร้าย จึงมีการตั้งชื่อผู้ชายร่วมด้วยในปัจจุบัน (ค.ศ. 2000) ปัจจุบันการตั้งชื่อพายุจะแบ่งความรับผิดชอบตามภูมิภาค โดยให้แต่ละประเทศจะเสนอชื่อพายุประเทศละ 10 ชื่อ เป็นภาษาท้องถิ่นจากนั้นจะนำชื่อของแต่ละประเทศที่ตั้งไว้มาใช้ ตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษของแต่ละประเทศ ในส่วนของประเทศไทย ตั้งอยู่ในโซนมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกตอนบนและทะเลจีนใต้ ร่วมกับสมาชิกประเทศอื่นๆ ได้แก่ กัมพูชา จีน เกาหลีเหนือ-ใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ชื่อพายุแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 28 ชื่อ ชื่อพายุแต่ละชื่อจะเรียงตามชื่อประเทศของลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจากกัมพูชา เรื่อยไปจนถึงเวียดนามซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 12 เมื่อใช้ชื่อพายุที่ตั้งไว้หมด 1 กลุ่ม ก็จะขึ้นชื่อแรกในกลุ่มที่ 2 เรียงกันเรื่อยไปจนครบทุกกลุ่ม แล้วจึงกลับมาใช้ชื่อแรกของกลุ่มที่ 1 ใหม่อีกครั้ง
|