ใบสูติบัตรตัวจริงสามารถออกได้เพียงฉบับเดียวเท่านั้น ไม่สามารถขอใบแทน หรือ ขอให้ออกเอกสารตัวจริงฉบับใหม่ได้ Show แต่สามารถขอคัดสำเนาเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่รับรองสำเนาถูกต้อง สามารถใช้แทนเอกสารตัวจริงได้ (เอกสารที่ออกจากหน่วยงานราชการ หากเจ้าหน้าที่รับรองสำเนาถูกต้องสามารถใช้แทนเอกสารตัวจริงได้เสมอ) กรณีที่อำเภอหรือเขตมีต้นขั้วเอกสาร กรณีเกิดก่อนปี พ.ศ 2523 >> ยื่นคำร้องขอคัดที่อำเภอหรือ เขตที่ออกใบสูติบัตร กรณีเกิดหลังปี พ.ศ 2523 ถึง ปีพ.ศ 2540 >> สำนักทะเบียนจัดเก็บเอกสารด้วยระบบภาพถ่ายทางทะเบียน หรือไมโครฟิล์ม – ซึ่งสามารถขอคัดเอกสาร ที่อำเภอหรือเขตใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปขอคัดที่อำเภอ หรือ เขตที่ออกใบสูติบัตร กรณีเกิดหลังปี พ.ศ 2540 >> จัดเก็บด้วยระบบออนไลน์ในฐานข้อมูล – สามารถขอคัดเอกสาร ที่อำเภอหรือเขตใดก็ได้เช่นกัน เอกสารที่ใช้: ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน วุฒิการศึกษา หลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ใบมอบอำนาจ ใบแจ้งความ กรณีที่อำเภอหรือเขตไม่มีต้นขั้วเอกสาร ให้ติดต่อที่อำเภอ หรือเขตที่มีชื่อตามทะเบียนบ้าน พร้อมกับพยานบุคคล 2 คน เอกสารที่ใช้: ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน วุฒิการศึกษา หลักฐานแสดงว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย หรือใบมอบอำนาจ ใบแจ้งความ หมายเหตุ** กรณีมอบอำนาจให้ทนายดำเนินการจากต่างประเทศ เอกสารใบมอบอำนาจจะต้องรับรองผ่านสถานทูตไทยในประเทศนั้น ใบสูติบัตรหายต้องทำอย่างไร มีวิธีการอะไรบ้าง ใบสูติบัตรลูกต้องเก็บรักษาอย่างไรให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้ชำรุด หรือเกิดความเสียหาย สูติบัตร ถือเป็นใบบ่งบอกสถานที่ และเวลาเกิดของลูกน้อย ถือเป็นเอกสารที่มีความสำคัญ ที่ต้องเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี แต่ปัญหานั้นอาจเกิดขึ้นได้กับทุกเรื่องรวมถึงเอกสารเหล่านี้ด้วยเช่นกัน เมื่อเราทำ สูติบัตรหาย อาจเกิดข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น จะขอให้กับทางอำเภอได้หรือไม่ หรือมีขั้นตอนยังไงบ้าง เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังในบทความนี้เอง ทบทวนก่อนว่าหายจริงหรือไม่หากไม่ได้อยู่ในสถานะเร่งรีบอาจเริ่มจากการทบทวนก่อน เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นเพียงแผ่นกระดาษบาง ๆ ที่อาจหาได้ยาก หากไม่ได้เก็บอยู่ในพื้นที่เดิม นอกจากจะทบทวนบริเวณที่เก็บไว้เป็นประจำแล้ว ควรถามไถ่จากผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน หรือผู้อื่นที่เคยเข้ามาในบ้าน รวมถึงตรวจสอบแฟ้มเอกสารอื่น ๆ เพราะอาจถูกจัดเก็บไว้ผิดที่ หรือตรวจสอบพื้นที่ต่าง ๆ ที่เคยนำเอกสารไปในช่วงเวลานั้น ๆ สาเหตุที่เราอยากให้ทบทวนให้แน่ใจ เป็นเพราะว่าการขอสูติบัตรใหม่ มีขั้นตอนพอสมควร และต้องใช้เอกสารอื่น ๆ ร่วมด้วยพอสมควร บทความที่เกี่ยวข้อง : แจ้งเกิดลูกภายในกี่วัน หลังคลอดลูกต้อง ทำสูติบัตรให้ลูกต้องใช้อะไรบ้าง?
วิดีโอจาก : BY Station
ใบสูติบัตรหายต้องทำอย่างไร ?เอกสารทางราชการที่มีความสำคัญมักถูกหยิบนำมาใช้ในช่วงเวลาสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากต้องใช้งานจริงจึงควรรีบเตรียมเอกสารแต่เนิ่น ๆ เพราะหากใบสูติหายจะสามารถทำการขอเอกสารใหม่ได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะต้องนำไปใช้งานนั่นเอง วิธีการขอใบสูติบัตรใหม่ มีอยู่ 2 กรณี คือ การขอคัดสำเนา และการขอให้ออกหนังสือรับรองการเกิดแทนใบสูติบัตรเดิมที่หายไปค่ะ โดยวิธีการมีดังนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปลี่ยนชื่อลูกในสูติบัตร เปลี่ยนนามสกุล ใช้เอกสารอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไร
เงื่อนไขการขอคัดสำเนาสูติบัตรสูติบัตรไม่สามารถขอใบแทน (เอกสารเสมือนตัวจริง) ได้ หากต้องการขอคัดสำเนา สามารถติดต่อสำนักทะเบียนที่ออกเอกสาร แต่หากต้องการเป็นหนังสือรับรอง สามารถติดต่อได้ทุกสำนักทะเบียน โดยต้องเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้
สถานที่ในการติดต่อ สูติบัตร ใบเกิด
ทำอย่างไรให้สูติบัตรมีโอกาสหายได้น้อยลงด้วยขั้นตอนในการขอเอกสารนั้นค่อนข้างละเอียด จึงอาจดีกว่า หากเราสามารถลดโอกาสที่ใบสูติบัตรจะหายได้ โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนนอกจากการ “เก็บและบันทึกช่วยจำ” นั่นเอง
ใบสูติบัตร ห้ามนำมาเคลือบเอกสารโดยเด็ดขาดเหตุเพราะ หากการแจ้งเกิดในครั้งแรกเกิดของเด็กมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ในภายหลังอยากจะแก้ไข/เพิ่ม/เปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง จะกระทำได้ยาก หรือ ไม่ได้เลย และการยกเลิกใบเดิมหากไม่มีเหตุอันควร ก็ใช่ว่าจะยกเลิกได้ง่ายๆ แต่ถ้าถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่ครั้งแรกก็ดีไป ฉะนั้น ไปแจ้งเกิดแล้วแนะนำว่าซื้อ / หา ซองพลาสติกใส่เอกสารแทนการเคลือบนะคะ เพราะวันข้างหน้าเราอาจมีความจำเป็นต้องแก้ไขก็เป็นได้
ใบสูติบัตรถือเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างมากกับตัวของเด็กทารก และอาจใช้ในการติดต่อธุระอื่น ๆ แม้เด็กจะโตไปแล้ว ดังนั้นเมื่อ สูติบัตรหาย ก็ทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำไว้ด้วยความใจเย็น รับรองว่าแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอนหายห่วง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ แจ้งเกิดลูก แจ้งย้ายที่ที่อยู่ลูก พ่อแม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง ? เงินประกันสังคมกรณีคลอดบุตร และ เงินสงเคราะห์บุตร ยื่นอย่างไร ให้ได้เงิน แจ้งเกิดลูกโดยไม่มีพ่อ มีปัญหาในอนาคตมั้ย ? ที่มาข้อมูล : 1 มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้! |