ซื้อรถ ต้องเสียค่าอะไรบ้าง

ยิ่งขับไกลใช้รถบ่อยต้องหมั่นตรวจสภาพ แนะนำให้คุณทำตามคำแนะนำของช่างผู้เชี่ยวชาญ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ดูแลที่ปัดน้ำฝน เครื่องยนต์ ทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์ หม้อน้ำ เปลี่ยนไส้กรอง และบำรุงรายการอื่นๆ ตามอาการคร้าบ ค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 - 30,000 บาท

7. เตรียมอุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัย

นอกจากต้องมีเงินไว้ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ บำรุงรักษาสภาพรถ เราต้องเตรียมงบซื้อกล้องติดรถยนต์คุณภาพดีสามารถถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้มีหลักฐานไว้ยืนยัน และแจ้งเคลม (สำหรับประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+) เก็บภาพได้คมชัด แนะนำอ่าน 5 ประโยชน์ดี ๆ เมื่อคุณมีกล้องติดรถยนต์หรือกล้องหน้ารถก่อนซื้อ หากคุณมีลูกควรซื้อคาร์ซีทที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัย เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อย พร้อมกับยางอะไหล่ที่ต้องมีให้พร้อม อย่างไรก็ดี เป็นเพียงแค่ตัวอย่างไอเทมที่ต้องมีติดรถเท่านั้น

8. เตรียมเงินไว้ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และภาษีประจำปี  

อย่างที่รู้ว่ารถยนต์ทุกคันต้องมีประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อใช้เป็นเอกสารต่อภาษีประจำปีรถยนต์อยู่แล้ว มือใหม่หัดขับ หรือเจ้าของรถป้ายแดงจะต้องเตรียมเก็บเงินไว้จ่ายปีละครั้ง เช่น

• รถเก๋ง/รถกระบะ 4 ประตู ประมาณ 6xx บาท
• รถกระบะ 2 ประตู ประมาณ 9xx บาท

เราต้องต่อพ.ร.บ. รถยนต์ เพื่อรับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บตามกฎหมายทันที เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น และใช้เป็นเอกสารสำหรับต่อทะเบียนรถประจำปี เพื่อรับป้ายวงกลมติดรถยนต์

“ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ Frank อำนวยความสะดวกให้คุณสามารถต่อพ.ร.บ.ออนไลน์ได้แล้วนะครับ”

บทความที่คุณอาจจะสนใจ : ต่อภาษีรถยนต์ทำอย่างไร? ทำที่ไหน? และใช้เอกสารอะไรบ้าง? สามารถติดตามบทความ Frank ได้ครับ

9. เตรียมเงินไว้ต่อประกันรถยนต์

ต่อพ.ร.บ.รถยนต์แล้ว ต้องมีงบประมาณสำหรับซื้อประกันภัยรถยนต์ไว้ด้วยนะ โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่ป้ายแดงสุดรักสุดหวง การเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนให้ใช่ และเหมาะกับที่สุดสำหรับคุณ
หากให้เล่าแบบสั้น ๆ Frank ขอแนะนำประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองมากที่สุด เพราะช่วยดูแลทุกเหตุการณ์จริง ๆ เนื่องจากประกันชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่ เคลมได้ทุกการชน ดูแลสูงสุด
พิเศษกว่าใครหากซื้อประกันชั้น 1 กับแฟรงค์ คุณจะได้รับบริการนั่งรถ Grab ระหว่างรอซ่อม สำหรับเคสรถยนต์ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามกฎหมาย เช่น

• กระจกข้างพังไม่สามารถมองเห็นได้ เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายซ้ำ
• เกิดอุบัติเหตุรถชนที่ตัวเครื่องเสียหาย หรือโดนชนจนรถพังสตาร์ทไม่ติด ไม่สามารถขับไม่ได้ก็อยู่ในกรณีนี้
• กรณีที่รถพังจนต้องใช้รถยก และรถลาก หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนรถ
• รถชน กระทั่งหม้อน้ำพัง ทำให้ไฟลุกไหม้ตัวเครื่อง
• ไฟหน้า ไฟหลัง และไฟเลี้ยวเสียหายจากการอุบัติเหตุ
• กรณีขับรถชนตอม่อ หรือชนต้นไม้อย่างรุนแรง ฯลฯ กระทั่งรถพังเสียหายไม่สามารถขับบนถนนได้ จนสตาร์ทรถไม่ติด สามารถเบิกได้
• ป้ายทะเบียนรถยนต์ชำรุดจากอุบัติเหตุ ไม่สามารถติดกับตัวรถยนต์ได้ ยกเว้นกรณีป้ายทะเบียนหลุดเอง หรือจงใจทำให้ป้ายทะเบียนเสียหาย

หากมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติมสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ frank.co.th ได้สิทธิเฉพาะแฟรงค์อินชัวร์รันซ์เท่านั้น !!!! 

การตัดสินใจซื้อรถป้ายแดงสักคันเป็นเรื่องที่ต้องคิดพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะนอกจากต้องจ่ายค่ารถเป็นเงินก้อนใหญ่แล้ว ในวันรับรถป้ายแดงยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาด้วย ดังนั้นผู้ซื้อจึงต้องทำความเข้าใจกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในวันรับรถเอาไว้ก่อนเสมอ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้พร้อมที่สุดในวันเข้าไปรับรถคันใหม่ป้ายแดง วันนี้ เกร็ดความรู้กับโตโยต้า ลีสซิ่ง มีข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาฝากกัน

1.ค่าเงินดาวน์และผ่อนชำระงวดแรก
หลายคนอาจไม่ทราบว่าในวันรับรถป้ายแดงต้องเตรียมเงินดาวน์ที่ตกลงกับเซลล์ผู้ขายไปชำระด้วย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของรถยนต์แต่ละค่าย จึงต้องสอบถามให้แน่ชัดเพื่อจะได้เตรียมค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน 

2.ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน
รถป้ายแดงต้องจดทะเบียนด้วยเสมอ โดยค่าจดทะเบียนรถยนต์แต่ละรุ่นก็มีอัตราไม่เท่ากัน ปกติแล้วทางศูนย์บริการจะคิดคำนวณเพิ่มไว้เลย เช่น 3,500 บาท หรือ 5,000 บาท อย่างไรก็ตามผู้ซื้อสามารถเลือกนำรถไปจดทะเบียนเองได้ แต่ก็จะยุ่งยากและเสียเวลาไปดำเนินการเอง ดังนั้นหากทางศูนย์บริการมีการดำเนินการในส่วนนี้ให้ก็จะสะดวกและประหยัดเวลาได้มากกว่า

3.ค่ามัดจำป้ายทะเบียน
ค่ามัดจำป้ายทะเบียนสำหรับรถป้ายแดงอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับเงินส่วนนี้คืนเมื่อนำรถมาเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียนสีขาว ส่วนข้อควรระวังคืออย่าลืมตรวจเช็กทุกครั้งด้วยว่าป้ายแดงที่ได้รับนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ด้วย

4.ค่าเบี้ยประกันภัย
ส่วนใหญ่แล้วรถป้ายแดงทุกคันต้องทำประกันภัยชั้น 1 เนื่องจากเป็นข้อบังคับของไฟแนนซ์ ยกเว้นกรณีซื้อเงินสด ดังนั้นในวันรับรถป้ายแดงอาจต้องเตรียมเงินค่าเบี้ยประกันภัยไปชำระด้วย ซึ่งจะอยู่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับราคารถ ยิ่งรถมีราคาสูงเท่าไร ค่าเบี้ยประกันก็ยิ่งแพงขึ้น

5.ค่าน้ำมันรถ
ปกติแล้วรถใหม่ป้ายแดงจะเติมน้ำมันเอาไว้อยู่แล้วเล็กน้อย ดังนั้นในวันรับรถป้ายแดงอาจจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอาไว้ด้วยเพื่อเติมน้ำมันให้เต็มถังพร้อมขับ

6.ค่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ
หากมีการสั่งติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมให้กับรถ อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย เพราะค่าอุปกรณ์เหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา จึงไม่นับรวมกับค่างวดที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนนั่นเอง

การซื้อรถป้ายแดงไม่ได้จบแค่การทำสัญญาหรือการผ่อนค่างวด แต่ในวันรับรถป้ายแดง ผู้ซื้อยังต้องเตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นก่อนรับรถด้วย ดังนั้นอย่าลืมเช็กลิสต์รายจ่ายแต่ละข้อเอาไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวได้อย่างมั่นใจก่อนรับรถคันใหม่

หากในวันรับรถไม่ได้มีประกันภัยรวมอยู่ด้วย อย่าลืมทำประกันภัยให้เรียบร้อยก่อนจะถึงวันรับรถเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นมือใหม่หัดขับ  และถ้ากำลังมองหาประกันรถยนต์อย่างครบวงจร สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php

อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/news/knowledge

ดาวน์รถต้องเสียค่าอะไรบ้าง

ซื้อรถ ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

ออกรถป้ายแดงมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ออกรถต้องเสียค่าจดทะเบียนไหม