สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ Garmin ดีไหม และควรเลือกรุ่นไหนดี อ่านบทความรีวิวของเราที่ค้นคว้าข้อมูลและเปรียบเทียบนาฬิกา Garmin ทั้งสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย Show จากการทดสอบและเปรียบเทียบข้อมูลทั้งหมด ทีมงานของเราเชื่อว่า Garmin Forerunner 245 เป็นนาฬิกาวิ่งรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการวิ่งและออกกำลังกายเป็นหลัก Forerunner 245 เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด ในด้านความแม่นยำในการตรวจวัดกิจกรรมของผู้ใช้ โดยเฉพาะการวัดระยะทางวิ่ง ทั้งยังรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย น้ำหนักเบา มีอายุแบตเตอรี่ที่เหมาะสม ในราคาที่คุ้มค่า และสามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้ รุ่นอื่น ๆ เช่น Forerunner 745 หรือ 945 ที่มีราคาสูงกว่า หากคุณตัดสินใจซื้อ Garmin ออนไลน์ เราแนะนำให้ซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ เช่น Garmin Official Store หรือ TSM Active เพื่อให้แน่ใจว่าได้สินค้าของแท้ มือหนึ่ง และการรับประกันศูนย์ไทย สำหรับคนรักการวิ่งที่ต้องการนาฬิกาที่ตรวจจับข้อมูลได้แม่นยำ และสามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน แต่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ของ smartwatch มากนัก เราคิดว่า Garmin Forerunner 55 น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ในราคาที่ถูกกว่า Forerunner 235 หลายพันบาท ตารางเปรียบเทียบ Garmin รุ่นยอดนิยม
สารบัญ
สำหรับคนที่สงสัยว่า Garmin ใช้ดีไหม คำตอบที่เห็นได้ชัดที่สุดน่าจะเป็นความนิยมในหมู่นักวิ่งและผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำที่ใช้งานจริง ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันจะมีนาฬิกาออกกำลังกายให้เลือกหลายยี่ห้อ เช่น Apple Watch หรือ Fitbit แต่นาฬิกาของ Garmin ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจในกลุ่มผู้ใช้งาน ทีมงานของเราพบข้อมูลเสริมด้วยว่า Garmin นั้นบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่งและออกกำลังกายได้แม่นยำกว่ายี่ห้ออิ่นๆ ตามการทดสอบของหลายเว็บไซต์ในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การทดสอบของ Amy Roberts นักวิ่งและคอลัมนิสต์ของเว็บไซต์ The Wirecutter ได้ลองนำ fitness tracker หลายรุ่นไปใส่และออกวิ่งเป็นระยะทาง 1 ไมล์เท่า ๆ กัน ซึ่งข้อมูลที่บันทึกได้ของแต่ละรุ่นถูกแสดงไว้ในแผนภูมิด้านล่างนี้ ที่มา: The Wirecutter เราจะเห็นได้จากผลที่ออกมาว่า นาฬิกาของ Garmin รุ่น Vivosport และ Vivosmart HR+ วัดระยะทางได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ขณะที่อุปกรณ์ของ Fitbit Flex 2, Fitbit Zip และ Fitbit Ionic ต่างคาดเคลื่อนไปราว 20-25% เช่นเดียวกับ Vivofit 3 ในแง่หนึ่ง ผลการทดสอบเหล่านี้นั้นสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่เหนือกว่าคู่แข่งของ Garmin ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและ GPS มาก่อน อย่างไรก็ตาม Fitbit ก็มีเทคโนโลยีที่มีใกล้เคียงโดยเฉพาะในหมวดของ fitness tracker ที่บางรุ่นมีประสิทธิภาพทัดเทียมกัน
Smartwatch vs. Fitness trackerปัจจุบัน smartwatch และ fitness tracker นั้นมีคุณสมบัติใกล้เคียงกันมาก โดยอุปกรณ์ทั้งสองชนิดสามารถตรวจวัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ระยะทาง จำนวนก้าว หรือจำนวนพลังงานที่ใช้ไปในแต่ละวันได้ เดิมทีนาฬิกาออกกำลังกาย หรือ fitness smartwatch ส่วนใหญ่ นั้นไม่สามารถเทียบกับบรรดา fitness tracker เช่น รุ่น Vivosport หรือ Fitbit รุ่นต่างๆ ในด้านความแม่นยำและแบตเตอรี่ แต่ปัจจุบันเราไม่สามารถพูดแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้ว เพราะ smartwatch สำหรับออกกำลังกายรุ่นใหม่ๆ มีอายุแบตเตอรี่นานหลายวัน และใช้งาน GPS ได้นานถึงกว่า 12-36 ชั่วโมงแล้ว กล่าวโดยสรุปคือ นาฬิกา Smartwatch ออกกำลังกาย กับ Fitness tracker ในปัจจุบัน อาจแบ่งได้ จากขนาดหน้าจอและฟังก์ชั่นเสริม ซึ่ง Smartwatch นั้นมักจะมีจอที่ใหญ๋กว่า และมาพร้อมกับมีฟังก์ชั่นนอกเหนือจากการวัดระยะทางและการออกกำลังกาย เช่น แอปฯ ข้อความ อีเมล หรือ บริการสตรีมมิ่ง ผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อแบบไหน ประโยชน์ที่คุณจะได้จากทั้ง fitness tracker และ smartwatch คือ แรงจูงใจในการออกกำลังกาย ซึ่งในบทความของ The Guardian โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน ของสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพ ระบุว่า การได้ตั้งเป้าหมายและรับรู้ผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คนเราบรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายได้ (และทำให้เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย) Fitness tracker อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณที่สุด ถ้าคุณต้องการอุปกรณ์สวมใส่ขนาดเล็กที่ช่วยติดตามและเก็บสถิติเกี่ยวกับสุขภาพของคุณในแบบที่ละเอียดกว่าการใช้แอปฯ ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ขณะที่ smartwatch เหมาะสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนข้อความ อีเมล ปฏิทินต่าง ๆ แต่ก็ต้องการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเอง ซึ่งถึงแม้ smartwatch ส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดในการติดตามการออกกำลังกายของคุณ แต่ปัจจุบันนี้สมาร์ทวอทช์สามารถเก็บข้อมูลได้ดีขึ้นมากจนใกล้เคียงกับ fitness tracker Garmin Forerunner 245เราเลือกแนะนำ Garmin Forerunner 245 เพราะมันมีฟังก์ชั่นทุกอย่างที่คนรักการวิ่งจะต้องการจากนาฬิกาหนึ่งเรือน หากพูดง่ายๆ คือ Forerunner 245 เป็นนาฬิกาสำหรับการวิ่งที่ยอดเยี่ยม ซึ่งพร้อมกับฟังก์ชั่นตรวจวัดการเต้นของหัวใจ โปรแกรมสำหรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ (รวมถึงว่ายน้ำ) และยังมีฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์เสริมเข้ามา ซึ่งทำให้มันสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น ข้อสำคัญคือระบบตรวจวัดระยะทางที่แม่นยำของการ์มิน ที่ปัจจุบันยังคงทำได้ดีกว่าคู่แข่งทุกยี่ห้อและทุกยี่ห้อที่อยู่ในช่วงราคาเดียวกัน นอกจากความแม่นยำแล้ว Forerunner 245 ยังมีหน้าจอขนาด 1.2 นิ้ว ที่เลือกแสดงข้อมูลบนหน้าปัดพร้อมกันได้ถึง 4 ชนิด เช่น ความเร็ว เวลา และอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้คุณไม่ต้องกดปุ่มสลับหน้าจอไปมา ขณะที่ตัวเรือนที่ค่อนข้างบางทำให้สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่รู้สึกเกะกะ เรายังชอบการออกแบบที่ให้ผู้ใช้งานเลือกปรับแต่งหน้าจอหลักได้ตามต้องการ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้โดยใช้ปุ่ม 5 ปุ่ม ตามแบบนาฬิกาวิ่งแบบดั้งเดิม ที่เราคิดว่าใช้งานได้ดีกว่าแบบปุ่มเดี่ยวในระหว่างการวิ่ง Forerunner 245 มีน้ำหนักเพียง 35 กรัม แต่ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น สามารถใช้งาน GPS ได้ถึง 24 ชั่วโมง และใช้งานในโหมดสมาร์ทโฟนได้นานสูงสุดถึง 7 วัน ซึ่งมากพอที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ ผู้ใช้งานที่เราสอบถาม ระบุว่า แบตเตอรี่ของ Forerunner นั้นลดลงเหลือประมาณ 70% หลังจากใช้งานเป็นเวลาสองวัน และสามารถชาร์จให้เต็มได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เราคิดว่า Forerunner 245 เป็นนาฬิกาที่เหมาะกับนักวิ่งตั้งแต่ระดับมือใหม่ไปจนถึงระดับโปร และไม่ใช่แค่ทีมงาน roonnhaidee เท่านั้นที่คิดเช่นนี้ มีนักวิ่งและเว็บไซต์รีวิวของต่างประเทศหลายแห่งที่ยกให้ Forerunner 245 เป็นนาฬิกา GPS ที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย Forerunner 245 เป็นรุ่นที่พัฒนาเสริมจากรุ่น Forerunner 230 และ 235 ซึ่งเราเคยแนะนำเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นก็ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ในลักษณะเดียวกัน แต่สามารถใช้ GPS ในประมาณ 12-16 ชั่วโมงเท่านั้น Forerunner 245 รุ่น Music ดีไหมGarmin Forerunner 245 Music นั้นถือเป็นรุ่นฝาแฝดอัพเกรดของ Forerunner 245 โดยมีสเปคและฟังก์ชั่นทุกอย่างเหมือนกันแทบทุกประการ ส่วนที่อัพเกรดที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ ฟังก์ชั่นการซิงค์เพลย์ลิสต์จากแอปต่างๆ เช่น Spotify หรือ Apple Music มาไว้ที่น่าฬิกาโดยตรง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บเพลงไว้ในตัวเครื่องสูงสุด 500 เพลง ทำให้สามารถฟังเพลงผ่านหูฟังที่เชื่อมกับนาฬิกาได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือร่วมด้วย ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงขณะที่วิ่ง (ซึ่งต้องอาศัยความระมัดระวังเพิ่มขึ้นด้วย) และชอบวิ่งโดยไม่พกโทรศัพท์ติดตัว Forerunner 245 Music นั้นอาจจะคุ้มค่าที่จะลงทุน ในราคาที่แพงกว่าประมาณ 2,000 บาท Garmin Forerunner 55สำหรับคนที่ต้องการนาฬิกาออกกำลังกายคุณภาพสูงที่ใช้งานสะดวกเพื่อเก็บข้อมูลกิจกรรมตลอดวัน และไม่ได้ต้องการฟังก์ชั่นแบบ smartwatch มากมายนัก เราเชื่อว่า Forerunner 55 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ Forerunner 55 เป็นหนึ่งในนาฬิการุ่นที่เล็กและเบาที่สุดของ Garmin โดยมีขนาดตัวเรือน 4.2 x 4.2 ซม. และมีน้ำหนักเบาเพียง 37 กรัม แม้จะมีราคาถูกกว่า Forerunner 245 ที่เราแนะนำประมาณ 3,000 บาท แต่ Forerunner 55 นั้นมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ถือว่าครบถ้วนสำหรับนักวิ่งและการออกกำลังกายสำหรับคนส่วนใหญ่ เช่น การตรวจจับกิจกรรมโดยอัตโนมัติ โหมดสำหรับว่ายน้ำ และ การจับสัญญาณ GPS ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ มันยังสามารถตรวจจับระยะทางได้แม่นยำ รวมถึงสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้เช่นเดียวกัน Forerunner 55 เป็นรุ่นอัพเกรดจาก Forerunner 45 ซึ่งปรับปรุงทั้งด้านแบตเตอรี่และฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยสามารถใช้งานในโหมดสมาร์ทโฟนได้นานสูงสุด 7 วัน และใช้งาน GPS ได้สูงสุด 13 ชั่วโมง หน้าจอขนาด 1.08 นิ้ว ของ Forerunner 55 นั้นอาจไม่สามารถปรับแต่งได้มากเท่า Forerunner 235 รวมถึงปริมาณแบตเตอรี่นั้นแสดงผลเป็นรูปแถบ icon (ไม่สามารถแสดงเป็น % ได้) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้ว เราคิดว่ายังถือว่าใช้ได้สะดวก เปรียบเทียบรุ่นอื่นApple Watch เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา Apple Watch Series 4 เพิ่งเปิดตัวพร้อมกับ watchOS 5 ที่ให้ความสำคัญกับด้านสุขภาพเป็นหลัก โดยเพิ่มฟีเจอร์ตรวจวัดอัตราเต้นของหัวใจ การแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ การเปิดใช้ GPS แบบอัตโนมัติ และการรับสัญญาณโทรศัพท์แบบ LTE ได้ในตัว แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นยังคงอยู่ที่สูงสุดเพียง 18 ชั่วโมง เราจึงเชื่อว่ามันยังไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริจัง Vivoactive 3 ถ้าคุณออกกำลังกายโดยไม่ได้เน้นการวิ่งเป็นหลัก เราคิดว่า Garmin Vivactive น่าจะถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมันทำหน้าที่ได้ดีการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำกว่าหลายรุ่น แต่ยังเก็บข้อมูลระยะทางวิ่ง/ปั่นจักรยานได้ไม่แม่นยำเท่ากับสองรุ่นที่เราแนะนำ ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของมันอยู่ตรงที่หน้าจอทัชสกรีน ซึ่งสามารถใช้งานใต้น้ำได้ (กันน้ำลึก 50 เมตร) และหลายคนอาจจะชอบฟังก์ชั่นนี้ แต่นักรีวิวในต่างประเทศหลายคนมองว่าใช้งานได้ไม่สะดวกเท่ากับการกดปุ่มตามปกติ Forerunner 645 ด้วยราคาที่สูงกว่ารุ่นที่เราแนะนำหลายพันบาท (14,990 บาท 12 ม.ค. 2019) เราคิดว่ามันอาจแพงเกินไปสำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยนัก อย่างไรก็ตาม คนที่วิ่งเป็นประจำทุกวัน และจริงจังกับการจัดเก็บสถิติอาจได้ประโยชน์จาก Forerunner 645 ซึ่งมีฟังก์ชั่นสำคัญในการโอนถ่ายข้อมูลจากนาฬิกาแบบอัตโนมัติ ถึงแม้มันจะเริ่มจับสัญญาณ GPS ได้ช้ากว่าทั้งสองรุ่นที่เราแนะนำ แต่ก็ทำได้ดีในฟังก์ชั่นอื่น ๆ โดยเฉพาะการจับอัตราการเต้นหัวใจที่ทำได้แม่นยำกว่าอีกด้วย Vivosport หนึ่งใน Fitness Tracker ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มนักวิ่ง นอกจากความแม่นยำที่สูงมากแล้ว มันยังมีฟังก์ชั่นสำหรับตรวจวัดการออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ การวัดระยะทางอัตโนมัติด้วย GPS ที่แม่นยำ แถมยังมีหน้าจอสีและรอวรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ (แม้จะมีฟีเจอร์ไม่มากเท่านาฬิกาก็ตาม) ตัวเลือกที่เราแนะนำOUR PICK BUDGET PICK Garmin Forerunner 55 สำหรับคนที่ต้องการนาฬิกาสำหรับการวิ่ง และไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นเสริมของ smartwatch มากนัก เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @roonnhaidee |