เที่ยว ฝรั่งเศส เดือน ไหน ดี ที่สุด

ก่อนอื่นเลย เราต้องทำความเข้าใจสภาพภูมิอากาศของเมืองสวยประจำยุโรปแห่งนี้กันก่อน เพื่อจะได้เที่ยว ปารีส ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด สภาพอากาศของเมืองนี้นั้นเพอร์เฟกต์ตลอดทั้งปี ไม่แปรปรวนมากนัก ต่างจากประเทศอื่นๆ ในโลก ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาว อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส พอเข้าสู่หน้าร้อนอุณหภูมิก็จะไต่ขึ้นไปที่ประมาณ 16 – 21 องศาเซลเซียส

และเพราะสภาพอากาศเป็นแบบเมืองหนาว ดังนั้นสิ่งที่ต้องรับมือเวลามาเที่ยว ปารีส ก็มีแค่ฝนกับหิมะในเดือนที่อากาศหนาวเท่านั้น นอกจากนี้ เวลามาเที่ยวยุโรปแถบนี้ยังจะไม่เจออากาศร้อนตับแล่บอีกด้วย แม้จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดแห่งปีก็ตาม ปารีสคือเมืองที่สนุกได้ตลอดทั้งปีจริงๆ ไม่ว่าจะอยากเที่ยวแบบในเมือง หรือบุกป่าฝ่าดงตามธรรมชาติก็ตาม

เข้าพักที่ Regence Etoile Hotel แล้วออกไปเที่ยว ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe Monument)

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใกล้ ประตูชัยฝรั่งเศส

เทศกาลที่ต้องไปเยือนในแต่ละฤดูกาล

ปารีส คือศูนย์กลางของศิลปะ ประวัติศาสตร์ แฟชั่น อาหารดีๆ และดนตรี ที่นี่เป็นแหล่งรวมคนหัวสมัยใหม่ ซึ่งผู้คนที่นี่ก็อยู่ในแวดล้อมที่ส่งเสริมให้กล้าคิดกล้าแสดงออกเสมอด้วย ดังนั้นการมาเที่ยว ปารีส จึงเป็นการเปิดประสบการณ์รอบด้านอย่างแท้จริง ซึ่งรายละเอียดด้านล่างนี้จะมีทั้งเทศกาล กิจกรรม และอีเวนต์ใหญ่ๆ รวมถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวปารีสด้วย

• Paris Fashion Week: งานนี้จัดปีละ 2 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์/มีนาคม และกันยายน/ตุลาคม โดยเหล่าดีไซเนอร์แฟชั่น Haute Couture ทั้งหลายจะมารวมตัวกัน และจัดแสดงผลงานเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นล่าสุดของแต่ละแบรนด์ และแม้ว่าการหาบัตรที่นั่งดีๆ เพื่อดูโชว์จะยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไปไม่ได้! ต่อให้ไม่ได้บัตรที่ดีที่สุด ก็ยังเดินทางไป Carrousel du Lovvre เพื่อเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ ของงานได้อยู่ดี

• A Month of Concerts: มุ่งหน้าไป เบอร์ซีวิลเลจ (Bercy Village) ทุกคืนวันอังคารและพฤหัสของเดือนสิงหาคมได้เลย เพราะที่นี่มีนักดนตรีหน้าใหม่เก่งๆ หลายคนเลยล่ะ โดยแต่ละคืนศิลปินหน้าใหม่จะมาแสดงความสามารถทางดนตรี สร้างฐานแฟนคลับไปในด้วย นักท่องเที่ยวสามารถไปฟังเพลงเพราะๆ กันได้ ทั้งแนวอินดี้ แจ๊ส โซล ร็อก รวมถึงแร็ปด้วย

• Tour de France: การแข่งขันจักรยานนี้กลายเป็นธรรมเนียมของฝรั่งเศสไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 นักปั่นจะมาขี่จักรยานรอบเมืองกันในงานนี้ โดยการแข่งขัน Tour de France จัดเป็นประจำทุกปีในเดือนกรกฎาคม กินเวลาทั้งสิ้น 21 วัน เพราะฉะนั้นถ้าไปเที่ยวปารีสช่วงนี้ก็ลองไปแถวๆ ช็องเซลีเซ่ (Champs Elysees) เพื่อร่วมยินดีตอนที่นักปั่นเข้าเส้นชัยกันได้

• Christmas Markets: คริสต์มาสคือช่วงเวลาสุดพิเศษประจำปี และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยว ปารีส เพราะตามถนนหนทางจะมีการประดับประดาไฟ เราจะได้กลิ่นเหล้าองุ่นกับแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ลอยอยู่ในอากาศ แถมยังมีร้านรวงออกมาตั้งขายอาหารกับของขวัญต่างๆ นานากันอีก ดังนั้นถ้ามาปารีสช่วงวันหยุดเทศกาลละก็ต้องแวะที่ Le Marché de Noël ใกล้ๆ มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) หรือ Le Village de Noël ณ ย่านช็อปปิ้ง Châtelet – Les Halles ตลาดคริสต์มาสคือธรรมเนียมประจำวันหยุดในเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศสและเยอรมนีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

• Grand Prix d’Amérique: การแข่งขันรถม้าแบบนี้คือสมบัติแห่งกาลเวลาของหลายๆ ประเทศในยุโรป เราสามารถหาซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมการแข่งขันได้ที่ Bois De Vincennes งานนี้จัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปีและรับประกันได้เลยว่าสนุกตื่นเต้นมากแน่นอน ช่วงเวลาที่มีงาน Grand Prix d’Amérique นั้นตรงกับเวลาที่นักท่องเที่ยวหลายคนเชื่อว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการเที่ยวปารีสอยู่แล้ว ดังนั้นเตรียมเบียร์กับของกินเล่นให้พร้อม แล้วเข้าสนามแข่งรับชมการแข่งม้าในตำนานกันได้เลย ไปดูม้าวิ่งด้วยความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อบนลู่กัน

• Salon Du Chocolat: ถ้าใครเคยมีประสบการณ์กินช็อกโกแลตหวานละมุนแล้วรู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์ละก็ เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวปารีสของคุณก็คือ ฤดูใบไม้ร่วงแน่นอน เพราะ Salon Du Chocolat น่ะคืออีเวนต์รสชาติดีที่ควรค่าแก่การไปสุดๆ งานนี้จัดขึ้นทุกๆ ปีในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม หรือไม่ก็สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน เป็นการเปิดโอกาสให้นักทำช็อกโกแลตมือดีทั้งหลายได้มาอวดความสามารถกัน อีเวนต์นี้จัดที่ Paris Expo Porte De Versailles โดยมีเชฟขนมหวานกว่า 200 คนจาก 60 ประเทศมารวมตัวกันในงาน เมื่อมาถึงที่แล้วก็อย่าพลาดชิมช็อกโกแลตชั้นดี ดูสาธิตการทำช็อกโกแลต รวมถึงเข้าร่วมเวิร์กช็อปต่างๆ ได้ และที่สำคัญอย่าลืมซื้อของฝาก (ช็อกโกแลตนั่นแหละ!) ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย

• เทศกาลสตรีตฟู้ดนานาชาติ (Street Food International Festival): ร่วมเฉลิมฉลองอาหารจานด่วนของครัว Food Truck กันได้ในงาน เทศกาลสตรีตฟู้ดนานาชาติ ที่จัดขึ้นทุกปีช่วงกลางเดือนกันยายน เดินเล่นที่ Paris Expo Porte De Versailles แล้วชิมอาหารแบบบ้านๆ ของแต่ละชาติทั่วโลก ราคาอาหารในงานก็ไม่แพง แต่รสชาติดีมาก เห็นแล้วน้ำลายสอแน่นอน งานนี้ทำให้เดือนกันยายนกลายเป็นเดือนที่เหมาะจะเที่ยวปารีสไปโดยปริยาย

วิธีการเดินทางไปปารีส

วิธีการบินข้ามประเทศไป ปารีส ที่ดีที่สุดคือบินตรงไปลงในเมืองเลย ปารีส มีสนามบินหลักสองแห่งคือ สนามบินปารีส-ออร์ลี (Paris-Orly Airport: ORY) และ สนามบินชาร์ลส์เดอโกล (Charles de Gaulle Airport: CDG) ซึ่งการที่เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสายการบินที่เราขึ้น สนามบินออร์ลี อยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 11.5 ไมล์ ส่วน สยามบินชาร์ลส์เดอโกล อยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 20 ไมล์

แต่ถ้าเดินทางมา ปารีส จากเมืองอื่นๆ ในยุโรป ก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางคือใช้บริการรถไฟยุโรป รถไฟข้ามเมืองในยุโรปเชื่อมต่อกันข้ามประเทศ ดังนั้นรถไฟจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีหากใครอยากเพลินกับวิวข้างทางในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเที่ยวปารีส ถ้าใครเลือกขึ้นรถไฟก็ต้องไม่ลืมเตรียมกล้องให้พร้อมเพื่อเก็บภาพสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ทั้งยอดเขาสูงที่โผล่มาให้เห็น ผืนป่าเขียวชอุ่ม และอาณาจักรโบราณอายุหลายร้อยปี Intertail คือระบบรถไฟข้ามเร็วสูงที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตัว Interrail Pass เพื่อให้ได้ราคาประหยัดในการเดินทาง

การเดินทางในปารีส

ส่วนการเดินทางใน ปารีส นั้นแสนง่าย ซึ่งต้องขอบคุณระบบการขนส่งที่แข็งแรงเหลือเกินของเมืองนี้ ก่อนออกจากสนามบิน เราสามารถเช่ารถไว้ขับเที่ยวได้ด้วย ซึ่งการขับรถในฝรั่งเศสก็เหมือนการขับรถที่อื่นๆ นั่นแหละ เพียงแค่ถนนบางสายแคบสุดชีวิตก็เท่านั้นเอง และเช่นเดียวกับเมืองใหญ่ต่างๆ ที่ในเวลาเร่งด่วน เราต้องเจอกับสภาพการจราจรอันแสนแออัดแน่นอน

• รถยนต์: ถ้าใครวางแผนจะขับรถเที่ยวใน ปารีส ก็อย่าลืมพกใบขับขี่สากลไปด้วย พร้อมพาสปอร์ต และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย นั่นคือต้องพกเสื้อกั๊กสะท้อนแสงติดรถไว้ เผื่อจำเป็นต้องจอดฉุกเฉินข้างทาง หรือประสบอุบัติเหตุ

• รถบัส: รถบัสในปารีสให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน เช่นเดียวกับรถรางและรถไฟ โดยการขึ้นรถบัสถือเป็นการเดินทางที่ถูกและประหยัด ค่าโดยสายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.90 ยูโร แถมยังซื้อแพ็กเกจ 10 ใบในราคาถูกลงได้อีกด้วย เมโทรบัสให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า – เที่ยงคืนครึ่ง โดยวิ่งทั้งในเมืองและชานเมือง ส่วนใครจะเดินทางตอนกลางคืนนั้นต้องขึ้นบัส Noctilien ที่ให้บริการตั้งแต่ 00.30 – 05.30 น.

• รถราง: รถรางคืออีกอีกตัวเลือกที่ดีในการเที่ยว ปารีส ยิ่งถ้ายังไม่ชัวร์ว่าจะไปไหนดี และไม่เกี่ยงถ้าต้องเดินสักหน่อย รถรางเป็นลูกครึ่งระหว่างรถบัสกับรถราง ให้บริการโดยวิ่งวนรอบเมือง แบ่งออกเป็น 4 โซน มี T1, T2, T3 และ T4

• รถไฟด่วน: ปารีส มีรถไฟด่วนที่เรียกว่าเครือข่ายรถไฟ RER หรือ RER Train Network RER มีหลายสายหลายเส้นทาง โดยวิ่งตัดผ่านเมืองและรอบชานเมือง แต่ละเส้นทางก็จะมีสีสัญลักษณ์ต่างกันทั้งแดง น้ำเงิน เหลือง เขียว ชมพู RER เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00 น. – 00.45 น.

• แท็กซี่และรถบริการต่างๆ: เราสามารถเรียก Uber หรือแท็กซี่ส่วนตัวในการเที่ยวปารีสได้ เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลก ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ที่ให้บริการรถแบบนี้ในปารีสมีแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดเพื่อให้ง่ายต่อการจองล่วงหน้า การขึ้นแท็กซี่ส่วนตัวถือเป็นวิธีที่ดีในการเดินทางเที่ยวในเมือง เราจะได้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องปวดหัวกับการขับรถ แถมยังได้ดูความงดงามของเมืองขณะนั่งรถเดินทางไปไหนต่อไหนอีกด้วย

การแลกเงินในปารีส

อีกเรื่องที่เหมือนประเทศยุโรปประเทศอื่นๆ คือ ปารีส ฝรั่งเศส ใช้สกุลเงินยูโร และหาแลกเงินในเมืองง่ายมากๆ ด้วย แค่หา ATM ให้เจอก็จะได้เงินสกุลยูโรมาใช้ในปารีสได้แล้ว หรือไม่ก็ที่แลกเงินตามตึกและสถานที่ต่างๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ร้านแลกเงินเป็นธุรกิจที่มีให้บริการมานานเป็นศตวรรษ หลายๆ ร้านจึงตกแต่งและคงความโบราณไว้ ซึ่งก็ถือเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกัน แนะนำให้ลองแวะ “ร้านแลกเงิน” ดู เพื่อสัมผัสประสบการณ์การแลกเงินแบบยุคก่อนๆ ในประวัติศาสตร์ คุณจะรู้สึกเหมือนได้ก้าวกลับไปสู่ยุคที่อะไรๆ เรียบง่ายกว่านี้ นอกจากนั้นแล้วยังสามารถแลกเงินที่ธนาคาร โรงแรม และศูนย์แลกเงินที่สนามบินได้อีกด้วย

ที่พักราคาประหยัดในปารีส

การเที่ยวปารีสอาจไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนคิด โดยเราสามารถประหยัดได้สุดๆ หากเที่ยวปารีสในเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ และเมษายน – มิถุนายน เมื่อนักท่องเที่ยวในเมืองลดลง การเที่ยว ปารีส ในช่วงเดือนที่ไม่ใช่เดือนพีคๆ จะช่วยให้เรามีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ทั้งโรงแรมที่พัก แถมยังเลี่ยงฝูงชนตามแลนด์มาร์กต่างๆ ได้อีกด้วย ในฤดูที่นักท่องเที่ยวลดลง โรงแรมก็จะหั่นราคาซึ่งเป็นโอกาสดีที่ช่วยให้เราประหยัดเงินได้เป็นกอบเป็นกำในการเข้าพักโรงแรมหรูๆ เวลาที่เหมาะแก่การจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน รวมถึงตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ คือช่วงกลางสัปดาห์ ที่คนส่วนใหญ่ทำงานหรือเรียนอยู่

หากใครกำลังเล็งเวลาที่ดีที่สุดต่อการเที่ยวปารีสและมีงบจำกัด แนะนำให้ลองหาดีลดีๆ ที่รวมค่าโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และค่าเดินทางต่างๆ แล้ว เพื่อให้ราคาประหยัด ซึ่งมีแพ็กเกจการเดินทางมากมายที่ช่วยประหยัดได้สูงถึง 50% หากวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และถ้าเที่ยวปารีสในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีโอกาสประหยัดขึ้นไปอีกเพราะมีอีเวนต์และกิจกรรมดีๆ ให้เข้าฟรีเยอะกว่าช่วงอื่น นอกจากนี้ ในช่วงฤดูนี้ของปียังเป็นเวลาที่มีการเก็บเกี่ยวองุ่นสำหรับทำไวน์กันเยอะที่สุด แถมยังเป็นช่วงเวลาที่มีการจัดนิทรรศการต่างๆ ทั่วเมืองเลยด้วย

5 ที่พักยอดนิยมในปารีส

ปารีส มีโรงแรมให้เลือกพักมากมายหลายแบบจริงๆ แต่ละแห่งก็ล้วนมีจุดขาย มีสเน่ห์ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะอยากได้ที่พักสไตล์โมเดิร์น เก๋ๆ หน่อย หรือสไตล์ยุโรปยุคเก่า ก็มั่นใจได้เลยว่าทุกคนจะต้องเจอโรงแรมที่ถูกใจสักแห่งแน่นอน เพราะปารีสมีหมดทุกอย่างตั้งแต่ที่พักแบบโฮสเทลสำหรับแบ็กแพ็กเกอร์ไปจนถึงโรงแรมหรูที่มีรูมเซอร์วิสพร้อมด้วยสปาแบบจัดเต็ม โดยที่เรามีสิทธิจะได้พักห้องดีๆ ในราคาพิเศษด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเราตัดสินใจจะไปเที่ยวปารีสกันตอนไหน

1. Hotel Academie Saint Germain

โรงแรมแห่งนี้ประดับตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ฝรั่งเศสยุคเก่ารวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วย โรงแรม Academie Saint Germain นั้นเรียบหรู ส่วนบรรยากาศก็ผ่อนคลาย ห้องพักแต่ละห้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สลักลวดลายสุดวิจิตร ประดับภาพพอร์เทรตยุควิกตอเรีย หมอนกับเตียงนุ่มๆ ช่วยให้เอนกายได้อย่างสบายหลังจากผ่านวันอันยาวนานมา ห้องพักของโรงแรมแห่งนี้คือห้องพักในฝันทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่เดินทางมาทำงานด้วย หากเลือกพักที่ โรงแรม Academie Saint Germain ก็จะได้รับบริการอย่างดีของโรงแรม มีบริการบาร์ Room Service ฟรี Wi-Fi คนขับรถส่วนตัว ชากาแฟยามเช้า ฟิตเนส และอื่นๆ อีกมากมาย หากจองห้องพักในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ราคาถูกหน่อย ประมาณ 134 ยูโรต่อคืน Hotel Acadamie Saint Germain ตั้งอยู่ที่ 32 Rue des Saints-Pères.

เข้าพักที่ Hotel Acadamie Saint Germain แล้วออกไปเที่ยว หอไอเฟล

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ปารีส

2. Hotel Duc De Saint Simon

โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย โรงแรม Duc De Saint Simon คือที่พักมีระดับสำหรับคนที่ชอบสีสดๆ และวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบปารีสแท้ๆ โรงแรมอยู่เลขที่ 14 ถนน Rue De Saint-Simon ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และหน้าร้อน เราอาจได้ห้องราคาเพียง 135 ยูโรต่อคืน โรงแรม Duc De Saint Simon ประดับด้วยวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ ภาพพอร์เทรตสุดคลาสสิก ใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์วิกตอเรีย มีระเบียงรับลมสไตล์ฝรั่งเศส ส่วนพนักงานโรงแรมก็เป็นมิตรมากและสามารถให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้การเที่ยวปารีสครั้งนี้ของทุกคนเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษจริงๆ นอกจากนี้โรงแรมยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งประจำเมือง และเปิดให้บริการตลอดทั้งปี

เข้าพักที่ Hotel Duc De Saint Simon แล้วออกไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ปารีส

3. Le Burgundy Hotel

โรงแรมสุดโมเดิร์นแห่งนี้มีกลิ่นอายการออกแบบตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมอยู่ด้วย โรงแรม Le Burgundy ดูโปร่งและโล่งเปิดรับแสงแดดของเมืองเต็มที่ ห้องพักทั้ง 59 ห้องในโรงแรมตกแต่งด้วยสีสันสว่างสดใส เป็นโรงแรมที่เหมาะแก่การพักผ่อนและผ่อนคลายแบบสงบๆ จริงๆ ทั้งนี้ หากใครอยากลดความคลาสสิกของห้องพักลงหน่อย แนะนำให้จองห้องแบบ Junior Suite ส่วนห้องอื่นๆ ก็มีทั้ง Duplex Room, Apartment Suite ฯลฯ ซึ่งราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 330 ยูโร โรงแรม Le Burgundy แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ณ เลขที่ 6-8 ถนน Duphot หากตัดสินใจพักที่โรงแรมนี้ สามารถไปใช้บริการสระว่ายน้ำในร่มได้ หรือหาอะไรกินเล่นในร้านอาหาร รวมถึงไปออกกำลังในฟิตเนสได้ด้วย

เข้าพักที่ Le Burgundy Hotel แล้วออกไปเที่ยว Musee D’Orsay Museum

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ปารีส

4. Hotel La Bourdonnais

นี่คือโรงแรมที่ตั้งอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งรวมความบันเทิงของ ปารีส เลย โรงแรม La Bourdonnais เป็นโรงแรมใหญ่เหมาะกับคนที่ชอบอะไรหรูๆ หน่อย ห้องพักแต่ละห้องดีไซน์ออกมาเรียบๆ เตียง เก้าอี้ โซฟาบุมานุ่มสบายให้เราทิ้งตัวพักผ่อนจากการเที่ยวมาทั้งวันได้เป็นอย่างดี ในช่วงที่ไม่ใช่เวลาพีคๆ ของการท่องเที่ยว อาจได้ราคาห้องของบูติกโฮเทลแห่งนี้แค่ประมาณ 133 ยูโรต่อคืนเท่านั้นเอง โรงแรม La Bourdonnais มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกให้ครบครัน รวมถึงบาร์หรูที่ตกแต่งด้วยไม้ อาหารเช้าสไตล์ฝรั่งเศส ห้องสมุด บริการนวด ห้องประชุม และอื่นๆ อีกมากมาย Hotel La Bourdonnais ตั้งอยู่ที่ 111-113 Avenue de la Bourdonnais

เข้าพักที่ Hotel La Bourdonnais แล้วออกไปเที่ยวที่ ประตูชัยฝรั่งเศส

ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดใน ปารีส

5. Hotel Napoleon

ด้วยความที่โรงแรมนี้มี ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe Monument) เป็นฉากหลัง โรงแรมนโปเลียน (Hotel Napoleon) เลยซึมซับเอาความหรูหรามีระดับมาใช้ในการออกแบบด้วย ส่วนด้านในนั้นตกแต่งอย่างมีรสนิยมและสวยจับใจเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนส่วนกลาง มีระเบียงให้เราได้ออกมาชมความงดงามของเมือง และมีฟิตเนสระดับเวิร์ลด์คลาสด้วย เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่หากวุ่นวายกับการเที่ยวมาทั้งวัน ก็เหมาะจะมาพักร่างและผ่อนคลายจิตใจจริงๆ ส่วนราคาห้องนั้น ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวอาจจองได้ราคาคืนละประมาณ 206 ยูโร ซึ่งนอกจากจะราคาดีแล้ว เรายังจะได้รับบริการอย่างดีเยี่ยมด้วย Hotel Napoleon ตั้งอยู่ที่ 40 Avenue de Friedland