โทนเนอร์ กับ คลี น. ซิ่ง ต่างกัน ยัง ไง

สาวน้อยวัยขบเผาะที่กำลังหัดแต่งหน้าใหม่ ๆ บางทีก็แอบสงสัยนะ ทำไมพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้ามันเยอะแยะไปหมด ทั้ง ๆ ที่เราก็มีแค่หน้าเดียว ก็เพราะมีแค่หน้าเดียวนี่แหละจ้าถึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะถ้าหน้าพังมาจะหาไหนเปลี่ยน..จริงมั้ย! วันนี้ Lab Society เลยจะมาสาธยายว่าด้วยเรื่องผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า Cleansing Cleanser และ Toner ต่างกันยังไง ถ้างบน้อยซื้อแบบไหนคุ้ม! มาดูกันเลยจ้า

Cleansing เริ่มที่เจ้าตัวคลีนซิ่งก่อน ตัวนี้หลายคนอาจคุ้นเคยในชื่อของ “Remover” มีหน้าที่ในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง เนื้อคลีนซิ่งมีทั้งแบบน้ำ ออยล์ เจลล์ มักใช้คู่กับสำลีเป็นหลัก แต่ก็มีบางตัวที่สามารถใช้เพียว ๆ ได้เลยเช่น Smith Basi Clear Deep Cleansing ผลิตภัณฑ์ของหมอโอ๊ค สำลีไม่ต้อง น้ำไม่จำเป็น

Cleanser ชื่อคล้ายกันกับคลีนซิ่งจนหลายคนเอาไปจำสับสน คิดว่ามันคือตัวเดียวกัน และคงทำงานคล้าย ๆ กันล่ะมั๊ง มา..จะเล่าให้ฟัง เจ้าคลีนเซอร์เนี่ยก็คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าทั่วไป สบู่ โฟม ใช่หมดเลยจ้า พวกนี้ต้องใช้คู่กับน้ำ คือต้องล้างออกด้วยน้ำนั่นเอง คลีนเซอร์ก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้ใช้แต่ละคนนะคะ

ฉะนั้นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม หน้าแห้งแต่เลือกใช้คลีนเซอร์สำหรับคนหน้ามัน อันนี้ก็ไม่ไหวนะ อ้อ! แต่เจ้าคลีนเซอร์นี่ล้างเครื่องสำอางประเภทกันน้ำไม่ออกนะคะ แต่พวกโนเมคอัพ และไม่ค่อยได้ออกไปไหนเท่าไหร่อันนี้เอาอยู่ สรุปจำเป็นป่ะ?  จำเป็นสิคะ ไอเท็มนี้ก็เหมือนสบู่อ่ะ ที่ต้องใช้ทุกวัน ใช้คลีนซิ่งเสร็จก็ต้องตามด้วคลีนเซอร์ทุกครั้ง!

Toner มาที่ไอเท็มสุดท้ายกันบ้าง โทนเนอร์นี้ใช้เก็บตกหลังจากล้างหน้า ส่วนมากจะผสมแอลกอฮอล์ แต่ทุกวันนี้ก็มีพวกโทนเนอร์บำรุงผิวนะ ตัวนี้ใช้คู่กับสำลีคล้ายกับคลีนซิ่ง ใช้ก่อนแต่งหน้าเพื่อลดการอุดตันจากสิ่งตกค้าง ช่วยให้เครื่องสำอางติดนาน ทาแล้วไม่ต้องล้างออก แต่บำรุงผิวต่อได้เลยจ้า แต่ราคาแอบแรงนิดนึงนะ

จำได้ใช่ไหม Cleansing เช็ดเมคอัพ ฝุ่นละออง Cleanser คือสบู่ โฟมล้างหน้า และ Toner เก็บตกพร้อมบำรุงผิว ทั้งสามตัวมีความสำคัญแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สาว ๆ ที่แต่งหน้าก็ต้องใช้ Cleansing หรือใช้ Toner แต่ชีวิตประจำวันต้องใช้ Cleanser จึงจะตอบโจทย์ ทีนี้ได้คำตอบแล้วเนาะ ว่าหากมีงบที่จำกัด เลือกซื้อตัวไหนคุ้มที่สุด