เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์แตกต่างกันอย่างไร

ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ผลงานอันเกิดจากการประดิษฐ์ คิดค้น หรือสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งเน้นที่ผลผลิตของสติปัญญาและความชำนาญ โดยไม่คำนึงถึงชนิดของการ

Show

สร้างสรรค์หรือวิธีในการแสดงออก เช่น สินค้าต่าง ๆ การบริการ กรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม เป็นต้น

 

  1.  ทรัพย์สินทางปัญญามีกี่ประเภท

ในทางสากล ทรัพย์สินทางปัญญาแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) และ ลิขสิทธิ์ (Copyright)

 

  1.  ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม (Industrial Property) คือ อะไร

ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ได้พัฒนาหรือคิดค้นขึ้นใหม่ นอกจากนี้ยังรวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์

เครื่องหมายการค้า ชื่อและถิ่นที่อยู่ทางการค้า โดยรวมถึงแหล่งกำเนิดและการป้องกันการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม

 

  1.  ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม มีกี่ประเภท

ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม ได้แก่ สิทธิบัตร (Patent) , แบบผังภูมิของวงจรรวม (Layout-Designs of Integrated Circuit),  เครื่องหมายการค้า (Trademark) ,

ความลับทางการค้า (Trade Secrets) , ชื่อทางการค้า (Trade Name)  และ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication)

 

  1.  ลิขสิทธิ์ (Copyright) คือ อะไร และได้รับการคุ้มครองอย่างไร

ลิขสิทธิ์  หมายถึง สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของผู้สร้างสรรค์ที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้นตามประเภทลิขสิทธิ์ที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ งานวรรณกรรม

นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียง แพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบทั้งโดยจับต้องได้และจับต้องไม่ได้ นอกจากนั้นกฎหมายลิขสิทธิ์ยังให้ความคุ้มครองถึงสิทธิของนักแสดงด้วย อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์ ไม่ครอบคลุมถึงความคิดหรือขั้นตอน กรรมวิธีหรือระบบ วิธีใช้หรือทำงาน แนวความคิด หลักการ การค้นพบ หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์

 

  1.  สิทธิบัตร (Patent) คือ อะไร

สิทธิบัตร  คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) หรือ การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Industrial Design) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่

สิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Invention Patent) สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent) และอนุสิทธิบัตร (Petty Patent) ซึ่งผู้ทรงสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร มีสิทธิเด็ดขาด หรือ สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาผลประโยชน์จากการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตร หรือ อนุสิทธิบัตรนั้น ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

 

  1.  ประเภทของสิทธิบัตร

สิทธิบัตร มี 3 ประเภท ได้แก่

–  สิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Invention Patent) หมายถึง การให้ความคุ้มครองการคิดค้นเกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบโครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต การเก็บรักษา หรือการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์

–  สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent) หมายถึง การให้ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบของลวดลาย หรือสีของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถใช้เป็นแบบสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมทั้งหัตถกรรมได้ และแตกต่างไปจากเดิม

–  อนุสิทธิบัตร (Petty Patent) คือ การให้ความคุ้มครองการประดิษฐ์จากความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมาก โดยอาจเป็นการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงจากการประดิษฐ์ที่มีอยู่ก่อนเพียงเล็กน้อย

 

  1.  ทำไมจึงควรขอรับสิทธิบัตร

ผู้ที่ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ควรขอรับสิทธิบัตร เพื่อให้ได้รับการตอบแทนจากสังคม ได้แก่

–  การคุ้มครองสิทธิอันชอบธรรมของผู้ประดิษฐ์และผู้ออกแบบ

–  การได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตร  เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นแสวงหาประโยชน์จากผลงานดังกล่าวนั้นโดยมิชอบ ซึ่งผู้ประดิษฐ์และผู้ออกแบบสามารถที่จะนำการประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรนั้นไปผลิต จำหน่าย นำเข้ามาในราชอาณาจักร หรืออนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิบัตรนั้นโดยได้รับค่าตอบแทน

 

  1.  อายุการให้ความคุ้มครองสิทธิบัตร

สิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีอายุ 20 ปี นับแต่วันขอรับสิทธิบัตรสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีอายุ 10 ปี นับแต่วันขอรับสิทธิบัตร

หน้านี้พิมพ์ขึ้นเมื่อ Dec 13, 2022 หากต้องการเวอร์ชันปัจจุบัน โปรดไปที่ https://help.shopify.com/th/manual/your-account/copyright-and-trademark

Shopify นั้นรองรับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ที่ห้ามไม่ให้มีการโพสต์หรืออัปโหลดเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น

ข้อสําคัญ: ข้อมูลที่ให้ไว้ในหน้านี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและไม่ใช่ข้อแนะนําด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตามที่ปรึกษาด้านกฎหมายของคุณเองจะสามารถให้คําแนะนําด้านกฎหมายและให้ความช่วยเหลือเมื่อคุณมีข้อสงสัยที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

ทรัพย์สินทางปัญญาหมายถึงสิ่งที่ผลิตขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งครอบคลุมทั้งผลงานที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เช่น หนังสือ ข้อความ โค้ด รูปภาพ วิดีโอ โลโก้ และสโลแกน ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาสองประเภท

เจ้าของร้านค้าจะต้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของตน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเจ้าของร้านค้านั้นไม่ได้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น

เกี่ยวกับลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์จะคุ้มครองผลงานต้นฉบับที่จับต้องได้ เช่น รูปภาพในร้านค้าออนไลน์

กฎหมายลิขสิทธิ์จะแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาค แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีการบังคับใช้ลิขสิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีการสร้างผลงานขึ้น ในหลายๆ ประเทศหรือภูมิภาค จะสามารถลงทะเบียนลิขสิทธิ์กับสํานักงานลิขสิทธิ์ของรัฐบาลได้

เจ้าของลิขสิทธิ์มีเอกสิทธิ์ในการคัดลอก แสดง แจกจ่าย ขาย หรือจัดแสดงผลงานของตน หรือสร้างงานสร้างสรรค์ต่อเนื่อง เจ้าของลิขสิทธิ์จะเป็นผู้ควบคุมวิธีการใช้งานของตน และผู้ใดที่ต้องการใช้ผลงานของเจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หากมีผู้ใดใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้นั้นอาจกำลังละเมิดลิขสิทธิ์อยู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ หรือคู่มือเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของแคนาดา

เกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า

เครื่องหมายการค้าจะปกป้องสัญลักษณ์หรือข้อความที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะระบุและแยกธุรกิจหรือสินค้าออกจากธุรกิจหรือสินค้าอื่นๆ

เมื่อลงทะเบียนแล้ว เครื่องหมายการค้าจะได้รับการคุ้มครองบางประการภายใต้กฎหมาย และเจ้าของเครื่องหมายการค้าจะมีเอกสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้าที่อ้างสิทธิ์ในสินค้าหรือบริการบางรายการ หากมีผู้ใดใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตในลักษณะที่จะสร้างให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า หรือบริการนั้นๆ ผู้นั้นอาจกำลังละเมิดเครื่องหมายการค้าอยู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าบนเว็บไซต์สํานักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา

การดรอปชิปและทรัพย์สินทางปัญญา

หากคุณดรอปชิปสินค้า คุณจะสามารถเลือกสินค้า บริการ และซัพพลายเออร์ที่คุณจะร่วมงานด้วยได้ อย่างไรก็ตามคุณควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ด้วยเนื่องจากซัพพลายเออร์บางรายอาจมีรายการสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ มีแบรนด์ หรือมีเครื่องหมายการค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านลิขสิทธิ์หรือข้อพิพาทด้านเครื่องหมายการค้า

สินค้าบางหมวดหมู่ที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ มีแบรนด์ หรือมีเครื่องหมายการค้าอาจได้แก่:

  • เสื้อผ้า
  • กระเป๋าแบรนด์เนม
  • นาฬิกาข้อมือ
  • เครื่องสำอาง
  • อุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ของเล่น

นโยบายลิขสิทธิ์

การตอบกลับอย่างรวดเร็วเพื่อสะสางการแจ้งเตือนว่าด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นไปตามรัฐบัญญัติลิขสิทธิ์แห่งสหัสวรรษดิจิทัล (“DMCA”) ของสหรัฐอเมริกานั้นถือเป็นนโยบายของ Shopify โดยสามารถดูเนื้อหาสาระได้ที่เว็บไซต์สํานักงานลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ https://www.copyright.gov

เราคาดหวังให้ผู้ใช้ทุกรายที่ใช้งาน Shopify จะปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าผู้ใช้เหล่านั้นจะใช้งานในส่วนใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการแจ้งที่เหมาะสมเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกร้องเรียนเข้ามา เราจะรับมือกับการแจ้งเตือนเหล่านั้นโดยการลบหรือปิดใช้การเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกร้องเรียนว่ามีส่วนในกิจกรรมที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และ/หรือรวมถึงการยกเลิกบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้รายดังกล่าว

ตามหมวดที่ 512(i)(1)(a) ของ DMCA ในกรณีที่เหมาะสม Shopify จะปิดใช้และ/หรือยกเลิกบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้ที่ได้ทำการละเมิดซ้ำ

การรายงานการละเมิดลิขสิทธิ์

คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้เพื่อใช้แบบฟอร์มออนไลน์ เพื่อรายงานเนื้อหาบน Shopify ที่คุณเชื่อว่าฝ่าฝืนหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถรายงานร้านค้าหลายร้านที่ละเมิดผลงานที่มีลิขสิทธิ์เดียวกันในการส่งแบบฟอร์มเดียวได้ หากคุณรายงานเท็จเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณ คุณอาจต้องเป็นผู้รับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข้อบังคับเกี่ยวกับการแจ้งเตือนสำหรับลิขสิทธิ์

แบบฟอร์มออนไลน์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการส่งการแจ้งเตือนการละเมิดลิขสิทธิ์ หากคุณไม่สามารถใช้งานแบบฟอร์มออนไลน์ได้ คุณสามารถส่งการแจ้งเตือนที่มีข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ใน DMCA ไปยังตัวแทนที่ Shopify แต่งตั้งได้ โดยการแจ้งเตือนของคุณต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้:

  • ข้อมูลติดต่อของคุณ ซึ่งจะรวมถึงชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลของคุณ
  • รหัสของงานต้นฉบับที่มีลิขสิทธิ์ที่อ้างว่าถูกละเมิด โปรดให้ลิงก์โดยตรงไปยังงานต้นฉบับ หากคุณไม่มีลิงก์โดยตรง คุณจะสามารถให้รายละเอียดผลงานของคุณอย่างละเอียดได้
  • ลิงก์ไปยังเนื้อหาที่คุณเชื่อว่าฝ่าฝืนหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณบน Shopify โปรดระบุรายการแบบครอบคลุมในแต่ละหน้าที่มีเนื้อหาที่คุณต้องการลบและไม่ใช่เพียงลิงก์ร้านค้าหลัก
  • ข้อความต่อไปนี้:

    • ข้าพเจ้าเชื่อมั่นด้วยความสัตย์จริงว่าการใช้เนื้อหาในลักษณะที่ถูกร้องเรียนนั้นไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ตัวแทน หรือกฎหมาย
    • ข้าพเจ้าขอสาบานภายใต้บทลงโทษของการเบิกความเท็จว่าข้อมูลในการแจ้งนั้นถูกต้อง และตัวข้าพเจ้าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในนามของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ถูกละเมิดแต่เพียงผู้เดียว
    • ข้าพเจ้ารับทราบว่าอาจมีการมอบสําเนาการแจ้งเตือนการละเมิดนี้ รวมถึงข้อมูลติดต่อใดๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลที่โพสต์เนื้อหาที่ถูกรายงาน
  • ลายเซ็นจริงหรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของคุณ

ตัวแทนที่ Shopify แต่งตั้ง

Shopify Trust & Safety
Shopify Inc.
151 O’Connor Street
Ground floor
Ottawa, Ontario
K2P 2L8
Canada

[email protected]

การตอบกลับการแจ้งเตือนการละเมิดลิขสิทธิ์

หากร้านค้าของคุณได้รับการแจ้งเตือนการละเมิดลิขสิทธิ์ ทีมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของ Shopify จะส่งอีเมลไปยังเจ้าของร้านเพื่อแจ้งให้เจ้าของร้านทราบว่าเนื้อหาใดถูกทำให้เป็นออฟไลน์

หากคุณเชื่อมั่นด้วยความสัตย์จริงว่าเนื้อหาที่ถูกทำให้เป็นออฟไลน์นั้นถูกนำออกโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเข้าใจผิด คุณจะสามารถส่งประกาศโต้แย้งได้ โดยอีเมลฉบับดังกล่าวจะมีลิงก์นำไปยังแบบฟอร์มการประกาศโต้แย้ง

หากคุณไม่สามารถใช้งานแบบฟอร์มประกาศโต้แย้งได้ คุณจะสามารถส่งประกาศโต้แย้งไปยังตัวแทนที่ Shopify แต่งตั้งได้ โดยประกาศโต้แย้งของคุณจะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้:

  • รหัสของเนื้อหาที่ถูกลบออกหรือเนื้อหาที่ถูกปิดใช้การเข้าถึง รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งที่เนื้อหาปรากฏอยู่ก่อนที่จะถูกลบออกหรือถูกปิดใช้การเข้าถึง
  • ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ
  • ข้อความต่อไปนี้:

    • ข้าพเจ้ายินยอมต่ออำนาจในการตัดสินคดีของศาลชั้นต้นของรัฐบาลกลางสำหรับเขตศาลซึ่งที่อยู่ของข้าพเจ้าตั้งอยู่ หรือหากที่อยู่ของข้าพเจ้าอยู่นอกสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าก็จะยินยอมต่ออำนาจในการตัดสินคดีของศาลชั้นต้นของรัฐบาลกลางสำหรับเขตเดลาแวร์
    • ข้าพเจ้าจะยอมรับบริการของกระบวนการจากบุคคลที่ส่งการแจ้งเตือนการละเมิด DMCA หรือตัวแทนของ DMCA
    • ข้าพเจ้าขอสาบานภายใต้บทลงโทษของการเบิกความเท็จว่า ข้าพเจ้าเชื่อมั่นด้วยความสัตย์จริงว่าเนื้อหาที่ได้รับผลกระทบถูกลบออกหรือปิดใช้จากความผิดพลาดหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องถูกลบออกหรือปิดใช้ดังกล่าง และข้าพเจ้าเป็นผู้ขายที่อยู่ภายใต้บังคับของการแจ้งเตือนให้ทำการลบออกเนื้อหาตาม DMCA หรือข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้กระทำการในนามของผู้ขายรายนั้น
    • ข้าพเจ้ารับทราบว่าสําเนาของประกาศโต้แย้งฉบับนี้ รวมถึงชื่อ-นามสกุลและข้อมูลการติดต่อของข้าพเจ้าจะถูกส่งให้แก่ฝ่ายที่ได้ส่งการแจ้งเตือนให้ทำการลบเนื้อหาออกตาม DMCA และ
  • ลายเซ็นจริงหรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์

คุณสามารถตอบกลับอีเมลจากทีมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของ Shopify ได้เมื่อคุณมีข้อสงสัยใดๆ

นโยบายเครื่องหมายการค้า

การตอบกลับอย่างรวดเร็วเพื่อสะสางการแจ้งเตือนว่าด้วยการละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ถูกกล่าวหานั้นถือเป็นนโยบายของ Shopify โดยการตอบกลับการแจ้งเตือนดังกล่าวของเราอาจรวมถึงการปิดใช้หรือการลบสิทธิ์การเข้าถึงเนื้อหาที่มีการเรียกร้องให้เป็นเรื่องของกิจกรรมที่ละเมิดและ/หรือยกเลิกบัญชีของผู้ใช้

Shopify จะปิดใช้และ/หรือยกเลิกบัญชีผู้ใช้ของผู้ที่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ซ้ำในกรณีที่เหมาะสม

การรายงานการละเมิดเครื่องหมายการค้า

คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้เพื่อใช้แบบฟอร์มออนไลน์ เพื่อรายงานเนื้อหาบน Shopify ที่คุณเชื่อว่าฝ่าฝืนหรือละเมิดเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนของคุณ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถรายงานร้านค้าหลายร้านที่ทำการละเมิดเครื่องหมายการค้าเดียวกันได้ในการส่งแบบฟอร์มครั้งเดียว หากคุณรายงานเท็จเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของคุณ คุณอาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข้อบังคับเกี่ยวกับการแจ้งเตือนสำหรับเครื่องหมายการค้า

แบบฟอร์มออนไลน์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการส่งการแจ้งเตือนการละเมิดเครื่องหมายการค้า หากคุณไม่สามารถใช้งานแบบฟอร์มออนไลน์ได้ หากคุณไม่สามารถใช้งานแบบฟอร์มออนไลน์ได้ คุณสามารถส่งการแจ้งเตือนการละเมิดเครื่องหมายการค้าไปยัง [email protected] ได้ โดยการแจ้งเตือนของคุณต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้:

  • ชื่อ-นามสกุลของเจ้าของเครื่องหมายการค้า
  • ข้อมูลติดต่อของคุณ ซึ่งจะรวมถึงชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลของคุณ
  • โดยระบุข้อมูลต่อไปนี้ให้กับเครื่องหมายการค้าแต่ละรายการที่มีปัญหา:

    • คำอธิบายเครื่องหมายการค้า
    • ประเทศที่ลงทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้
    • หมายเลขการลงทะเบียนเครื่องหมายการค้า และ
    • หมวดหมู่สินค้าและ/หรือบริการที่การลงทะเบียนครอบคลุม
  • แสดงลิงก์ไปยังเนื้อหาที่คุณเชื่อว่าฝ่าฝืนหรือละเมิดเครื่องหมายการค้าของคุณบน Shopify ใส่รายการเนื้อหาที่คุณต้องการให้ลบแบบครอบคลุมในหน้าแต่ละหน้า ไม่ใช่เฉพาะลิงก์หลักของร้านค้า

  • คำอธิบายว่าเพราะเหตุใดคุณจึงเชื่อว่าเนื้อหานั้นฝ่าฝืนหรือละเมิดเครื่องหมายการค้าของคุณบน Shopify

  • ข้อความต่อไปนี้:

    • ข้าพเจ้าเจ้าเชื่อมั่นด้วยความสัตย์จริงว่าการใช้เครื่องหมายการค้าในลักษณะที่ข้าพเจ้าได้ร้องเรียนตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นนั้นไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเครื่องหมายการค้า ตัวแทน หรือกฎหมาย
    • ข้าพเจ้าขอสาบานภายใต้บทลงโทษของการเบิกความเท็จว่าข้อมูลในการประกาศดังกล่าวนั้นถูกต้อง และตัวข้าพเจ้านั้นเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในนามของเจ้าของสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าที่ได้อธิบายไว้ด้านบน
    • ข้าพเจ้ารับทราบว่าอาจมีการมอบสําเนาการแจ้งเตือนการละเมิดนี้ รวมถึงข้อมูลติดต่อใดๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลที่โพสต์เนื้อหาที่ถูกรายงาน
  • ลายเซ็นจริงหรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของคุณ

การตอบกลับการแจ้งเตือนการละเมิดเครื่องหมายการค้า

เมื่อร้านค้าได้รับการแจ้งเตือนการละเมิดเครื่องหมายการค้า ทีมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของ Shopify จะส่งอีเมลไปยังเจ้าของร้านเพื่อแจ้งให้เจ้าของร้านทราบว่าเนื้อหาใดถูกทำให้เป็นออฟไลน์ หากคุณต้องการโต้แย้งการแจ้งเตือน ในอีเมลดังกล่าวจะมีลิงก์ไปยังแบบฟอร์มการโต้แย้ง คุณสามารถตอบกลับอีเมลจากทีมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของ Shopify ได้เมื่อคุณมีข้อสงสัยใดๆ

เครื่องหมายการค้า กับลิขสิทธิ์ ต่างกันยังไง

สรุปง่ายๆ ก็คือถ้าต้องการออกแบบโลโก้และใช้เป็นเครื่องหมายการค้าหรือใช้เป็นแบรนด์ของเราแบบนี้ก็ต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไปเลยครับ แต่ถ้าเราประดิษฐ์อะไรขึ้นมาได้ มีงานวิจัยหรืองานออกแบบผลิตภัณฑ์ให้จดสิทธิบัตรไปเลยครับ แต่ถ้าเกิดว่าเรามีงานประพันธ์ วรรณกรรม ภาพวาด ภาพถ่าย งานแต่งเพลง หรืองานศิลปะอื่นๆ ก็ให้จด ...

การได้รับความคุ้มครองของเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ต่างกันอย่างไร

สิทธิบัตร กฎหมายคุ้มครองเพื่อ “มุ่งคุ้มครอง การประดิษฐ์ และ การออกแบบ ที่ผู้ประดิษฐ์ หรือผู้คิดค้น ขึ้นใหม่ โดยให้ความคุ้มครองเพื่อประโยชน์ในทางผลกำไร หรือในทางธุรกิจ ” ลิขสิทธิ์ กฎหมายมุ่งคุ้มครองความคิดริเริ่ม การสร้างสรรค์งานตามที่กฎหมายกำหนด อาจจะมีความซ้ำ หรือ คล้าย กับงานที่สร้างสรรค์มาแล้วก็ได้”

ลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า คืออะไร

กฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายเครื่องหมายการค้านั้น มาบรรจบกันเมื่อใช้เป็นเครื่องมือในการคุ้มครองโลโก้ แพ็คเกจจิ้ง เว๊บไซต์ และแผ่นโฆษณาของคุณ เพราะกฎหมายเครื่องหมายการค้ามีไว้เพื่อคุ้มครองชื่อของสินค้าหรือบริการ รวมถึงคำโฆษณาที่มีเอกลักษณ์หรือความบ่งเฉพาะที่ใช้บนสื่อโฆษณาและเว็บไซต์ และรูปลักษณ์หรือกราฟฟิคต่างๆที่ประกอบกับ ...

เครื่องหมายการค้าเป็นลิขสิทธิ์ไหม

ทรัพย์สินทางปัญญาหมายถึงสิ่งที่ผลิตขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งครอบคลุมทั้งผลงานที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เช่น หนังสือ ข้อความ โค้ด รูปภาพ วิดีโอ โลโก้ และสโลแกน ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาสองประเภท