เหตุใดจึงเรียกวันมาฆบูชาว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพราะวันมาฆบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ หมายความว่า หัวข้ออันประเสริฐเป็นไปเพื่อการหลุดพ้น โอวาท หมายถึง คำสอน ปาติโมกข์ หมายถึง หัวข้ออันประเสริฐ หรือหัวข้ออันเป็นไปเพื่อการหลุดพ้น พระองค์ได้ทรงย่อคำสอนของพระองค์ที่ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงไว้มากมาย มาย่อไว้สั้นๆ เป็นหลักการเพียง 3 ประการ กล่าวเป็นภาษาบาลีว่า Show สพฺพปาปสฺส อกรณ์ กุสลสฺสูปสมฺปทา ซึ่งแปลว่า การไม่กระทำบาปทั้งปวงหนึ่ง การทำกุศลให้ถึงพร้อมหนึ่ง การทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาดปราศจากเรื่องเศร้าหมอง มีโลภ โกรธ หลง เป็นต้น ความหมายของการกระทำบาป “บาป” แปลว่า ลามก ความเสื่อมเสีย ความชั่ว ความเสียหาย ความเศร้าหมอง ความเลวทราม ความไม่ดี สิ่งที่เป็นความเลว ความเสื่อมเสีย ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความลามกต่างๆ ถือว่าเป็นบาป บาปอยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่กาย ไม่ใช่อยู่ที่วัตถุ เมื่อเราทำชั่วทางกาย ทางวาจาไปแล้ว บาปก็ไปติดอยู่ที่ใจไม่ได้ไปอยู่ที่อื่น ส่วนคำว่า บุญ หรือคำว่า กุศล หมายถึง ความดี ความประณีตขึ้น ความสะอาด ความเจริญ ความสุข ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นบาป เมื่อพิจารณาโดยเหตุผลแล้ว คนที่ทำบาปนั่นแหละเป็นคนได้รับทุกข์มากกว่าบุคคลผู้ถูกกระทำ เพราะฉะนั้นบุคคลที่มีปัญญา จึงไม่กระทำบาป แม้ว่าจะมีบุคคลชั่วบุคคลใจบาปมากระทำให้แก่ตน ก็ไม่คิดอาฆาตมาดร้าย ไม่คิดกระทำเขาตอบ ด้วยเกรงว่าจะเป็นบาปกรรม เป็นการจองเวรต่อกันไปในภายหน้า ก็จะเป็นเหตุให้สร้างบาปขึ้นมาอีก จึงไม่ควรกระทำบาป พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าทุกข์ ความเดือดร้อนทั้งบุคคลที่กระทำและบุคคลที่ถูกกระทำพระองค์จึงทรงสอนให้งดเว้นความชั่วทางกาย วาจา ใจ การทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาด เช่น การเจริญสมถภาวนา หรือการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เจริญศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรคให้เกิดขึ้นในจิตใจ ขัดเกลากิเลส คือ โลภ โกรธ หลง เป็นต้น อันสิ่งเศร้าหมองทางจิตใจ ให้เบาบางไปทีละน้อยๆ จนถึงความบริสุทธิ์สะอาด กิเลสสิ้นไปถึงที่สุด ได้สำเร็จมรรคผลนิพพานถึงความพ้นทุกข์ อันนี้เป็นขั้นสูง เป็นกุศลขั้น วิวัฏฏคามินีกุศล คือ กุศลที่เป็นไปในการออกจากวัฏฏะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดถึงความพ้นทุกข์ หลักการซึ่งถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาคือ ส่วนอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา
ที่ยึดถือเป็นจุดหมายสูงสุดที่จะต้องไปให้ถึงด้วยความเพียรและความบากบั่น คือ 3.ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งกาย วาจา และใจ 4.นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการดำเนินชีวิต มรรคมีองค์ 8 สาระสำคัญอีกส่วนของโอวาทปาติโมกข์ คือ เรื่องวิธีการ 6 ข้อ ในการออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ให้แนวทางปฏิบัติแก่พระสงฆ์เอาไว้ดังนี้ 1.ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายผู้อื่น หรือกล่าวโจมตีผู้อื่น 2.ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือกระทบกระเทือนเสียหาย ไม่เบียดเบียนผู้อื่นเดือดร้อน 3.สำรวมในปาติโมกข์ ให้ความใส่ใจ เคารพต่อระเบียบวินัย กฎหมาย ขนบธรรมเนียมของสังคม 4.รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหาร หรือการใช้สอยสิ่งต่างๆ 5.อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบเงียบ ไม่อึกทึก พลุกพล่าน เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรทางจิต 6. ฝึกจิตให้สงบ ได้แก่ การฝึกหัดควบคุมจิตใจ ไม่ให้ซัดส่ายไปในอารมณ์ต่างๆ อันจะทำให้จิตไม่มีคุณธรรม คำว่า มาฆะ เป็นชื่อของเดือน 3 มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า “มาฆบูรณมี” แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน 3 วันมาฆบูชา ตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน 3 ถ้าหากว่าปีไหนมีอธิกมาสเดือน 8 สองหน วันมาฆบูชา ก็ตกกลางเดือน 4 สำหรับปีนี้วันมาฆบูชาจึงตรงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 (วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562) เป็นวันคล้ายวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่ภิกษุ จำนวน 1,250 รูป ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ โดยพระองค์ทรงเริ่มแสดงพระธรรมจักกัปปวัตตนสูตร เมื่อวันเพ็ญกลางเดือน 8 พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุโสดาบัน ทูลขอบวชในพระพุทธศาสนา ในวันเพ็ญกลางเดือน 3 ซึ่งมีเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น จะเป็นโดยบังเอิญหรือว่าโดยพระพุทธานุภาพก็ตาม ปรากฏว่ามีเหตุการณ์มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายถึง 4 ประการ เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” คำว่า จาตุรงคสันนิบาต แยกศัพท์ได้ดังนี้ คือ จาตุร แปลว่า 4 “องค์” แปลว่า ส่วน “สันนิบาต” แปลว่า ประชุม ฉะนั้น จาตุรงคสันติบาต จึงหมายความว่า การประชุมด้วยองค์ 4 กล่าวคือ มีเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ หรือแปลว่า การประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 คือ 1.พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ได้มาประชุมพร้อมกันที่วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน 2.พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูปนั้น เป็นพระอรหันต์ขีณาสพที่ได้ปฏิสัมภิทาญาณกันทั้งนั้น 3.พระอรหันต์จำนวน 1,250 รูปนั้น เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา บวชกับพระพุทธเจ้าด้วยกันทุกพระองค์ 4.วันนั้นเป็นวันเพ็ญกลางเดือน 3 ได้มาฆฤกษ์วันพระจันทร์เต็มดวง พระพุทธโอวาทที่พระองค์ทรงแสดงไว้เมื่อวันเพ็ญเดือน
3 เป็นวันคล้ายวันสำคัญที่พระองค์ได้ทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ เมื่อถึงวันสำคัญเช่นนี้ จึงควรระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ที่ได้ทรง หัวใจสำคัญในการจัดกิจกรรมต่างๆในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคืออะไรหลักการ 3 อันเป็นหัวใจสำคัญเพื่อเข้าถึงจุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาโดยย่อ ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง 2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม 3. การทำจิตใจให้บริสุทธิ์
วันสําคัญทางพระพุทธศาสนามีความสําคัญต่อพุทธศาสนิกชนอย่างไรมีเหตุการณ์สำคัญ 3 อย่างเกิดขึ้น คือ 1. เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า 2. เป็นวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า 3. เป็นวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้าบางครั้งเราเรียกวันนี้ว่า พระพุทธองค์กรสหประชาชาติรับรองให้เป็นวันนี้เป็นวันสำคัญสากลของโลก
วันสําคัญทางพระพุทธศาสนามีประโยชน์อย่างไรวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรม ชำระจิตใจให้ผ่องแผ้ว เพื่อการเตรียมจิต เตรียมใจ ก่อนจะเข้าร่วมประกอบศาสนพิธีในวันนั้นๆ ซึ่งมีแนวทางการปฏับัติดังนี้ - ละเว้นอบายมุขทุกประเภท - ดูแลบิดามารดา - ปฏิบัติกรรมฐาน
ควรปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อต้องไปวัดในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามารยาทการเข้าวัดไทยเกี่ยวกับการปฏิบัติ. 1. ถอดรองเท้า ... . 2. สำรวมกาย วาจา และใจ ... . 3. ปิดโทรศัพท์มือถือหรือปิดเสียง ... . 4. รักษาความเงียบสงบ ... . 5. รักษาความสะอาด ... . 6. ทำความเคารพพระพุทธรูป ... . 7. ห้ามถ่ายรูปในที่ห้ามถ่าย ... . ปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดอย่างเคร่งครัด. |