Show การขับร้องประสานเสียงการขับร้องประสานเสียง หมายถึง การขับร้องแบบหนึ่งที่มีผู้ขับร้องตั้งแต่สองคนขึ้นไป อาจร้องเพลงที่มีทำนองเดียวกันแต่ขึ้นต้นหรือลงจบไม่พร้อมกัน อาจร้องพร้อมกันแต่มีทำนองเพลงหลายทำนองหรือหลายแนวโดยมีแนวใดเป็นทำนองหลัก ส่วนแนวอื่น ๆ เป็นทำนองประสานเสียง เสียงประสาน คือ กลุ่มเสียงตั้งแต่สองขึ้นไปเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทำให้เสียงกลมกลืนฟังสนิทหู รูปแบบของการขับร้องประสานเสียง การขับร้องประสานเสียงแบ่งลักษณะการขับร้องได้หลายแบบ ดังนี้ 1. การขับร้องแบบราวด์ (Round) การขับร้องแบบราวด์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า แบบวน หรือเพลงวน เป็นการขับร้องที่มีผู้ขับร้องตั้งแต่ 2 คนหรือ 2 กลุ่มขึ้นไป ร้องเพลงแนวทำนองเดียวกัน แต่เริ่มต้นและจบไม่พร้อมกัน ส่วนจะร้องกี่เที่ยวนั้นขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้ขับร้องหรือผู้ควบคุม 2. การขับร้องประสานเสียง 2 แนว คือ การขับร้องที่ต้องมีทำนองเพลง 2 ทำนอง ร้องไปพร้อม ๆ กัน โดยมีทำนองหลักทำนองหนึ่ง ส่วนอีกทำนองหนึ่งเป็นทำนองประสาน 3. การขับร้องประสานเสียง 3 แนว คือ การขับร้องที่มีแนวทำนองเพลง 3 แนว ร้องไปพร้อม ๆ กัน โดยมีแนวทำนองหนึ่งเป็นทำนองหลัก ส่วนอีก 2 แนวเป็นทำนองประสาน ซึ่งทำนองประสานทั้ง 2 แนว อาจมีทำนองแตกต่างกันไป 4. การขับร้องประสานเสียง 4 แนว คือ การขับร้องที่ต้องมีแนวทำนองเพลงที่แตกต่างกัน 4 ทำนอง โดยทำนองหลัก 1 ทำนอง ส่วนอีก 3 ทำนอง เป็นทำนองประสานร้องไปพร้อม ๆ กันหลายคน ทำนองเพลงแต่ละแนวที่ใช้ขับร้องต้องประสานสอดคล้องกันและกัน ตามแนวสูงต่ำที่กำหนด โดยยืดทำนองหนึ่งเป็นหลัก การขับร้องประสานเสียงอาจขับร้องแนวละคนหรือหลายคนก็ได้ เรียกว่า “คอรัส” (Chorus) ส่วนนักร้องประจำโบสถ์ เรียกว่า “ไควร์” (Choir) หมู่ขับร้องประสานเสียงประกอบด้วยชายล้วนหญิงล้วนหรือทั้งชายหญิงก็ได้ การแบ่งระดับเสียงในการขับร้องประสานเสียง การขับร้องประสานเสียง แบ่งระดับเสียงของผู้ขับร้องเป็นกี่กลุ่มหรือกี่แนวก็ได้ แต่ที่ถือว่าเป็นมาตรฐานและเป็นที่นิยมกันทั่วไป คือ แบ่งเป็น 4 แนว ดังนี้ 1. แนวโซปราโน (Soprano) เป็นระดับเสียงสูงสุดของผู้หญิง 2. แนวอัลโต (Alto) เป็นระดับเสียงต่ำของผู้หญิง 3. แนวเทเนอร์ (Tenor) เป็นระดับเสียงสูงสุดของผู้ชาย 4. แนวเบส (Bass) เป็นระดับเสียงต่ำของผู้ชาย หลักการขับร้องเพลง การขับร้องหมู่หมายถึงข้อใดการขับร้องหมู่ หมายถึง การร้องเพลงโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อาจมีดนตรีประกอบหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งการขับร้องแบบหมู่นี้อาจจะร้องแบบเป็นทำนองเดียวกันหรือร้องแบบประสานเสียงกันก็ได้ การขับร้องเพลงประเภทต่างๆ ให้มีความไพเราะ ต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อย ๆ จนเกิดความชำนาญ และใช้หลักการขับร้องที่ถูกต้อง ดังนี้
การขับร้องมีอะไรบ้าง1. การขับร้องอิสระ คือ การขับร้องทั่วไป โดยไม่มีดนตรีประกอบผู้ขับร้องสามารถขับร้องตามที่ตนเองถนัดหรือต้องการ โดยไม่คำนึงถึงระดับเสียงของเครื่องดนตรี 2. การขับร้องประกอบดนตรี คือ การขับร้องให้เข้ากับการบรรเลงเครื่องดนตรี โดยคำนึงถึงทำนอง จังหวะ และรูปแบบของเพลง
ข้อใดคือคุณสมบัติที่สำคัญของการขับร้องเดี่ยวการขับร้องเดี่ยวหมายถึง การขับร้องบทเพลงโดยบุคคลเพียงบุคคลเดียวซึ่งการขับร้องเพลงคนเดียว จะมีดนตรีประกอบ Page 2 หรือไม่มีก็ได้ ผู้ที่สามารถทําการขับร้องเดี่ยวได้ต้องมีความสามารถในการขับร้องมาก มีเสียงที่ไพเราะ มีความแม่นยําในเรื่อง จังหวะและทํานองเพลง
ข้อใดคือการบรรเลงเดี่ยวเป็นการบรรเลงโดยใช้ผู้บรรเลงมากกว่า ๑ คนขึ้นไป สามารถแบ่งออกเป็น ๒ ลักษณะเช่นเดียวกับการบรรเลงเดี่ยว คือ การบรรเลงเครื่องดนตรีชนิดเดียวกัน โดยมีผู้บรรเลงมากกว่า ๑ คนขึ้นไป ไม่เกี่ยวข้องกับการขับร้อง เช่น การบรรเลงขิมหมู่การบรรเลงจะเข้หมู่การบรรเลงระนาดเอกหมู่เป็นต้น
|