หลักสำคัญในการควบคุมภายในเงินสดรับ สรุปได้ดังนี้ 1. ควรใช้เครื่องบันทึกเงินสดและกำหนดให้ผู้มีหน้าที่ถือกุญแจโดยเฉพาะ และเปิดเครื่องเพื่อนำเทปภายในเครื่องไปตรวจสอบเมื่อสิ้นวันแต่ละวัน 2. ควรมีการออกใบเสร็จรับเงินทุกครั้งที่ได้รับเงิน 3. เงินที่ได้รับในแต่ละวันนำฝากธนาคารทันทีและนำสำเนาใบสำเนาฝากแนบไว้กับรายงานการรับเงินประจำวัน ในกรณีที่ได้รับเช็คที่มิได้ขีดคร่อมจะต้องทำการขีดคร่อมเช็คนั้นทันที 4. หัวหน้าแผนกการเงินต้องทำารายงานการรับเงินประจำวัน จากแหล่งต่าง ๆ ส่งให้ผู้ตรวจสอบภายในหรือสมุดบัญชีพร้อมกับสำเนาใบนำฝากธนาคาร 5. ในกรณีที่ส่งพนักงานไปเก็บเงินยังที่อยู่ของลูกหนี้ ควรมีควบคุมเอกสารที่ใช้ ในการเรียกเก็บเงินทั้งใบรับเงินและใบส่งของที่ลูกค้าเซ็นรับแล้ว ซึ่งหากไม่ได้รับชำระในวันนั้นจะต้องเรียกเก็บเอกสารกลับคืนจากพนักงานเก็บเงิน 6. ในกรณีได้รับชำระหนี้เป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้าควรจัดทำทะเบียนเช็คลงวันที่ล่วงหน้าซึ่งควรจะเป็นคนละคนกันกับบุคคลที่ถือเช็ค และหากมีการนำเช็คฝากเข้าธนาคารจะต้องมีการลงนามในทะเบียนเช็คก่อน 7. ใบเสร็จรับเงินควรมีเลขที่เรียงลำดับไว้ล่วงหน้าทุกฉบับ จัดเก็บ ในที่ปลอดภัย และทำทะเบียนคุมเพื่อให้ทราบจำนวนคนเหลือและการเบิกใช้แต่ละครั้งให้มีการลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใบเสร็จรับเงินที่ใช้แล้วทุกฉบับจะต้องตรวจสอบให้มีการลงบัญชีครบถ้วน และฉบับใดที่มีการยกเลิกต้องมีสำเนาครบทุกฉบับพร้อมต้นฉบับนอกจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แหล่งที่มาของเงินสดอาจเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ลูกหนี้ สินค้าคงเหลือ และสินทรัพย์ถาวรซึ่งพอจะสรุปการควบคุมภายในได้ดังนี้ 1. การให้ส่วนลดและการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชี จะต้องให้มีการอนุมัติรายการก่อนเพื่อป้องกันการนำเงินสดที่เก็บได้จากลูกหนี้ไปใช้ส่วนตัว 2. ควรมีการยืนยันยอดลูกหนี้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันการทุจริตที่เรียกว่า Lapping คือ การยักยอกเงินที่ได้รับชำระแล้วไปใช้ก่อน และลงบัญชีลูกหนี้คลาดเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา 3. มีระบบการควบคุมสินค้าคงเหลือที่รัดกุมเพื่อป้องกันการนำสินค้าไปขาย โดยมีบัญชีคุมสินค้าและตรวจนับสม่ำเสมอ ถ้าเป็นการขายปลีกควรจะมีรายงานของพนักงานขายซึ่งตรวจสอบได้ว่าสินค้าที่ขายไปได้ออกบิลขายและรับเงินถูกต้อง 4. มีระบบการควบคุมสินทรัพย์ถาวรหากสินทรัพย์ ใดเลิกใช้งานแล้วและจะขายต้องปฏิบัติตามวิธีการที่กำหนดไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นราคาขายที่เหมาะสมและได้รับเงินครบถ้วน 5. ผู้ตรวจสอบภายในหรือสมุดบัญชีควรมีการตรวจสอบเงินสดรับจากแหล่งที่มาอื่น ๆ เช่น ดอกเบี้ย เงินลงทุน และเงินให้กู้ยืมเพื่อให้แน่ใจว่าจำนวนเงินที่ได้รับนั้นถูกต้อง |