ใครเคยมีประสบการณ์เข้าสัมภาษณ์งานคงคุ้นเคยกับคำถามสัมภาษณ์เหล่านี้เป็นอย่างดี บางคนก็ถามตามความสงสัยของตัวเอง บางคนก็ไม่ได้ถามเพราะกำลังรู้สึกตื่นเต้นจนลืมสิ่งที่เตรียมมา Show
หลายคนอาจคิดว่าเมื่อได้ยินคำถามนี้ นั่นหมายถึงการสัมภาษณ์งานได้จบลงแล้ว แต่ความจริงคือการสัมภาษณ์นี้ยังไม่จบลง อีกทั้งคำถามนี้ก็ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณเหมาะสมกับตำแหน่งนี้และคุณอยากทำงานในตำแหน่งนี้จริงๆ ดังนั้น คำถามที่จะถามในการสัมภาษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องเลือกคำถามที่เหมาะสมกับบทสนทนา ณ ตอนนั้นเพื่อให้บทสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น มาดูคำถาม 7 ประเภทที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ตัวคุณกัน คำถามเกี่ยวกับงานโดยตรงอาจถามถึงหน้าที่ที่คุณสงสัยหรือไม่ได้ระบุลงในรายละเอียดงาน เช่น
คำถามเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานถามคำถามเหล่านี้เพื่อทำความรู้จักคนที่คุณต้องทำงานด้วยให้มากขึ้น
คำถามเกี่ยวกับผู้สัมภาษณ์บางครั้งคนที่สัมภาษณ์เราอาจไม่ได้มีแค่คนจากแผนก HR เท่านั้น แต่อาจมีเจ้านายในอนาคตของคุณมาร่วมสัมภาษณ์ด้วย
คำถามเกี่ยวกับบริษัทสิ่งสำคัญของคำถามประเภทนี้ คือ คุณไม่ควรถามคำถามที่สามารถหาคำตอบได้ง่ายๆ จากในอินเทอร์เน็ต เพราะนั่นจะทำให้บริษัทรู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจมากพอ
คำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงานแน่นอนว่าคงไม่มีใครตอบว่า ‘สภาพแวดล้อมการทำงานที่นี่แย่มาก มีแต่คน Toxic เต็มไปหมด’ แต่การถามคำถามนี้จะช่วยให้เราเห็นสภาพแวดล้อมของการทำงานมากขึ้น
คำถามเกี่ยวกับความก้าวหน้า เส้นทางอาชีพ หรือโอกาสในอนาคตคุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางอาชีพของตำแหน่งที่ทำเป็นอย่างไร แต่คุณควรถามอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่คุณสมัครมีโอกาสและความก้าวหน้าให้กับคุณ
คำถามทิ้งท้ายสำหรับคำถามประเภทนี้ ควรเป็นคำถามเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สัมภาษณ์ขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือถามคำถามที่เขาสงสัยได้
เมื่อมีคำถามที่ควรถามแล้ว ก็ย่อมมีคำถามที่ไม่ควรถามเช่นกัน โดยคำถามเหล่านั้นอาจทำให้สิ่งที่คุณตั้งใจสัมภาษณ์มาพังลงได้ เช่น
คุณไม่ควรพลาดโอกาสในการถามคำถามเหล่านี้ เพราะนี่คือโอกาสทองที่จะทำให้คุณและบริษัทรู้จักกันมากขึ้น คุณไม่ต้องกังวลว่าจะต้องถามคำถามทั้งหมด เพราะคุณจะมีเวลาเหลือเฟือเพื่อถามคำถามเป็นร้อยข้อ หากบริษัทรับคุณเข้าทำงานแล้ว เมื่อพูดถึงงาน เรามักจะนึกถึงความเบื่อหน่ายและตึงเครียด การทำงานและรับมือกับความเครียดทุกๆ วันไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วทำอย่างไรถึงจะไม่ให้ความเครียดและความกดดันจากงานมาเบียดเบียนชีวิตส่วนตัวได้บ้างล่ะ? ก็การสร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงานยังไงล่ะ ที่เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพจิตของคุณ ทั้งยังนำมาซึ่งความสำเร็จต่อตัวเองและองค์กรได้อีกด้วยบทเรียนสำคัญที่สุดที่องค์กรชั้นนำมากมายได้เรียนรู้ก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความสุข จะทำให้พนักงานเกิดความรักในองค์กรและทำให้พวกเขาสร้างสรรผลงานออกมาได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น นี่คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของบริษัทอย่าง Google Apple รวมไปถึง SAS องค์กรซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่ด้าน Business Analytics ล้วนปรับใช้ และนี่คือเหตุผล 10 ข้อ ว่าทำไมการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีต่อพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อองค์กรธุรกิจได้ 1. ความสุขมักเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเมื่อเรามีความสุข ผู้คนรอบข้างก็จะรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย คนที่ทำงานอย่างมีความสุขและเพลิดเพลิน สามารถรังสรรค์งานที่ยอดเยี่ยมและยังทำให้เพื่อนร่วมงานอยากเอาเป็นแบบอย่างด้วย 2. ความสุขทำให้พนักงานประสบความสำเร็จพนักงานที่ชอบงานของตัวเองจะทำงานได้ดี มีความสุข และประสบผลสำเร็จมากกว่า หากส่งเสริมให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างมีความมั่นใจและมีศักยภาพในการทำงานมากพอ 3. พนักงานที่มีความสุขมักมีทัศนคติที่ดีพนักงานที่ไม่มีความสุขในการทำงานมักจะมีทัศนคติไม่ค่อยดีนัก ประสิทธิภาพในการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ก็จะลดลงด้วย ในทางตรงกันข้ามกับพนักงานที่มีความสุข คนเหล่านี้จะมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน จึงทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้มากกว่า 4. เครียดน้อยลง…ก็ทำงานได้ดีขึ้นพนักงานที่มีความเครียดมักไม่มีสมาธิในการทำงาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อการทำงาน แต่ถ้าคุณหาวิธีคลายความเครียดและวิตกกังวลได้ ประสิทธิภาพการทำงานก็จะสูงขึ้นทันตาเห็น 5. สังคมที่ทำงานดีทำให้พนักงานกล้าเสี่ยงขึ้นธุรกิจคือการกล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า พนักงานที่มีความสุขกับงานก็มีแนวโน้มจะกล้าทำงานที่มีความเสี่ยงมากกว่าพนักงานที่ไม่มีความสุขเช่นกัน 6. พนักงานที่มีความสุขมักจะสนับสนุนซึ่งกันและกันพนักงานที่มีความสุขและเต็มที่ในการทำงานจะเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานและช่วยงานโปรเจ็คมากกว่าและพวกเขาก็พร้อมที่จะขอการสนับสนุนจากคนอื่นด้วยเมื่อจำเป็น 7. พนักงานที่มีความสุขมักไม่กลัวความผิดพลาดบรรยากาศการทำงานที่ดีทำให้พนักงานยอมรับและเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแทนที่จะกลัวการทำพลาด ความผิดพลาดเป็นบทเรียนสำคัญที่อาจนำไปสู่ความสำเร็จแบบไม่คาดฝันได้ แต่คนที่กลัวการทำผิดพลาดก็มักพลาดโอกาสสำคัญๆ ในการได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองด้วยเช่นกัน 8. ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอนผู้บริหารที่มีความสุขกับงานอย่างแท้จริงและส่งต่อความสุขนั้นให้กับเหล่าพนักงานในทีม ทำให้พวกเขาเกิดความเชื่อมั่น ทุ่มเท และรักในองค์กร ผู้นำควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านใดก็ตาม 9. ความสุขก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงทุกๆ องค์กรธุรกิจ พนักงานที่ทำงานอย่างมีความสุขมักมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาและนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จได้ 10. ใครๆ ก็อยากทำงานกับคนที่มีความสุขการทำงานอย่างเพลิดเพลินและมีความสุขทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างและนายจ้างดีขึ้น พนักงานที่อารมณ์ดีมักจะเต็มใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของบริษัทด้วยความภักดี และยังทำงานเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยมด้วย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างความสำเร็จแก่บริษัท แม้การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานและมีความสนุกไปกับงานจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่เชื่อเถอะว่า หากคุณลองนำมาปรับใช้สักครั้ง มันย่อมให้ผลที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน |