มหาวิทยาลัยเป็นราชการส่วนใด

มหาวิทยาลัยที่ “ออกนอกระบบราชการ” หรือ เรียกว่า “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ” จึงไม่อยู่ภายใต้การบังคับของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2547 สามารถสรรหาแต่งตั้งอธิการบดีเกิน 60 ปี ได้จึงไม่มีปัญหาในการฟ้องคดี

1. ถาม :ออกนอกระบบคืออะไร ?ตอบ :การเปลี่ยนสถานภาพมหาวิทยาลัยของรัฐที่เป็นส่วนราชการ ไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ2. ถาม :ทำไมจึงเรียกว่านอกระบบตอบ :เป็นการเรียกกันต่อๆ มา ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่จริงๆ แล้ว คือ นอกระบบราชการ และที่ถูกควรเรียกว่า "มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ"3. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จะเป็นแบบเดียวกับมหาวิทยาลัยเอกชนใช่หรือไม่ตอบ :ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐยังคงเป็นหน่วยงานของรัฐ4. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐคืออะไรตอบ :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และไม่ใช่ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ การบริหารจัดการถือปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่มหาวิทยาลัยกำหนดขึ้นเอง5. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแตกต่างอย่างไรกับส่วนราชการตอบ :ส่วนราชการต้องปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของราชการเป็นหลัก แต่มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่มหาวิทยาลัยกำหนดขึ้นเอง6. ถาม :ทำไมมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจึงต้องตราพระราชบัญญัติขึ้นใหม่ตอบ :พระบัญญัติมหาวิทยาลัย (พรบ.) ฉบับปัจจุบันกำหนดโครงสร้างการบริหารงานแบบส่วนราชการไม่สอดคล้องกับการบริหารมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จึงต้องร่าง พรบ. ฉบับใหม่ที่กำหนดรูปแบบการบริหารให้มีความคล่องตัว โดยสภามหาวิทยาลัยจะมีอำนาจการตัดสินใจสูงสุด7. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จะได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเหมือนเดิมหรือไม่ตอบ :รัฐบาลยังคงจัดสรรงบประมาณประจำปี ได้แก่ เงินเดือน ค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ของพนักงานมหาวิทยาลัย8. ถาม :เมื่อรัฐบาลจัดสรรประมาณให้แก่มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐเป็นประจำทุกปี ยังต้องใช้ระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ตอบ :รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเป็นแบบเงินอุดหนุนทั่วไป และมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบริหารงบประมาณตามข้อบังคับ ระเบียบที่มหาวิทยาลัยกำหนดขึ้น ซึ่งจะมีความคล่องตัวในการบริหารงบประมาณมากกว่าส่วนราชการ และหากมีงบประมาณคงเหลือสามารถเก็บสะสมได้9. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีรายได้มาจากแหล่งใดบ้างตอบ :รายได้มาจาก 4 แหล่ง คือ
1) งบประมาณแผ่นดินที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี
2) รายได้จากการดำเนินงาน
3) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย และ
4) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุดหนุนหรืออุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย10. ถาม :ถ้ารายได้ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐไม่เพียงพอ จะทำอย่างไรตอบ :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐอาจต้องปรับระบบการบริหารงบประมาณของมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด (เพิ่มรายรับ ลดรายจ่าย) หรือขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือได้ตามความจำเป็น และเพียงพอ โดยระบุไว้ในกฎหมาย11. ถาม :มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะต้องเอาเงินค่าหน่วยกิตนักศึกษามาจ่ายเงินเดือนให้ข้าราชการเพิ่มขึ้น ใช่หรือไม่ตอบ :ไม่ใช่ ข้าราชการเมื่อปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลออกให้ทั้งหมด12. ถาม :ค่าเทอมการศึกษา เมื่อเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะมีการปรับค่าเทอมเพิ่มขึ้นหรือไม่ตอบ :การกำหนดอัตราค่าเทอมการศึกษาเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัย ทั้งที่เป็นส่วนราชการและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ การจะขึ้นค่าเทอมการศึกษาไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ แต่การจะขึ้นค่าเทอมการศึกษา มหาวิทยาลัยจะพิจารณาจากสถานการณ์เป็นช่วง ๆ ไป ถึงแม้มหาวิทยาลัยเป็นส่วนราชการก็จำเป็นที่จะต้องขึ้นค่าเทอม เพราะอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทุกปี ดังนั้น เมื่อเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ การขึ้นค่าเทอมก็จะขึ้นด้วยหลักการเดียวกันกับการเป็นส่วนราชการ คือ ขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และค่าเทอมที่ปรับเพิ่มขึ้นจะใช้เฉพาะนักศึกษารุ่นที่เข้าศึกษาในปีที่ประกาศขึ้นไปเท่านั้น จะไม่ย้อนหลังกับนักศึกษาที่เข้าศึกษาก่อนปีที่ประกาศขึ้นค่าเทอม13. ถาม :ยังมีทุนให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือไม่ตอบ :ยังมีทุนให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เหมือนเดิม และต้องกำหนดไว้ใน พรบ. มหาวิทยาลัยให้ชัดเจนว่า มหาวิทยาลัยส่งเสริมและสนับสนุนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริง ให้มีโอกาสสำเร็จการศึกษา14. ถาม :ข้าราชการทุกรายจะต้องเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือไม่ตอบ :ข้าราชการเฉพาะที่สมัครใจจะเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ต้องแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพเป็นลายลักษณ์อักษร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ15. ถาม :อธิการบดีต้องเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือไม่ตอบ :อธิการบดีที่เป็นข้าราชการ จะต้องแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ16. ถาม :แล้วผู้บริหารคนอื่น ๆ ต้องเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยหรือไม่ตอบ :ผู้บริหารตามที่พระบัญญัติกำหนดที่เป็นข้าราชการ จะต้องแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ17. ถาม :ข้าราชการที่จะเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยต้องมีการประเมินหรือไม่ตอบ :ข้าราชการที่จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขอบเขตงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ หากมีข้าราชการยื่นขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกินขอบเขตงบประมาณที่ได้รับ มหาวิทยาลัยต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ18. ถาม :เงินเดือนของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรตอบ :เงินเดือนจะได้รับเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนสุดท้ายที่เปลี่ยนสถานภาพ แต่จะได้รับเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละเท่าใดเป็นไปตามงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ และวิธีการบริหารงบประมาณของมหาวิทยาลัย19. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะได้บำเหน็จบำนาญด้วยหรือไม่ตอบ :หากมีอายุราชการ ๑๐ ปีขึ้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นบำเหน็จหรือบำนาญ และถ้ารับราชการมา ๒๕ ปีขึ้นไป ก็จะได้รับเงินบำนาญ20. ถาม :บำนาญจะได้รับเท่าไหร่ตอบ :สูตรโดยทั่วไป คือ (เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ) / ๕๐21. ถาม :ถ้าออกจาก กบข. จะคำนวณเงินบำนาญอย่างไรตอบ :โดยสรุปคือ
๑. กรณีที่เลือกออกจาก กบข. และขอรับบำนาญอย่างเดียว
สูตร คือ (เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ) / ๕๐
๒. กรณีขอรับทั้งบำนาญ และ กบข.
สูตร คือ เงินบำนาญ = (เงินเดือนเฉลี่ย ๖๐ เดือนสุดท้าย × อายุราชการ)/๕๐ แต่จะต้องไม่เกิน ๗๐% ของเงินเดือนเฉลี่ย ๖๐ เดือนสุดท้าย
สำหรับ เงิน กบข. จะประกอบด้วยเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ ซึ่งหากใครมีใบแจ้งยอดเงินสมาชิกของ กบข. ให้ดูบรรทัดสุดท้ายของช่องสุดท้ายจะมีตัวเลขยอดนี้อยู่22. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว จะยังคงเป็นสมาชิก กบข. ได้หรือไม่ และผลจะเป็นอย่างไรตอบ :เป็นสมาชิก กบข. ต่อไปได้ แต่ยังไม่ได้บำนาญ แต่ได้นับอายุราชการต่อ และจะได้รับบำนาญเมื่อเกษียณ23. ถาม :หากข้าราชการมีอายุราชการเหลือน้อย เช่น อีก ๕ ปีเกษียณอายุ จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานภาพหรือไม่ หรือเลือกได้ว่าคงอยู่ในราชการต่อไปตอบ :การเปลี่ยนสภาพจากข้าราชการไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ สามารถเป็นข้าราชการได้จนเกษียณอายุ24. ถาม :เมื่อเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแล้ว การประเมินข้าราชการเพื่อเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ถ้าหากไม่มีการพัฒนางาน และเมื่อประเมินแล้วได้คะแนนน้อยต้องพิจารณาอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น25. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้สิทธิอะไรบ้างตอบ :ได้สิทธิดังนี้
๑. เป็นข้าราชการบำนาญ
๒. ได้เงินบำเหน็จหรือบำนาญตามสิทธิ เว้นแต่ประสงค์จะเป็นสมาชิก กบข. ต่อ
๓. มีสวัสดิการของข้าราชการบำนาญ เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร
๔. ได้เงินเดือน และค่าตอบแทน ไม่น้อยกว่าเดิม
๕. ไม่ต้องเข้าประกันสังคม เว้นแต่สมัครใจ
ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ26. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าเป็น กบข. ต่อ จะเบิกสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่ตอบ :ใช้สิทธิเสมือนเป็นข้าราชการบำนาญ และเบิกค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิเช่นเดิม27. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ยังรักษาพยาบาลตัวเอง พ่อ แม่ และลูกได้เหมือนเดิมหรือไม่ตอบ :ได้เหมือนเดิม ใช้สิทธิในฐานะข้าราชการบำนาญ28. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าไม่ได้เข้าประกันสังคม จะใช้สิทธิอะไรในเรื่องการรักษาพยาบาลตอบ :ใช้สิทธิข้าราชการบำนาญ และหากต้องการเข้าประกันสังคม ก็สมัครเข้าได้โดยสมัครใจ29. ถาม :พนักงานมหาวิทยาลัยในตอนนี้ เมื่อมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแล้วจะได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้างตอบ :พนักงานมหาวิทยาลัยมีสถานะภาพและเงินเดือนเท่าเดิม แต่ระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดทำขึ้นจะออกมาเพื่อการบริหารพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นหลัก30. ถาม :กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มหาวิทยาลัยจะจัดตั้งขึ้นจะเป็นอย่างไรตอบ :โดยสรุปคือหักเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยจ่ายสมทบ ตามอัตราที่กำหนด สำหรับการบริหารมอบให้ผู้บริหารกองทุนที่เป็นบริษัทบริหาร31. ถาม :เงินค่าตอบแทนตำแหน่งชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ ยังมีหรือไม่ตอบ :มี กรณีบุคลากรยังคงสภาพเป็นข้าราชการ ก็ยังคงได้เหมือนเดิม และกรณีที่ปรับสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย สิทธิประโยชน์ที่ได้รับยังคงเดิม32. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว จะได้ passport น้ำเงินหรือไม่ตอบ :ได้เหมือนเดิม เพราะพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ33. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ใช้ตัวเองไปประกันคนอื่นเหมือนข้าราชการได้หรือไม่ตอบ :ได้เหมือนเดิม34. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว ต้องทำสัญญาเป็นช่วงๆ แบบเดียวกับพนักงานมหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้หรือไม่ตอบ :จากการศึกษา พบว่า มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐส่วนมากจะกำหนดให้ผู้ที่เปลี่ยนสถานภาพภายใน ๑ ปี ไม่ต้องทำสัญญาเป็นช่วงๆ แต่จะอยู่ได้จนถึงอายุ ๖๐ ปี35. ถาม :ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว จะมีการประเมินเหมือนพนักงานหรือไม่ตอบ :จากการศึกษา พบว่า มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐส่วนมากจะกำหนดให้มีระบบการประเมิน ทุก ๆ ๕ ปี เพื่อดูว่าผู้ที่เปลี่ยนสถานภาพแล้วเป็นอย่างไรบ้าง36. ถาม :เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับแล้ว พนักงานมหาวิทยาลัยจะโดนกลั่นแกล้งหรือไม่ตอบ :การบริหารยึดหลักธรรมาภิบาลเหมือนเดิม และมีระบบอุทธรณ์และร้องทุกข์ โดยมีคณะกรรมการอุทธรณ์ร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัยที่มีอิสระและเป็นกลางด้วย37. ถาม :ภาระงานของบุคลากรทั้งสายวิชาการและสายสนับสนุนจะเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น38. ถาม :การขึ้นเงินเดือนจะเป็นไงตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น39. ถาม :การขอตำแหน่งทางวิชาการจะเป็นอย่างไรตอบ :จะรวดเร็วขึ้น เพราะเมื่อเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแล้ว สามารถใช้ Reader นอกบัญชีรายชื่อของ สกอ. ได้40. ถาม :ตำแหน่งศาสตราจารย์ยังโปรดเกล้าได้เหมือนเดิมตอบ :เหมือนเดิม41. ถาม :เครื่องราชฯ และสายสะพายของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพ เป็นอย่างไรตอบ :สิทธิประโยชน์ในด้านนี้จะลดลง อธิการบดีจะได้เครื่องราชฯ สูงสุดคือสายสะพายสาย ๑ อาจารย์ที่เป็นศาสตราจารย์จะได้เครื่องราชสูงสุด คือ สายสะพายสาย ๒ จากแต่เดิมที่ข้าราชการตั้งแต่ซี ๙ มีสิทธิได้สายสะพายถึงสาย ๔ เรื่องนี้ทาง ทปอ. กำลังขอรัฐบาลให้ใช้ระบบเหมือนเดิม42. ถาม :ข้าราชการที่ไม่เปลี่ยนสถานภาพ ระบบบริหารบุคคลจะเป็นอย่างไรตอบ :เหมือนเดิม คือ ยังคงใช้พระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาฯ43. ถาม :พนักงานมหาวิทยาลัยเดิมจะเป็นอย่างไรตอบ :เหมือนเดิม44. ถาม :ลูกจ้างชั่วคราว จะเป็นอย่างไรตอบ :เหมือนเดิม45. ถาม :ลูกจ้างประจำของส่วนราชการจะขอเปลี่ยนเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้ด้วยหรือไม่ตอบ :ลูกจ้างประจำ หากเปลี่ยนสถานะภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย สวัสดิการต่างๆ ที่ลูกจ้างประจำเคยได้รับจะหมดไป ดังนั้น จึงต้องศึกษาก่อนกำหนดใน พรบ. และจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล46. ถาม :พนักงานเงินรายได้จะเปลี่ยนไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยด้วยหรือไม่ตอบ :เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยทั้งหมด แต่ได้รับเงินจากคนละแหล่งรายได้ ทั้งนี้ เมื่อมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เงินงบประมาณแผ่นดินที่ได้รับจัดสรรจะถือเป็นเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย47. ถาม :พนักงานเงินรายได้เมื่อเปลี่ยนไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะได้เงินเดือนเท่ากับพนักงานมหาวิทยาลัยหรือไม่ตอบ :ปัจจุบันได้รับเท่ากัน ในอนาคตก็ควรจะเท่ากัน48. ถาม :วาระของอธิการบดีเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จะกำหนดใน พรบ. ถ้าเหมือนเดิม คือ ๔ ปี49. ถาม :วาระของอธิการบดีนับต่อเนื่องก่อน พรบ. ออกนอกระบบหรือไม่ตอบ :นับต่อเนื่องกัน อธิการบดีอยู่ได้ไม่เกิน ๒ วาระ เมื่อครบวาระ อธิการบดีจะเป็นต่ออีกไม่ได้50. ถาม :วาระของคณบดีเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จะกำหนดใน พรบ. ถ้าเหมือนเดิม คือ ๔ ปี51. ถาม :ระบบบริหารบุคคลของมหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น52. ถาม :พนักงานมหาวิทยาลัย มีตำแหน่งทางวิชาการเหมือนเดิมหรือไม่ตอบ :เหมือนเดิม53. ถาม :ยังใช้ตำแหน่งเป็นคำนำหน้านามได้หรือไม่ตอบ :ยังใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านามได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย54. ถาม :พนักงานมหาวิทยาลัยประเภทสนับสนุนมีตำแหน่งชำนาญการ เชี่ยวชาญหรือไม่ตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น55. ถาม :ระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น56. ถาม :การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ที่ยังเป็นข้าราชการกับผู้ที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเหมือนกันหรือไม่ตอบ :เหมือนกัน57. ถาม :ยังมีระบบการลาไปศึกษาต่อภายในประเทศหรือต่างประเทศหรือไม่ตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น58. ถาม :ค่าตอบแทน สวัสดิการ ของพนักงานมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น59. ถาม :ในอนาคตมหาวิทยาลัยจะกู้เงินและออกพันธบัตรได้หรือไม่ตอบ :ได้ เพราะเป็นนิติบุคคล60. ถาม :งบประมาณที่รัฐบาลจะให้ มหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรตอบ :เป็นระบบ Block Grant คือ มหาวิทยาลัยจะได้มาเป็นก้อน แล้วมหาวิทยาลัยสามารถปรับและนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เงินเหลือสามารถสะสมได้ไม่ต้องคืนรัฐบาล61. ถาม :จะมีการยุบเลิกคณะ สำนัก สถาบัน ใดหรือไม่ตอบ :หน่วยงานทั้งหมดยังเหมือนเดิม เว้นแต่ในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพโดยมติของสภามหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ขึ้นกับสภาวการณ์ในขณะนั้น62. ถาม :การแต่งตั้ง คณบดีและระบบการสรรหาจะเป็นอย่างไรตอบ :คณบดีได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัยเหมือนเดิม แต่หลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น63. ถาม :คณะกรรมการประจำคณะยังมีอยู่หรือไม่ตอบ :มี คณบดีเป็นประธาน แต่หลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น64. ถาม :วาระการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนัก สถาบันเหมือนเดิมหรือไม่ตอบ :ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จะกำหนดใน พรบ. ถ้าเหมือนเดิม คือ ๔ ปี แต่หลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น65. ถาม :การสรรหาและการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนัก/สถาบันเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น66. ถาม :คณะกรรมการประจำสำนัก/สถาบันยังมีอยู่หรือไม่/แตกต่างจากเดิมอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น67. ถาม :มหาวิทยาลัย ต้องร่างระเบียบข้อบังคับใหม่ทั้งหมดใช่หรือไม่ตอบ :ใช่68. ถาม :ใครเป็นผู้มีอำนาจออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยตอบ :สภามหาวิทยาลัย โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย69. ถาม :ระเบียบข้อบังคับเหล่านี้ต้องทำเสร็จเมื่อไหร่ตอบ :ข้อบังคับที่สำคัญต้องทำให้เสร็จก่อน พรบ. มีผลใช้บังคับ และต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย70. ถาม :ในการยกร่างข้อบังคับ มหาวิทยาลัยจะมีการรับฟังความเห็นหรือจัดประชาพิจารณ์หรือไม่ตอบ :ถ้าข้อบังคับนั้นเกี่ยวข้องกับประชาคมกลุ่มใด จะจัดให้ประชาคมกลุ่มนั้นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างแน่นอน71. ถาม :ในระหว่างที่ยังไม่มีระเบียบข้อบังคับใหม่จะทำอย่างไรตอบ :ถือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเดิม72. ถาม :สภามหาวิทยาลัยจะมีองค์ประกอบและหน้าที่อย่างไรบ้างตอบ :ตามที่กำหนดใน พรบ. (อยู่ระหว่างจัดทำ)73. ถาม :ระบบการสรรหาอธิการบดีเป็นอย่างไรตอบ :ขึ้นอยู่กับข้อบังคับมหาวิทยาลัยที่จะจัดทำขึ้น74. ถาม :องค์การนักศึกษาและสภานักศึกษายังคงมีอยู่หรือไม่ตอบ :มี75. ถาม :ครุยมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรตอบ :เหมือนเดิม76. ถาม :เปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแล้ว แล้วมหาวิทยาลัยจะเจริญก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนหรือไม่ตอบ :ระบบมีความคล่องตัวมากขึ้น เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาในสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทุกภาคส่วน ผู้บริหารต้องบริหารตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรปฏิบัติตามภาระหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนา มหาวิทยาลัยจะก้าวหน้าอย่างแน่นอน

มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มีอะไรบ้าง

รายชื่อสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ.

พนักงานมหาวิทยาลัยราชภัทเป็นข้าราชการไหม

2) มหาวิทยาลัยราชภัฏ เมื่อพิจารณาศึกษาถึงมหาวิทยาลัยที่เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นไปตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 มีฐานะเทียบเท่า “กรม” มีฐานะเป็นนิติบุคคลมหาชน

มหาลัยขึ้นตรงกับกระทรวงอะไร

พ.ศ. 2546 มีประกาศพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ทำให้ "ทบวงมหาวิทยาลัย" เปลี่ยนเป็น "สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา" สังกัด กระทรวงศึกษาธิการ

พนักงานมหาวิทยาลัยจัดเป็นประเภทใด

พนักงานมหาวิทยาลัย หมายถึง พนักงานในสถาบันอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ซึ่งได้รับการจ้างตาม สัญญาจ้างให้ท างานในมหาวิทยาลัยโดยได้รับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนจากเงินงบประมาณ แผ่นดินหรือเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ซึ่งพนักงานมหาวิทยาลัยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ