Home ไม่มีหมวดหมู่ “สปาย แบล็ค” เครื่องดื่มอาร์ทีดีตัวใหม่เอาใจผู้ชาย มีแอลกอฮอล์ผสมถึง 7%
บริษัท สยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านตลาดเครื่องดื่มอาร์ทีดีอันดับหนึ่งของประเทศ โดยเปิดตัว “สปาย แบล็ค” เครื่องดื่มอาร์ทีดีประเภทไวน์คูลเลอร์ชนิดแรกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ผสมถึง 7% ซึ่งจับกลุ่มเป้าหมายผู้ชายเป็นหลัก ภายใต้คอนเซ็ปท์ “สปาย แบล็ค แรงเอาเรื่อง” ผู้บริโภคสามารถสัมผัสความเข้มของเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม “สปาย แบล็ค” ขนาด 330 มิลลิลิตร ในราคาขวดละ 35 บาทได้ตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหารและแหล่งบันเทิงทั่วไป
ท่ามกลางกระแสน้ำตาล 0% ของเครื่องดื่มต่างๆที่ผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะในตลาดน้ำอัดลมที่เร่งปรับสูตรกันขนานใหญ่ด้วยการปรับเปลี่ยนสูตรน้ำตาลน้อยหรือน้ำตาล 0% อีกทั้งพร้อมใจกันปรับราคาขึ้นไปอีกขวดละ 2-3 บาทต้อนรับภาษีความหวานเฟส 2 ที่กำหนดปรับใช้ตุลาคมนี้ ล่าสุด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างสปายซึ่งมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูงก็เข้าร่วมวงด้วยการออกตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่น้ำตาล 0% ย้ำชัดๆ ว่าน้ำตาล 0% ไม่ใช่แอลกอฮอล์ 0% ตลาดหลักของไวน์คูเลอร์เน้นหนักไปที่ กลุ่มวัยรุ่นและผู้หญิง ทั้งนี้เนื่องจากมีส่วนผสมแอลกอฮอล์ 5 ดีกรีรวมอยู่ด้วย ดังนั้นจึงเหมาะที่สุดที่จะเป็นเครื่องดื่มเบา ๆ เฉกเช่นบุรุษเพศที่มีเครื่องดื่มหนัก ๆ อย่างวิสกี้ ซึ่งการมีสปาย0% ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์สาวผู้รักสุขภาพแต่ก็ไม่ทิ้งการสังสรรค์ จะเห็นได้ว่า ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม (RTD : ready to drink) มูลค่าประมาณ กว่า 6,000 ล้านบาท มีการเติบโต 5-7% เป็นอีกหนึ่งสนามรบสำคัญ ด้วยโอกาสจากฐานผู้ดื่มที่เริ่มขยายตัวจากกลุ่มผู้หญิง มาเป็นกลุ่มผู้ชายมากขึ้น ด้วยรสชาติ ปริมาณแอลกอฮอล์เฉลี่ย 5-7% รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ให้ภาพลักษณ์ทันสมัย ตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบันที่ชอบความหลากหลาย และแปลกใหม่ นอกจากภาษีความหวานในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ยังมีประกาศจากกรมสรรพสามิตอีกฉบับที่จะบังคับใช้ ซึ่งส่งผลกระทบกับเครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชั่นนอลดริงก์ที่ใช้น้ำผลไม้เป็นส่วนผสมต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกประมาณ 10% ของมูลค่าสินค้า ไม่รวมภาษีที่เก็บจากปริมาณความหวาน ขณะที่ กรมสรรพสามิต ยืนยันถึงกรณีที่ผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ได้ปรับราคาขายปลีกน้ำอัดลมนั้นไม่น่าจะเป็นผลจากการเก็บภาษีความหวาน เพราะกว่าจะขึ้นภาษีรอบสองคือวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้กรมฯ ยืนยันว่าจะขึ้นภาษีความหวานรอบสองตามแผนเดิมในเดือนตุลาคม 2562 เนื่องจากได้ให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัวมากว่า 2 ปีแล้ว อีกทั้งการเก็บภาษีความหวานมีเป้าหมายเพื่อช่วยดูแลสุขภาพของไทย ต้องลุ้นกันต่อว่าเครื่องดื่มตัวไหนจะเข้าร่วมวงปราศจากน้ำตาลเป็นรายต่อไป …. ขอบคุณภาพ ผู้บริโภค Post Views: 134 Back to top button
|