Windows Firewall สามารถทำอะไรได้

ไฟร์วอลล์&การป้องกันเครือข่ายใน Windows Security ช่วยให้คุณสามารถดูสถานะของ Microsoft Defender ของคุณ และดูเครือข่ายที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ คุณสามารถเปิดหรือปิด Microsoft Defender และเข้าถึงตัวเลือกไฟร์วอลล์ของ Microsoft Defender ขั้นสูงได้ ตามชนิดเครือข่ายต่อไปนี้:

• เครือข่ายโดเมน (ที่ทำงาน)

• เครือข่ายส่วนตัว (ที่สามารถค้นพบได้)

• เครือข่ายสาธารณะ (ไม่สามารถค้นพบได้)

หากคุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่า ให้เลือกประเภทเครือข่ายที่คุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่า

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); "ค้นหาได้" หรือ "ไม่ค้นหาได้" หมายถึงอะไร

คุณสามารถระบุให้เครือข่ายเฉพาะที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อคือ "ส่วนตัว" หรือ "สาธารณะ" ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคืออุปกรณ์อื่นๆ บนเครือข่ายเดียวกันได้รับอนุญาตให้ดู และอาจเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณได้

เครือข่ายในบ้านของคุณอาจเป็นตัวอย่างของเครือข่ายส่วนตัว โดยในทฤษฎีเฉพาะอุปกรณ์บนเครือข่ายนั้นคืออุปกรณ์ของคุณ และอุปกรณ์ที่ครอบครัวของคุณเป็นเจ้าของ ดังนั้นคุณอาจจะอยู่กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถดูอุปกรณ์ของคุณได้ เราเรียกว่า "ค้นหาได้" เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งหมดบนเครือข่ายนั้นได้รับอนุญาตให้ "ค้นพบ" กันและกัน

อย่างไรก็ตาม Wi-Fiนั้นอยู่ที่ร้านกาแฟท้องถิ่นของคุณคือเครือข่ายสาธารณะ อุปกรณ์อื่นๆ ส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์นั้นเป็นของแปลกตากว่า และคุณอาจต้องการให้พวกเขาสามารถเห็น เชื่อมต่อ หรือ "ค้นพบ" อุปกรณ์ของคุณได้

การตั้งค่าเครือข่าย

เมื่อคุณเลือกเครือข่ายหนึ่งในสามชนิด คุณจะได้รับหน้าการตั้งค่า ต่อไปนี้ Windows Security จะบอกให้คุณรู้ ถ้ามี เครือข่ายของประเภทที่คุณเชื่อมต่ออยู่ในปัจจุบัน โดยปกติแล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายทีละเครือข่ายเท่านั้น

นอกจากนี้ คุณจะพบแถบเลื่อนอย่างง่ายในการเปิดหรือปิดไฟร์วอลล์ของเครือข่ายชนิดนี้

สิ่งสำคัญ: การปิดไฟร์วอลล์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุปกรณ์หรือข้อมูลของคุณ เราขอแนะนนะให้เปิดไว้ เว้นแต่ว่าคุณต้องปิดการใช้งานอย่างแน่นอน

ภายใต้ ส่วน การเชื่อมต่อ ขาเข้า คุณจะพบกล่องกาเครื่องหมายเดียว คือ บล็อกการเชื่อมต่อขาเข้าทั้งหมด รวมถึงรายการแอปที่อนุญาต การเลือกกล่องกาเครื่องหมายนี้จะบอกให้ไฟร์วอลล์ Microsoft Defender ละเว้นรายการแอปที่อนุญาต และบล็อกทุกอย่าง การเปิดใช้ตัวเลือกนี้จะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของคุณ แต่อาจทําให้บางแอปหยุดการใช้งานได้

และบนหน้าการป้องกัน&ไฟร์วอลล์:

• อนุญาตแอปผ่านไฟร์วอลล์ - ถ้าไฟร์วอลล์บล็อกแอปที่คุณต้องการจริงๆ คุณสามารถเพิ่มข้อยกเว้นของแอปนั้น หรือเปิดพอร์ตที่ระบุได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการนั้น (และสาเหตุที่คุณอาจไม่ต้องการ) ที่ความเสี่ยงในการอนุญาตให้แอปผ่านไฟร์วอลล์ Microsoft Defender

• ตัวแก้ไขปัญหาเครือข่าย และอินเทอร์เน็ต - ถ้าคุณมีปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วไป คุณสามารถใช้ตัวแก้ไขปัญหานี้เพื่อลองวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ

• การตั้งค่าการแจ้งเตือนไฟร์วอลล์ - ต้องการการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมเมื่อไฟร์วอลล์ของคุณบล็อกบางอย่างใช่หรือไม่ น้อยกว่าใช่หรือไม่ นี่คือที่ที่คุณสามารถกําหนดค่า

• การตั้งค่าขั้นสูง - ถ้าคุณมีความรู้เกี่ยวกับการตั้งค่าไฟร์วอลล์ นี่จะเปิดเครื่องมือไฟร์วอลล์ Windows Defender แบบคลาสสิกซึ่งช่วยให้คุณสร้างกฎขาเข้าหรือขาออก กฎความปลอดภัยการเชื่อมต่อ และดูบันทึกการตรวจสอบไฟร์วอลล์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ต้องการเจาะลึกลงในข้อมูลนั้น การเพิ่ม การเปลี่ยน หรือลบกฎอย่างไม่ถูกต้องอาจทําให้ระบบของคุณมีความเสี่ยงมากขึ้นหรืออาจทําให้บางแอปไม่มีประสิทธิภาพ

• คืนค่าไฟร์วอลล์เป็นค่าเริ่มต้น-ถ้ามีใครบางคนหรือบางอย่างได้ทําการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไฟร์วอลล์ Windows ที่ทําให้สิ่งต่างๆ ไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง คุณเพียงสองคลิกเท่านั้นที่จะไม่รีเซ็ตการตั้งค่ากลับไปเป็นเช่นเคย เมื่อได้รับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก ถ้าองค์กรของคุณได้ปรับใช้นโยบายใดๆ เพื่อกําหนดค่าไฟร์วอลล์ที่จะถูกปรับใช้อีกครั้ง

  การถูกโจมตีทางคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป ด้วยข้อมูลการทำงานหรือข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญมักถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ การป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ถูกโจมตีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ในระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์กระจายสัญญาณในเครือข่ายขององค์กร มักจะติดตั้ง firewall ไว้สำหรับป้องกันการถูกโจมตี มันจะทำหน้าที่บล็อกการเข้าถึงบางเว็บไซต์หรือป้องกันตัวข้อมูลบางอย่างไม่ให้เข้ามาได้ แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกไม่สะดวกในการใช้งาน เพราะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบางอย่างที่ firewall ตั้งค่ากรองไว้ จึงได้เข้าไปตั้งค่า ปิด firewall ซึ่งถือว่าเปิดโอกาสให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น

  หน้าที่หลักของ firewall และความเสี่ยงที่ต้องเจอเมื่อ ปิด firewall

  
  Firewall คือซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งในระบบปฏิบัติการหรือฮาร์ดแวร์ที่เป็นอุปกรณ์ของระบบเครือข่าย มีหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตหรือภายในเครือข่าย สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล หากเป็นผู้บุกรุกจะไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ เพราะ firewall จะตรวจสอบผู้ใช้ก่อนเข้าถึงข้อมูล การมี firewall ที่สามารถสร้างการป้องกันระหว่างอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ไม่ถูกโจมตี แต่การปิด firewall จะทำให้เกิดช่องโหว่งที่แฮคเกอร์หรือซอฟต์แวร์ที่มีความอันตรายเข้าถึงตัวคอมพิวเตอร์ได้ เพราะบางที่สิ่งที่คอมพิวเตอร์ได้รับอาจจะเป็นมัลแวร์ที่จะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยไม่รู้ตัว firewall ก็เหมือนการตั้งการ์ดนั่นเอง ถ้าเราปิด firewall ก็เหมือนเราลดการ์ดให้ต่ำลง โอกาสที่จะถูกต่อยและได้รับบาดเจ็บก็มากขึ้น

  ถ้าจำเป็นต้องปิด firewall สามารถทำได้อย่างไร

  
  หลายคนคงสงสัยว่า ในเมื่อการปิด firewall ดูเป็นเรื่องอันตราย ทำไมจึงมีคนถามถึงวิธีการปิดและต้องการปิด ในส่วนนี้อาจจะมีเหตุผลหลายอย่าง เช่น บางโปรแกรมอาจจะต้องอาศัย port บาง port สำหรับรันโปรแกรม ซึ่งเป็น port ที่ถูกปิดโดย firewall ไว้ หรือการตั้งค่า firewall ของบางหน่วยงาน ตั้งค่าด้วยการปิดไว้ทุก port ทำให้ใช้งานไม่สะดวก จริง ๆ แล้วถ้าจำเป็นการสามารถเปิด port บางอันในการใช้งานโปรแกรมที่ต้องการได้ หรือถ้าเห็นว่าการ์ดของ firewall ตั้งสูงไป จะเชื่อมต่อกับข้อมูลต่าง ๆ ก็รู้สึกไม่สะดวก อาจจะปิด firewall และใช้การติดตั้ง Antivirus ป้องกันการถูกโจมตีแทนก็ได้ หรือบางหน่วยงานมี firewall ของเครือข่ายอยู่แล้ว อาจจะปิด firewall ของระบบปฏิบัติการก็ได้ เพราะบางที firewall บนระบบปฏิบัติการก็บล็อกการทำงานพวกรีโมท ทำให้ฝ่าย IT ดูแลผู้ใช้งานไม่ค่อยสะดวก แบบนี้ปล่อยให้ firewall ของบริษัททำหน้าที่ป้องกันข้อมูลนั้นดีกว่าอยู่แล้ว

  ชื่อของ firewall ก็ตรงตัวว่าเป็นกำแพง ซึ่งอาจจะมีความหนาและแข็งแรง แต่ถ้าทำให้เราทำงานหรือใช้งานไม่สะดวกแบบที่เราต้องการ เราสามารถปิด firewall เพื่อเปิดบางช่องทางเพื่อให้ข้อมูลถูกส่งผ่านมาได้ หรือจะใช้วิธีอื่นเพื่อทำการกรองข้อมูลแทนก็ได้ ซึ่งผู้ใช้ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ด้วยเช่นกัน