อาหารชนิดใดที่ผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบควรเลี่ยง

หมอเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินกับคำพูดที่ว่า “You are what you eat” วันนี้หมอไบรท์ ขอหยิบเรื่องสุดยอดอาหารที่ว่ากันว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วจะช่วยบำรุงสมอง ให้มีความจำดีค่ะ เพราะสมองของเราก็เป็นอวัยวะอีกชิ้นที่ทำงานหนักไม่แพ้กันเลย จะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกันค่ะ

1. ปลา จริงอย่างที่เขาว่ากันว่ากินปลาแล้วจะฉลาด โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแฮริ่ง เป็นต้น ปลาพวกนี้เป็นอาหารที่ประโยชน์สูงสุดต่อสมองมาก แต่ถ้าหาปลาทะเลมารับประทานลำบาก หรือไม่มีเวลาเตรียมอาหารก็สามารถกินอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาแทนก็ได้ค่ะ

2. ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี ได้แก่ บลูเบอรี่ สตรอว์เบอรี เชอรี จะช่วยเสริมสุขภาพสมอง ระบบหมุนเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยลดความดันโลหิตที่สูงให้สมดุล มีวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดและระดับไอคิวได้อีด้วย ทั้งยังป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในฮิปโปแคมปัสที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความ ทรงจำ โดยเฉพาะบลูเบอร์รีสดดีต่อความจำระยะยาวมากที่สุด เหมาะแก่การรับประทานเป็นอาหารว่าง เพราะไม่ทำให้อ้วน และยังได้วิตามินซีเพิ่มอีกด้วย

3. ผักโขม ช่วยลดอาการความจำเสื่อมโดยเฉพาะในผู้หญิง มีการวิจัยพบว่าหญิงวัยกลางคนที่รับประทานผักโขมร่วมกับผักใบเขียวชนิดอื่นๆ เป็นประจำ ช่วยลดอาการความจำเสื่อมไปได้ถึง 2 ปี ผักโขมมีเอนไซม์ที่ดีต่อความแข็งแกร่งของปลายเซลล์ประสาท และเสริมความแข็งแรงตัวรับส่งข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท ทั้งยังมีกรดโฟลิกสูงที่ดีต่อการจำ ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย นักประสาทวิทยาแนะนำให้กินผักโขมอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะผักโขมที่ปลูกแบบออร์แกนิก ไร้สารพิษตกค้าง

4. ไข่ เป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยพัฒนาระบบการทำงานของสมอง โดยล่าสุดนี้พบว่าสาร “โคลิน ” ในไข่ไก่จะทำหน้าที่สำคัญต่อการพัฒนาการทำงานของสมอง และความจำ โดยมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ในสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าสมองของทารกที่มารดารับอาหารที่มีโคลินนั้นจะมีพื้นที่การจดจำและควาสามารถในการจำมากกว่า... ไข่ไก่สามารถให้พลังงานนานนับหลายชั่วโมง ไม่ทำให้หิวบ่อยๆ และไม่ต้องกลัวโคเลสเตอรอลสูงอีกด้วย

5. อาหารแบบเมดิเตอร์ริเนียน ที่เน้นน้ำมันมะกอก สุดยอดน้ำมันที่สกัดจากพืชโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสมองในปริมาณสูง เป็นส่วนประกอบสำคัญ ส่วนผสมอื่นๆ ของอาหารปะเภทนี้จะเน้นผักและผลไม้ โดยเฉาะมะเขือเทศ ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสมองและลดอาการสมองเสื่อมได้ คนที่บริโภคแบบเมดิเตอร์ริเนียนนี้เป็นประจำจะช่วยลดอัตราการเป็นโรคความจำ เสื่อมหรือหลงลืมได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

6. แครอท หากต้องการกระตุ้นให้สมองทำงานอย่างสดชื่นแบบเร่งด่วน ควรรับประทานผลไม้สด โดยเฉพาะแครอทสด โดยรับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยกระตุ้นให้มีความจำที่ดีได้

7.  พืชตะรกูลถั่ว อาทิ  ฮาเซลนัท อัลมอนด์ ถั่วลิสง แมคคาเมีย และวอลนัท ที่ถือได้ว่าเป็นราชาแห่งถั่ว ล้วนเป็นแหล่งรวมโปรตีน มีไฟเบอร์สูง และมีไขมันดีมาก เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขณะที่โปรตีนและไขมันช่วยให้ร่างกายสมดุล สงบ ผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีวิตามินอีที่สำคัญต่อกระบวนการคิดและจำ

8. อาหารประเภทธัญพืช เช่น เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดงา มีโปรตีนสูง มีไขมันดี และวิตามินเอสูง ขณะเดียวกันก็มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มสารอาหารกระตุ้นสมองอย่าง แมกนีเซียม ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดี เต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร มีปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม รวมทั้งยังมีโอเมก้าสูง และจะดีมากหากรับประทานเป็นอาหารเช้า เพื่อเพิ่มพลังในวันใหม่

9. แอปเปิ้ล การทานแอปเปิลวันละ 2-3 ลูก หรือการดื่มน้ำแอปเปิลวันละประมาณ 2 แก้ว มีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างสื่อประสาทใบสมองที่มีชื่อว่า “ อะเซทิลโคลีน ”  ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสามารถเรียนรู้ในการจำ และการเรียนรู้ และยังเพิ่มประสิทธิภาพความจำของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส จึงช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อมได้

10. ช็อกโกแลต รู้หรือไม่คะว่าช็อกโกแลตมีส่วนช่วยกระตุ้นสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยระบบหมุนเวียนเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ ที่สำคัญช่วยพัฒนาความจำได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังที่ผลิตสารเอ็นดอร์ฟิน และเซโทโรนิน ที่เป็นสารแห่งความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดี โดยพกแท่งเล็กๆไว้ในกระเป๋าไว้กินเวลาว่างเมื่อต้องการความสดชื่นจะช่วยผ่อน คลายสมอง

11. แปะก๊วย เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า อาการหลงๆลืมๆจึงนิยมแนะนำให้ใช้เพื่อปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิตในสมอง เพราะเมื่อสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ย่อมเสื่อมสมรรถภาพและฝ่อไปในที่สุด ส่งผลต่อการกระทำงานและประสิทธิภาพของสมอง และยังมีการสกัดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  เพื่อบำรุงสมองอีกด้วย

เห็นหรือไม่คะว่าอาหารแต่ละอย่างที่พูดมาเป็นอะไรที่เราพบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน และหาได้ง่ายมากค่ะ เมื่อรู้แบบนี้แล้วลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานของตัวเองดู ค่อยๆ เริ่ม และปรับให้มากขึ้น เพียงเท่านี้คุณผู้อ่านก็จะมีสมองพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงไม่แพ้ใครเลยค่ะ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ

ในร่างกายของคนเรา ระบบประสาทส่วนปลายจะทำหน้าที่รับคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลาง แล้วส่งต่อคำสั่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและรับความรู้สึกได้ ระบบประสาทส่วนปลายจะมีเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นสายไฟฟ้าในการนำคำสั่งไปตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งเส้นประสาทส่วนปลายที่ออกจากสมองมี 12 คู่ซ้ายและขวา แต่ละคู่ควบคุมการทำงานในแต่ละส่วนของร่างกายที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไป

โรคปลายประสาทอักเสบ พบได้ในคนที่มีอายุเฉลี่ย 30 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากขึ้น ได้แก่

  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ทำงานหนักพักผ่อนน้อย
  • ดื่มสุราหรือแอลกอฮอลล์เป็นประจำ
  • สูบบุหรี่
  • รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
  • ร่างกายขาดวิตามินบางชนิด เช่น บี 1 บี 6 และ บี 12
  • รับประทานยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อเส้นประสาท

ในร่างกายของคนเรา ระบบประสาทส่วนปลายจะทำหน้าที่รับคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลาง แล้วส่งต่อคำสั่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและรับความรู้สึกได้ ระบบประสาทส่วนปลายจะมีเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นสายไฟฟ้าในการนำคำสั่งไปตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งเส้นประสาทส่วนปลายที่ออกจากสมองมี 12 คู่ซ้ายและขวา แต่ละคู่ควบคุมการทำงานในแต่ละส่วนของร่างกายที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไป

ลักษณะของอาการผิดปกติที่พบ เมื่อมีการอักเสบของเส้นประสาท ต่างๆ

เส้นประสาทคู่ที่ 7

ถ้าเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการใบหน้าเบี้ยว ใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก ส่วนหนึ่งของอาการนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ในช่วงที่ร่างกายทำงานหนัก พักผ่อนน้อย

เส้นประสาทคู่ที่ 8

ถ้าเกิดการอักเสบ จะทำให้สูญเสียการทรงตัว เกิดอาการบ้านหมุน ตามมา บางรายได้ยินเสียงแว่วในหู หรือมีอาการหูดับ

เส้นประสาทคู่ที่ 3, 4 หรือ 6

ถ้าเกิดการอักเสบ มักจะพบในกลุ่มคนที่เป็นเบาหวาน อาการที่พบบ่อย คือ เห็นภาพซ้อนแนวใดแนวหนึ่ง

เส้นประสาทคู่ที่ 5

หากเกิดการอักเสบ จะมีอาการปวดเสียว ปวดแปร๊บๆ บนใบหน้า ลักษณะอาการคล้ายถูกไฟฟ้าช็อต มักเกิดอาการด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า

 แนวทางการดูแลเพื่อป้องกันการเกิดโรคได้เบื้องต้น คือ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • เลิกดื่มแอลกอฮอล์
  • งดสูบบุหรี่
  • ปรับรูปแบบในการดำเนินชีวิตประจำวัน  ไม่ให้เคร่งเครียดมากเกินไป

หากพบอาการผิดปกติแนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาให้ถูกต้อง และเหมาะสม เนื่องจากการอักเสบของเส้นประสาทบางตำแหน่งมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินบางชนิด เมื่อได้รับการแก้ไข ได้รับวิตามินเสริมให้เพียงพอ ก็ทำให้หายจากอาการได้ บางกรณีต้องรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งการรักษาที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้หายจากอาการที่สร้างความเจ็บปวดและรำคาญต่อการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นไปอย่างปกติขึ้น