1. กล้าเสี่ยง อาชีพอิสระเป็นการประกอบธุรกิจส่วนตัว จึงต้องมีการลงทุน ในขณะที่ตัวเป็นลูกจ้าง ไม่ต้องลงทุนอะไร ซึ่งการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าผลลัพท์จะออกมาอย่างไร ดังนั้น ก่อนที่จะตกลงใจประกอบ อาชีพใด จึงต้องพิจารณา วิเคราะห์ และไตร่ตรองอย่างดีเสียก่อน 2. มีความคิดสร้างสรรค์การประกอบอาชีพอิสระมิได้ยึดติดกับรูปแบบใด ๆ เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องเป็นนายของตนเอง ฉะนั้นในการปรับปรุงสินค้าหรือบริการ สามารถทำได้อย่างมีอิสระเพื่อให้ได้มาซึ่งกำไร ในการดำเนินธุรกิจ 3. มีความเชื่อมั่นในตนเอง ธุรกิจแต่ละประเภทต้องการ การตัดสินใจที่แตกต่างกันผู้ประกอบอาชีพอิสระจึงต้องเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองในภาวะการณ์ที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาธุรกิจบางประเภท สามารถสวนกระแสเศรษฐกิจโดยรวมได้ ดังนี้ผู้ประกอบอาชีพอาชีพอิสระจึงต้องมีความมั่นใจ เพื่อจะได้พาธุรกิจของตนให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ได้ 4. อดทน ไม่ท้อถอยการประกอบอาชีพทุกอย่างย่อมมีทั้งกำไร และ ขาดทุน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มประกอบการใหม่ ๆ จะต้องประสบปัญหาและอุปสรรคบ้างซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ประกอบอาชีพจึงต้องพร้อมที่จะรับข้อผิดพลาด และนำมาแก้ไขด้วยความอดทน 5. มีวินัยในตนเอง การที่เราจะประสบความสำเร็จในอาชีพได้ ซึ่งเราเป็นเจ้าของกิจการเอง จำเป็นจะต้องมีวินัย มีกฎระเบียบการทำงานต้องสม่ำเสมอ ถ้าขาดวินัยการประกอบอาชีพก็อาจไม่ประสบผลสำเร็จ การเป็นผู้มีวินัย นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบอาชีพทุกประเภทเพราะวินัยจะเป็นสิ่งที่คอยกำหนดให็ผู้ประกอบการปฏิบัติงานตามแผนงาน 6. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่มีเกียรติหรือไม่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องรักในงานที่ทำ และให้เกียรติกับงานนั้น ๆ เสมอ 7. มีความรู้ การประกอบอาชีพอิสระจะต้องรับรู้ข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ประโยชน์ของการรับรู้ข่าวสารจะทำให้สามารถปรับปรุงธุรกิจของตนเองให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาผลที่ได้ก็คือกำไร 8. มีมนุษย์สัมพันธ์ การประกอบอาชีพอิสระจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์อันดีเพื่อผลประโยชน์ในธุรกิจของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บุคคลรอบข้างหรือคู่แข่งขันก็ตาม เพราะการมีมนุษย์สัมพันธ์อันดี จะทำให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงานเป็นอย่างดี 9. มีความซื่อสัตย์ ผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้าการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในการขายสินค้าหรือบริการและกลับมาใช้บริการอีกเป็นหัวใจสูงสุด เพื่อผลประโยชน์ต่อธุรกิจ และต่อตนเองในที่สุด 10. มีความรู้พื้นฐานในการเริ่มทำธุรกิจ การที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเราควรได้รู้จักสิ่งที่จะทำอย่างน้อยให้รู้ว่าทำจากอะไร ซื้อวัตถุดิบ จากไหน ตลาดอยู่แหล่งใดและหากต้องการทราบข้อมูล ปัจจัยหลักของการประกอบอาชีพ ปัจจัยของการเริ่มต้นประกอบอาชีพอิสระ คือ จะทำอาชีพอะไรต้องรู้อะไรต้องเตรียมตัวอย่างไร ดังนั้น ควรคำนึงถึงปัจจัยหลักที่สำคัญก่อนเริ่มการประกอบอาชีพอิสระ ปัจจัยแรก = คือ ทุน ทุนคือ สิ่งที่จะเป็นปัจจัยพื้นที่ของการประกอบอาชีพโดยจะต้องวางแผนแนวทางการดำเนินธุรกิจไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทราบว่าจะต้องใช้เงินทุนประมาณเท่าไร แล้วพิจารณาว่ามีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอจะหาแหล่งเงินทุนจากที่ใดอาจได้จากการรวมหุ้นลงทุนกันในหมู่ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงหรือการกู้ยืมจากหน่วยราชการ หรือสถาบัน การเงินต่าง ๆอย่างไรก็ตามในระยะแรกไม่ควรลงทุนมากเกินไปเนื่องจากยังไม่ทราบความต้องการของตลาดที่แท้จริง ปัจจัยที่สอง = คือ ความรู้ หมายถึง ความรู้ในงานอาชีพที่จะมาประกอบอาชีพหากไม่ต้องศึกษาและฝึกฝนขวนขวายหาความรู้ โดยการเรียนจากสถาบันที่ให้ความรู้ด้านอาชีพ ซึ่งมีทั้งของรัฐบาล และเอกชน หรือสมัครเรียนกับชมรมต่าง ๆ หรือทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่น หรือทดลองปฏิบัติด้วย ตนเอง เพื่อให้มีความรู้ เกิดทักษะ ความชำนาญและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้น ๆ ปัจจัยที่สาม = คือ การจัดการเป็นความสามารถในการบริหารงานของแต่ละบุคคลในการจัดการเกี่ยวกับอาชีพของตนเอง เป็นสถานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน การทำงานในเรื่องคน เงิน เครื่องมือ เครื่องใช้ และกระบวนการทำงานต่าง ๆ ปัจจัยที่สี่ = คือ การตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่ง เพราะ หากสินต้าและบริการที่ผลิตขึ้นไม่เป็นที่ติดหู ติดตาของผู้บริโภค ก็ถือว่ากระบวนการทั้งระบบไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากไม่สามารถแปรสินค้าและบริการเหล่านั้นให้เป็นตัวเงินได้ ดังนั้นการวางแผนการตลาดซึ่งใน ปัจจุบันมีการแข่งขันสูง จึงควรได้รับการสนใจในการพัฒนาเทคนิคด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัย เพื่อให้เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมาย ����ö������Ѻ���红����ŧҹ���ʹ������ҧ���´�����յ��˹觧ҹ ��ѡ�ҹ��Ѥ�����ӹǹ�ҡ �����к��Ѵ��÷������óẺ����� ����ö���ҵ��˹���Т����Ŵ����ҧ���´�� ��Ѻ�� Resume ����µ���ͧ ʶҹ������¹���������� ���������ҤҶ١ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น แพทย์ ผู้สอบบัญชี นักกฎหมาย วิศวกร สถาปนิก นักแสดง ตัวแทนสินค้าขายตรง ตัวแทนประกันชีวิต ฯลฯ เป็นอาชีพที่ทำงานโดยอาจไม่ได้มีสถานะเป็นพนักงานหรือลูกจ้างประจำ และมีรายรับไม่เท่ากันทุกเดือน มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ตามแต่ปริมาณงาน ดังนั้น เมื่อมีรายได้ที่แตกต่างกันไป การวางแผนทางการเงิน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เช่น ต้องมีวิธีการจัดสรรรายได้ที่ได้มาแต่ละครั้งเป็นเงินออมและการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนและจัดการให้ตัวเองมีเงินพอใช้สอดคล้องกับรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา รวมไปถึงการประกันสุขภาพ การประกันชีวิต ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน และบรรเทาความเดือดร้อน กรณีมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือหากเป็นการจะลงทุนเปิดกิจการ SMEs ของตัวเองก็ควรเริ่มจากการวางแผนธุรกิจ และหากยังมีเงินทุนไม่พอ การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็อาจเป็นตัวช่วยให้คุณสร้างความฝันจนสำเร็จได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อได้เปรียบในการจัดการภาษี ตรงที่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราต่ำเพียง 3% รวมทั้งสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง เช่น แพทย์ 60% ของรายได้ อาชีพอิสระอื่น ๆ 30% โดยถูกไม่จำกัดไว้ที่ 40% แต่ไม่เกิน 60,000 บาทเช่นกรณีลูกจ้าง พนักงานที่รับเงินเดือน |