ครั้งแรกของ Suunto ก้าวมาสู่ความเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เต็มรูปแบบ ถือกำเนิดมาเป็น Suunto 7 โดยยังนำจุดเด่นของฟังก์ชั่นโหมดกีฬาจาก Suunto ยกมาร่วมกับ Wear OS by Google ที่มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆให้ผู้ใช้งานใช้แบบไม่รู้จบ ทั้งหมดนี้ทาง Suunto ได้ออกแบบให้เป็นสมาร์ทวอทช์เรือนเดียว ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งสองรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนไปใส่นาฬิกา GPS ออกกำลังกาย หรือ กลับไปใส่สมาร์ทวอทช์รุ่นก่อนๆเวลาทำงาน Show
ก่อนที่จะเจาะสเปค Suunto 7 ทางทีมงาน TSMACTIVE อยากให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จัก Wear OS by Google กันก่อน ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ โดยทาง Suunto ได้ร่วมมือกับ Google และ Snapdragon จนออกมาเป็นระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google ที่ขับเคลื่อน Suunto 7 ได้อย่างลื่นไหล Wear OS by Google คืออะไร ? ระบบปฏิบัติการจาก Google สำหรับสมาร์ทวอทช์ เปิดให้นักพัฒนาเข้ามาร่วมมือ และ สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นต่างๆสู่ Google Play โดยมีแบรนด์ดังๆจากทั่วโลกเลือกใช้ Wear OS นำมาพัฒนาให้เข้ากับกลุ่มผู้ใช้งาน ซึ่ง Suunto เป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกเอานาฬิกาสายสปอร์ต GPS มาพัฒนาร่วมกับ Wear OS จึงทำให้ปลดล็อคคุณสมบัติต่างๆที่ Suunto ไม่เคยมีมาก่อน Wear OS ใช้งานได้กับ iOS และ Android ? สำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆของ Wear OS สามารถใช้ได้กับ iOS อย่าง Service ของ Google และยังมีแอพสำหรับการเชื่อมต่อ Wear OS บน App Store เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน สำหรับการใช้งานเพิ่มเติมระหว่าง iOS ร่วมกับ Suunto 7 จะไม่ได้ 100% เหมือนกับคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Android ร่วมกับ Suunto 7 อันนี้จะเต็มประสิทธิภาพและใช้งานฟังก์ชั่นได้สมบูรณ์แบบมากกว่า สิ่งใหม่ๆที่มาจาก Wear OS ฝั่ง Google
สิ่งใหม่ๆที่มาจาก Wear OS ฝั่ง Suunto
Suunto Sport Mode ถูกปรับแต่งให้เข้ากับ Wear OS มีเฉพาะใน Suunto 7 เท่านั้น ไม่เปิดให้สมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆได้ใช้งาน
สเปคภายใน Suunto 7 จริงๆแล้วทาง Suunto เองได้ประกาศเปคอย่างละเอียดให้กับผู้ใช้งาน แต่ทางทีมงาน TSMACTIVE ได้ไปหาข้อมูลสเปคของ Suunto 7 แบบจัดเต็มมาให้ดูกัน
สเปคภายนอก Suunto 7 ถึก ทน แน่นอน เพราะ Suunto 7 ได้ถูกทดสอบมากกว่า 1,000 ชั่วโมงในประเทศฟินแลนด์ เพื่อให้มั่นใจต่อการใช้งานทุกสถานการณ์แม้ในสภาวะที่โหดร้าย
หน้าจอSuunto 7 ควบคุมการใช้งานด้วยระบบสัมผัสหน้าจอที่ลื่นไหลด้วยขุมพลัง Snapdragon ที่ Suunto ได้เข้าร่วมพัฒนา อีกทั้งยังแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานด้วยกระจก Gorilla glass รูปแบบการแสดงผล AMOLED ให้สีสันที่สดใจ จัดจ้าน คมชัดสูงด้วยความละเอียด 454 px พร้อมระบบปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ พอสู้กับแสงแดดได้เวลาแสดงผลในพื้นที่กลางแจ้ง
ปุ่มกดนอกจากการควบคุมด้วยระบบสัมผัสหน้าจอแล้ว Suunto 7 ยังเพิ่มปุ่มกดควบคุม 4 ปุ่ม เพื่อเข้าถึงการใช้งานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งปุ่ม Shortcut ต่างๆ และใช้งานในขณะออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ ความรู้สึกการกดปุ่มทำได้อย่างมั่นใจ ออกแบบการจัดวางปุ่มได้อย่างลงตัว
เซนเซอร์ทาง Suunto ได้จัดเต็มในเรื่องเซนเซอร์สำหรับการติดตามข้อมูลต่างๆ ภายใน Suunto 7 ได้ใส่มาให้แบบครบถ้วน
วัสดุต่างๆด้านบริเวณกรอบหน้าจอเสริมด้วยวัสดุสแตนเลสพร้อมการดีไซน์ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อรองรับการกระแทกต่างๆในชีวิตประจำวัน และบริเวณรอบตัวเรือนทำจากโพลิเมอร์เสริมใยแข็งแรงที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง
สายนาฬิกาใน Suunto 7 ยังคงใช้คอนเซ็ปเดิมเกี่ยวกับสายซิลิโคนที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ต่อเนื้อสายขณะสวมใส่ อีกทั้งเนื้อสายที่มีความหนา แต่กลับให้สัมผัสที่นุ่มนวล พร้อมพื้นที่ดีไซน์ที่นูนขึ้นมาแบบเฉียงๆให้ความรู้สึกถึงความเรียบหรู
ชาร์จไฟรูปแบบการชาร์จไฟของ Suunto 7 ได้เปลี่ยนลักษณะแบบใหม่ แต่ยังคงเป็นแม่เหล็กเพียงวางลงไปให้ถูกตำแหน่งก็พร้อมชาร์จพลังงานได้ทันที
ใช้งานในชีวิตประจำวันกับ Suunto 7 เนื่องจาก Suunto 7 เป็นสมาร์ทวอทช์รูปแบบเปิด ที่ไม่ถูกจำกัดในเรื่องการปรับแต่ง หรือการใช้งานแบบเดิมๆ จึงทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆในชีวิตประจำวันมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแต่ล่ะคน ซึ่งเราจะพาเพื่อนๆไปดูฟังก์ชั่นหลักของ Suunto 7 กัน เพื่อนำไปต่อยอด หรือ ใช้งานให้ตรงกับความต้องการ หน้าปัดนาฬิกาเมื่อเราอยู่ในหน้าปัดหลักของ Suunto 7 เพียงแตะค้างไว้จะพบกับเมนูของการเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งมาพร้อมหน้าปัด Suunto Designed รูปแบบใหม่ที่เลือกปรับช่องข้อมูลแสดงผลได้ พร้อมหน้าปัด Heatmaps แสดงเส้นทางออกกำลังกายยอดนิยม อีกทั้งเมนูสุดท้ายสำหรับเข้าไปดาวโหลดนาฬิกาปัดเพิ่มเติมจาก Google Play ศูนย์ควบคุมเข้าถึงเมนูการควบคุมนาฬิกา หรือตั้งค่าได้ง่ายๆ โดยสไลด์จากขอบหน้าจอด้านบนลงมาจะพบกับไอคอนเมนูสำหรับการใช้งานเร่งด่วน พร้อมสถานะแบตเตอรี่ และ ไอคอนการเชื่อมต่อต่างๆ รวมไปถึงเมนูตั้งค่าในบริเวณด้านบนสุด การแจ้งเตือนเมื่อมีสถานะการแจ้งเตือนขึ้นมาจากสมาร์ทโฟน หรือสถานะการใช้งานจาก Wear Os สามารถเข้าไปตรวจเช็คได้ด้วยการสไลด์จากขอบหน้าจอด้านล่างลงมาในหน้าปัดหลัก เพื่อไม่พลาดการอัพเดทข้อมูลต่างๆ Google Assistantขณะอยู่ในหน้าปัดหลัก สามารถเข้าสู่เมนู Google Assistant ได้ 2 รูปแบบ ด้วยการสไลด์จากขอบหน้าจอฝั่งซ้าย หรือ กดปุ่มซ้ายบนค้างไว้ เมื่อเข้ามาจะพบไอคอนไมโครโฟนสำหรับการสั่งงาน หรือ สอบถามข้อมูลต่างๆ จาก Google Assistant ด้วยเสียง โดย Suunto 7 ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ จาก Wifi ที่ใช้งานปกติ เพื่อเข้าไปค้นหาข้อมูล หรือ สั่งงานอุปกรณ์ต่างๆแบบไร้สายได้ทุกที่ ตัวอย่างการใช้งาน Google Assistant
Google Fitคราวนี้ทาง Suunto ได้หลบให้ Google Fit เป็นเมนูหลักสำหรับการติดตามกิจกรรมในประจำวัน อาทิเช่น นับจำนวนก้าวเดิน, ปริมาณ และ อัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมกราฟแสดงผล ซึ่งเข้าถึงเมนู Google Fit ได้ 2 รูปแบบเช่นกัน โดยสไลด์จากขอบหน้าจอฝั่งขวา หรือ เข้าจากเมนูหลัก การ์ดเมนู "การ์ด" ถ้าเรียกง่ายๆและเข้าใจนั่นก็คือ "วิดเจ็ต" สำหรับเลือกดูข้อมูลเพิ่มเติมจากหน้าปัดหลัก (สไลด์ขอบหน้าจอฝั่งขวาจากเมนู) เพื่อเข้าถึง เป้าหมาย, พยากรณ์อากาศ, อัตราการเต้นของหัวใจ, ข้อมูลของสัปดาห์, พาดหัวข่าว, คะแนนคาร์ดิโอ, กำหนดการ ฯลฯ ควบคุมเพลงอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่คนใช้ Suunto รอคอย สามารถควบคุมเพลงแอพเพลงจากสมาร์ทโฟนอย่างเช่น JOOX, Spotify หรือ Apple Music ได้ผ่านหน้าปัดนาฬิกา ด้วยการแสดงผลชื่อเพลง ปุ่มเล่นเพลง และ ควบคุมระดับเสียง ส่วนการโอนถ่ายเพลงลง Suunto 7 และฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธโดยไม่ต้องพกพาสมาร์ทโฟน ก็สามารถทำได้เช่นกันด้วยการดาวโหลดแอพฟังเพลงจาก Google Play บน Suunto 7 และ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อโอนถ่ายเพลงมาไว้บน Suunto 7
เมนูการใช้งานสำหรับแอพต่างๆที่โหลดมาจาก Google Play บน Suunto 7 จะอยู่ในเมนูรวม โดยเข้าไปเลือกใช้งานผ่านการกดปุ่มซ้ายบนเพียง 1 ครั้ง จากหน้าปัดหลัก แบตเตอรี่เป็นอีกเรื่องสำคัญที่คนใช้งานต้องรู้ เพราะ Suunto 7 มีแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้สูงสุดเพียง 2 วัน จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานคุณสมบัติสมาร์ทวอทช์ และ ติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำในช่วงที่ไม่ยาวนาน ดังนั้นจึงไม่แนะนำสำหรับสายออกกำลังกายโหดๆที่ใช้เวลาการติดตามการออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน
โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 20 นาที สามารถออกกำลังกายได้ 2 ชั่วโมง หรือ ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 100 นาที และสำหรับคนที่กลัวแบตเตอรี่หมด อยากเซฟแบตไว้แต่ยังอยากดูเวลาอยู่ Suunto 7 มีโหมดประหยัดพลังงานให้ใช้ ซึ่งจะปิดทุกๆคุณสมบัติ เพื่อให้นาฬิกาใช้งานได้ยาวนาน ออกกำลังกายกับ Suunto 7 โหมดออกกำลังกายโดยเข้าเมนูจากหน้าปัดหลัก ด้วยการปุ่มขวาบนเพียง 1 ครั้ง Suunto 7 จะพาเข้าสู่ Suunto Sport Modes ที่เป็นไฮไลท์สำหรับการออกกำลังกายมากกว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ เข้าถึงมากกว่า 70 ชนิดกีฬาและฟังก์ชั่นต่างได้อีกมากมาย
สำหรับการแสดงโหมดออกกำลังกาย Suunto 7 ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมอยู่ ทั้งการแสดงโซนชีพจรทั้ง 5 โซนในบริเวณขอบหน้าปัด, แผนที่สีเต็มรูปแบบ และ ข้อมูลต่างๆให้ได้ติดตามแบบ Real-Time
แผนที่ครั้งแรกของ Suunto ที่รองรับการแสดงผลแผนที่สีได้เต็มรูปแบบ เหมือนเราดูแผนที่จาก Google Maps บน Suunto 7 โดยลักษณะแผนที่จะแสดงข้อมูลเส้นทางของถนน และ ซอย ได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงชื่อสถานที่สำคัญในแผนที่อีกด้วย แผนที่บน Suunto 7 มีสิ่งที่พิเศษมากกว่าแผนที่ปกติ ด้วยรูปแบบแผนที่ Heatmaps ที่แบ่งออกตามประเภทกีฬา อย่างเช่น วิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ, ปืนเขา ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นเส้นทางออกกำลังกายยอดนิยมจากผู้ใช้งาน Suunto ทั่วโลก และนำมาประยุกต์ในการออกกำลังกายของตัวเองได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องหาเส้นทางออกกกำลังกายใหม่ สำหรับการใช้งานแผนที่ร่วมกับการออกกำลังกาย นอกจากจะเห็นเส้นทางและสถานที่แล้ว ยังเห็นเส้นทางแกะรอยที่ได้เดินทางไป จากจุดเริ่มต้นไปจนถึงเส้นชัย เมื่อออกกำลังกายบน Suunto 7 เสร็จสิ้น ก็ยังสามารถนำมาซิงค์กับ Suunto app บนสมาร์ทโฟนได้เช่นเดิมเหมือนนาฬิการุ่นอื่นๆจาก Suunto เพื่อดูข้อมูลเชิงลึก และ เก็บสิถิตไว้วัดผลได้ อีกทั้งยังแชร์ข้อมูลสู่โลกโซเชียล วิธีเริ่มต้นใช้งาน Suunto 7
สรุปข้อดี/ข้อด้อย ของ Suunto 7ข้อดี
ข้อด้อย
สรุปกับ Suunto 7 น่าซื้อไหม ? สำหรับคนที่กำลังมองหา "สมาร์ทวอทช์" นำมาใช้งานกับคุณสมบัติแบบสมาร์ท ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงกับอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน ที่เชื่อมต่อกับ Google Home เพื่อสั่งเปิด/ปิด ไฟ ควบคุมได้จากทุกที, สั่งงานด้วยเสียงเพื่อรับข้อมูลจากหน้าปัด หรือ อำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตจากแอพๆต่างบนสมาร์ทวอทช์ อย่างเช่น แผนที่ออฟไลน์, แปลภาษา, ตารางงาน, ปฏิทิน, แจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน และอีกมากมายที่มีให้ได้ใช้งานแบบไม่รู้จบ นอกจากนี้ยังไม่พอ คุณจะได้รับประสบการณ์การออกกำลังกายจาก Suunto ที่รับรองได้ว่าไม่มีในสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์อื่นๆ ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งสองรูปแบบอย่างลงตัว Suunto เหมาะกับใครSuunto 3 : เหมาะสำหรับผู้ใช้งานออกกำลังกายทั่ว ๆ ไป ต้องการฟีเจอร์ออกกำลังกายพื้นฐานเป็นหลัก เพราะต้องการเล่นเพื่อสุขภาพมากกว่า ฝึกซ้อมในระดับนักกีฬา Suunto 5 : เหมาะกับคนที่ต้องการติดตามสุขภาพแบบจริงจัง มีการติดตามค่าต่าง ๆ ในการออกกำลังกายและด้านสุขภาพครบครัน เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานเพื่อนพัฒนาศักยภาพของตัวเอง
นาฬิกาวิ่ง ยี่ห้อไหนดี 2023แนะนำนาฬิกาออกกำลังกาย 2023 ยี่ห้อไหนดี ที่ของมันต้องมี สวย เท่ ดูดี ฟังก์ชันครบ อัปเดต 2023. Amazfit GTR 4.. Apple Watch Series 8.. Samsung Galaxy Watch 5.. Huawei Watch GT 3 Pro.. Amazfit GTS 4.. Suunto 7.. Xiaomi Mi Band 7 Pro.. นาฬิกา Suunto 9 มีกี่รุ่นซุนโต้ ได้เปิดตัวนาฬิกาออกกำลังกายและสุขภาพใหม่ 4 รุ่น ภายในคอลเลคชัน SUUNTO 9 ที่มีจุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน 120 ชั่วโมง ด้วยระบบ GPS ที่มีความทนทาน และมีการแจ้งเตือนที่ชาญฉลาด ช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และ SUUNTO 3 Fitness นาฬิกาสำหรับผู้ที่ช่นชอบการออกกำลังกาย โดยแบ่ง ...
Suunto 9 Baro กับ Non Baro ต่างกันยังไงSuunto 9 Baro เป็น Sapphire Crystal กันการขีดข่วนได้ดีกว่า ในขณะที่ Suunto 9 Non Baro ที่เป็นเพียง Crystal Mineral Glass เหมือนรุ่นอืนๆ อย่าง Suunto Spartan Series.. . น้ำหนักต่างกันเพียงเล็กน้อย - Suunto 9 Baro น้ำหนักประมาณ 81 กรัม และเบาสุดในรุ่น Titanium ที่ 76 กรัม
|