Show
ผู้หญิงส่วนใหญ่หนีไม่พ้นการปวดประจำเดือน แต่หากปวดมากขึ้นกว่าที่เคยปวดจนเป็นเหตุให้ต้องนอนหยุดพัก ไปทำงานไม่ได้ หรือใช้ชีวิตประจำวันไม่ไหว ก็ควรหาโอกาสไปตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง ยิ่งหากมีอาการต่างๆ เหล่านี้ ก็ต้องรีบเลย อาการแบบนี้ที่ชวนสงสัยว่าไม่ใช่ปวดประจำเดือนธรรมดา
1. โรคเนื้องอกมดลูกนับเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดสำหรับโรคทางนรีเวช เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติจนเป็นก้อนและแทรกเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ แม้จะไม่ใช่โรคร้ายเพราะสามารถรักษาให้หายได้ แต่ในบางรายก็อาจจะมีอาการปวดทรมานรุนแรง หรือลุกลามส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญอื่นๆ ในร่างกาย ซึ่งอาการที่แสดงออกจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็น เช่น...
2. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่และช็อกโกแลตซีสต์ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดนั้นเกิดกับประชากรหญิงประมาณ 10% เมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จึงทำให้เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน ต่อมาจะเกิดเป็นถุงน้ำเล็กๆ ที่มีของเหลวเหมือนช็อกโกแลต ซึ่งจะค่อยๆ เบียดเนื้อรังไข่ และขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นถุงน้ำช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) ภาวะนี้จะเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้สตรีมีบุตรยาก แต่อาการสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องที่ควรใส่ใจมากกว่า คือ....
3. ถุงน้ำหรือซีสต์ที่รังไข่ (Ovarian Cyst)ถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์มีหลายแบบ ถ้าเป็นถุงน้ำตามธรรมชาติที่เกิดตามรอบเดือน โดยธรรมชาติแล้วก็จะยุบไปเองตามรอบเดือน หรือถ้าตกค้างอยู่ ภายใน 2-3 เดือนก็จะยุบเองได้เช่นกัน แต่หากเกิดความผิดปกติคือถุงน้ำไม่ยุบแต่กลับโตขึ้น ก็จำเป็นต้องรักษา ซึ่งมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยอาการทั่วไปของการมีถุงน้ำรังไข่เจริญขึ้นจนเป็นปัญหา มักมีดังนี้...
4. โรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Adenomyosis)โรคนี้เกิดจากการที่มีเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญในชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก ซึ่งปกติแล้วเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญและสลายตามรอบระดู แต่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นและมีการเจริญในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก ก็จะทำให้มดลูกเกิดการบีบตัว เกิดพังผืด เมื่อเกิดซ้ำๆ หลายๆ รอบประจำเดือนจึงทำให้มดลูกโตขึ้น โดยสังเกตอาการได้ดังนี้
สุภาพสตรีที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาสาเหตุ แต่ถ้าแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุของเลือดออกผิดปกติที่แน่ชัดได้ ก็อาจจำเป็นต้องขอส่งตรวจวิธีพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวด์ หรือ หากจำเป็นจริง ๆ แพทย์ก็อาจขอขูดมดลูกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิจฉัยหาเซลล์มะเร็งต่อไป
- หันมาใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน โดยทานอาหารให้ครบ5หมู่ - ไม่กินยาใดๆ โดยไม่จำเป็น - หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - รักษาอารมณ์ให้แจ่มใส - สุภาพสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือ ผู้หญิงโสดที่มีอายุเกินกว่า 35 ปี ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในประจำปี และ ตรวจหามะเร็งปากมดลูก แม้ว่าจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ตาม การตรวจภายในประจำปี และตรวจหามะเร็งปากมดลูก จะต้องเลือกไปพบแพทย์ในวันที่ไม่มีประจำเดือน งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 7 วัน การตรวจภายในประจำทุกปี ในขณะที่คุณผู้หญิงยังไม่มีอาการผิดปกตินับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งในสตรี เนื่องจากแพทย์จะสามารถตรวจหาโรคในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการและสามารถรักษาให้หายได้ทัน ก่อนอาการจะรุนแรง ประจำเดือนมาวันเดียวเกิดจากอะไรประจำเดือนมาวันเดียว เป็นปัญหาสุขภาพหญิงที่พบได้ทั่วไป สามารถเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ซึ่งการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เช่น การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การควบคุมน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์ การพักผ่อนให้มากขึ้น การดื่มน้ำให้เพียงพอ อาจช่วยปรับระดับ ...
รอบเดือนมาเร็วผิดปกติไหมเป็นภาวะที่ประจำเดือนมาเร็วกว่ากำหนดเป็นเวลา 7 วันขึ้นไป ติดต่อกัน 2 รอบ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะชี่พร่อง ระบบชงเริ่นไม่แข็งแรง หรือร่างกายมีภาวะร้อนกระทบระบบชงเริ่น ทำให้มดลูกเก็บกักเลือดไว้ไม่ได้ตามปกติ
ประจำเดือนมาเร็วสุดกี่วันผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 28 – 30 วัน (หรืออยู่ในช่วง 21- 35วัน) ผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาประมาณ 3 - 5 วัน หรือไม่ควรมาเกิน 7 วัน ปริมาณประจำเดือนที่ออกมาในแต่วันไม่ควรเกิน 80 ซีซี หรือเทียบได้กับการเปลี่ยนผ้าอนามัยประมาณ 4 ผืนต่อวัน (แบบที่มีเลือดชุ่มเต็มแผ่น)
ประจำเดือนมาวันเดียวจะท้องไหมเมนส์มาวันเดียว ท้องไหม? เมนส์มามาก หรือมาน้อย จะมาวันเดียว หรือมาหลายวัน ไม่ได้บอกว่าอาจจะมีโอกาสตั้งครรภ์นะคะ แต่อาจจะหมายถึงความผิดปกติทางสุขภาพได้ หากพบว่าประจำเดือนมาน้อยเกินกว่าปกติที่เคยเป็น ควรหาโอกาสไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาค่ะ
|