Windows 10 boot ช้า

ปัญหาต่อไปนี้เกิดขึ้นกับแล็ปท็อป SONY VAIO หลังจากติดตั้ง Windows 10 Falls Creators Update 1709: เวลาบูตและการเริ่มต้นระบบ Windows 10 ช้ามาก อันที่จริง หลังจากแสดงโลโก้ Windows ระบบค้างอยู่บนหน้าจอสีดำโดยมีจุดแอนิเมชั่นการโหลดเป็นเวลานาน จากนั้นหลังจากป้อนรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบ ไอคอนเดสก์ท็อปและทาสก์บาร์ของ Windows 10 จะใช้เวลาสักครู่ในการแสดง

ปัญหาการบู๊ตช้าใน Windows 10 หลังจากติดตั้งการอัปเดต โดยทั่วไปมีสาเหตุมาจากโปรแกรมหรือไดรเวอร์อุปกรณ์ที่ล้าสมัยหรือเข้ากันไม่ได้ ในกรณีอื่นๆ ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากการอัปเดตที่สำคัญบางรายการอาจมีจุดบกพร่องที่ยังไม่ได้แก้ไขจาก Microsoft

ในบทช่วยสอนนี้ คุณจะพบคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาการบูทเครื่องช้าในระบบปฏิบัติการ Windows 10 หลังจากติดตั้งการอัปเดตที่สำคัญ

• วิธีแก้ไขปัญหาการบูตช้าของ Windows
  • • ขั้นตอนที่ 1. ทำการคลีนบูต
    • ขั้นตอนที่ 2 ปิดใช้งานการเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
    • ขั้นตอนที่ 3: อัปเดตไดรเวอร์ของ GRAPHICS Adapter
    • ขั้นตอนที่ 4 ปิดการใช้งาน Ultra Low Power State (ULPS) บน AMD Graphics Adapter
      • วิธีแก้ไขปัญหาอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการบูตช้าใน Windows 10

ขั้นตอนที่ 1. ทำการคลีนบูต

1. พร้อมกันกด Windows + R ปุ่มเพื่อเปิด ‘วิ่ง‘กล่องคำสั่ง
2. ในกล่องคำสั่ง run พิมพ์ msconfig กด Enter เพื่อเปิด System Configuration.

3. ที่ Services, check ที่ Hide all Microsoft services ช่องทำเครื่องหมาย

4. จากนั้นกด Disable allเพื่อปิดใช้งานบริการที่ไม่ใช่ Windows ทั้งหมดที่ขึ้นต้นด้วย Windows

5. จากนั้นเลือก Startup และคลิก Open Task Manager.

6. เลือกรายการเริ่มต้นทั้งหมดทีละรายการแล้วคลิก Disable.
7. สุดท้ายคลิก OK และ restart คอมพิวเตอร์ของคุณ.
8. ตรวจสอบว่าเวลาบูตเร็วขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่เป็นไร ให้เปิดยูทิลิตี้ System Configuration (msconfig) อีกครั้ง และเปิดใช้งานบริการและโปรแกรมที่ปิดใช้งานทีละรายการ แล้วเริ่มระบบของคุณใหม่ จนกว่าคุณจะพบว่าสาเหตุใดที่ทำให้ Windows 10 บูตช้า

ขั้นตอนที่ 2 ปิดใช้งานการเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว

1. ที่ช่องค้นหา พิมพ์ control panel แล้วกด Enter.
2. เปลี่ยน View By (ที่ด้านบนขวา) ถึง Small icons แล้วคลิก Power Options.

3. ที่บานหน้าต่างด้านซ้าย เลือก Choose what the power buttons do.

4. คลิก Change settings that are currently unavailable.

5. เลื่อนลงมาและ uncheck ที่ Turn on fast startup (recommended) และคลิก Save changes. *

* หมายเหตุ: ถ้า “Turn on fast startup (recommended)” ตัวเลือกหายไปจากหน้าต่างนี้ จากนั้นคุณต้องเปิดใช้งานการไฮเบอร์เนตบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: อัปเดตไดรเวอร์ของ GRAPHICS Adapter

ขั้นตอนต่อไปในการแก้ไขปัญหาการบูตช้าของ Windows 10 คือการอัพเดตไดรเวอร์สำหรับอะแดปเตอร์กราฟิก ในการทำเช่นนั้น:

1. กด Windows

3. ในตัวจัดการอุปกรณ์ expand the Display Controllers.
4. คลิกขวาที่การ์ดแสดงผลที่ติดตั้งแล้วเลือก Uninstall device.

5. ที่หน้าต่างคำเตือน check ครั้งแรก ‘Delete the driver software for this device‘ ช่องทำเครื่องหมายและคลิก Uninstall.

6. Restart คอมพิวเตอร์ของคุณ.
7. หลังจากรีสตาร์ทแล้ว ให้ดำเนินการและติดตั้งซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ล่าสุดสำหรับอุปกรณ์ VGA ของคุณใหม่จากเว็บไซต์สนับสนุนของผู้ผลิต *

* หมายเหตุ: ในบางครั้ง การติดตั้งไดรเวอร์ VGA เวอร์ชันเก่าที่สุดสามารถแก้ไขปัญหาการบูต Windows 10 ที่ช้าได้

ขั้นตอนที่ 4 ปิดการใช้งาน Ultra Low Power State (ULPS) บน AMD Graphics Adapter

ULPS เป็นสถานะสลีปที่ลดความถี่และแรงดันไฟฟ้าของการ์ดที่ไม่ใช่การ์ดหลักเพื่อพยายามประหยัดพลังงาน แต่ข้อเสียของ ULPS คืออาจทำให้ระบบเริ่มทำงานช้าหากคุณใช้อะแดปเตอร์กราฟิก AMD ในการปิดใช้งาน ULPS:

1. พร้อมกันกด Windows

3. จากเมนูแก้ไข ให้คลิกค้นหา
4. ในช่องค้นหา พิมพ์ EnableULPS แล้วกด Find Next.

5. ดับเบิลคลิกที่ “EnableULPS” เน้นค่าและปรับเปลี่ยนข้อมูลค่าจาก 1 ถึง 0. คลิก OK เมื่อทำเสร็จแล้ว.

6. โดยกด F3, หาที่เหลือ”EnableULPS” ค่าและเปลี่ยนข้อมูลค่าจาก 1 ถึง 0.
7. เมื่อทำเสร็จแล้ว, close ตัวแก้ไขรีจิสทรีและ restart คอมพิวเตอร์ของคุณ.

Additional help: หากหลังจากรีสตาร์ทแล้ว คุณยังคงประสบปัญหาการบู๊ตช้า และคุณมีแล็ปท็อปที่มีอะแดปเตอร์กราฟิกสองตัว (เช่น Intel และ AMD) ให้เปิด Device Manger และปิดการใช้งานอแด็ปเตอร์ตัวที่สอง [right click on the 2nd adapter (e.g. AMD) and choose Disable device. Then reboot.]

วิธีแก้ไขปัญหาอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการบูตช้าใน Windows 10

1. ถอนการติดตั้งและติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส/ความปลอดภัยเวอร์ชันล่าสุดอีกครั้ง
2. ทำการซ่อมแซม Windows 10 ด้วยการอัปเกรดแบบแทนที่
3. รีเซ็ต Windows 10 จาก Settings -> Update and security –> Recovery. ในระหว่างกระบวนการกู้คืน คุณจะถูกขอให้เก็บหรือไม่เก็บไฟล์ส่วนตัวของคุณ
4. สำรองไฟล์ของคุณไปยังสื่อจัดเก็บข้อมูลอื่น จากนั้นทำการติดตั้ง Windows 10 ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ปุ่ม ตัวติดตั้ง Windows 10 ล่าสุด.

แค่นั้นแหละ! แจ้งให้เราทราบหากคู่มือนี้ช่วยคุณโดยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณ โปรดกดไลค์และแชร์คู่มือนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น